ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1264 ไฟลูกแรก

ฉินสือโอวถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ชาร์คถูมือแล้วตอบว่า “ไม่มีปัญหา มีแต่กุ้งดีๆ ทั้งนั้น แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์การตาย ดูผลจากการสุ่มตรวจก็สูงประมาณ 5% ครับ”
ที่จริงที่เขาถามเรื่องผลตรวจก็แค่ถามตามพิธีเท่านั้น เมื่อครู่เขาดูผ่านจิตสำนึกโพไซดอนแล้ว ลูกกุ้งกุลาดำทั้งขนาดตัวและความกระฉับกระเฉงต่างก็ไม่มีปัญหา เรื่องกุ้งตายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก ลูกกุ้งห้าร้อยตัวเบียดกันอยู่ในกล่องเดียว จะไม่มีตายเลยได้อย่างไร?
ทางนิโค ตู้มีการเตรียมการไว้นานแล้ว หลังจากที่โดนคาร์เตอร์เอาเปรียบก็ฉลาดขึ้นเป็นกอง เขาเตรียมลูกกุ้งกุลาดำสองหมื่นตัวเอาไว้ล่วงหน้า แบบนี้ต่อให้อัตราความเสียหายสูงถึง 20% เขาก็ไม่กลัว
ฉินสือโอวได้ยินที่เขาพูดก็หัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ผมไม่ใช่คาร์เตอร์นะเพื่อน ไม่เป็นไร ในเมื่อคุณเอาลูกกุ้งมาสิบสองหน่วย งั้นผมก็จะซื้อสิบสองหน่วย อัตราการตายผมรับเอง”
นิโค ตู้เริ่มเกรงใจขึ้นมา เขาพูดขึ้นว่า “จะได้อย่างไรเล่า? คิด 11 หน่วยก็แล้วกัน กุ้งที่ตายควรเป็นผมที่รับผิดชอบถึงจะถูก”
ลูกกุ้งหน่วยหนึ่งไม่ถึงสองหมื่นดอลลาร์ เงินเท่านี้สำหรับฉินสือโอวมันนิดเดียวเท่านั้น เขาตบไหล่ของนิโค ตู้ จากนั้นก็ให้พวกชาวประมงเอาลูกกุ้งไปลงบริเวณเพาะเลี้ยง
แซนเดอร์สตรวจดูแล้วว่าไม่มีแบคทีเรียชนิดติดต่อ สามารถปล่อยลงบ่อเพาะเลี้ยงได้เลย
พวกชาวประมงทำงาน ฉินสือโอวพานิโค ตู้เข้าห้องไปดื่มชา นิโคส่ายหน้าและบอกว่าคุณพาผมไปเดินดูฟาร์มปลาดีกว่า
ฟาร์มปลาต้าฉินมีเนื้อที่เยอะมาก เดินไปคงไม่ไหวแน่ ฉินสือโอวขับรถเอทีวีออกมา นิโคอุทานว่า “ให้ตายสิ คุณนี่ถึงจะเรียกว่าเจ้าของฟาร์ม ผมน่ะเรียกได้แค่คนเลี้ยงปลา!”
ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ “แค่นี้ไม่เท่าไรหรอก? เนื้อที่ของมาโฮนเบย์ไม่เล็ก ต่อไปคุณก็ขยายได้ ยึดมาโฮนเบย์ไปเลย เนื้อที่บริเวณเพาะเลี้ยงก็ขยายแล้วไม่ใช่เหรอ?”
นิโคฝันหวานไปพักหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นรถไปวนรอบฟาร์ม
ทรัพยากรของฟาร์มปลาต้าฉินอยู่ในน้ำ ดูจากบนบกก็ไม่มีอะไรมาก แต่ว่าต่อให้เป็นสิ่งที่เห็นได้จากบนบกก็เพียงพอให้นิโคตะลึงได้แล้ว
ท่าเรือใหญ่โตสองท่า บริเวณแปลงผักตามชายหาดกว้างใหญ่ มีสนามบิน มีสวนปลูกองุ่น มีสวนผัก มีฟาร์มสัตว์ของตัวเอง แล้วยังมีพวกห้องดื่มกาแฟ ห้องดื่มเบียร์อีก
พอชมเสร็จเขาก็อุทานออกมา “เหมือนเมืองเล็กๆ ริมทะเลเลย ฉิน คุณรวยมากเลย”
หลังจากนั้นวินนี่ก็กลับมาพร้อมลูก ฉินสือโอวจึงแนะนำให้รู้จัก นิโค ตู้พูดพึมพำเบาๆ “เพื่อน คุณยังมีภรรยาสวยและเก่งทั้งคนแถมลูกที่น่ารักอีก เอาจริงๆ นะ ผมชักจะเริ่มอิจฉาคุณขึ้นมาแล้ว”
ตกกลางคืนฉินสือโอวต้อนรับนิโคด้วยอาหารทะเลจากฟาร์ม ในตู้แช่มีของทะเลที่เมื่อวานกับวันนี้เพิ่งจับมาได้ เขาเลือกปลาลิ้นหมาตัวหนึ่งกับปลาแฮดดัคมาปิ้งบาร์บีคิว แล้วก็เอากุ้งมังกรกับปูมานึ่ง
ฉินสือโอวไม่ค่อยเอาปลาแฮดดัคมารับแขก ปลาชนิดนี้แพงไม่พอ แต่นิโคเลือกปลาชนิดนี้ เขาก็เลยย่างมาให้ชิม
“น่าเสียดาย ผมไม่มีหอยเลย ไม่อย่างนั้นคงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้อีก ไม่ใช่หรือไง?” ฉินสือโอวรินเบียร์ให้นิโคพลางพูดยิ้มๆ ไปด้วย
นิโคหั่นปลาแฮดดัคย่างมากินชิ้นหนึ่ง พอกินเข้าไปก็ยักคิ้วทันทีแล้วออกปากชม “เป็นเนื้อปลาที่สุดยอดมาก! ผมดีใจกับการตัดสินใจของผมจริงๆ ผมต้องเอาปลาแฮดดัคจากที่นี่ไปสักแสนตัวแล้ว อร่อยจริงๆ เลย!”
ในหมู่ปลาค็อด ปลาแฮดดัคไม่แพงเท่าปลาค็อดแอตแลนติก แต่สำหรับฟาร์มปลาทั่วไป เลี้ยงปลาแฮดดัคจะเหมาะกว่าการเลี้ยงปลาค็อดแอตแลนติก
เพราะว่าปลาแฮดดัคไม่ใช่ปลาหน้าดินที่ชำนาญการว่ายน้ำทางไกล การอพยพถิ่นฐานในหนึ่งปีไม่ค่อยมีให้เห็น อย่างมากก็เป็นว่ายไปในระยะทางสั้นหรือกลางเพื่อหาอาหารเท่านั้น
ความสามารถทางร่างกายของปลาค็อดแอตแลนติกแกร่งกว่า นอกจากว่าจะมีเนื้อที่กว้างขวางอย่างฟาร์มปลาต้าฉิน และอาหารอุดมสมบูรณ์ที่น่าดึงดูดมากพอ ไม่อย่างนั้นพวกมันจะอพยพตามฤดูไปตามอุณหภูมิน้ำ แหล่งอาหารกับแหล่งผสมพันธุ์ ตอนอพยพก็จะไปเป็นกลุ่มตามกระแสน้ำอุ่น
นอกจากนั้น ปลาค็อดแอตแลนติกค่อนข้างชอบสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำเพราะในเลือดมีโปรตีนเพื่อป้องกันการแข็งตัว พวกมันมักจะอาศัยในอุณหภูมิ 2-11 องศาเซลเซียส แต่ก็มีที่อยู่ในน่านน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์
มาโฮนเบย์ที่นิโคอยู่อุณหภูมิน้ำค่อนข้างสูง เพราะกุ้งกุลาดำที่เขาเพาะเลี้ยงชอบสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ ฉะนั้นเขาจะเลี้ยงปลาค็อดแอตแลนติกได้ลำบาก แต่ปลาแฮดดัคกลับเป็นตัวเลือกที่ดี
ฉินสือโอวบอกว่าไม่มีปัญหา เตรียมเอาไว้ให้แล้ว คืนนี้กินอิ่มพรุ่งนี้ค่อยเอากลับไป
นิโคดื่มเบียร์ไปอึกหนึ่งแล้วก็ส่ายหน้าพลางพูดว่า “เพื่อน อาหารของคุณมันชั้นเลิศ แต่รสชาติเบียร์ธรรมดา ถ้าผมมีฟาร์มปลาใหญ่แบบนี้เหมือนของคุณ ผมจะต้องทำโรงกลั่นเบียร์เล็กๆ กลั่นเบียร์ดีๆ มาดื่มแน่”
ก่อนหน้านี้พวกชาวประมงก็เคยพูดแบบนี้ แต่ฉินสือโอวไม่มีความรู้ด้านโรงกลั่นเบียร์ บวกกับฟาร์มปลามีเรื่องยุ่งตลอด หัวข้อนี้เลยพักไปก่อน
ครั้งนี้นิโคก็พูด เขาเลยสนใจขึ้นมา คิดว่าต่อไปสร้างสวนดอกไม้เสร็จแล้วทำโรงกลั่นเบียร์เล็กๆ ก็คงไม่เลว
เหนือหัวขึ้นไปคือหลอดทังสเตนไอโอดีนที่ส่องสว่าง ริมทะเลยุงและแมลงวันน้อยมาก เพราะไม่มีน้ำขังนิ่ง มีแต่น้ำไหล บางทีเวลามีแมลงโผล่มาก็จะแค่บินฉายเงาทอดไป แต่ไม่กวนใจคน
หาดทรายในยามค่ำคืนเปียกชื้น และเย็น ลมทะเลโชยอ่อนโยน คลื่นทะเลเข้าซัดหาดทรายเป็นระลอก แม้นิโค ตู้จะมีฟาร์มปลาเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังคงรู้สึกสบายมากๆ
ฉินสือโอวเติมกับข้าวตลอด นิโคกับพวกชาวประมงที่เขาพามาทำงานกินกันอิ่มแปล้จนเรอออกมา สุดท้ายตอนแยกกันก็ดึงมือเขาไว้ กล่าวว่า “ฉิน เอิ้ก คุณกับคาร์เตอร์ไม่เหมือนกัน พระเจ้า เขาเทียบกับคุณแล้วก็เป็นตัวตลกไปเลย วันนี้มาดื่มที่บ้านคุณสนุกมาก หวังว่าต่อไปจะมีโอกาสมาเป็นแขกบ้านคุณอีก”
“ต้องมีโอกาสแน่” ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบการเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจ แต่ชอบรู้จักเพื่อนใหม่มากๆ คนที่ถูกคอกันขอแค่มาที่ฟาร์มเขาก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอด
วันที่สองพวกชาวประมงก็นำลูกปลาแฮดดัคหมื่นตัวขึ้นบนเรือขนส่ง แล้วยังให้สาหร่ายและพืชน้ำที่งมขึ้นมาจากฟาร์มเอามาตากแห้ง หลังจากนั้นนิโคก็พาทีมแล่นเรือกลับไป
ฉินสือโอวเป็นคนเปิดเผยจริงใจ เขาขายปลาออกไปไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่จะมีบริการหลังการขาย สาหร่ายและพืชน้ำอบแห้งพวกนี้ก็คืองานหลังการขาย
ที่ฟาร์มปลาของนิโค ตู้มีเครื่องแปรรูปอาหารปลา ขอแค่กลับไปแล้วเอาสาหร่ายกับพืชน้ำไปแปรรูปแล้วให้ปลาแฮดดัคกินก็ไม่มีปัญหา
ตอนเย็นวินนี่กลับมาฉินสือโอวเห็นเธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกแล้วจึงเข้าไปกอดแล้วถามเธอ “เป็นอะไรไป เจอเรื่องวุ่นวายใจอีกแล้วเหรอ?”
วินนี่ส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้าอีกก่อนจะพูด “ก็ไม่ใช่เรื่องกวนใจหรอกค่ะ เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งใหม่ไฟแรงไม่ใช่เหรอ? ฉันต้องคิดดูว่าจะทำอะไรดี ฉันอยากจะจัดการเรื่องเศรษฐกิจ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร”
เศรษฐกิจเมืองแฟร์เวลเมื่อก่อนนี้พึ่งพาแต่การประมง ต่อมาฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์แทบล้มละลายหมด เศรษฐกิจเมืองก็ล้มไปด้วย ตอนนี้หลักๆ ก็พึ่งอยู่สองอย่าง ภาษีของฟาร์มปลาต้าฉินกับการท่องเที่ยว
ฉินสือโอวตบอกแล้วพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “เรื่องนี้ผมจัดการเอง ผมจะช่วยจัดการให้เรียบร้อยเลย!”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset