ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1218 การผจญภัยของสองพี่น้องเฟอเรท

เมื่อได้รับชัยชนะจากกระรอกดิน สองพี่น้องเฟอเรทก็รู้สึกมีกำลังใจท่วมท้น พวกมันมองตากันและกัน เพราะชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้พวกมันจะต้องจัดงานเฉลิมฉลอง
แต่ว่าไม่นานพวกมันก็พบว่า พวกมันมาเพื่อหาอาหาร ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้ ชนะแล้วได้อะไร? ก็ยังหิวอยู่ดี!
เมื่อเข้าใจในจุดนี้ พวกมันก็รีบตามครอบครัวกระรอกดินไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าพวกมันหนีไปได้สักพักแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นที่ของครอบครัวนั้นอีก อีกอย่างพวกนั้นก็แข็งแรงกว่าด้วย แบบนี้จะตามพวกมันทันได้อย่างไร?
การดมกลิ่นได้อย่างรวดเร็วก็ไม่ช่วยอะไร เพราะว่าที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของพวกกระรอกดิน ทุกๆ ที่จะมีกลิ่นของเหล่ากระรอกดินติดอยู่เต็มไปหมด การดมกลิ่นของเฟอเรทกลายเป็นอัมพาตไปเลย ทำให้ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเหล่ากระรอกดินหนีไปถึงที่ไหนแล้ว
พวกมันรู้สึกไม่มีความสุขเลย สองพี่น้องเฟอเรทแบกท้องอันหิวโหยของตัวเองเดินไปมาในทุ่งหญ้าช้าๆ พวกมันพยายามที่จะดมกลิ่นอย่างหนัก หวังว่าจะสามารถเจอเข้ากับเส้นทางที่กระรอกดินหนีไปได้
แต่ปรากฏว่าพวกมันไม่สามารถดมหากลิ่นของกระรอกดินได้เลย หลังจากที่พวกมันเข้าไปใกล้กับสระน้ำ พวกมันก็ได้กลิ่นของไก่และเป็ดแทน
ในเมนูอาหารของเฟอเรท สัตว์ปีกยังคงอยู่ในตำแหน่งอาหารที่สำคัญที่สุด มันอยู่ในอันดับสอง รองลงมาจากพวกหนู
หลังจากที่ได้กลิ่นเป็ดและไก่ สองพี่น้องเฟอเรทก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที พวกมันคิดถึงไก่ทอดที่เคยกินมาก่อนหน้านี้ ทั้งเผ็ดทั้งอร่อย อีกทั้งยังกรุบกรอบ รสชาติของเนื้อไก่ช่างดีจริงๆ!
เมื่อตามกลิ่นของเป็ดและไก่ไป ไม่นานพวกมันก็มาถึงฟาร์มสัตว์ปีก ช่องว่างระหว่างรั้วกว้างพอสำหรับพวกมัน พวกมันจึงแอบเข้าไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นพวกมันก็เห็นลูกเจี๊ยบสีเหลืองอ่อนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินไปมาอยู่ข้างหน้า
ไก่ทอด! เฟอเรทผู้พี่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที กีบเท้าเล็กๆ ของมันวางเข้ากับพื้นและกระโดดบินขึ้นมา มันกระโดดพุ่งเข้าไปหาลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง เมื่อพุ่งตัวลงไปแล้ว ทำไมจู่ๆ ฟ้าก็มืดล่ะ?
แม้ว่าวันนี้จะมีหมอกลงหนัก แต่ท้องฟ้าก็ยังคงสดใส แล้วทำไมตอนนี้ฟ้าถึงมืดแล้วล่ะ?
เฟอเรทผู้พี่เงยหน้าขึ้นมาจากหมอกด้วยความงุนงง ภาพในดวงตาเล็กๆ ของมันคือใบหน้าของไก่ตัวหนึ่งที่มองมาด้วยท่าทีดุร้าย
ไก่ตัวผู้ตัวใหญ่! เฟอเรทผู้พี่ตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ไก่ตัวผู้ปรากฏตัวอยู่ข้างๆ มัน ตัวของมันสูงราวครึ่งเมตร ร่างกายเต็มไปด้วยขนที่มีสีสันสวยงาม มงกุฎสีแดงที่ตระหง่านอยู่บนหัว ราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน
เพียงแค่เห็นขาอันหนาใหญ่ทั้งสองข้างของไก่ตัวผู้ ร่างกายที่แข็งแรง สายตาอันเย็นชา และกรงเล็บที่แหลมคม แค่นี้ก็บอกได้เลยว่าไก่ตัวผู้ตัวนี้คือไก่ชน!
เมื่อถูกไก่ชนจ้องมองมา แม้ว่าเฟอเรทผู้พี่จะมีความกล้าหาญ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว มันรีบปล่อยอุ้งมือที่กดลูกเจี๊ยบอยู่ทันที เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เฟอเรทตัวน้องถูกกระรอกดินทั้งห้าตัวล้อมรอบอยู่ มันมองไปยังไก่ตัวผู้ด้วยสายตาอ่อนโยน
ไก่ชนตัวนี้เป็นไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ที่ฉินสือโอวนำกลับมาจากบ้านเกิด และในตอนนั้นมันก็คือสุดยอดไก่ชนที่เคยจิกหมูป่าตัวใหญ่จนเลือดออกมาแล้ว
จนมาถึงตอนนี้ ฟาร์มปลามีไก่ เป็ด ห่าน กวาง หมูมากมาย ในกลุ่มจะมีเจ้าตัวโตที่อารมณ์ร้ายอยู่แล้ว แต่ตำแหน่งที่น่าเคารพนับถือของฟาร์มแห่งนี้ยังคงเป็นของไก่ชนตัวนี้อย่างเหนียวแน่น ทำไมน่ะเหรอ? เพราะว่ามันเก่งกาจมากน่ะสิ!
นานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามากระตุ้นความดุร้ายของมัน ไม่คิดว่าวันนี้จะมีเจ้าตัวเล็กทั้งสองตัว ที่จู่ๆ ก็กล้ามาปรากฏตัวต่อหน้ามัน แถมอยากจะกินลูกของมันอีกงั้นเหรอ?!
ทั่วทั้งฟาร์มปลาจะมีไก่อยู่ทุกที่ ยกเว้นไก่งวงบางส่วน นอกนั้นก็จะเป็นไก่ชนที่เป็นผลมาจากการต่อสู้กันของไก่ เพราะว่าการมีอยู่ของมัน ทำให้ฝูงไก่สามารถพาลูกๆ หลานๆ ของมันไปทุกพื้นที่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และสำหรับพวกมันแล้ว ลูกๆ หลานๆ ก็คือเลือดเนื้อของพวกมัน
โดยที่ไม่ต้องพูดอะไร บุคลิกของไก่ชนและกระรอกดินนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง พวกมันคือนักรบทั้งบนบกและทางอากาศ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ตั้งใจมองมากแต่ก็ยังสามารถทำให้รู้สึกขนลุกขึ้นมาได้อยู่ดี ไม่ได้เพราะกลัวมันหรอกนะ แต่ไม่อยากที่จะไปยุ่งกับพวกที่บ้าสงครามแบบนี้มากกว่า
เฟอเรทตัวน้องผู้โชคร้าย หลังจากที่ไก่นักรบจ้องมองมาที่พวกมันราวกับต้องการจะเอาชีวิตแล้ว มันโก่งคอร้องส่งสัญญาณต่อสู้ออกมา “เอ้กอิเอ้กเอ้ก เอ้กอิเอ้กเอ้ก!”
ในขณะที่มันกำลังร้องโวยวายอยู่นั้น ไก่ชนก็ได้จิกเข้ามายังเฟอเรทผู้พี่อย่างรุนแรง ราวกับตัวมันเป็นนักแกะสลักหินอย่างมีเกลันเจโล ปากของมันจิกเข้ามาที่หัวของเฟอเรทผู้พี่จนตอนนี้หัวของมันโล่งเตียน
เฟอเรทผู้พี่เจ็บจนอยากตาย นิสัยดุร้ายของมันถูกระเบิดออกมา มันกระโดดตัวขึ้นแล้วอ้าปากหวังจะกัดเข้าไปที่คอของไก่นักสู้ตัวนั้น
ภาพในจินตนาการช่างสวยงาม แต่ความเป็นจริงนั้นโหดร้าย เฟอเรทวัยรุ่นสูงเพียงครึ่งเมตรเท่านั้น หากพวกมันสามารถกัดคอนกได้ มันก็ต้องกัดคอไก่ตัวนี้ได้เช่นกัน แต่เฟอเรทผู้พี่ตัวเล็กเกินไป เมื่อมันกระโดดขึ้นมา ท้องฟ้าก็มืดลงอีกครั้ง ไก่ชนยกเท้าขึ้นมาเหยียบมันลงไปกับพื้น
ภาพเหตุการณ์นั้นน่ากลัวมาก เพราะเหตุการณ์นี้จะทำให้เฟอเรทผู้พี่ไม่กล้ากินไก่เลยอีกตลอดชีวิต ใจของเขา ได้รับผลกระทบเข้าเสียแล้ว!
เฟอเรทผู้น้องพยายามโจมตีอย่างกล้าหาญจากด้านหนังอยู่สองสามครั้ง เพราะแบบนี้ทำให้เฟอเรทผู้พี่ที่อยู่ระหว่างช่องว่างใต้เท้าของไก่นักสู้ พยายามที่จะปีนออกมา แล้ววิ่งสะบัดหางหนีออกไปได้
ไก่ตัวนี้ไม่กินก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง? ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ล่ะมั้ง?
เฟอเรทผู้น้องวิ่งอย่างรวดเร็วราวกับหมาป่า ไก่ชนร้อง ‘เอ้กเอ้ก’ กระพือปีกตามมาจากด้านหลัง ขนบนร่างกายของมันตั้งชันขึ้น ราวกับเฉิงหยางจินตอนแสดงละครอยู่บนเวทีก็ไม่ปาน
พวกมันทั้งสองตัวรีบออกมาจากฟาร์มอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เมื่อเฟอเรทสองพี่น้องหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าของไก่ชนที่อยู่ด้านหลังของรั้วฟาร์ม ไก่ชนไล่พวกมันมาจนสุดทาง แม้ว่าจะถูกปิดกั้นทาง แต่มันก็ยังชะเง้อคอออกมา จนเกือบจะกัดโดนพวกมันทั้งสองตัวแล้ว
สองพี่น้องเฟอเรทหนีออกมาอย่างขวัญหนีดีฝ่อ ที่นี่น่ากลัวเกินไป พวกเราคงต้องออกมาทั้งที่ยังท้องว่างอยู่ หากไม่มีอาหารก็คงต้องเปลี่ยนมากินพืชแทนแล้ว โตกว่านี้อีกหน่อยค่อยกินเนื้อแล้วกัน
ระหว่างที่เดินผ่านหมอกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ในที่สุดพวกมันทั้งสองตัวก็เหนื่อยอ่อน จนอดไม่ได้ที่ล้มตัวลงนอนบนกอหญ้า ผ่านไปครู่หนึ่งเฟอเรทผู้พี่ก็ทำจมูกฟุดฟิดดมกลิ่น ทันใดนั้นมันก็ได้กลิ่นหอมของกระรอกดินตัวน้อย มันเงยหน้าขึ้นมาอย่างดีใจ มันรู้สึกว่ากลิ่นค่อยๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ…รึเปล่านะ?
เกิดอะไรขึ้น? มันยังไม่ได้เคลื่อนไหวเลย ทำไมกลิ่นของกระรอกดินถึงแรงขึ้นเรื่อยๆ กันนะ? เฟอเรทผู้พี่รู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง อันที่จริงแล้วหมอกลงหนามาก ร่างกายของพวกมันก็เต็มไปด้วยไอหมอก…
เฟอเรทผู้น้องเงยหน้าขึ้นมา ไม่นาน กระรอกดินทั้งห้าตัวก็วิ่งมาอยู่ที่ตรงหน้าพวกมัน
เมื่อเห็นอาหารอันโอชะจากสวรรค์ลงมาอยู่ที่ตรงหน้า สองพี่น้องเฟอเรทก็เกิดความรู้สึกเหลือเชื่อขึ้นมา พวกมันคิดว่าตัวเองหิวจนตาลาย จนกระทั่งพวกมันมองหน้ากันแล้วต่างฝ่ายต่างก็แสดงสีหน้าอันเหลือเชื่อออกมา จึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ฝันไป เนื้อกำลังมาหาพวกมันแล้วจริงๆ!
เฟอเรทแบลคฟุตลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากนั้นเหล่ากระรอกดินก็มองไปยังพวกมันอย่างนิ่งเฉย กระรอกดินตัวอื่นๆ หลีกทางให้กระรอกดินตัวใหญ่ร่างกำยำให้ออกมาข้างหน้า ‘พี่ใหญ่ พวกมันคือพวกที่แกล้งพวกเรา พวกที่กัดขาของเจ้าอ้วนสองก็คือพวกมัน!’
เมื่อกี้กระรอกดินไม่ได้หนีไปไหน แต่พวกมันไปหาพี่ใหญ่อย่างเสี่ยวหมิงของพวกมัน
พลังจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่เสี่ยวหมิงได้รับไม่ได้ถือว่ามากที่สุด แต่ด้วยขนาดร่างกายของมัน ดังนั้นพลังโพไซดอนที่มีปริมาณเท่ากับตัวอื่นๆ จึงส่งผลต่อร่างกายของมันมากกว่าปกติ ตอนนี้มันแข็งแกร่งที่สุด ร่างกายขนาดเล็กของมันเหมือนกับระเบิดขนาดเล็ก แม้แต่ฉงต้าก็ไม่อยากที่จะไปจุดระเบิดมัน
แพรรี่ด๊อกก็เป็นกระรอกดินสายพันธุ์หนึ่ง อีกทั้งตอนนี้พวกมันยังชอบแพรรี่ด๊อกมากกว่าด้วย เพราะว่าเจ้าพวกนั้นไม่ได้มีขนาดโตกว่าตัวเองมากนัก การต่อสู้ก็ย่ำแย่ที่สุด แบบนี้ทำให้ถูกกลั่นแกล้งได้ง่าย เฟอเรททั้งสองตัวจึงพุ่งเข้าไปหาเสี่ยวหมิงทันที!
ฉากการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง…
ด้านหน้าเฟอเรทคือเสี่ยวหวิงที่กระโจนเข้ามา แต่มันไม่มีปฏิกิริยาถอยหนี ‘สวบ’ เสียงกระโดดดังขึ้นมา ท่าทางเรียกได้ว่าดุร้ายราวกับเสือผู้หิวโหยที่ต้องการกินเหยื่อ ในขณะเดียวกันพี่น้องเฟอเรทก็ล้มกลิ้งลงกับพื้น
เหล่ากระรอกดินอยากจะทำร้ายพวกคนชั่วที่ตกอับ เมื่อเฟอเรทสองพี่น้องเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี พวกมันก็รีบลุกขึ้นมาแล้ววิ่งหนีออกไปทันที แต่เมื่อพวกมันหมุนตัว พวกมันก็เจอเข้าสัตว์ประหลาดสองตัวที่จ้องมองมายังพวกมันอย่างดุร้าย
จากนั้นพวกมันทั้งสองก็อ้าปากกว้างลงมาหาพวกมัน…
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset