ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1258 ทำงานล่วงเวลาด้วยกัน

กินอิ่มก็พักกันอีกสักหน่อย ฉินสือโอวสั่งงานให้ทั้งสามคนเริ่มทำงานตอนบ่ายโมง
ภายในอวนมีลูกปลาค็อดต่างชนิดกันมารวมกันมากพอแล้ว มีปลาค็อดแอตแลนติก ปลาคาพีลิน ปลาแฮดดัค ปลาหิมะ ปลาค็อดกรีนแลนด์ เป็นต้น ลูกปลาอัดแน่นเต็มอวนยักษ์ใหญ่
ที่จริงแล้วก็เพราะเป็นลูกปลาถึงหลอกง่ายขนาดนี้ มีอาหารก็เข้าไปกิน
ปลาค็อดโตเต็มวัยในฟาร์มปลาใช้อาหารล่อไม่ได้ ลูกปลายังไม่ค่อยได้กินอาหารที่มีพลังโพไซดอนมากเท่าไร สำหรับพวกมันแล้ว การหาอาหารได้ง่ายก็คือวิธีที่ดีกว่า
ปลาค็อดโตเต็มวัยยอมลำบากไปไล่จับหมึกกระดอง ปลาหมึก ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะกับปลาคาพีลิน แต่จะไม่เข้าไปกินอาหารพวกนั้นง่ายๆ
นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมปลาทะเลของฟาร์มปลาต้าฉินถึงเนื้อสัมผัสดี รสชาติยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่เพราะพลังโพไซดอนปรับเปลี่ยนเนื้อของมัน ยังเพราะปลาที่นี่ออกกำลังเยอะ ไม่เหมือนกับปลาค็อดฟาร์มอื่นที่แค่รอกินอาหารอย่างเดียว
ปลาของฟาร์มปลาต้าฉินเป็นปลาทะเลธรรมชาติขนานแท้ รสชาติจึงอร่อยกว่าเป็นธรรมดา
ฉินสือโอวรู้ดี ถ้าไม่มีอาหารที่มีพลังโพไซดอน หลังจากที่ลูกปลาค็อดที่เขาขายไปโตขึ้น คุณภาพจะเทียบกับฟาร์มเขาไม่ได้แน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้ต้องรู้สึกผิด เพราะลูกปลาของเขากระปรี้กระเปร่ากว่า พวกมันไม่กินแต่อาหารอย่างเดียว แต่หาอาหารกินเองเป็นด้วย คุณภาพดีกว่าปลาค็อดที่เป็นลูกปลาธรรมดา
นอกจากนี้ พลังโพไซดอนก็ได้เปลี่ยนยีนของปลาค็อดไปในระดับหนึ่ง เนื้อสัมผัสของปลาจากฟาร์มปลาจะดีกว่าปลาข้างนอกตั้งแต่แรกเกิด
แน่นอนว่านี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ฉินสือโอวยินดีขายลูกปลา อย่างที่ว่าสอนศิษย์จนครูอับจน เขาไม่ได้โง่ขนาดขายลูกปลาแล้วต่อไปโตมาเป็นปลาที่เหมือนกับของเขา นี่ไม่ใช่หาเรื่องใส่ตัวหรือไง?
ค่อยๆ ลากอวนไป เรือนกนางนวลหันหัวเรือแล่นกลับ เวลาแบบนี้ความเร็วของเรือต้องช้าและสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกปลายินยอมอยู่ในอวน เพราะตาอวนมีขนาดที่กว้างเกินไป ลูกปลาสามารถหนีออกไปได้
แต่ถ้าความเร็วของเรือช้าเกินไป งั้นลูกปลาก็จะหันไปสนใจอย่างอื่น แบบนี้ก็ไปจากอวนอยู่ดี และถ้าเกิดว่าความเร็วของเรือประมงเปลี่ยนก็ไม่ได้ ลูกปลาจะตกใจแล้วก็หนีไปอีก
ดังนั้นการลากอวนกลับเป็นการทดสอบทักษะของคนขับมากๆ ฉินสือโอวพาบูลมาก็เพื่อให้เขาทำงานนี้
บูลมีข้อเสียเยอะมาก อารมณ์ร้อน ชอบหาเรื่อง แต่ด้านการจับปลาเขาฝีมือดีจริง ขับเรือลากอวน ตกปลาจับปลา ล้วนแต่ชำนาญทั้งนั้น
บูลวิเคราะห์ความเร็วที่เหมาะกับลูกปลาจากหน้าจอเครื่องหาปลา จากนั้นก็ปรับความเร็วเรือแล้วขับออกไป
เครื่องหาปลาตอนนี้ล้ำสมัยมาก บนหน้าจอมีจุดสีเขียวอยู่เต็ม พวกนี้ก็คือลูกปลา สามารถตรวจดูคร่าวๆ ได้
ลูกปลาแม้จะกินอิ่มแล้ว แต่ในอวนก็มีไฟล่อปลา อาทิตย์ลับขอบฟ้า ใต้น้ำก็มืดหมดแล้ว ไฟล่อปลาน่าดึงดูดสำหรับลูกปลามากขึ้นเรื่อยๆ ดึงดูดให้พวกมันไปตามเรือประมง
ใช้เวลาไปสองชั่วโมงกว่า ฟ้ามืดแล้วเรือนกนางนวลถึงเทียบท่า ที่บริเวณรอบนอกท่าเรือได้ติดตั้งตาข่ายล้อมไว้หมดแล้ว ตาข่ายพวกนี้มีลูกตุ้มตะกั่วถ่วงลงไปถึงก้นทะเล ตาข่ายสองผืนเชื่อมกันเป็นเหมือนประตูสองบาน
พอเรือมาตาข่ายก็ถูกดึงออก เท่ากับเปิดประตูให้เรือแล่นเข้าไป รอจนเรือเข้ามาถึงค่อยปล่อยให้ตาข่ายปิดลงมา ก็เท่ากับเป็นการปิดประตู
ตาของตาข่ายเล็กมาก พอลูกปลาเข้ามาก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว คราวนี้ถึงจะถือว่าล้อมคอกลูกปลาสำเร็จ
ฉินสือโอวเดินลงจากเรือประมงพลางถอนใจแล้วพูดว่า “งานนี้ไม่ง่ายเลย”
ชาร์คที่กลับมาก่อนพูดยิ้มๆ “ไม่ บอส ที่จริงนี่เป็นงานในทะเลที่เบาที่สุดแล้ว เทียบกับการออกทะเลหาปลาที่ได้นอนแค่วันล่ะสองสามชั่วโมง ผมยอมออกไปหาลูกปลาทุกวันยังดีกว่า”
ฉินสือโอวและพวกชาวประมงพูดคุยกันจนถึงวิลล่าและเตรียมกินข้าว แต่วินนี่ยังไม่กลับมา
แม่ฉินกอดเสี่ยวเถียนกวาเล่นอยู่กับพวกพี่น้องเฟอเรท ทั้งสองตัวทำหน้าหมองหม่น เห็นได้ชัดว่าโดนเสี่ยวเถียนกวาฟัดมาอย่างหนัก
พอฉินสือโอวเข้าประตูไป เฟอเรทผู้พี่ก็รีบวิ่งมาหา ‘สวบ’ แวบไปอย่างรวดเร็วไปหาฉินสือโอว แล้วแสดงออกถึงความดีใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนเฟอเรทผูน้องที่อยากจะหนีแต่ก็หนีไม่ได้ เสี่ยวเถียนกวาจับมันไว้ในมือเหมือนกำลังกอดตุ๊กตา
ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ “ทำไมวินนี่ยังไม่กลับมาอีกล่ะ?”
แม่ฉินพูด “เธอโทรมาบอกแล้วว่าวันนี้ยุ่งๆ เลยต้องทำงานล่วงเวลา รีบไปดูเธอหน่อยเถอะ อีกอย่าง กอดลูกสาวด้วย เฮ้อ เสี่ยวเวยวันนี้งอแงมากเลย”
ฉินสือโอวรับลูกสาวมาดู ตาของเด็กน้อยบวมอย่างกับลูกพีช ขนตาเปียกเป็นแพ บนใบหน้านุ่มนิ่มยังคงมีคราบน้ำตา ท่าทีน่าสงสาร
“เป็นอะไรไป?” ฉินสือโอวอุ้มลูกสาวขึ้นพาดไหล่แล้วหยอกเธอพลางถาม พอเด็กน้อยถูกกอดในออมอกก็โยนเฟอเรทผู้น้องทิ้งไป ยื่นมือมาคว้าคอเสื้อเขาไว้แน่นแล้วตะโกนสุดเสียง “ปะป๊าๆๆ…”
เฟอเรทผู้น้องนอนแผ่อยู่บนพรมเหมือนหนูตาย ท้องเล็กๆ นั้นขยับขึ้นลงรัวเร็ว ตาทั้งสองข้างจ้องเพดานราวกับเสียสติไปแล้ว
เฟอเรทผู้พี่รีบวิ่งเข้าไปแล้วยื่นอุ้งมือออกมาเกาบนตัวมันอย่างระมัดระวัง เห็นพี่ชายเข้ามา เฟอเรทผู้น้องก็ได้สติ มันรีบลุกขึ้นมาแล้วมองเสี่ยวเถียนกวาด้วยสายตาหวาดกลัว จากนั้นก็หนีไปอย่างรวดเร็ว
แม่ฉินอธิบายว่า “ลูกกับวินนี่ไม่กลับมาทั้งวัน เสี่ยวเวยคิดถึงพวกลูกมาก ร้องไห้ทั้งวันเลย ตอนหลังแม่เอาสัตว์เลี้ยงที่ลูกเลี้ยงไว้มาให้เล่น เธอถึงดีขึ้นหน่อย สงสารก็แต่หนูสองตัวนี้ โดนฟัดไม่เบาเลย”
ฉินสือโอวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “แม่ นั่นไม่ใช่หนู นั่นคือเฟอเรทแบลคฟุต!”
แม่ฉินเข้าใจในทันที “แม่ก็ว่า หนูตัวนี้หน้าตาแปลกจัง แต่กินจุมาก เมื่อกลางวันให้อาหารพวกมันไปไม่น้อย ดูเหมือนว่าพวกมันก็ยังไม่อิ่ม”
ฉินสือโอวรีบพูด “แม่ แม่ต้องดูพวกมันสองตัวดีๆ หน่อยนะ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แพงมากเลยนะ ตังหนึ่งราคาเป็นล้าน!”
เขารู้ว่ามีแค่การพูดแบบนี้แม่ฉินกับพ่อฉินถึงจะเห็นความสำคัญของพี่น้องเฟอเรท ในสายตาของทั้งสองพวกมันก็เป็นแค่หนูคู่หนึ่ง ปกติยังไม่ให้เสี่ยวเถียนกวาแตะต้องเลย เพราะกลัวมันจะแพร่เชื้อพวกไวรัสแบคทีเรีย
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น แม่ฉินก็ตะลึงไป “แม่เจ้า หนูนี่มีราคาขนาดนี้เลยเหรอ? ล้านหนึ่ง? แพงกว่าชีวิตคนอีก”
ฉินสือโอวไม่ได้พูดเกินจริง เฟอเรทแบลคฟุตเป็นหมีแพนด้าเวอร์ชันอเมริกา ขายราคาหนึ่งล้านในตลาดมืดก็ไม่เป็นปัญหา แล้วยังเป็นเงินดอลลาร์ด้วย! ไม่อย่างนั้น ตอนนั้นเรือนั่นคงไม่เสี่ยงขนาดนั้นแค่เพื่อแอบขนส่งพวกมันใต้ดิน
ฉินสือโอวพาลูกสาวขับรถไปยังเทศบาลท้องถิ่น ตอนนี้ฟ้ามืดสนิทแต่ข้างในยังมีแสงไฟอยู่ ดูท่าคนที่ทำงานล่วงเวลาจะไม่ได้มีแค่วินนี่
พนักงานในเทศบาลท้องถิ่นต่างก็คุ้นเคยกับฉินสือโอว พอเห็นเขา ผู้ช่วยคนหนึ่งที่กำลังจัดเอกสารก็ยิ้มออกมาแล้วชี้ไปที่ชั้นบนพลางพูดว่า “นายกเทศมนตรีวินนี่กำลังประชุมอยู่ค่ะ คุณรอก่อนได้ไหมคะ?”
ฉินสือโอวบอกว่าไม่มีปัญหาแล้วก็กอดลูกสาวพลางนั่งลง ปรากฏว่าเสี่ยวเถียนกวาไม่ยอม ถึงเธอจะเด็ก แต่ก็พอมีความทรงจำพื้นฐานแล้ว เธอจำได้ว่าแม่อยู่ที่นี่ พอเข้าประตูมาไม่เห็นแม่ก็ร้องออกมาอย่างร้อนใจ “มาม๊า! มาม๊า! มาม๊า!”
………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset