ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1243 ไม่เป็นดังคาด

กรมประมงให้ความสำคัญต่องานประมูลอุตสาหกรรมการประมงในครั้งนี้มาก เพราะว่านี่ก็คือการทดลองอย่างหนึ่ง หากว่าประสบความสำเร็จแล้วสามารถนำไปโปรโมต จะทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาสามารถทำกำไรได้มากมาย เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้มีคนที่ทำธุรกิจเพาะเลี้ยงปลามาร่วมงานกันค่อนข้างเยอะ
และเพราะอย่างนี้ พิธีกรเปิดงานประมูลในครั้งนี้จึงเป็นแมทธิว จิน ประธานกรมประมงของแคนาดามาออกโรงด้วยตัวเอง
บางครั้งฉินสือโอวก็รู้สึกว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของประเทศเหล่านี้ก็ไม่ได้ดีเท่าไรนัก อย่างคำที่ว่า ‘ชีวิตก็เหมือนคนดื่มน้ำ จะเย็นหรืออุ่นมีแค่คนดื่มเท่านั้นที่รู้ได้’ ในสายตาคนภายนอกเห็นแต่เพียงว่าแมทธิว จินดูแลฟาร์มปลาในแคนาดาทั้งหมด ออกคำสั่งคำเดียวก็สามารถทำให้ฟาร์มปลาดังกล่าวรุ่งโรจน์หรือปิดตัวลง ทำให้คนกว่าพันคนต้องตกงานหรือมีงานทำได้ แต่จะมีใครกันที่รับรู้ถึงแรงกดดันที่เขาแบกรับไว้ล่ะ?
การได้พบกับแมทธิว จินในครั้งนี้ เป็นการพบกันที่ผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งปี ฉินสือโอวรู้สึกว่าท่านประธานคนนี้แก่ตัวลงอย่างเห็นได้ชัด รอยตีนกาข้างดวงตาก็ชัดขึ้นมามาก
เทียบกันแล้วชีวิตของฉินสือโอวถือว่าดีกว่าเยอะ เขาอิสระราวกับก้อนเมฆและนกกระเรียนป่า ฟาร์มปลาเป็นดั่งอ่างเก็บสมบัติที่สามารถทำเงินให้เขาได้เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
และถ้าเงินขาดมือจริงๆ เขาก็สามารถไปหาเรืออับปางใต้ทะเลมาลำหนึ่ง ตอนนี้ก็กำลังงมเรือบรรทุกทองคำอับปางลำหนึ่งด้วย หากว่าสามารถงมขึ้นมาได้แล้ว ทรัพย์สมบัติของเขาก็สามารถเพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายอีกแล้ว
ปกติแมทธิว จินต้องคอยคิดว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจการประมงอย่างไร ฉินสือโอวล่ะ? สิ่งที่เขาคิดก็คือคืนนี้กินอะไร พรุ่งนี้จะพาลูกสาวไปเที่ยวไหนดี…
หลังพบหน้ากันแล้วแมทธิว จินไม่ได้พูดอะไรกับเขามาก ทั้งสองเพียงจับมือก็จากกันแล้ว หลังจากนั้นฉินสือโอวก็โดนพวกโดนัลด์กับชาวประมงที่คุ้นเคยลากเข้าไปในกลุ่ม
คนที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อย คาดว่ามีถึงสองร้อยกว่าชีวิต ยืนเบียดกันเต็มงานไปหมด คนเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือพวกที่หากินกับอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เป็นหลัก อีกกลุ่มคือหากินกับน่านน้ำรอบมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือเป็นหลัก
หลังจากฉินสือโอวมาถึงแล้ว โดนัลด์ก็ลากตัวเขาออกไป แต่ถูกขัดโดยเจ้าของฟาร์มปลากลุ่มอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่เข้ามาพูดคุยสร้างสัมพันธ์ด้วย หัวข้อสนทนาเริ่มจากผู้กำกับดังคาเมรอนจะมาถ่ายทำภาพยนตร์
ต้นแบบของพระเอกในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือท่านชายฉินคนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขารู้สึกภาคภูมิใจมาก หากว่าเป็นสามปีก่อน เขาคงไม่กล้าคิดว่าจะมีวันที่ตัวเองจะเป็นต้นแบบการทำภาพยนตร์ของผู้กำกับจากฮอลลีวูดหรอก
แน่นอนว่าตอนนั้นเขาก็คงไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะได้รับการต้อนรับอย่างดีในประเทศต่างถิ่นด้วย ในงานประมูลแทบจะทุกคนที่อยากจะเป็นเพื่อนกับเขา การต้อนรับที่เขาได้รับนั้นแทบจะมากกว่าประธานอย่างแมทธิว จินด้วยซ้ำ
โดนัลด์พูดกับเขาอย่างไม่อิจฉาว่า “นายกลายเป็นคนที่น่าหลงใหลจากทุกคนแล้ว เพื่อน ดีนะที่พวกเราไม่ได้จัดงานปาร์ตี้ ไม่อย่างนั้นนายคงได้เป็นราชาประจำงานแน่”
ฉินสือโอวถามอย่างสบายอารมณ์ว่า “แล้วฉันทำให้นายหลงใหลได้หรือเปล่า?”
โดนัลด์หัวเราะเหอๆ แล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ถ้าหากนายยอมขายพันธุ์ปลาของปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาอลาสก้าพอลล็อคกับปลาแฮดดัคแล้วล่ะก็ งั้นฉันต้องหลงใหลนายอย่างแน่นอน”
ด้วยจุดประสงค์เดียวกันนี้ คนอื่นๆ ที่มาสานสัมพันธ์กับเขา ก็เพราะอยากได้ลูกปลากุ้งปูของเขาเหมือนกัน
เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางทะเลระหว่างประเทศทำได้ยากขึ้น ธุรกิจการประมงของแคนาดาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของประเทศ เจ้าของฟาร์มปลาที่อยากทำเงินต้องพึ่งการส่งออก แทบจะทุกคนที่นี่ก็ล้วนทำธุรกิจส่งออกกันทั้งนั้น
แต่ว่า สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกไม่สู้ดีนัก ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ทางทะเลของแคนาดาดิ่งลงเรื่อยๆ ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาพากันหวั่นใจกันหมด
เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ตั้งของทางรัฐบาลแคนาดาด้วย เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้น้ำทะเลทั้งน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือหรือมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือได้รับมลภาวะค่อนข้างน้อย และพวกปลากุ้งปูในน่านน้ำเย็นนั้นเติบโตได้ช้า แต่อุดมไปด้วยสารอาหาร และรสชาติดี
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทางทะเลของแคนาดาล้วนถูกจัดให้เป็นสินค้าชั้นดีทั้งหมด และจากที่เศรษฐกิจของทุกประเทศพากันตกต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้กำลังในการซื้ออาหารทะเลชั้นดีถดถอยลงไปด้วย สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือพวกเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลาย
ผลิตภัณฑ์ทางทะเลชั้นดีอย่างพวกหอยงวงช้าง ปูหิมะ ปูดันเจเนสส์ ปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ และปลิงขาว ในช่วงสิบปีแรกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด จำนวนการส่งออกของแคนาดาล้วนนับเป็นหน่วยร้อยตันทั้งหมด แต่การส่งออกในปัจจุบัน แค่สามารถทำได้ปีละหลายร้อยตันก็ถือว่ายากมากแล้ว
ปีนี้จำนวนการส่งออกของเมนล็อบสเตอร์สูงขึ้นมาก แต่เพราะกุ้งมังกรแก๊ฟคี่ ทำให้ปริมาณการเก็บเกี่ยวของกุ้งมังกรในแคนาดาลดลงอย่างมาก แม้แต่ตลาดในประเทศก็ยังไม่สามารถจัดจำหน่ายได้ ใครจะเอาไปส่งออกอีก?
ที่ฉินสือโอวได้รับความสนใจขนาดนี้ ก็เพราะสถานการณ์ของเขาไม่เหมือนกัน ในตอนที่อาหารทะเลของทุกคนขายไม่ออกนั้น เขาได้สร้างแบรนด์อาหารทะเลต้าฉิน แถมยังเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องการขายเลยสักนิด จะไม่ทำให้คนอิจฉาชิงชังได้อย่างไร?
เจ้าของฟาร์มปลาที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนมีสมองทั้งนั้น พวกเขารู้ว่าอิจฉาชิงชังไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำทุกวิถีทางที่จะสานสัมพันธ์กับฉินสือโอว เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเขา ให้ผลิตภัณฑ์ตัวเองเข้าไปอยู่ในแบรนด์ต้าฉินด้วย
พวกเขาต่างก็คำนวณมาก่อนแล้ว แม้ว่าจะขายในราคาต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของฟาร์มปลาต้าฉินครึ่งหนึ่ง ก็สามารถทำกำไรได้มหาศาล!
หลังจากคนมาร่วมงานได้พอสมควรแล้ว แมทธิว จินก็ประกาศเริ่มงาน ช่วงแรกเป็นการเปิดโอกาสให้ถามคำถาม เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาสามารถถามเกี่ยวกับนโยบายและสถานการณ์ปัจจุบันของการค้าผลิตภัณฑ์ทางทะเล หากมีคำแนะนำที่ดีก็สามารถบอกได้ ให้ทุกคนปรึกษาหารือร่วมกัน
โดนัลด์กระตือรือร้นมาก เขาเข้าไปยื้อแย่งจนได้โอกาสเป็นคนแรกที่ออกความเห็น เขาเริ่มยิงนัดแรกให้แมทธิว จินเลยทันที “ท่านประธาน พวกเราอยากทราบว่าใกล้จะถึงฤดูจับปลาค็อดกับปลาแฮร์ริ่งแล้ว ปริมาณที่ให้พวกเราจับได้นั้นสามารถเพิ่มขึ้นอีกนิดได้ไหมครับ?”
เพื่อเป็นการปกป้องให้ธุรกิจฟาร์มปลาเติบโตได้ต่อเนื่อง ทางแคนาดาจึงค่อนข้างระมัดระวังกับปริมาณการจับปลาในทะเล จะมีการอ้างอิงสถานการณ์การจับปลาและการจำหน่ายในช่วงห้าปีเพื่อคำนวณหาจำนวนที่เหมาะสม จากนั้นค่อยนำตัวเลขที่ได้มาทำการลดจำนวนลงอีกนิด สุดท้ายจึงจะได้เป็นตัวเลขที่ทุกคนต้องยึดตามในการจับปลา
ฟาร์มปลาจะดีกว่านิดหนึ่ง เรือหาปลาที่ออกไปจับปลาในทะเลจำเป็นต้องซื้อใบอนุญาตในการจับปลาทุกลำ และบนใบอนุญาตนี้จะมีปริมาณมาตรฐานในการจับปลาอยู่ ไม่สามารถจับเกินกว่านั้นได้ ดังนั้นเรือลำหนึ่งออกทะเลไปจะสามารถทำเงินได้เท่าไรนั้นแทบจะสามารถคำนวณออกมาล่วงหน้าได้เลย
แมทธิว จินเงียบไปสักครู่ แล้วพูดว่า “ถึงแม้จะเพิ่มปริมาณการจับได้แล้วอย่างไร? พวกคุณคิดว่าตลาดสามารถรองรับปลากุ้งปูจำนวนมากขนาดนั้นได้เหรอ? ถ้าหากรองรับไม่ไหว แล้วพวกคุณคิดว่าจะทำอย่างไร? ลดราคาขายเหรอ?”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศ พวกเราเป็นคนเลี้ยงปลา ไม่ได้ทำงานด้านการนำเข้าส่งออก” มีคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง
เมื่อมีหนึ่งคนไม่พอใจ คนอื่นๆ ก็เริ่มคล้อยตามด้วย บรรยากาศในงานวุ่นวายขึ้นมาในทันที สองปีมานี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาส่วนมากจะขาดทุนไม่ใช่ได้กำไร ทำให้เก็บกดกันมาก เมื่อมีโอกาสได้ระบายให้ประธานของกรมประมง จะมีใครไม่อยากระบายบ้าง?
ฉินสือโอวประสานมือทั้งสองข้างไว้ไม่ออกความเห็น สถานการณ์แบบนี้เขาไม่ร่วมด้วยจะดีกว่า
แต่ตอนนี้เขาที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกี่ยวข้องด้วย แมทธิว จินทำการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปยังตัวเขาทันที เขากล่าวว่า “ผมรู้ว่าเจ้าของฟาร์มปลาหลายคนที่นี่ต่างขาดทุนกัน แต่ทำไมเจ้าของฟาร์มปลาหนุ่มคนหนึ่งกลับทำกำไรได้ แล้วเจ้าของฟาร์มปลาเก่าแก่ที่มากด้วยประสบการณ์อย่างพวกคุณ กลับขาดทุน?”
สายตาคนนับร้อยจับจ้องไปที่ฉินสือโอว ท่านชายฉินยิ้มและพยักหน้าให้กับคนรอบข้าง แต่ในใจกลับด่าตาแก่แมทธิว จินว่าไม่มีคุณธรรมเสียจริง นี่มันเป็นการเอาเขาไปแขวนไว้บนเตาย่างนี่นา
ดีที่ว่าเขาได้เตรียมเตาย่างไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถผ่านด่านนี้ไปได้  “ผมต้องขอบคุณคนคนหนึ่ง…”
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset