ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1273 คืนที่ไฟตัด

ชาร์คล้วงมือถือออกมาเลื่อนไปมาอยู่หลายนาทีก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ฉินสือโอวเริ่มรำคาญจึงเอ่ยขึ้น “ไม่มีใครเอาแล็ปท็อปมาด้วยเหรอ? ใช้คอมพิวเตอร์สิ เวลาแบบนี้ยังจะใช้มือถือทำไม?”
ใครจะรู้ว่าชาร์คกำลังรอเขาพูดคำนี้อยู่ พอเขาเพิ่งพูดจบ ชาร์คก็ชูมือถือสีทองหรูหราขึ้นมาอวด “มือถือผมเจ๋งมากนะ แอปเปิล 6s ผมเพิ่งเปลี่ยนมา ฟังก์ชันเยี่ยมมาก”
ฉินสือโอวจนใจ เขาพูดแบบไม่ไยดี “ฉันเกลียดมือถือ รีบบอกเรื่องสภาพอากาศฉันมาเร็วๆ”
ชาร์คเบ้ปากแบบเคืองๆ ผ่านไปสองสามวินาที ใบหน้าเขาก็เผยสีหน้าแปลกๆ ออกมา “เอ๋ โชคพวกเราดีขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฉินสือโอวนึกว่าเขาพูดประชดจึงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เป็นอะไรไป ไม่ใช่ว่าฝนจะตกหนักไปหลายวันนะ? ให้ตายเถอะ เสี่ยวเถียนกวาคิดถึงฉันแย่”
บูลหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง “ฮ่ะๆ บูลน้อยไม่คิดถึงผม ผมก็ไม่คิดถึงเขา”
พวกชาวประมงอึ้ง พวกเขากวาดมองดูระหว่างบูลและอีวิลสันด้วยสายตาแปลกๆ หรือว่าความทึ่มมันจะติดต่อกันได้?
ชาร์คไม่ได้แซวบูล เขาส่ายมือถือในมือไปมาแล้วพูดขึ้น “เปล่า ที่ฝนตกหนักครั้งนี้เพราะพายุไซโคลนเข้า ทางตอนเหนือของรัฐโนวาสโกเชียและทางตอนใต้นิวฟันด์แลนด์ก็มีพายุฝนเข้า แต่ไม่นานนักหรอก ช้าสุดพรุ่งนี้ก็อากาศปลอดโปร่งแล้ว”
“ที่ผมบอกว่าโชคดี เพราะครึ่งเดือนให้หลังนี้จะมีซูเปอร์พระจันทร์สีเลือด!”
ฉินสือโอวรับมือถือมาดู กรมอุตุประกาศข่าวออกมา บอกว่าครึ่งเดือนให้หลังจะมีปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ถึงตอนนั้นที่ต่างๆ ในเซนต์จอห์นก็สามารถเห็นปรากฏการณ์นี้ได้
จันทรุปราคาเต็มดวงเป็นจันทรุปราคาแบบหนึ่ง ดวงจันทร์ โลก ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่เรียงเป็นเส้นเดียวกัน พอดวงจันทร์ทั้งดวงโคจรไปอยู่ในเงาของโลก พื้นผิวดวงจันทร์ก็จะมืดและเกิดเป็นจันทรุปราคาเต็มดวง
นอกจากนี้ เพราะพอดวงจันทร์เข้าสู่เงาของโลกโดยสมบูรณ์ แสงแดดที่สะท้อนจากพื้นผิวโลกจนทำให้ดวงจันทร์ดูมีสีเลือด ดังนั้นคนแคนาดาจึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า พระจันทร์สีเลือด
อเมริกาเหนือมีตำนานเกี่ยวกับพระจันทร์สีเลือดมากมาย ที่แพร่หลายมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการต่อสู้แห่งศตวรรษระหว่างมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์
ตำนานมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์ถูกเล่าขานในยุโรปมาสิบกว่าศตวรรษแล้ว ชาวอเมริกาเหนือก็คือลูกหลานของคนยุโรป แน่นอนว่าก็มีความเชื่อแบบเดียวกัน
ทุกคนรู้ดี คนมักคิดว่ามนุษย์หมาป่าจะแปลงร่างในคืนพระจันทร์เต็มดวง ส่วนแวมไพร์ก็หนีเลือดสดๆ ไม่พ้น ในคืนจันทรุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์ก็จะเต็มดวงเช่นกัน แล้วยังเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดด้วย ตำนานมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์จึงเข้ามาข้องเกี่ยวไปโดยปริยาย
ฉินสือโอวไม่สนใจตำนานแบบนี้ สำหรับเขาแล้ว ตำนานจีนอย่างสวี่เซียนแทงงู หนิงไฉ่เฉินหลับนอนกับผียังน่าสนใจกว่าเยอะ
แต่พวกชาวประมงกลับชอบตำนานประเภทนี้มาก พอรู้มาว่าอีกไม่นานจะได้เห็นซูเปอร์พระจันทร์สีเลือด พวกเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา ยื้อแย่งมือถือกันยกใหญ่
ปรากฏว่าแย่งกันไปมา ไม่รู้ว่าใครออกแรงเยอะไปหน่อย แอปเปิล 6s ของชาร์คปลิวออกไปทันที
ตอนนี้ข้างนอกฝนตกหนัก มีแต่โคลนเต็มไปหมด พอแอปเปิล 6s ร่วงลงไปก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ชาร์คร้องเสียงหลง รีบวิ่งออกไปแล้วก็รีบวิ่งกลับมา ในมือถือโทรศัพท์ไว้อย่างระมัดระวังด้วยสีหน้าเจ็บปวด
แลนซ์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ปกตินายก็ไม่เล่นโทรศัพท์สักหน่อย ใช้มือถืออะไรแล้วมันจะต่างกันตรงไหน?”
ชาร์คตอบ “ไอ้บ้า มือถือนี้ฉันเตรียมไว้ให้แพรีส! เธอใกล้จบมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจะให้ของขวัญวันจบกับเธอ”
แบบนี้ทุกคนก็กระอักกระอ่วนกันถ้วนหน้า แลนซ์พูดขึ้น “งั้นฉันซื้อให้ใหม่แล้วกัน”
แอปเปิลราคาถูกมากในแคนาดา ไม่ถึง 900 ดอลลาร์แคนาดา ด้วยรายได้ของแลนซ์การซื้อสิ่งนี้ก็ไม่ต่างจากซื้อแอปเปิลที่เอาไว้กิน ไม่ได้กดดันอะไร
แต่ของที่จอบส์ทำคุณภาพดีจริง ขนาดตกแถมยังเปียกน้ำก็ยังไม่เป็นไร มือถือแช่ในน้ำโคลนมา เครื่องก็ไม่ได้ปิด พอเช็ดโคลนออกจนสะอาดก็ใช้ได้เหมือนเดิม
คนทั้งกลุ่มหยอกล้อเล่นกัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันหนึ่งวันผ่านไป พอเที่ยงคืนฝนก็หยุดตก
ลูกปลาเอาลงจากเรือเรียบร้อย ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อจึงพาพวกชาวประมงขึ้นเรือแล้วออกเดินทาง
ตอนประมาณบ่ายสี่โมงพอดิบพอดี เรือขนส่งก็กลับมาถึงฟาร์มปลาต้าฉิน พอฉินสือโอวลงจากเรือก็รีบกลับบ้านไปหาลูกสาว ปรากฏว่าเจอกับเสี่ยวเถียนกวาที่กำลังเล่นในอ้อมอกของวินนี่อย่างมีความสุข
“เอ๋ วันนี้คุณไม่ทำงานเหรอ?” ฉินสือโอวถามอย่างแปลกใจ
วินนี่พูดยิ้มๆ “ทั้งเกาะไฟดับน่ะ เมื่อคืนทั้งฝนตกทั้งลมแรงจนเครื่องจ่ายไฟพัง รัฐก็เลยหยุดได้หนึ่งวัน พรุ่งนี้ซ่อมเครื่องจ่ายไฟเสร็จค่อยไปทำงาน”
พอได้ยินว่าไฟตัด ฉินสือโอวก็รีบไปหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า วินนี่บอกเขาว่าไม่ต้องห่วงห้องแช่ พอไฟดับแบล็คไนฟ์ก็พาคนไปเปิดเครื่องกำเนิดไฟ ห้องแช่ตอนนี้ทำงานปกติดี
ได้ยินวินนี่บอกแบบนั้นฉินสือโอวถึงวางใจลง ตอนนี้ห้องแช่ต่างจากเมื่อก่อน ในนั้นมีแต่อาหารทะเลกับอาหารต่างๆ ที่เขาเก็บไว้อย่างเช่น จักจั่นที่กะเอาไว้กินอีกห้าหกปี ถ้าเกิดว่าเสียก็แย่สิ
ฤดูหนาวปีที่แล้วมีหิมะตกหนัก เกาะแฟร์เวลเคยไฟดับมาแล้ว ตอนนั้นฉินสือโอวก็ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาเดินกระแสไฟในฟาร์ม ฉะนั้นตอนบ่ายเขาไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าตกกลางคืนผลิตไฟฟ้าเองก็โอเคแล้ว
แต่รอจนพลบค่ำฟ้ามืดลง เขาเตรียมจะผลิตกระแสไฟแต่กลับถูกแบล็คไนฟ์ติง “อย่าเลยบอส แรงไฟของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่พอ ตอนนี้ที่เดินกระแสไฟให้ห้องเย็นก็อันตรายมากแล้ว ถ้าเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้สูงขึ้นไปอีก เครื่องคงจะไหม้แน่!”
ฉินสือโอวอึ้ง เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฤดูหนาวปีที่แล้วในโกดังมีแค่องุ่น แต่ตอนนี้ในนั้นมีอาหารทะเลหลายสิบตัน ความเย็นที่ต้องการก็ต่างกัน แรงดันไฟฟ้าที่ต้องการก็ต่างกัน
แบบนี้ก็แย่สิ? ฉินสือโอวมองดูท้องฟ้าและรอบข้างที่มืดมนแล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปเห็นดวงตาสีเขียวสดที่จ้องมองเขาอยู่ ทำเอาเขาตกใจจนตะโกนสุดเสียง
พอจู่ๆ เขาตะโกนออกมา ดวงตาสีเขียวพวกนั้นก็ตกใจตัวโยน ต่างกระจายตัวกันวิ่งหนี เสียงหมาเห่าหอนเซ็งแซ่ไม่หยุด
ได้ยินเสียงร้องตกใจของหู่เป้าฉงหลัว ฉินสือโอวถึงรู้ว่าดวงตาพวกนั้นคือตาของพวกเด็กๆ ดวงที่ใหญ่เป็นของฉงต้า ดวงเล็กเป็นของราชาเจ้าป่าซิมบ้า ส่วนที่เล็กกว่านั้นเป็นของพี่น้องเฟอเรท…
“งั้นตอนกลางคืนคงต้องนอนไวหน่อย?” ฉินสือโอวถอนหายใจ
ไวส์ปลอบเขาว่า “ไม่เป็นไรครับ อาจารย์ นี่ไม่ใช่โอกาสฝึกวิชาที่ดีเหรอ? คุณสอนกังฟูที่ใช้ตาให้ผมเถอะ”
ฉินสือโอวอับจนคำจะพูด เขาแบมือออกไปข้างลำตัวก่อนจะเอ่ยขึ้น “วรยุทธ์สำนักเรามีที่เกี่ยวกับตาที่ไหน?”
“คุณสอนเนตรวงแหวนให้ผมก็ได้นี่” กอร์ดอนเขยิบเข้ามาแล้วพูดกลั้วหัวเราะ
ไวส์ผลักเขาออกแล้วพูดอย่างโกรธๆ “อย่ามาเข้าร่วมมั่วๆ นะ เนตรวงแหวนเป็นสกิลในวันพีชชัดๆ นึกว่าฉันไม่เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นหรือไง?”
“เนตรวงแหวน? วันพีช? เอ่อ นั่นไม่ใช่จากดราก้อนบอลเหรอ? นึกว่าฉันไม่เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นหรือไง?” เชอร์ลี่ย์พูด
“เนตรวงแหวน? เอ่อ นั่นไม่ใช่จากคุโรโกะ โนะ บาสเก็ตเหรอ? นึกว่าฉันไม่เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นหรือไง?” เด็กจริงจังอย่างพาวลิสก็โดนลากเข้ามาร่วมวงด้วย
ฉินสือโอวให้พวกเขารีบๆ กลับไป เขาจะต้องไปซื้อเทียนในเมือง
ไวส์ดึงเขาไว้แล้วพูดว่า “อาจารย์ ผมนึกได้แล้ว คุณสอนวิชาเนตรอัคคีให้ผมก็ได้นี่”
ฉินสือโอวหัวหมุนไปหมด นี่มันเปลี่ยนจากโลกยุทธภพมาเป็นโลกแฟนตาซีหรือไง ออกจะพลิกเยอะไปหน่อย
แต่เขารู้ว่าไวส์เป็นพวกหัวดื้อ อธิบายอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ก็ได้ งั้นอาจารย์จะสอนให้”
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset