ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1221 กลับมาตกปลา

ฉินสือโอวมีท่าทีที่ค่อนข้างสบายใจต่อเรือสำรวจทั้งหมดเหล่านี้ ใจของเขานั้นกว้างขวางราวกับมหาสมุทร
อันที่จริงแล้วการปรากฏตัวของเรือสำรวจสามารถช่วยเขาได้ เพราะว่ามีเรือเล็กๆ เหล่านี้อยู่ในฟาร์มปลา ทำให้พวกเรือขโมยปลาไม่สามารถเข้ามาได้
แน่นอนว่าหลังจากที่ตำนานสัตว์ประหลาดเป็นที่รู้จัก ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาท้าทายอำนาจของมันอีก แม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตน้อยๆ ของพวกเขา
เมื่อสภาพอากาศปลอดโปร่ง บัตเลอร์ก็นั่งเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษมา ตอนที่เขาลงจากเครื่องบินฉินสือโอวกำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องชื่อของเหอชั่งและหนีกู่กับวินนี่อยู่…เหอชั่งและหนีกู่เป็นชื่อของเฟอเรทแบลคฟุตสุดแสนจะน่ารักทั้งสองตัว
เดิมที่ฉินสือโอวคิดว่าจะให้พวกมันชื่อชุคกับเบตต้า แต่ปรากฏว่าพอเขาเห็นว่าตรงกลางหัวของเฟอเรทผู้พี่ไม่มีขนอยู่จึงทำให้มันหัวโล้น เขาไม่รู้ว่านี่เป็นผลงานมาจากการต่อสู้กับไก่ชน เขายังคิดว่าเป็นเพราะมันไม่ระวังจึงทำขนหลุดไป บวกกับที่มันเป็นเพศผู้ แบบนี้เขาจึงได้ตั้งชื่อให้มันว่าเหอชั่ง[1]
เพื่อให้คล้องจองกัน เฟอเรทผู้น้อยจึงได้ชื่อหนีกู่[2] เมื่อวินนี่ได้ยินชื่อของทั้งสองนี้ตัวเธอก็ตกใจ เธอตกใจมากจนถึงกับลืมคัดค้านไปเลย เฟอเรทผู้น่ารักทำไมถึงได้มีชื่อแบบนี้นะ
สำหรับเรื่องนี้ สองพี่น้องเฟอเรทแสดงท่าทีออกมาเหมือนกัน ให้ตายเถอะ ชื่อนี้ตั้งมาแบบขอไปทีใช่ไหม? เหอชั่งกับหนีกู่นี่มันอะไรกัน? ไม่เหมาะกับลักษณะของพวกเราเลยแม้แต่นิดเดียวเลยไม่ใช่เหรอ?
หลังจากนั้นวินนี่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอยืนกรานที่จะไม่ให้สองพี่น้องเฟอเรทใช้ชื่อนี้อย่างเด็ดขาด เธอพูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ชื่อนี้ไม่เพราะเลยนะคะ ที่รัก พวกเราตั้งใจตั้งชื่อให้เด็กทั้งสองตัวนี้หน่อยเถอะ พวกมันเป็นเฟอเรทแบลคฟุตเชียวนะ! ทั้งโลกมีอยู่แค่ห้าร้อยตัวเท่านั้นนะคะ!”
เสี่ยวหมิงมองไปยังวินนี่อย่างไม่พอใจ ชื่อของพวกพี่ชายเพราะนักเหรออย่างไร?
เสี่ยวหลัวปอก็มองไปยังวินนี่ด้วยความไม่พอ หนูก็เป็นหมาป่าขาวอัจฉริยะที่ยังเหลือรอดในปัจจุบันบนโลกนี้เพียงไม่กี่ตัวเองนะ หลัวปออะไรกัน? โลโบชื่อนี้ยังพอได้ แต่พวกคุณเรียกฉันว่าอะไรกันล่ะ?
ฉินสือโอวดันเจ้าตัวเล็กที่ต้องการเข้ามาผสมโรงออกไป เขาพูดกับวินนี่อย่างอ่อนโยนว่า “ที่รัก คุณรู้ไหม ผมรักคุณ ผมรักคุณมากเลยนะ คุณไม่ชอบผมก็ไม่ชอบ แต่ว่าคุณคิดดูดีๆ นะ ชื่อเหอชั่งและหนีกู่ไม่เพราะเหรอ? คุณไม่ชอบเหรอ?”
วินนี่ตอบกลับว่า “ไม่ ที่รัก ฉันไม่ชอบค่ะ”
ฉินสือโอวยิ้มออกมา “คุณลองคิดดูอีกที คุณไม่ชอบจริงๆ เหรอ? ชื่อดีเลี้ยงง่าย คุณดูเสี่ยวหมิงกับหลัวปอสิ ยังมีหู่จือกับเป้าจืออีก พวกมันมีชีวิตที่ดีมากเลยนะ”
เหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายต่างพากันถอนหายใจออกมา พูดถึงเรื่องการตั้งชื่อ พวกมันไม่เคยเห็นใครไร้รสนิยมเท่าพ่อฉินของพวกมันมาก่อนเลย!
วินนี่พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ชื่อนี้ไม่เพราะเลยจริงๆ นะคะ ชื่อมันแย่เกินไป ฉิน หรือว่าพวกเราจะเรียกพวกมันว่าโรมิโอกับจูเลียตดีคะ ชื่อนี้เพราะกว่าตั้งเยอะ ใช่ไหมคะ?”
ฉินสือโอวจับมือวินนี่พลางมองไปยังดวงตาของวินนี่ด้วยสายตาอ่อนโยน “โรมิโอกับจูเลียตมันน่าเศร้าเกินไป เหอชั่งกับหนีกู่ดีกว่าเยอะ คุณลองคิดอีกทีสิว่าชอบหรือเปล่า?”
ในที่สุดวินนี่ก็หมดความอดทน “จะไม่เปลี่ยนชื่อที่เพราะกว่านี้จริงๆ เหรอคะ?”
“คุณไม่ชอบจริงๆ งั้นเหรอ? คุณคิดดูดีๆ นะ ลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเราดูสิ ชอบหรือเปล่า?” ฉินสือโอวยังคงรุกด้วยความอ่อนโยนอย่างต่อเนื่อง
วินนี่พูดขึ้นมาอย่างจำนนว่า “เอาล่ะ ฉันชอบนิดหน่อยแล้ว”
ฉินสือโอวยิ้มออกมา พลางพูดมาอย่างมีความสุขว่า “ดูสิ ผมรู้ว่าคุณชอบ ชื่อที่คุณไม่ชอบผมไม่กล้าตั้งหรอก พอคุณชอบแบบนั้นก็ดีเลย งั้นต่อไปพวกมันชื่อเหอชั่งกับหนีกู่ก็แล้วกัน”
เฟอเรทแบลคฟุตทั้งสองตัวมองไปยังวินนี่ด้วยสายตาอ้อนวอน วินนี่มองไปยังพวกมันด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าทำอะไรไม่ถูก “ครอบครัวของเราเป็นประชาธิปไตย ชื่อนี้ก็ถูกตั้งขึ้นตามนี้ล่ะ”
ตอนนั้นบัตเลอร์ก็เดินเข้ามาพอดี เขาถามออกมาอย่างร่าเริงว่า “พวกคุณกำลังตั้งชื่อให้อะไรกันอยู่เหรอ?”
เรื่องที่เฟอเรทแบลคฟุตอยู่ที่ฟาร์มปลาตอนนี้ยังเป็นความลับ หลังจากที่ฉินสือโอวได้ยินเสียงของบัตเลอร์ เขาก็รีบดันพวกมันทั้งสองตัวเข้าไปซ่อนไว้ใต้หมอนทันที สองพี่น้องเฟอเรทชะโงกหน้าออกมาข้างนอก แบบนี้ก็ขาดอากาศหายใจตายพอดี โอเคไหม?
ยังดีที่วินนี่ใส่ชุดออกกำลังกายอยู่ ที่เสื้อมีกระเป๋าสองข้างที่หน้าอก เธอหยิบสองพี่น้องเฟอเรททั้งสองใส่เข้าไปในกระเป๋า พวกมันทั้งสองตัวโผล่หัวออกมาเล็กน้อย กระเป๋าสองใบนั้นมีขนาดที่เขากับพวกมันพอดี
ฉินสือโอวแสร้งทำเป็นพูดออกมาเรื่อยเปื่อย “อ้อ ไม่มีอะไร ฉันกับวินนี่คิดว่าจะมีลูกอีกสักคนเลยคิดอยากตั้งชื่อขึ้นมา ว่าแต่ นายมาได้อย่างไร? ลมอะไรพัดนายมาที่นี่เหรอ?”
ขอเพียงไม่พูดถึงเรื่องธุรกิจ ความคิดของบัตเลอร์ก็ค่อนข้างเรียบง่าย เขารีบพูดเปิดประเด็นกับท่านชายฉินทันที “บ้าเอ๊ย! อย่าพูดถึงเลยเพื่อน ห้างของเราอาหารหมดแล้ว ต้องรีบออกทะเลแล้ว ปลาและกุ้งทั้งหมดขาดแคลน สองสามมานี้ท่าเรือและสนามบินถูกปิดเนื่องจากหมอกลงจัด อาหารทะเลหมดเกลี้ยงแล้ว”
เรื่องง่ายๆ แบบนี้ แค่พวกชาวประมงออกทะเลไปก็จบเรื่อง
บัตเลอร์บอกว่าต้องจัดหาอาหารให้กับห้างทั้งหมดสี่แห่ง ทั้งที่อยู่ในไมอามีและนิวยอร์กด้วย นอกจากนี้เขายังเปิดตลาดอาหารทะเลที่ผูกขาดกับฟาร์มปลาต้าฉินอีกสองแห่งที่ชาร์ลอตต์และวอชิงตันอีกด้วย เพราะการที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของสหรัฐอเมริกาเชื่อมต่อกันเป็นทางยาว เขาเกือบที่จะขยายอาณาจักรได้ทั่วทั้งแนวชายฝั่งแล้ว
“ต่อไปพวกเราก็จะครองตลาดนิวออร์ลีนส์ ที่นั่นอยู่ใกล้กับอ่าวเม็กซิโก มันอาจจะไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่ว่าพวกเรายังคงจะแข็งแกร่งกันอยู่แบบนี้ใช่ไหม? หลังจากชนะที่นิวออร์ลีนส์ พวกเราก็จะไปทางตะวันตก และเปิดตลาดในฮูสตัน!”
“จากฮูสตันจะไปยังซานอันโตนิโอ แบบนี้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของอเมริกาก็จะถูกพวกเราล้อมรอบไว้แล้ว ใช้เวลาไม่กี่ปี พวกเราก็จะสามารถครองตลาดอาหารทะเลระดับไฮเอนด์ในอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์! เป็นอย่างไร ภูมิใจไหม?”
ฉินสือโอวมองไปที่แผนที่ เมื่อได้ยินแผนของบัตเลอร์ เขาก็รู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมา พวกเขากำลังสร้างอาณาจักร แม้ว่าจะอยู่ในช่วงขยายอาณาเขต แต่ว่าตอนนี้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
แบบนี้ ฉินสือโอวก็มีแรงจูงใจที่จะออกทะเลไปตกปลาทันที เขาเป็นคนนำทีมด้วยตัวเอง เขาพาชาวประมงทุกคน ออกทะเลและทำงาน!
เรือปริ้นเซสเมล่อนและเรือฮาวิซทถูกส่งออกไปพร้อมกัน เรือฮาวิซทจับพวกปลาและกุ้งในน้ำลึก เช่นปลาหัวเมือก ปลาแฟงค์ทูธ ล็อบสเตอร์พวกนั้น ส่วนเรือปริ้นเซสเมล่อนใช้สำหรับตกปลาขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆ
เรือยักษ์ขนาดพันตันนั้นดุดัน เรือปริ้นเซสเมล่อนพุ่งไปยังจุดน้ำลึกอย่างรวดเร็ว พวกเขาโยนอวนลงไปตรงตำแหน่งที่ฝูงปลาฝูงใหญ่อยู่
เมื่อเก็บปลาทะเลตัวแบนเสร็จ ก็มีข่าวมาจากชาร์คที่อยู่บนเรือฮาวิซท “บอส ที่นี่เจอเข้ากับอวนติดตา คุณมาดูหน่อยเถอะ”
อวนติดตากับอวนลากและอวนล้อมนั้นเหมือนกัน พวกมันเป็นอวนชนิดหนึ่งที่ใช้ในการตกปลา
แต่ว่าของเล่นชิ้นนี้สร้างความเสียหายให้อย่างมหาศาล อวนขนาดใหญ่มักประกอบไปด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ กลางและเล็กสามชั้นรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่หรือปลาตัวเล็กก็ไม่สามารถหนีหลุดออกไปได้ การใช้มันในทะเลอาจทำให้เกิดหายนะทางระบบนิเวศได้ เพราะเหตุนี้ ในหลายประเทศจึงห้ามใช้อวนติดตาในการจับปลา
ฉินสือโอวขึ้นขับเรือยนต์ที่อยู่บนเรือปริ้นเซสเมล่อนออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เข้าใกล้เรือฮาวิซทแล้ว เขาก็เห็นชาร์คโบกมือให้เขาอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ
น่านน้ำมหาสมุทรที่อยู่หน้าเรือฮาวิซท มีตาข่ายสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ทอจากสายใยพลาสติกหลายชั้นลอยอยู่ มีตาข่ายหลายอันอยู่รวมกัน ที่ด้านบนมีทุ่นลอยน้ำพลาสติกติดอยู่ ส่วนด้านล่างมีตะกั่วจมอยู่ ตาข่ายเหล่านี้ถูกกางออกมาในแนวตั้ง ราวกับต้องการล้อมปิดทางศัตรูไว้อย่างแน่นหนา
ฉินสือโอวนึกถึงเรือประมงร้อยตันขนาดเล็กที่เข้ามาในน่านน้ำฟาร์มปลาอย่างอุกอาจ คาดว่าอวนพวกนี้จะมาจากเรือลำนั้น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เขากัดฟันแน่นอยู่เงียบๆ หากรู้แต่แรกเขาคงให้คราเคนล่มเรือลำนั้นไปแล้ว ให้เรือขโมยปลาพวกนั้นรับรู้ที่ความไม่พอใจของเขา!
………………………………………………………..

[1] เหอชั่ง แปลว่าพระในภาษาไทย
[2] หนีกู่ แปลว่าแม่ชีในภาษาไทย

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset