ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1260 งัดไม้แข็ง

ดูท่าวินนี่จะหัวเสียกับเรื่องนี้อยู่พอตัว เธอเล่าให้ฉินสือโอวฟังจบก็หยิบเอกสารกองหนึ่งขึ้นมา แล้วนั่งลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงความคิด
เห็นท่าทีหงุดหงิดของภรรยา ฉินสือโอวก็ปวดใจ เรื่องพวกนี้เดิมทีวินนี่ไม่จำเป็นต้องยุ่งเลย เป็นเพราะเขา วินนี่ถึงอยากมาเป็นนายกเทศมนตรี เธอถึงได้มีเรื่องกวนใจมากมายแบบนี้
ฉะนั้นฉินสือโอวเลยรู้สึกว่าตัวเขาจำเป็นต้องช่วยวินนี่แก้ปัญหาพวกนี้
ฉินสือโอวหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านรายงานสถิติเกี่ยวกับโทรคมนาคม จากการวิเคราะห์รายงานจะเห็นได้ว่าเดิมทีพรรคอนุรักษนิยมเปิดตลาดโทรคมนาคมให้บริษัทเล็กๆ เข้าไปเพื่อแก้ปัญหาการผูกขาดตลาดของบริษัทใหญ่
แต่ปรากฏว่าวิธีนี้ไม่เป็นผล จนถึงขณะนี้บริการด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของแคนาดายังคงถูกครองโดยยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม 5 ราย เบล โรเจอร์ ทีลัส ชอว์ และควิเบกคอร์ สัดส่วนรายได้ของพวกเขาสูงถึง 84% ของทั้งอุตสาหกรรม แถมยังสูงกว่าปีที่แล้วหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ!
ในสิบสองเดือนที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายโทรคมนาคมเฉลี่ยรายเดือนของคนแคนาดาสูงถึงห้าพันล้านดอลลาร์แคนาดา…
รายงานนี้ทำเอาฉินสือโอวตะลึงมาก เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจปัญหาเรื่องค่าโทรศัพท์ วินนี่เป็นคนจ่ายบิลและเซ็นชื่อบนบิลทุกสิ้นเดือน เพราะนึกว่ามันไม่เท่าไร ดูท่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียแล้ว
ก่อนที่จะมาแคนาดา ฉินสือโอวได้ยินมาว่าเวลาคนอเมริกาโทรศัพท์ โทรด้วยเสียงได้ฟรี มีแค่โทรวิดีโอคอลถึงจะเก็บเงิน พอมาอยู่แคนาดาถึงได้รู้ว่านั่นมันเหลวไหลทั้งเพ
ที่จริงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของอเมริกาและแคนาดาเก็บค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสูงกว่านั้น เพราะแบบนี้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำจึงต้องล้มเลิกการเล่นอินเทอร์เน็ตไป จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่าครอบครัวที่มีรายได้น้อยใช้อินเทอร์เน็ตไม่ถึง 60% แต่อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตของครอบครัวรายได้สูงนั้นสูงถึง 98%
ดังนั้นตอนที่ฉินสือโอวสร้างสถานีฐาน คนทั้งเมืองจึงสนับสนุนอย่างมาก หลังจากสร้างเสร็จทุกคนก็ใช้มาโดยตลอด ประหยัดค่าโทรศัพท์ไปได้มาก ขอแค่ไม่ออกจากเกาะ ทุกคนก็สามารถใช้เครือข่ายไร้สายติดต่อได้กันแบบฟรีๆ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ท่านชายฉินจึงไม่เข้าใจ ค่าโทรศัพท์ของคนเมืองแฟร์เวลน่าจะน้อยลงแล้ว ทำไมจะต้องไปร่วมการประท้วงด้วย?
เขาเห็นว่าที่โต๊ะของวินนี่มีรายชื่อผู้เข้าร่วมการประท้วง ในนั้นมีชื่อของคนรู้จักด้วยอย่างพี่น้องตระกูลฮิวจ์ และไชด์ มีแม้กระทั่งคู่หูซื่อบื้อโหวจื่อเซวียนกับหวงเฮ่าเจีย เขาโกรธขึ้นมาทันที
หมายความว่าอย่างไรกัน? ใช้สถานีฐานของฉัน พวกแกยังมาหาเรื่องให้แฟนฉันอีก ใจดีแล้วก็ล้ำเส้นใช่ไหม?
ท่านชายฉินเป็นคนอารมณ์ร้อน เขาโบกมือพูดกับวินนี่ว่า “ไป ที่รัก กลับไปกินข้าวนอน เรื่องนี้ผมจัดการให้คุณเอง”
วินนี่มองเขาอย่างประหลาดใจ เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วพูดว่า “ผมจัดการเอง ผมจะแก้ปัญหาให้คุณแน่นอน!”
วินนี่เปิดปากอยากจะถาม แต่พอสังเกตสีหน้าของฉินสือโอว เธอก็ไม่ได้ออกปากถามอะไรแล้วเลือกที่จะเชื่อผู้ชายของตัวเอง เธอเข้าไปจูบเขาแล้วเก็บของอุ้มลูกสาวกลับบ้าน
ฉินสือโอวเดินตามมาข้างหลังพลางโทรออกหาฮิวจ์คนน้อง เดินไปถามไป “วันนี้ตอนเช้านายไปไหนมา?”
ฮิวจ์พูดหน้าชื่นตาบาน “ฉันไปเซนต์จอห์นร่วมการประท้วง ฉิน นายจะไปไหม? กิจกรรมครั้งนี้น่าสนใจมาก อย่างกับปาร์ตี้แฟนซี…”
ฟังฮิวจ์คนน้องเจื้อยแจ้วเสร็จ ฉินสือโอวจึงถาม “นี่ก็คือสาเหตุที่ไปร่วมการประท้วง? โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอให้สนุก”
พูดจบเขาก็วางสายไป จากนั้นฉินสือโอวก็โทรหาเบิร์ดแล้วพูดว่า “นอกจากบริเวณฟาร์มปลา ตัดสัญญาณสถานีฐานอื่นให้หมด เดี๋ยวนี้ ตอนนี้!”
ชาวเมืองจะไปร่วมการประท้วงเขาก็ไม่สนใจ นี่เป็นสิทธิที่กฎหมายมอบให้แก่พวกเขา และในเมื่อเจอกับความไม่ยุติธรรม ก็ต้องต่อต้าน ชาวแคนาดาไม่มีนิสัยเชื่อฟังว่าง่าย
แต่เงื่อนไขก็คือต้องไม่ทำให้เขาเสียผลประโยชน์ เพราะฉินสือโอวช่วยชาวเมืองในด้านนี้ไปแล้ว เขากล้ารับรองว่าเครือข่ายไร้สายช่วยชาวเมืองประหยัดค่าโทรคมนาคมไปได้มากในทุกเดือน นอกจากโทรทางไกลแล้ว พวกชาวเมืองก็ไม่ต้องใช้เงินในการติดต่อกันเลย
นอกจากนี้ สถานีฐานโมโตโรล่านี้มีประสิทธิภาพสูงมาก หลังจากที่ทำการอัปเกรดระบบ มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์สื่อสาร ยังมีความสามารถในการส่งผ่านเครือข่ายไวไฟด้วย ขอแค่ต่อเข้ากับไฟเบอร์ออปติกที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตเพียงพอ ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็สามารถใช้งานได้
หมายความว่าในการสื่อสารระยะทางสั้นและการใช้อินเทอร์เน็ตของชาวเมืองแทบจะไม่ต้องออกเองเลย ฉินสือโอวช่วยแบกภาระให้พวกเขา
งั้นคนพวกนี้ทำไมยังต้องไปร่วมประท้วงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก? เหมือนกับฮิวจ์คนน้อง ไอ้หมอนี่แค่ไปเล่นสนุกเท่านั้น เขาน่ะสนุก แต่วินนี่ต้องมาแบกรับการกระทำของพวกเขา แบบนี้ก็เป็นการทำให้เขาเสียผลประโยชน์
ฉินสือโอวไม่ใช่คนดีขนาดนั้น การที่เขาช่วยเมืองก็หวังผลตอบแทน แน่นอนว่าเขาก็ได้การตอบแทนบางอย่าง อย่างเช่นการที่วินนี่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี
แต่การประท้วงครั้งนี้ไร้แก่นสารมาก ถ้าเกิดเรื่องแรกเขาก็พอจะเข้าใจ แต่เรื่องโทรคมนาคม พวกชาวเมืองก็ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว แล้วยังจะก่อเรื่องทำไม?
หลังจากที่ตัดสัญญาณสถานีฐาน ชาร์คและคนอื่นๆ ก็รีบมาถามว่าทำไม ฉินสือโอวไม่ได้อธิบาย เขาปิดโทรศัพท์ และให้วินนี่ เออร์บักกับคนอื่นๆ ปิดด้วย เรื่องนี้พรุ่งนี้ค่อยจัดการ
ตอนเช้าในขณะที่ฉินสือโอวกำลังวิ่งออกกำลังก็มีคนมาหา ถามว่าทำไมเครือข่ายไร้สายถึงใช้ไม่ได้
ฉินสือโอวทำสีหน้าแปลกใจแล้วตอบไป “ทุกคนยังใช้กันอยู่เหรอ? ฉันนึกว่าไม่มีใครใช้แล้วก็เลยปิดสถานีฐานลง กะว่าเดี๋ยวอีกหน่อยจะปิดถาวร ถ้าไม่มีใครใช้จะเปิดให้เปลืองเงินต่อไปก็ไม่มีความจำเป็น ไม่ใช่เหรอ?”
คนที่มารีบบอกว่าทุกคนยังใช้อยู่ สถานีฐานตอนนี้กลายเป็นของจำเป็นพื้นฐานที่เกาะขาดไม่ได้ ทำไมจะไม่มีใครใช้?
พอเป็นแบบนั้นฉินสือโอวจึงพูดช้าๆ “ดูท่าฉันจะเข้าใจผิดเสียแล้ว เมื่อวานฉันเห็นในข่าว บอกว่าบนเกาะเรามีคนร่วมกิจกรรมประท้วงเกี่ยวกับโทรคมนาคมเยอะ ฉันนึกว่าบริษัทโทรคมนาคมจะลดค่าให้บริการ ทุกคนเลยจะเปลี่ยนไปใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายซะอีก”
ไม่มีใครเป็นคนโง่ ฉินสือโอวพูดจบทุกคนก็เข้าใจ เรื่องที่พวกเขาไปร่วมกิจกรรมประท้วงทำให้นายกเทศมนตรีวินนี่ไม่ชอบใจ
หลังจากนั้นก็มีคนมาอธิบายกับฉินสือโอวเรื่อยๆ บอกว่าที่พวกเขาไปร่วมกิจกรรมประท้วงก็แค่เพราะได้รับคำเชิญจากญาติและเพื่อนฝูง เหมือนไปร่วมงานชุมนุม ฮิวจ์และคนอื่นๆ ก็มาบอกว่าเขาแค่ไปสนุก ไม่ได้มีเจตนาอื่น
ฉินสือโอวไม่ใช่คนใจแคบ เรื่องนี้อธิบายกันจบก็ไม่มีอะไร เขาก็เปิดสถานีฐานอีกครั้ง
แบบนี้งานของวินนี่ก็ง่ายขึ้นเยอะ การปกครองส่วนท้องถิ่นให้พวกเขาเก็บสถิติแพ็กเกจโทรคมนาคมที่ผู้ประท้วงใช้งาน วินนี่เขียน ประโยคตัวใหญ่ๆ ว่า ‘เมืองแฟร์เวลไม่มีคนร่วม’ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไป
ตอนกลางวันเหมาเหว่ยหลงโทรมาคุยกับเขา และในบทสนทนาก็ได้พูดถึงการประท้วงครั้งนี้ เขาก็เข้าร่วมการประท้วงที่แฮมิลตันด้วย แล้วถามฉินสือโอวว่าไปร่วมด้วยหรือเปล่า
ฉินสือโอวแค่นเสียงเย็น แล้วเล่าถึงวิธีจัดการปัญหาและผลที่ออกมา
………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset