ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1223 ระบบนิเวศของภูเขาไฟขนาดเล็ก

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า ลำเรือปริ้นเซสเมล่อนขนาดใหญ่ค่อยๆ ถูกแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา มันแล่นเข้าเทียบท่าอย่างช้าๆ
บัตเลอร์สวมหมวกฟางรอพวกเขาอยู่ที่ท่า การแต่งการของเขาน่าสนใจมาก หมวกฟาง สูทสีขาว และรองเท้าคัทชู เมื่อบวกกับหนวดเคราขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้คางแล้ว เขาแต่งตัวแนวแฟชั่นย้อนยุคเหมือนกับชาวอเมริกันผิวดำในยุคหกสิบเจ็ดสิบก็ไม่ปาน
เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวลงมาจากเรือก่อน ชายหนวดเฟิ้มอุทานออกมาว่า “เพื่อนยาก ถ้าหากไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ฉันคงคิดว่าเมื่อคืนนายคงเล่นไพ่นกกระจอกอยู่แทนที่จะไปตกปลา เห็นจิตวิญญาณของนายแบบนี้แล้ว ดูกระปรี้กระเปร่าเหลือเกิน”
ครั้งนี้บัตเลอร์ต้องการอาหารทะเลจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวคงไม่ส่งเรือปริ้นเซสเมล่อนออกไป พวกเขาอยู่ในน่านน้ำหนึ่งวันหนึ่งคืน จับปลาทะเลหลากหลายชนิดรวมกันได้ห้าสิบตัน รวมถึงล็อบสเตอร์และปูก็ได้กลับมาด้วยเช่นกัน
เมื่อคืนฉินสือโอวก็มาช่วยแบ่งปลาด้วยตัวเอง แต่ร่างกายของเขานั้นพิเศษ หลังจากที่ทำงานอย่างหนักและงีบไปเพียงสองชั่วโมง ร่างกายของเขาก็กลับมามีพลังอีกครั้ง
แน่นอนว่าเขาไม่บอกสาเหตุที่แท้จริง เขาทำเพียงพูดกลั้วหัวเราะกับบัตเลอร์ว่า “ถ้าหากนายอยู่ให้ห่างจากนางแบบสาวของนายสักหน่อย ห่างจากการสูบบุหรี่สักหน่อย หันมาออกกำลังกายแต่เช้าเหมือนฉันมากๆ และใส่ใจกับสารอาหารที่ได้รับ นายก็จะกระปรี้กระเปร่าเหมือนฉันนี่แหละ”
บัตเลอร์ถามออกมาว่า “พูดได้ดีมากเพื่อน แต่ว่าทำไมฉันจะต้องหาเงินด้วยความสิ้นหวังแบบนี้ล่ะ? หาเงินมาไม่ใช่เพื่อความสนุกไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันไม่สูบบุหรี่ไม่ดื่มเหล้าไม่เล่นกับสาวๆ แบบนั้นฉันก็ไม่ต้องมีเงินเยอะก็ได้”
พูดไป เขาก็ตบไหล่ของฉินสือโอวไป จากนั้นเขาก็วิ่งเหยาะ ๆ ไปบนเรือ เพื่อดูการจับปลา
หลังจากขึ้นเรือไป เขาก็เจอเขากับปลาโอแถบหนึ่งตัว เขาหยิบมันขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับล็อบสเตอร์ จากนั้นเขาก็ไปถ่ายรูปคู่กับปูหิมะ แล้วก็ถ่ายวิดีโอ จากนั้นก็อัปรูปขึ้นโซเชียลมีเดีย
เมื่อเห็นพวกชาวประมงเม้มปากใส่ตัวเอง บัตเลอร์ก็พูดออกมาว่า “เฮ้ๆๆ เพื่อนยาก พวกนายคิดว่าฉันเป็นคนหลงตัวเองใช่ไหม? ไม่ แน่นอนว่าไม่ใช่! ตอนนี้พวกโรงแรมใหญ่ๆ กำลังติดตามฉันในทวิตเตอร์อยู่ ฉันต้องให้พวกเขารู้ว่าอาหารทะเลต้าฉินของพวกเรามาจากฟาร์มปลาสดๆ! นี่เป็นสินค้าที่ดีที่สุด!”
“คุณบัตเลอร์ ลำบากคุณแล้วจริงๆ” ชาร์คพูดขึ้นมาอย่างจงรักภักดี
ชายหนวดเฟิ้มโบกมือไปมาแล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “ไม่หรอก พวกนายต่างหากล่ะ”
“ไม่เลย คุณบัตเลอร์ คุณก็เป็นเจ้านายของพวกเราอีกคนไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้นให้อั่งเปาพวกเราหน่อยได้หรือเปล่า?”
“ฉันมีเรื่องที่ต้องทำอีก พวกนายส่งปลาพวกนี้ไปให้ฉันแล้วกัน” บัตเลอร์เดินออกไปอย่างมั่นคง
หลังจากที่ฉินสือโอวกลับมา พ่อแม่ของเขาก็กำลังรอเขาอยู่ วินนี่พูดปลอบใจด้วยความอดทนว่า “ดูสิคะ หนูบอกแล้วว่าฉินออกทะเลไปไม่เป็นอะไรหรอก พวกคุณไม่ต้องรอเขา ที่นี่เป็นฟาร์มปลาของพวกเรา ทะเลคลื่นลมสงบ ปลอดภัยมาก”
ฉินสือโอวถามออกมาถึงได้รู้ว่า พ่อแม่ของเขารอเขาทั้งคืนไม่ได้นอน เพราะกังวลว่าเขาจะเจอกับอันตรายที่ทะเล
ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกๆ มักจะบริสุทธิ์เช่นนี้ พวกเขาสองคนไม่เข้าใจเรื่องงานที่ต้องออกทะเล พวกเขารู้เพียงว่าการออกไปทะเลหนึ่งวันหนึ่งคืนนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวเอาลังที่บรรจุลูกปลาไปไว้ในห้องครัว จากนั้นก็บอกกับพ่อแม่ว่าเขาออกไปทะเลรอบนี้ไม่ได้เจอกับเรื่องร้ายอะไร และบอกให้พวกเขาไปพักผ่อน
วินนี่รีบให้เขาไปพักผ่อนด้วยเช่นกัน ฉินสือโอวไม่ได้เป็นอะไร จึงพูดออกมาว่า “ผมได้ลูกปลาพวกนี้มาจำนวนหนึ่ง ตอนกลางวันทานอาหารพิเศษจากบ้านเกิดของพวกเรากันนะ ปลากระทะ”
วินนี่ยกมือบีบจมูกฉินสือโอวด้วยความเอ็นดู แล้วพูดว่า “เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้วค่ะ คุณไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวปลาพวกนี้ฉันจัดการเอง”
สองพี่น้องเฟอเรท ชะโงกหัวออกมาจากกระเป๋าของวินนี่ จมูกเล็กๆ ของพวกมันขยับไปมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองไปยังลังน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยลูกปลาตาไม่กะพริบ เฟอเรทมีสัมผัสต่อกลิ่นคาวเร็วมาก พวกมันชอบปลาเหมือนกัน เพียงแต่ติดเรื่องความสามารถเท่านั้น อยู่ในป่าจะไปกินปลาได้อย่างไรกัน
ฉินสือโอวไม่อยากขัดอีก เขากลับไปนอนที่ห้องนอน ปรากฏว่าเมื่อเขาล้มตัวลง ต้าป๋ายก็กระโจนขึ้นมาบนเตียงทันที มันเดินไปมารอบๆ ตัวเขาช้าๆ
เมื่อเห็นต้าป๋ายสภาพร่างกายของฉินสือโอวก็ดีขึ้น เขาอุ้มพอสซัมตัวน้อยขึ้นมามองระดับสายตา เขามองมันตั้งแต่ดวงตาไปจนถึงหาง รูปร่างของต้าป๋ายนั้นค่อนข้างดี เทียบกับท่าทางหงอยเหงาของเมื่อก่อนถือว่าดีขึ้นมาเยอะ เมื่อโดนฉินสือโอวกอดมันก็ยกเท้าขึ้นมาเขี่ยๆ เขา ท่าทางดูขี้เล่นทีเดียว
ฉินสือโอวรู้สึกว่ากระดองของแมลงยักษ์ใช้ได้ผล สองวันมานี้เขาให้ต้าป๋ายกินไปนิดหน่อย ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เลวเลยทีเดียว
แบบนี้เขาเลยลงจากเตียง เขาดึงกระดองขนาดเท่าฝาหม้อออกมาจากใต้เตียง แล้วใช้ตะไบตะไบพวกมันอย่างระมัดระวังเผื่อให้ได้ผงออกมา
โดยที่ไม่ต้องให้เขาป้อน ต้าป๋ายก็เดินเข้ามากินด้วยตนเอง มันแลบลิ้นเล็กๆ ออกมาแล้วเลียผงพวกนั้นเข้าปากไปทั้งหมด แม้แต่เศษเล็กๆ ที่ตกอยู่ตามพรมก็เลียจนหมด
หลังจากกินผงเปลือกกระดองจนหมด ต้าป๋ายก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน ฉินสือโอวรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเผาผลาญที่ลดลง สองวันก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ พอกินสิ่งนี้เข้าไปต้าป๋ายก็นอนหลับทันที
เขานอนกอดต้าป๋ายอยู่บนเตียง หลังจากคิดไปคิดมาเขาก็ปล่อยให้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปยังหลุมน้ำเงิน  แล้วก็ถ่ายพลังงานโพไซดอนให้กับเจ้าสัตว์ประหลาดตะขาบยัษ์สีดำตัวนี้
จากร่างกายสีดำของตะขาบยักษ์ ฉินสือโอวคิดมานานแล้ว อายุของเจ้าตัวเล็กทั้งหลายคงอยู่ได้อีกไม่นาน พลังโพไซดอนสามารถยืดไปได้อีกนิดหน่อย แต่ว่าไม่สามารถยืดได้นานมากนัก แต่ไม่แน่ว่ากระดองของตะขาบยักษ์สีดำตัวนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะยืดอายุสัตว์น้อยที่น่ารักเหล่านี้ได้
ที่หลุมน้ำเงินมีแมลงยักษ์อยู่จำนวนไม่น้อย ตะขาบยักษ์ตัวนี้ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในยุคใด และก็ไม่รู้ว่าตะขาบยักษ์เหล่านี้อาศัยอยู่ที่หลุมน้ำเงินนี้มานานเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าถ้าเขาเพียงแค่ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของเขาใช้ จำนวนของพวกมันก็คงเพียงพอ
ส่วนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องน่ะเหรอ? ฉินสือโอวรู้สึกว่าดูผลจากการเปลี่ยนแปลงดีกว่า ให้แซนเดอร์สมาวิจัย ก็ต้องนำออกไปจำนวนหนึ่ง เขาไม่อยากเอาพวกมันออกมาข้างนอก เขายังคงเชื่อมั่นในประโยคนั้น เดิมทีคนเราไม่มีความผิด แต่เพราะมีของดีอยู่กับตัวจึงมีความผิดซะงั้น!
เมื่อออกมาจากถ้ำ เขาได้ถือโอกาสนี้ในการทิ้งพลังโพไซดอนให้แนวปะการังสีแดงด้วยจำนวนหนึ่ง และได้แวะไปดูตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาไฟใต้น้ำด้วย
ที่ก้นทะเลยังคงมีแมกมาปล่อยมาตามรอยแตกอยู่เป็นระยะๆ สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องความดันใต้ทะเล ทำให้เกิดระบบนิเวศใหม่ใกล้ๆ กับบริเวณภูเขาไฟ
สาหร่ายบางชนิดสามารถฝังรากไว้ที่หินปูนที่อ่อนนุ่มใต้ทะเลได้ ที่นี่มีสารอาหารสมบูรณ์มาก พวกมันเติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ทั่วทั้งเนินภูเขาทะเลเต็มไปด้วยสาหร่ายขึ้นล้อมรอบเกือบทั้งหมด
ปูตัวเล็กสีเทาที่เหมือนกับปูราชินีที่ครั้งที่แล้วฉินสือโอวเคยเห็นกำลังเดินขึ้นลงไปมาที่เนินเขา พวกมันไม่ได้ตัวใหญ่มาก แต่ว่าค่อนข้างอ้วน ราวกับขนมปังก้อนๆ หนึ่งเลย แถมยังดูมีชีวิตชีวาด้วย
ปลาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดเล็กที่มีลำตัวเกือบโปร่งใสแต่มีสีสัน ปลาตัวยาวที่สุดยาวเพียงนิ้วชี้เท่านั้น พวกมันว่ายน้ำไปมาอย่างมีความสุข ปากแหลมคอยจิกกินสิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่หยุด ดูเหมือนว่าพวกมันจะคอยกินปรสิตที่อยู่บนร่างกายของสิ่งชีวิตพวกนั้น
ปลาหลากสีพวกนี้จะชอบอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมาก เพราะไม่มีกุ้งปูปลาตัวไหนมาคอยล่าพวกมัน อีกทั้งเมื่อพวกกุ้งปูปลาเข้าใกล้ภูเขาไฟ ราวกับผู้ป่วยที่กำลังรับการตรวจจากแพทย์อยู่
ฉินสือโอวไปดูฟองน้ำซิลิโคนที่เหมือนกับฟองน้ำแก้ว ของเหล่านั้นสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พวกมันจะดึงสารอาหารออกมาจากแมกมาที่แข็งตัว หลังจากนั้นพวกก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ
รอบๆ ภูเขาไฟมีฟองน้ำทะเลอยู่รอบๆ ราวสี่ห้าสิบอัน พวกมันสามารถยาวได้ถึงเมตรครึ่ง หลังจากนั้นมันก็จะหยุดโตและเริ่มแตกหน่อ ครั้งที่แล้วที่ฉินสือโอวมาดู มีเพียงสิบกว่าอันเท่านั้น
จากการเจริญเติบโตที่ไปอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ฟองทะเลเหล่านี้จึงไม่ใช่ฟองน้ำแก้ว เพราะว่าฟองน้ำแก้วไม่สามารถยาวได้ถึงหนึ่งเมตรแม้จะใช้เวลาถึงหมื่นปีก็ตาม…
แต่ว่า ฟองน้ำทะเลพวกนี้มาจากไหนกัน? แล้วสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง? ไม่ว่าอย่างไรท่านชายฉินก็ไม่มีทางรู้ได้เลย
…………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset