ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1216 เรื่องน่ากลัวแห่งมหาสมุทรแอตแลนติก

พวกลูกเรือที่อยู่ที่ท้ายเรือยังไม่รู้ว่าเครื่องตรวจหาปลาพบเจออะไรเข้า พวกเขายืนมองลงไปที่ด้านข้างเรืออย่างใจจดใจจ่อ
หมอกลงหนาจัด บราบัสเดินมาทางด้านหลังพวกเขาโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว เขาใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่ด้านหลังชายชาวประมงร่างใหญ่คนหนึ่ง พลางพูดขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อจู่ๆ ก็โดนตบเข้าที่กลางหลังแบบนั้น ชาวประมงคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เขาหันกลับมามองบราบัสด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นว่าเป็นบราบัสเขาก็พูดออกมาด้วยความโมโหว่า “กัปตัน คุณพูดทักทายก่อนไม่ได้เหรอ ถือว่าเห็นแก่พระเจ้า อย่าทำให้ผมตกใจเลย!”
“เห็นแก่พระเจ้าเหมือนกัน อย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉัน บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น” บราบัสพูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์
ชาวประมงคนนั้นกล่าวออกมาว่า “พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆ อวนจับปลาก็ถูกอะไรบางอย่างดึงลงไป ดูเหมือนว่า เหมือนว่า เหมือนว่า…”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็ดูลังเลขึ้นมาทันที
บราบัสพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “เหมือนอะไร ฉันว่าตอนนี้นายเหมือนกับผู้หญิงไม่มีผิด พูดอะไรไม่มีความชัดเจนสักอย่าง”
ชาวประมงไม่พอใจเล็กน้อยที่เขาถูกต่อว่าเรื่อยๆ เขาพูดออกมาว่า “ผมก็แค่กลัวว่าคุณจะกลัวเท่านั้น เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่อยู่ในน้ำกำลังฉีกอวนให้ขาด เราปล่อยอวนลงไปเรื่อยๆ จากนั้นก็พบเข้ากับแรงดึงมหาศาลเข้าจนทำให้อวนขาด”
บราบัสเดินไปมองที่ท้ายเรือด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาถามออกมาว่า “พวกนายรู้สึกถึงอะไรบางอย่างฉีกอวนจนขาดใช่ไหม อาจจะเป็นเพราะอวนไปเกี่ยวเข้ากับปะการังหรือเปล่า”
ชาวประมงหนุ่มอีกคนหนึ่งยักไหล่ แล้วชี้ไปที่ใต้น้ำพลางพูดออกมาว่า “กัปตัน พวกเรารู้ดีว่าที่นี่ไม่มีปะการัง ผมกลับรู้สึกว่า อาจจะเป็นสัตว์ประหลาดทะเลที่ฉีกอวนของพวกเรา ไม่อย่างนั้นมันจะมีแรงเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร ใช่หรือเปล่าพวก ฮ่าฮ่า”
ชาวประมงคนอื่นๆ พากันหัวเราะขึ้นมา แต่มีบางคนหัวเราะเยาะออกมา “สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดในมหาสมุทรแอตแลนติกมีเรื่องราวมามากกว่าร้อยกว่าปีแล้ว แต่พวกเราไม่เคยเจอเลยนะ!”
เกิดการโต้เถียงขึ้นในกลุ่มชาวประมง จนไม่มีใครสังเกตเห็นว่า ท่าทางของบราบัสน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด เมื่อมีคนพูดถึงเรือผีสิงเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์อันมีชื่อเสียงโด่งดัง บราบัสก็หมดความอดทนลงทันที เขาตะโกนออกมาว่า “หุบปากให้หมด พวกนายมันเป็นพวกโง่! รีบเตรียมเรือเล็กกันเดี๋ยวนี้ แล้วลงไปดูว่าอวนลอยไปที่ไหนแล้ว!”
พวกชาวประมงทำงานไปพลางหัวเราะเย้ยหยันออกมา หมอกหนาเกินไป ดังนั้นเมื่อตอนที่พวกเขาปล่อยเรือเล็กลง พวกเขาจำเป็นที่จะตกใช้พลังงานในการรักษาสมดุลอย่างมาก
เมื่อชาวประมงเตรียมพร้อมที่จะกระโดดไปที่เรือเล็ก จู่ๆ เรือเล็กก็เกิดสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ราวกับมันเจอเข้ากับคลื่นลูกใหญ่
แต่ว่า หมอกหนาขนาดนี้บอกได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีพายุแน่นอน ไม่อย่างนั้นหมอกพวกนี้ต้องโดนลมพัดสลายไปแล้ว
ที่ท้ายเรือเงียบสงบทันที พวกชาวประมงต่างมองหน้ากันไปมา และมองไปยังเรือเล็ก โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ตอนนั้นเองก็เกิดเสียงดังขึ้นที่ห้องควบคุมที่อยู่ตรงหัวเรือ บราบัสโมโหขึ้นมากเรื่อยๆ เขาหันไปตะโกนว่า “เจ้าพวกบ้า นอร์ริส แคนเมล เจ้าโง่ทั้งสองคน ทำอะไรกันอยู่วะ!”
เสียงของแคนเมลดังขึ้นมา “กัปตัน ผมคิดว่าผมควรเปิดประตูออกมาบอกข่าวอะไรบางอย่างกับพวกคุณ แต่นอร์ริสไม่ยอมให้ผมออกมา…”
“หุบปาก เจ้าโง่แคนเมล เร็วเข้า! รีบไปออกเรือ!” น้ำเสียงหงุดหงิดของนอร์ริสดังขึ้นตามมาทันที
แต่ว่า เพราะว่าหมอกที่หนาจัด ทำให้เสียงนั้นสร้างความรู้สึกวังเวงขึ้นมา ทำเอาทุกคนรู้สึกกลัวจนตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
บราบัสตะโกนออกมาว่า “ข่าวอะไรกัน พวกเราได้ยินที่แกพูดนะเว้ย แกรีบพูดออกมาเดี๋ยวนี้!”
แคนเมลตอบกลับด้วยเสียงอันสั่นเครือว่า “เมื่อกี้พวกเราเจอเข้ากับสัตว์ตัวใหญ่ ถ้าดูจากเครื่องตรวจจับปลา ตอนนี้มันอยู่ใต้ท้องเรือของพวกเราแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น พวกชาวประมงที่อยู่ท้ายเรือต่างพากันตื่นตระหนก และต่างพากันเอ่ยถามออกมาว่า “ตัวอะไรเหรอ”
“ตึง!” ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นมา เรือลำเล็กที่ถูกปล่อยลงไปในน้ำถูกคลื่นทะเลอันรุนแรงซัดพลิกคว่ำจมลงไปในทะเล จากนั้นคลื่นก็ซัดขึ้นมาเรื่อยๆ เชือกที่ถูกขึงอยู่ระหว่างเรือประมงกับเรือลำเล็กถูกดึงเข้าหากันอย่างกะทันหัน เรือเล็กถูกคลื่นซัดล่ม จนหายเข้าไปในสายหมอก!
พวกกะลาสีเรือต่างมองภาพนั้นกันจนตาค้าง พวกเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ให้ตายเถอะ นั่นมันอะไรกันน่ะ” มีคนเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
นอกจากนี้ยังมีคนดึงบราบัสไว้ แล้วถามออกมาด้วยเสียงแหบพร่า “กัปตัน คุณกำลังปิดบังอะไรอยู่งั้นเหรอ แคนเมลพูดถึงอะไรตัวใหญ่ๆ งั้นเหรอ บอกพวกเรามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
“ตึง!” เกิดเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เรือลำเล็กที่หายไปโผล่ขึ้นมาจากคลื่นทะเลอันบ้าคลั่ง จากนั้นก็พุ่งตรงเข้ามาชนเรือประมง แรงกระแทกอันรุนแรงทำให้เรือเล็กแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้เรือประมงสั่นไปมาอย่างไม่มีสิ้นสุด
พวกชาวประมงร้องออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาต่างพากันหมอบลงเพื่อหาเสากอดเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
ใบหน้าของบราบัสซีดเผือด เขาจับเชือกมามัดไว้รอบเอว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรือเหวี่ยงไปมา ในขณะเดียวกันเขาก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังเป็นเอกลักษณ์ว่า “แคนเมล เจ้าพวกโง่เง่า! เร็วเข้า! รีบเร็วเข้า! พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ!”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” มีคนตะโกนออกมา “พวกเราเจอเข้ากับอะไรกันแน่…โอ้ พระเจ้า ไม่นะ!”
หนวดปลาหมึกขนาดใหญ่พาดเข้ามาที่ท้ายเรือ ผิวของมันเป็นสีน้ำตาลแดง ร่างกายมีกลิ่นเหม็นออกมา เมื่อเหล่าลูกเรือเห็นภาพตรงหน้า ก็ถึงกลับมีคนกลัวจนฉี่ราด!
จากนั้น ก็มีหนวดที่สอง หนวดที่สาม และหนวดที่สี่โผล่ออกมา หนวดของมันพันเข้าที่ท้ายเรือจนยุ่งเหยิง หลังจากที่มันกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วก็ปัดอุปกรณ์และอวนจับปลาต่างๆ ลงทะเลไป
พวกชาวประมงต่างพากันกรีดร้องออกมาแล้ววิ่งไปที่หัวเรือ บราบัสอยากจะวิ่งหนี แต่โชคร้ายที่เขาโดนเชือกรั้งไว้อยู่ และเมื่อกี้เขามัดเชือกเป็นแบบเงื่อนตาย ทำให้อยากวิ่งก็ไม่สามารถวิ่งได้อย่างที่ต้องการ
“เจ้าพวกบ้า รอฉันด้วย!” บราบัสยังคงตะโกนออกมา แต่ว่าเสียงของเขาเปลี่ยนไป
ตอนนี้คิดว่ายังมีคนสนใจเขาอยู่อีกเหรอ ตอนนี้ต่างคนต่างก็ต้องเอาตัวรอด แม้ว่าพวกชาวประมงจะเป็นพวกงี่เง่า แต่พวกเขาก็พร้อมใจวิ่งหนีกันอย่างพร้อมเพรียง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของบราบัสมองไปยังหนวดอันน่ากลัวทั้งสี่ของคราเคน เขาคิดว่าเขาอาจจะตายในไม่ช้านี้แล้วเป็นแน่ จู่ๆ หนวดทั้งสี่ของคราเคนก็หายไป มันทิ้งไว้แต่เพียงเมือกที่ท้ายเรือ และคลานลงทะเลไป
ตอนนั้นเอง บราบัสก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อกี้เขาตื่นตระหนกเกินกว่าที่มองเห็นเจ้าตัวนั้นได้อย่างชัดเจน ในตอนที่หนวดยักษ์ทั้งสี่ได้หายไปแล้ว เขาจึงเห็นว่ามันไม่ใช่งูเหลือม แต่…แต่ว่ามันคือหนวด! มันคือหนวดปลาหมึกที่มีปุ่มดูด!
ทุกๆ ปุ่มดูดของมัน มีขนาดเท่ากับกะละมัง!
“พระเจ้า ฉันต้องกำลังฝันร้ายอยู่แน่ๆ!” บาสบัสวาดรูปไม้กางเขนที่หน้าอก “พระเจ้าผู้เมตตา ช่วยลูกด้วย โปรดช่วยลูกจากฝันร้ายนี้ด้วย!”
ตอนนั้นเองเรือก็ถูกคลื่นทะเลซัดอย่างรุนแรงอีกครั้ง บราบัสหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อเขามองเข้าไปในสายหมอก ก็มีหนวดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเรือ พวกลูกเรือที่วิ่งหนีไปเมื่อครู่กรีดร้องแล้ววิ่งกลับมาทางนี้อีกครั้ง…
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร บราบัสรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เจ้าพวกเวรพวกนั้นที่เมื่อกี้ทิ้งฉันไป!
หลังจากที่พวกลูกเรือมองหนวดนั้นอย่างใกล้ชิดพวกเขาก็จำรูปร่างของมันได้ดี ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาหาบราบัสด้วยน้ำตานองหน้าพลางตะโกนออกมาว่า “กัปตัน มันไม่ใช่งู! มันคือคราเคนปีศาจจากทะเลทางเหนือ!”
ฉินสือโอวเล่นสนุกอยู่ที่ใต้ทะเล เขาวนไปมาอยู่รอบๆ เรือ หนวดยาวของคราเคนเคลื่อนไหวไปรอบๆ อันที่จริงเขาควบคุมมันอย่างหนัก หนวดเหล่านั้นพาดเข้าไปที่ดาดฟ้าเรือ ที่นั่นคงจะไม่มีคนอยู่ เขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะทำร้ายคน
แม้ว่าคนที่มาขโมยปลาจะน่ารังเกียจ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สมควรตาย
เมื่อหันกลับมา คนในเรือบนนั้นก็กำลังกุลีกุจอ หมุนหัวเรือลำนั้นมุ่งหน้าหนีไปยังเมืองเซนต์จอห์น!
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset