ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1225 อุทธรณ์

บัตเลอร์โชคดีได้กินปลากระทะฝีมือของฉินสือโอว ชายเคราหนาเป็นคนรู้งาน เมื่อกินเข้าไปก็เอ่ยชมออกมาต่างๆ นานา  ชาวผิวสีเป็นผู้ทำการแสดงเก่ง ท่าทางการแสดงที่เปลี่ยนไปอย่างมากของชายคนนี้ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจ
“พวกนายก็แค่กินปลาเอง พวกเราไม่ได้กินเนื้อมังกรกันเสียหน่อย ไม่ใช่เหรอ?” ท่านชายฉินบ่นอยู่เงียบๆ ในใจ หลังจากนั้นก็หันไปชมการแสดงของชายหนวดเฟิ้มต่อ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จ
พ่อของฉินสือโอวก็พูดชมเช่นกัน เขากินปลาไหลอเมริกาไปหนึ่งตัว จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวโอวทำอาหารอร่อยจริงๆ สตูปลาก็เคี่ยวกำลังดี เนื้อปลานุ่มลื่นมาก กลิ่นก็หอมมาก อาหารจากนี้ลูกทำได้อร่อยกว่าพ่อกับแม่เยอะเลย”
ฉินสือโอวมีความสุขอย่างหยุดไม่อยู่ วินนี่ยิ้มออกมา พลางถามพ่อของฉินสือโอวว่า “คุณพ่อคะ ปลาที่คุณพ่อทานคือปลาไหลอเมริกา เป็นปลาที่เนื้อนุ่มและอร่อยที่สุดชนิดหนึ่งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ถ้าหากว่าคุณพ่อเป็นคนทำอาหาร รสชาติจะต้องดีกว่านี้แน่นอนค่ะ”
พ่อของฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ แล้วพูดว่า “วินนี่นี่ช่างพูดจาเอาใจเสียจริง ได้ อาหารเย็นพ่อจะแสดงฝีมือเอง”
เออร์บักมองมาด้วยความใสซื่อ และถามออกมาว่า “ตอนเย็นยังจะกินปลากระทะกันอีกเหรอ?”
เหมือนกับคนผิวขาวส่วนใหญ่ เออร์บักไม่สามารถทานปลาที่มีก้างเยอะได้มากนัก แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ตะเกียบได้ แต่ก้างปลาของลูกปลาค่อนข้างเล็ก เขาทานปลาชนิดนี้แล้วรู้สึกเปลืองแรงเหลือเกิน
เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ บัตเลอร์ก็บินกลับนิวยอร์กทันที นอกจากนี้ยังใช้เครื่องบินขนส่งอาหารทะเลที่คุณภาพดีที่สุดไปเพื่อขายในราคาสูงอีกด้วย ส่วนที่เหลือนั้นก็ใช้เรือขนส่งแบบเร็วส่งกลับไป อันที่จริงแล้วนิวยอร์กไม่ได้อยู่ไกลกับนครเซนต์จอห์นมากนัก
สิ้นเดือนมิถุนายน ฉินสือโอวได้รับหมายศาลจากศาลฎีกาแห่งนิวฟันด์แลนด์ว่าเขาจะต้องปรากฏตัวในศาลอีกครั้งในฐานะพยาน คดีใช้ระเบิดในการตกปลาของลินตันและวัยรุ่นทั้งสี่ที่ในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็รับฟ้อง ตอนนี้มาถึงการตัดสินขั้นสุดท้ายแล้ว
ระบบการเมืองและกฎหมายของแคนาดาค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะมีรากฐานมาจากทั้งกฎหมายของอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา สามประเภทนี้รวมเข้าด้วยกัน เพราะว่าพวกเขาเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ และผู้อพยพที่ควิเบกส่วนใหญ่ก็เป็นชาวฝรั่งเศสและเพื่อนบ้านอย่างอเมริกาก็กลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่สุดในปัจจุบัน
ระบบของศาลในแต่ละรัฐไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นที่นิวฟันแลนด์จะมีศาลอยู่สองระดับ ศาลชั้นต้นคือศาลรัฐ หน้าที่ของพวกเขาคือการจัดการคดีแพ่งและคดีอาญาเป็นส่วนใหญ่ และคดีใช้ระเบิดเพื่อการตกปลาในครั้งนี้ถือว่าเป็นคดีอาญา
ศาลชั้นต่อว่าคือศาลฎีการัฐ ในความหมายหนึ่งคือ หน้าที่ส่วนใหญ่ของพวกเขาคือการดูแลคดีแพ่งและคดีอาญาที่ร้ายแรง
นอกจากศาลฎีการัฐแล้วยังมีศาลที่อยู่เหนือกว่าขึ้นไปคือศาลอุทธรณ์ รับผิดชอบในการรับฟังคำอุทธรณ์จากศาลฎีการัฐ ตามธรรมเนียมของคนท้องถิ่นแล้ว พวกเขาชอบเรียกศาลอุทธรณ์ว่าศาลฎีกาแห่งรัฐ
ศาลอุทธรณ์ของนิวฟันแลนด์ยังคงอยู่ที่นครเซนต์จอห์น ในกรณีที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ นครเซนต์จอห์นถือเป็นรัฐใหญ่เพียงรัฐเดียวของที่นี่ แทบจะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมืองนี้จะอยู่ที่นครเซนต์จอห์นเกือบหมด แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ นครเซนต์จอห์นก็ไม่ใช่เมืองใหญ่
ฉินสือโอวและพวกชาวประมงเข้าไปเป็นพยานในศาล พวกชาวประมงต่างพากันแต่งตัวอย่างดี พวกเขาทุกคนสวมชุดสูท เบิร์ดพูดกลั้วหัวเราะว่า “พวกนายดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลย ฉันอยากจะถ่ายรูปพวกนายไว้สักสองสามรูปจริงๆ”
บลูลูบเคราสั้นๆ ที่เหมือนกับลวดเหล็กของตัวเองแล้วยิ้มออกมา “อย่ามาไร้สาระ บิ๊กเบิร์ด ตอนนี้พวกเราเป็นชนชั้นสูง จำเป็นต้องถ่ายรูปเสียหน่อย ฉันจะอัปขึ้นทวิตเตอร์ จะต้องเท่มากแน่ๆ”
“คนเขาจะคิดว่านายเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วจะจับนายดำเนินคดีและสั่งจำคุกมากกว่า” แลนซ์หัวเราะออกมาเสียงดัง
คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะออกมาเช่นกัน บลูพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “ฉันออกจะดูเหมือนผู้ดี พวกนายนี่พูดจาไร้สาระจริงๆ!”
ซีมอนสเตอร์กำลังทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ชาร์คถามเขาว่าคิดอะไรอยู่ เขาเลยตอบออกมาว่า “อันที่จริง ตอนนี้พวกเราก็เป็นชนชั้นสูงจริงๆ นะ พวกนายไม่ได้คำนวณรายได้ต่อปีของตัวเองใช่ไหม? หากมองตั้งแต่รายได้ ผู้ผดุงความยุติธรรมที่มาถึงเมื่อกี้ไม่ได้มีรายได้สูงกว่าฉันใช่ไหม?”
เงินเดือนของเจ้าหน้าที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้สูง พวกเขาได้รับการแต่งตั้งมาจากรัฐบาลกลาง ศาลอุทธรณ์ไม่ได้เป็นศาลที่มีอำนาจสูงสุด และผู้พิพากษาก็ไม่ได้มีอำนาจมากที่สุด รายได้ของพวกเขาขึ้นอยู่กับระบบศาลกลาง
ในแคนาดา ผู้พิพากษาและทนายความอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูง ปกติแล้วชาวประมงธรรมดาจะได้เงินเพียงเศษเสี้ยวของพวกเขา แต่ชาร์ค ซีมอนสเตอร์พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงชาวประมงธรรมดา การได้อยู่มากับฉินสือโอวนับว่าเป็นความโชคดีของพวกเขา เงินปันผลจากหนึ่งไตรมาส ก็เท่ากับชาวประมงธรรมดาที่ทำงานมาทั้งปีแล้ว
ดังนั้น คนของฟาร์มปลาไม่ว่าจะเป็นทหารหรือว่าชาวประมง ต่างก็พากันปกป้องผลประโยชน์ของฟาร์มปลาเป็นพิเศษ
พวกเขารู้ว่ารายได้ของตัวนั้นไม่สามารถเทียบกับของฉินสือโอวได้ และไม่สามารถเทียบได้กับรายรับของฟาร์มปลา แต่นอกจากฉินสือโอว นอกจากฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว พวกเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาได้รับเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง
ดังนั้น เรื่องของฟาร์มปลาทุกเรื่อง พวกเขาก็คิดว่าเป็นเรื่องของตัวเอง ในใจของพวกเขาต้องการให้ฟาร์มปลายังคงดำเนินกิจการไปได้ด้วยดีต่อไป
ชาร์คมองหน้าซีมอนสเตอร์อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วถามว่าปีที่แล้วเขาได้รับเงินเท่าไหร่ ซีมอนสเตอร์ถลึงตาใส่เขาแล้วบอกให้เขาพูดก่อน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มทะเลาะกัน…
ไม่นานผู้พิพากษาก็มาถึง คนทุกคนพากันยืนขึ้น และการพิพากษาก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เหมือนกันกับครั้งที่แล้ว ฉินสือโอยืนยันว่าเยาวชนอย่างลินตันไม่เพียงแต่จะยิงวาฬในฟาร์มปลาของเขาเท่านั้น และยังคิดจะจับเต่ามะเฟืองอีกด้วย
การกระทำของฉินสือโอวคือการทำลายชื่อเสียงของพวกเขา การทำแบบนี้ค่อนข้างโหดร้าย แต่จะให้ทำอย่างไร การกระทำของเด็กวัยรุ่นพวกนี้ที่ฆ่าวาฬไม่โหดร้ายเหรอ? อีกอย่าง ตอนนั้นหากไม่เป็นเพราะฉินสือโอวไปห้ามไว้ แล้วปล่อยให้พวกเขาเจอเข้ากับเต่ามะเฟือง แบบนั้นพวกเขาจะปล่อยเต่ามะเฟืองผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?
ทนายความที่พ่อของลินตันจ้างมาเก่งกาจมาก ไม่เสียแรงที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ฉินสือโอวที่กล่าวข้อหาเรื่องเกี่ยวกับการล่าเต่ามะเฟืองแล้ว ยังถูกเขาหักล้างได้ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถล้างข้อกล่าวหาเรื่องการใช้วัตถุระเบิดประเภทธนูที่ผิดกฎหมายได้
สุดท้ายศาลอุทธรณ์ก็ยึดคำพิพากษาเดิม ชายหนุ่มทั้งสี่ที่เป็นผู้ต้องหาร้องไห้ออกมาที่ชั้นศาล อารมณ์ของแต่ละคนหดหู่ไปตามๆ กัน
ตอนแรกพวกเขายังไม่เคยได้ลิ้มรสรสชาติของการติดคุก ดังนั้นเมื่อขึ้นศาลครั้งแรกเลยมีความหยิ่งผยอง ทุกวันนี้พวกเขาถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์กักกัน พวกเขาได้สัมผัสกับความเจ็บปวดในการสูญเสียอิสรภาพ อีกทั้งวัยรุ่นทั้งสี่คนยังเป็นคนหน้าตาดี ดอกเบญจมาศงามมีแนวโน้มว่าจะยังผลิบาน พวกเขาคงไม่สามารถทำตัวหยิ่งผยองได้อีก
การขึ้นศาลในครั้งนี้ พ่อแม่ของวัยรุ่นทั้งสี่คนต่างก็มากันหมด เมื่อผู้พิพากษาประกาศคำตัดสินครั้งสุดท้าย ชายวัยกลางคนผู้มีท่าทีสง่างามก็ยืนขึ้นมาด้วยความโกรธและตะโกนออกมาว่า “ไม่! พวกเราไม่ยอมรับคำตัดสินนี้! ผมจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป!”
ใช่แล้ว พวกเขาสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อได้ ต่อไปยังมีศาลฎีกาของแคนาดาอยู่ ศาลนี้จะรับคำอุทธรณ์หลังจากที่ผ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์แล้ว แต่การพิจารณาคดีจะถือเป็นที่สิ้นสุดทันที หากคำตัดสินยังเป็นแบบเดิม วัยรุ่นทั้งสี่คนจะไม่สามารถหนีจากการเข้าคุกได้
อีกอย่างรัฐบาลประจำรัฐและรัฐบาลกลางยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษและศาลพิเศษขึ้นมาด้วยจำนวนหนึ่ง พวกเขาสามารถรับเรื่องอุทธรณ์ครั้งที่สองได้จำนวนหนึ่ง
เพียงแค่คดีสามารถพลิกกลับคำพิพากษาได้ เนื่องจากกระทำที่เลวร้ายเกินไป
หลังจากที่เลิกศาล ฉินสือโอวกับพวกชาวประมงที่เดินออกมาพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ถูกคนคนหนึ่งหยุดพวกเขาไว้ คนคนนั้นคือพ่อของลินตัน ชไนเดอร์ วอเทอเรนซ์
เจ้าของโรงงานเหล็กคนนี้ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้ เขาใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยมองมายังฉินสือโอว แล้วพูดขึ้นว่า “คุณฉิน จะไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอมหน่อยเหรอ? คุณก็รู้ ถ้าหากพวกเราไม่ทำอะไรเลย เด็กที่น่าสงสารพวกนี้ก็จะติดคุกนะ!”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset