ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1240 รอบชิงชนะเลิศ! รอบชิงชนะเลิศ!

ร่างกายของหอยทากสามารถเก็บน้ำได้มาก หลังย่างจนน้ำออกมาแล้วทาน้ำมันลงไปแทน พวกมันก็สามารถเก็บน้ำมันได้ด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนผสมเครื่องปรุงในการย่าง เจ้าสิ่งนี้รสชาติอร่อยมาก มันสามารถผสมผสานรสชาติของเครื่องปรุงได้ดีอย่างไร้ที่ติ
หลังฉินสือโอวย่างเสร็จสองเส้นแล้วก็ยื่นให้วินนี่เส้นหนึ่ง เจ้าตัวเล็กพวกนี้อ้วนท้วม มันวาว โดนย่างจนกลายเป็นสีเหลืองทองอ่อนๆ จนกลายเป็นชิ้นเนื้อที่หอมกรุ่น พอได้เข้าปากแล้วรสชาติมีส่วนคล้ายจักจั่นย่าง แต่ว่าจะหอมกว่า นุ่มกว่า
นอกเหนือจากนี้แล้ว หอยทากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำและน้ำมัน เคี้ยวทีเดียวก็มีน้ำมันและน้ำพุ่งออกมาเต็มปาก ช่างเป็นอะไรที่สดใหม่ และหอมหวาน ยิ่งเมื่อผสมผสานเข้ากับเครื่องปรุงแล้ว เป็นรสชาติที่ของย่างอย่างอื่นเทียบไม่ได้เลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เพราะมีปริมาณไขมันต่ำ กินหอยทากจึงไม่ทำให้อ้วนได้ง่าย ผู้หญิงสามารถกินได้มากตามใจชอบ
ฉินสือโอวเดินเรื่อยเปื่อยไปหาชาร์คแล้วพูดกับเขาว่า “เจ้าสิ่งนี้ย่างแล้วรสชาติไม่เลวเลย”
ชาร์คหัวเราะเหอๆ แล้วพูดว่า “แน่นอนสิครับ ตอนเด็กผมชอบไปหว่านแหริมทะเลเพื่อจับพวกมัน สามารถกินได้เต็มอิ่มในฤดูร้อนของทุกปีเลยครับ”
“แล้วปีที่แล้วทำไมนายถึงไม่บอกล่ะ? หอยทากเยอะขนาดนั้น เสียของหมดเลย” ฉินสือโอวพูดพร้อมส่ายหัว ปีที่แล้วก็กินเจ้าพวกนี้เหมือนกัน แต่ว่ากินโดยใช้การอบกับผัดไฟแดง
ชาร์คยักไหล่แล้วพูดว่า “ปีที่แล้วหอยทากไม่อ้วน พวกมันเป็นพวกแตกแยก ไม่เหมาะกับการนำมาย่างกิน เพราะย่างให้น้ำมันออกมาไม่ได้ ทำให้ตอนกินจะรู้สึกแห้งมาก เหมือนกับเนื้อกระต่ายในฤดูใบไม้ผลินั่นแหละครับ”
วิธีการย่างหอยทากของพวกเขามีหลากหลายรูปแบบ นอกจากการย่างทั่วไปอย่างที่ฉินสือโอวทำแล้ว ยังมีการย่างด้วยการทาน้ำเชื่อมเพื่อทำหอยทากย่างหวาน และย่างด้วยการใช้สาหร่ายใบใหญ่มาห่อไว้เพื่อให้เหมือนกับการนึ่งด้วยเป็นต้น วิธีหลากหลาย รสชาติก็ไม่เหมือนกัน
ฉินสือโอวจำวิธีการทำมันฝรั่งบดอบหอยทากที่การ์เซียทำปีที่แล้วได้ จึงไปเก็บเปลือกหอยสะอาดแถวริมทะเลมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็คิดทบทวนวิธีการทำ เขาต้มหอยทากจนสุกก่อน ใส่เกลือและพริกไทยดำ หัวหอม ขึ้นฉ่าย เห็ดหอมและแฮมหั่นเต๋า
จากนั้น เขาก็นำมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วมาปอกเปลือก หั่นชิ้น และบดจนเละ เติมเกลือ ไข่แดงกับเนยสดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นเทบรั่นดีลงในหม้อ พร้อมกับเกลือ ผงพริกไทยดำและกระเทียมเจียว หลังคลุกเคล้าแล้วรอจนเย็นแล้วใส่เข้าไปในเปลือกหอย สุดท้ายใช้เนยปิดปากแล้วใส่เข้าไปในเตาอบ
พ่อของฉินสือโอวก็ทำหน้าที่ของตัวเองปีที่แล้วด้วยเหมือนกัน โดยการทำพริกขี้หนูผัดหอยทาก แต่ทว่าอย่างไรเสียพ่อของฉินสือโอวก็เป็นพ่อครัวเก่ามาก่อน ดังนั้นหอยทากที่ผัดออกมานั้นจึงยังคงสีขาวบริสุทธิ์ของเนื้อหอยทาก สีแดงสดของพริก และสีเขียวขจีของผักไว้ได้ มองดูแล้วทำให้เจริญอาหารได้มากทีเดียว
แลนซ์กลับบ้านไปหยิบค็อกเทลมาสองขวด บอกว่าเป็นของที่น้องชายให้เขามา แต่ฉินสือโอวชิมแล้วรู้สึกไม่ค่อยชินปาก เขายังคงกลับไปดื่มไอซ์ไวน์ที่เอามาจากร้านคุณลุงฮิคสันดีกว่า
ระหว่างกินหอยทากอบกับหอยทากย่างอยู่นั้น ฉินสือโอวก็เรียกให้พวกชาวประมงมาหา แล้วส่งต่อข่าวที่แมทธิว จินบอกกับเขาให้พวกชาวประมง
พวกชาวประมงพากันส่ายหัว ชาร์คพูดว่า “เรื่องนี้ไม่โอเคครับ บอส ผมคิดว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ รสชาติของปลาที่ได้จากฟาร์มปลาของเรานั้นดีที่สุดในแคนาดา…”
“ไม่ ดีที่สุดในโลก!” บูลพูดตัดบทเขาแล้วพูดแทรกขึ้นมา
ชาร์คทำท่าขอยอมแพ้ แล้วพูดว่า “โอเค ดีที่สุดในจักรวาลละกัน สรุปก็คือ พวกเรามีทรัพยากรที่ดีที่สุด สามารถทำเงินได้มากที่สุด เงินที่เราทำได้ก็ถือว่ามากพอแล้ว ทำไมยังต้องขายลูกปลา ลูกกุ้งชั้นดีพวกนี้ให้คนพวกนี้ล่ะครับ?”
แซนเดอร์สเห็นต่างออกไป เขาพูดว่า “ผมรู้สึกว่าคุณภาพปลาของพวกเราดีขนาดนี้ ก็เพราะคุณภาพน้ำของฟาร์มปลาและคุณภาพของหญ้าทะเล ไม่เกี่ยวกับพันธุ์ของปลาหรือกุ้งเลย ถ้าเป็นแบบนี้ทำไมถึงจะเอามาทำเป็นธุรกิจไม่ได้ล่ะ?”
ฉินสือโอวพยักหน้า ศาสตราจารย์สูงวัยคนนี้เป็นมืออาชีพ เขาเคยทำการวิเคราะห์สิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลามาก่อน พบว่าที่ปลากุ้งปูมีรสชาติดี และตัวใหญ่ สาเหตุเป็นเพราะหญ้าทะเลที่คนพากันละเลยนั่นแหละ
นอกจากปลากุ้งปูส่วนหนึ่งที่มีค่าพวกนั้นแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่เคยให้พลังโพไซดอนกับสิ่งมีชีวิตอื่นอีกเลย เขาถ่ายเทพลังโพไซดอนให้กับหญ้าทะเล เป็นการพัฒนาคุณภาพของปลาจากต้นเหตุ เท่ากับสามารถอธิบายได้ว่าทำไมคุณภาพปลาจากฟาร์มปลาของเขาถึงได้ดีขนาดนี้
ชาวประมงคนอื่นส่ายหัว ยังคงคิดว่าการนำลูกปลาของตัวเองออกไปจำหน่ายนั้นไม่เหมาะสม เพราะว่าพวกเขาในตอนนี้ถือว่าได้กำสูตรลับไว้อยู่
ฉินสือโอวกลับไม่ใส่ใจ เขาพูดว่า “อย่างไรเสียก็เป็นงานประมูล พวกเราไปดูกันเถอะ บางทีพวกเราอาจจะได้เชื้อพันธุ์สิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีมูลค่าสูงจากฟาร์มปลาอื่นๆ กลับมาก็ได้ นี่คือโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนกันล่ะ”
“แบบนี้ก็ถูกเหมือนกันครับ” ชาร์คพยักหน้า
ฉินสือโอวเห็นชาวประมงคนอื่นอยากจะเถียงต่อ จึงยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดว่า “มาเถอะ เพื่อนฝูงทั้งหลาย วันนี้มีเหล้าก็เมาวันนี้ ไม่ต้องไปสนว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ชนแก้ว พวกเรามาชนแก้ว!”
พวกชาวประมงชูแก้วเบียร์ขึ้น ส่ายเบียร์เข้มข้นในนั้นไปมาแล้วโห่ร้องกันว่า “ชนแก้ว ดื่มด่ำกับปัจจุบัน!”
ปีนี้หอยทากไม่ได้รวมกลุ่มกันมาปรากฏตัว ทำให้คุณภาพดีกว่าปีที่แล้วมาก เมื่ออาหารอุดมสมบูรณ์พวกมันเองก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วย หลังจากนั้นอีกหลายวันฉินสือโอวจึงให้พวกชาวประมงไปออกค้นหาอีก จากนั้นนำมาต้มสุกแล้วแช่แข็งไว้ เท่านี้ก็สามารถกินต่อได้อีกสองเดือนแล้ว
ต้นเดือนกรกฎาคม โรงเรียนประถมแกรนท์ใกล้จะปิดเทอม การแข่งบาสเกตบอลของประถมศึกษาปีที่สี่ถึงหกก็ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว
เพราะมิเชลกับกอร์ดอนเข้าร่วมด้วย โรงเรียนประถมแกรนท์ในปีนี้จึงมาแรงแซงโค้ง กลายเป็นม้าดำของพื้นที่เขตเซนต์จอห์นทันที เอาชนะจนโรงเรียนอื่นๆ ไม่ทันตั้งตัว ทำเอาโรงเรียนที่ฝีมือดีเก่าแก่หลายที่ต้องล้มระนาวไปตามๆ กัน
การแข่งรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ เป็นการแข่งระหว่างโรงเรียนประถมแกรนท์กับผู้ได้รับรางวัลถ้วยเงินจากปีที่แล้วโรงเรียนประถมหงเฉิงจื่อ
นักกีฬาของโรงเรียนหงเฉิงจื่อล้วนเป็นเด็กประถมห้ากับหกทั้งนั้น ชั้นประถมสี่นอกเสียจากว่าจะมีอัจฉริยะบังเกิด ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะได้เข้าร่วมทีมโรงเรียนนี้อย่างแน่นอน ทำให้รูปร่างของนักกีฬาของพวกเขาดูแล้วแข็งแกร่งที่สุด ทั้งสูงและตัวโตกว่าเด็กโรงเรียนอื่นๆ มาก
ปีที่แล้วพวกเขาแพ้ให้กับโรงเรียนคาทอลิกเซนต์ปีเตอร์ด้วยคะแนนห่างกันเพียงเฉียดฉิวที่สองคะแนน ปีนี้พวกเขาแก้แค้นได้สำเร็จ และนำพาความคิดที่จะได้เป็นแชมป์เข้าไปในการแข่งรอบชิงชนะเลิศ
ในตอนนี้ฮิวจ์คุ้นเคยกับหน้าที่การงานของเขามากขึ้นทุกวัน หากบอกว่าเขาเป็นผู้ช่วยครูฝึกแล้วล่ะก็ เรียกว่าเขาเป็นนักวิเคราะห์จะถูกกว่า เขามีสายข่าวมากมายในเซนต์จอห์น ไม่ว่าข้อมูลของคู่แข่งคนไหนก็สามารถหาได้หมด เป็นการช่วยเหลือทีมได้มากเลยทีเดียว
แม้ว่าเป็นการละเล่นของเด็กๆ แต่อย่างไรเสียก็เป็นรอบชิงชนะเลิศ การแข่งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก ช่องโทรทัศน์ทางกีฬาของเซนต์จอห์นก็เข้ามาทำการถ่ายทอดสดด้วย สถานที่จัดการแข่งคือโรงยิมชายฝั่งปลาค็อด ที่นี่คือโรงยิมที่ใหญ่ที่สุดในนิวฟันด์แลนด์
ฉินสือโอวพาพวกเด็กๆ นั่งรถโรงเรียนไปที่โรงยิม กัวซงก็ลางานไปเข้าร่วมการแข่งขันด้วย เพราะการแข่งครั้งนี้สำคัญมากจริงๆ เขาจะต้องเป็นครูฝึกควบคู่กับฉินสือโอวด้วย
และความจริงแล้วครูฝึกหลักของทีมนี้ก็คึอเขาด้วย กลยุทธ์ง่ายๆ ที่ใช้ก่อนหน้านี้ก็เขานี่แหละที่นำมาบอกกับฉินสือโอว จากนั้นฉินสือโอวค่อยสอนให้กับพวกเด็กๆ
สนามบาสเกตบอลนี้มีทั้งหมดแปดพันที่นั่ง แน่นอนว่าคงไม่ถึงกับนั่งจนเต็ม แต่เพราะการแข่งของผู้ชิงอันดับสามกับสี่ก็ถูกจัดที่นี่ด้วย ทำให้ผู้ปกครองที่มาร่วมดูการแข่งขันมีเยอะมาก ผู้เข้าแข่งขันมีทั้งหมดสี่โรงเรียน
โรงเรียนประถมในแคนาดาให้ความสำคัญกับการพัฒนาของกิจกรรมกีฬามาก และยังถือว่านี่เป็นกิจกรรมครอบครัวอีกหนึ่งอย่างด้วย ทุกครั้งที่ถึงการแข่งขันที่สำคัญ โรงเรียนที่เกี่ยวข้องจะพานักเรียนทุกคนมา จากนั้นก็จะให้พวกนักเรียนพาพ่อแม่มาด้วย เท่านี้แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันระดับล่าง แต่บรรยากาศก็ยังคงเข้มข้น
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset