ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 179 เส้นทางการลดน้ำหนักของฉงต้า

บทที่ 179 เส้นทางการลดน้ำหนักของฉงต้า
โดย
Ink Stone_Fantasy

สี่ห้าวันให้หลังมานี้ หลักๆ แล้วฉินสือโอวพาเขาเล่นพวกสกีน้ำ โต้คลื่นอะไรประมาณนี้ เหมาเหว่ยหลงเล่นห่วยกว่าเพื่อนมาก มักเป็นฉินสือโอวที่ขับเรือยนต์ลากเหมาเหว่ยหลงไปทั่ว ทำเอาอีกฝ่ายลำบากไม่น้อย
เล่นจนเหนื่อยจึงกางร่มกันแดดกลางหาดตากลมทะเล ไม่ก็นั่งเรือยนต์ออกทะเลไปตกปลา ไม่ว่ายังไงก็สนุกกันสุดๆ
เหมาเหว่ยหลงแอบคิด ครั้งนี้มากินดี เที่ยวสนุก พักผ่อนก็ดี น่าเสียดายที่ไม่มีสาวมาอยู่เป็นเพื่อน
วันจันทร์ เหมาเหว่ยหลงยังไปรับส่งพวกพาวลิสทั้งสี่ไปโรงเรียนอยู่เลย เขาไม่ได้สนตรงนั้น แต่ประเด็นอยู่ที่คุณครูเชอริลอกโตต่างหาก
ปรากฏว่าทางโรงเรียนไม่ให้เขาเข้าไป เขาเลยได้แต่ยืนกร่อยโบกมือลาเด็กๆ ทั้งสี่อยู่ข้างนอก ทำเอาฉินสือโอวหัวเราะลั่น
เหมาเหว่ยหลงก็ถือว่าเป็นพวกรักแรง อย่างไรก็เป็นผู้ชายที่ให้สเวตเตอร์ไปเยอะตลอดระยะเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นทุกๆวันตอนเข้าเรียนและเลิกเรียนเขาก็จะไปยืนเซ่ออยู่หน้าประตู หวังว่าจะได้มีฉากเจอกับเชอริลโดยบังเอิญแบบดีๆ
ปรากฏว่าไม่ได้เจอ ลุงชัคคนเฝ้าประตูโรงเรียนกลับนึกว่าเขาเป็นพวกค้ามนุษย์ กระทั่งโทรไปแจ้งตำรวจแล้วว่าช่วงนี้มีคนแปลกๆ มักจะมายืนเฝ้าอยู่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนพวกค้ามนุษย์มาสังเกตการณ์ จะมาเวลาเดียวกันทุกวันแล้วก็สังเกตรอบๆ ตัว
เจ้าพนักงานมณฑลโรเบิร์ต แคริแลนด์โทรหาฉินสือโอวจนเขาต้องไปอธิบายถึงเข้าใจความเป็นมา
เรื่องนี้ทำเอาเหมาเหว่ยหลงเศร้าสร้อยไม่เบา มาเที่ยวครั้งเดียวกลายเป็นว่าทั้งสถานีตำรวจอเมริกาและแคนาดาก็เคยเข้ามาแล้ว
ฉินสือโอวเห็นว่าเหมาเหว่ยหลงจริงจังเลยไปบอกกับลุงชัค อีกฝ่ายดูจะยินดีที่จะเห็นบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเขากับเชอริล พอเขาบอกว่าอยากเจอครูเชอริล ลุงชัคก็เข้าไปเรียกให้อย่างยินดี
ไม่กี่นาทีเชอริลก็รีบร้อนเดินออกมา
ในโรงเรียนเชอริลจะแต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดากับกระโปรงสีดำทรงดินสอ ผมสลวยถูกมัดรวบเป็นหางม้าไปด้านหลัง ใส่แว่นไร้กรอบ ดูดึงดูดและสง่าเรียบร้อย เพียงแต่ความเย้ายวนของเธอนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ปิดไม่มิด
เพราะว่าอกของเธอใหญ่เกินจนทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวมีความโค้งตูมมากเป็นพิเศษแล้วยังขยับไปตามการเคลื่อนตัวของเธอ ราวกับจะปริออกมาได้ทุกเมื่อ แม้ว่ากระโปรงตัวนี้จะใหญ่ แต่สะโพกของเธองอนมากเกินจนช่วงล่างของกระโปรงแน่น ส่วนโค้งเว้าของหุ่นเธอดีมากจริงๆ
เห็นใบหน้าและหุ่นเชอริล ฉินสือโอวอ้าปากพะงาบๆ จะโทษเหมาเหว่ยหลงก็ไม่ได้ สาวคนนี้เย้ายวนจริงๆ
พอเรียกเชอริลออกมา ฉินสือโอวอยากจะช่วยเหมาเหว่ยหลงสารภาพรัก แต่เขาก็อ่อนหัดในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขนาดเรื่องวินนี่เหมาเหว่ยหลงยังเป็นคนช่วยเขาเลย แบบนี้มาคิดๆดูอย่างไรก็หลบไปข้างๆ จะดีกว่า ให้เหมาเหว่ยหลงจัดการปัญหานี้เอง
เห็นเชอริลที่อยู่ในชุดอีกแบบ เหมาเหว่ยหลงแทบจะตื่นเต้นจนระเบิด ฉินสือโอวเดินเข้ามาดึงเขาไว้แล้วกระซิบพูด “โหย สาวแว่นนี่! สาวแว่นอกโตด้วย! สาวแว่นอกโตผมทอง! นั่นคือเซเทลไลเซอ เอล บริดเจ็ทจากเรื่องนักสู้พันธุ์พิฆาตชัดๆ!”
“คืออะไรกัน?” ฉินสือโอวถาม เขาไม่ค่อยดูการ์ตูนญี่ปุ่น ส่วนหนังญี่ปุ่นเขาก็ชอบแต่หนังรักแอ็คชั่น
เหมาเหว่ยหลงไม่ได้ตอบ เขาเดินเข้าไปหาเชอริลอย่างตื่นเต้น สีหน้าไม่มีความเกรงกลัว ก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดูอาจหาญ
ฉินสือโอวคอยดูอยู่ข้างหลัง เขารู้สึกว่าเงาร่างด้านหลังของเพื่อนดูออกจะเศร้า เลยอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ลมพัดริมแม้น้ำอี้จนหนาวเหน็บพอคนบื้อเข้าหา สาวก็ไม่กลับมาอีก…”
สองนาทีให้หลัง เชอริลก็ยิ้มให้ฉินสือโอวตามมารยาทแล้วโบกมือก่อนจะจากไป
เหมาเหว่ยหลงทำหน้าหงอยผิดหวัง ฉินสือโอวไม่รู้จะพูดอะไร ไม่ต้องถาม เขาคงถูกปฏิเสธรักมา อีกอย่างเขาเก็บความในใจไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็เล่าออกมาเอง
เป็นอย่างที่คิด แค่แป๊บเดียวเหมาเหว่ยหลงก็พูดออกมา “เธอปฏิเสธฉัน เธอบอกว่าเธอไม่อยากเป็นแฟนกับคนต่างชาติ”
“โห นี่คือเหยียดสัญชาติหรือเหยียดเชื้อชาติ?” ฉินสือโอวพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
เหมาเหว่ยหลงถอนใจแล้วพูดขึ้น “เธอบอกว่าเธอจะไม่หาแฟนที่มีพื้นฐานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างกัน นอกจากไม่มีอะไรจะคุยกัน แล้วยังอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างครอบครัวแล้วก็ผู้ใหญ่ด้วย”
เหตุผลนี้ก็สมเหตุสมผล ฉินสือโอวมาคิดๆ ดู
“ฉินโซ่ว แกว่าถ้าฉันเปลี่ยนสัญชาติเป็นแคนาดา ฉันจะมีความหวังจีบเชอริลได้ไหม?” เหมาเหว่ยหลงพูดด้วยความหวัง
ฉินสือโอวพูดโดยไม่ลังเล “พ่อตีแกตายแน่”
สภาพครอบครัวต่างกัน เหมาเหว่ยหลงที่มาจากครอบครัวหัวโบราณ ไม่มีทางเปลี่ยนสัญชาติอื่นได้แน่ ถ้าเขาทำแบบนั้นจริง การคุมบ้านของพ่อเขาคงมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาเหว่ยหลงเสียดายที่สุด พอวันหยุดสิ้นสุดลง ฉินสือโอวก็ไปส่งเขาที่สนามบินเซนต์จอห์น เขาทำสีหน้าเศร้าโศกเหมือนท้องผูกแล้วพูดว่า “ทำไมฟ้าถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉินโซ่ว เข้าใจฉันใช่ไหม?”
ฉินสือโอวรู้ว่าเขายังคิดเรื่องเชอริลจึงพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไรเพื่อน ฉันเข้าใจ…..”
“แกจะเข้าใจได้ไง แกเคยเจอความรักสวยงามอันน่าเศร้าแบบนี้เหรอ? เคยเจอประสบการณ์ความรักซับซ้อนแบบนี้เหรอ?” เหมาเหว่ยหลงพูดแทรกขึ้นมาแล้วระบายความทุกข์ใจต่อ
ฉินสือโอวพูดไม่ออก ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะกระทบกับอารมณ์ตอนนั่งเครื่องบินของเหมาเหว่ยหลง เขาละอยากจะพูดว่า ที่เขาเจอมันน่าสงสารก็จริง แต่คงจะเรียกว่า ‘สวยงาม’ ไม่ได้
กำลังเอากระเป๋าแต่ละใบเข้าโหลด ตอนที่เหมาเหว่ยหลงมาเขาเอากระเป๋าใบใหญ่มาด้วยหลายใบ ตอนกลับก็ไม่ต่างกัน ข้างในนั้นมีแต่สินค้าอาหารทะเลแห้งที่ฉินสือโอวเตรียมให้อย่างโสมอเมริกา ปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ
จะต้องลากันแล้ว ทั้งสองออกจะอาลัยอาวรณ์กันมากอยู่ กอดแล้วกอดอีก สุดท้ายทางสนามบินเริ่มประกาศเตือนให้ขึ้นเครื่อง เหมาเหว่ยหลงถึงแลกบอร์ดดิ้งพาสแล้วเข้าไปรอในห้องรับรอง
สักพักหลังจากนั้น ฉินสือโอวที่อยู่นอกสนามบินมองดูเครื่องบินเหินขึ้นฟ้าพลางถอนหายใจก่อนจะขับรถกลับไปที่ฟาร์มปลา
ฟาร์มยังคงเหมือนเดิม แต่พอไม่มีเหมาเหว่ยหลงก็เหมือนจะไม่ค่อยเหมือนเดิมแล้ว อืม พูดแบบสวยหรูหน่อยก็คือมีกลิ่นอายของความเวิ้งว้างเพิ่มขึ้นมา
แม้แต่หู่จือกับเป้าจือยังแปลกไปเล็กน้อย เห็นฉินสือโอวกลับมาคนเดียวพวกมันก็วิ่งไปดูที่ประตูอีก ไม่เห็นเหมาเหว่ยหลงที่มักจะตัวติดกับฉินสือโอวจึงกะพริบตาอย่างสับสนก่อนจะวิ่งกระดิกหางกลับมา
ฉงต้ากำลังเล่นคนเดียว ลูกบาสที่ฉินสือโอวซื้อมากลายเป็นของเล่นของมันไปแล้ว ใช้อุ้งเท้าตบบ้างเป็นบางครั้ง พอมองดูบอลที่กลิ้งอยู่ก็ฉีกยิ้ม
ฉินสือโอวนึกว่ามันจะไปไล่ตามลูกบอล แบบนั้นก็ยังถือว่าเพิ่มการออกกำลังกายและได้ลดน้ำหนักแล้ว
แต่ว่าฉงต้ามันขี้เกียจได้โล่จริงๆ พอบอลกลิ้งออกไปมันก็หันไปร้องครางกับต้าป๋าย ต้าป๋ายจึงวิ่งไปดันบอลกลับมาแล้วมันก็เงื้อมือตบบอลออกไป วนอยู่แบบนั้น
ยามบ่ายฉินสือโอวไม่มีธุระ เขาจึงวางแผนลดน้ำหนักให้กับฉงต้า
เขาลากฉงต้ามาหน้าโซฟา ฉงต้าราวกับรู้ว่าท่าไม่ดีเลยเอาแต่นอนราบไปบนพื้นท่าเดียว
ฉินสือโอวอารมณ์ดีขึ้นมา แกนี่แน่มาก กล้าออดแอดกับฉันเหรอ? มีการกลิ้งไปมาอีก? ได้ ดูสิฉันจะจัดการแกยังไง
พินิจร่างกายอ้วนท้วนของฉงต้าเสร็จ ฉินสือโอวก็ลูบหน้าท้องกลมยื่นของมันก่อนจะพูดกับตัวเอง “ได้ งั้นเริ่มลดที่หน้าท้องก่อนเลยแล้วกัน เริ่มจาก ‘ออกกำลังลดหน้าท้อง’”
เขาหยิกหูของฉงต้า นอนราบบนโซฟาแล้วทำซิทอัพเป็นตัวอย่าง
ฉงต้ามองดูอึ้งๆ มันนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมขยับแม้แต่นิดเดียว
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset