ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 182 เรือหาปลา

บทที่ 182 เรือหาปลา
โดย
Ink Stone_Fantasy

วันที่ 1 เดือนกรกฎาคม ฉินสือโอวรวบรวมรายได้ฟาร์มปลาและรายจ่ายในไตรมาสนี้ให้ผู้จัดการทั่วไปของเดลเลอร์สาขาออตตาวาแอนโทนี่ ไวท์ จากนั้นก็ติดต่อบิล เตรียมสั่งซื้อต้นอ่อนสาหร่ายนิวฟันด์แลนด์
เดือนมิถุนาและกรกฎาคมเป็นช่วงดีที่สาหร่ายจะแตกหน่อ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟาร์มปลาที่ต้องการปลูกสาหร่ายยุ่งที่สุด
บิลพาคนมาตรวจดูฟาร์มปลาเพื่อเลือกจุดที่จะปลูกสาหร่าย
ในกระบวนการเลี้ยงสาหร่าย การเลือกเขตทะเลที่จะเลี้ยงเป็นงานแรกที่ต้องเตรียม จากนั้นก็เป็นเตรียมแพเพาะเลี้ยง ค่อยขนส่งต้นอ่อนสาหร่ายมาที่บริเวณเพาะเลี้ยง ก่อนจะทำการเลี้ยงชั่วคราว หลังจากนั้นยังต้องผ่านการจำแนก เพาะเลี้ยง จากนั้นถึงจะเก็บเกี่ยวได้
สภาพแวดล้อมการเจริญเติบโต ของสาหร่ายค่อนข้างเข้มงวด โดยเฉพาะพันธุ์สาหร่ายนิวฟันด์แลนด์ดั้งเดิมที่ฉินสือโอวเลือกใช้ และว่ากันว่ารสชาติดีที่สุด สารอาหารเยอะที่สุดเช่นกัน
“คุณไม่ยินดีลองสาหร่ายพันธุ์ผสมแปซิฟิกเหนือกับแอตแลนติกเหนือหน่อยเหรอ? ผลผลิตสาหร่ายประเภทนี้สูงกว่าพันธุ์ดั้งเดิมเยอะ ตามอุดมคติของห้องทดลองแล้วสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 400% และการเพิ่มผลผลิตภายใต้สภาพแวดล้อมของฟาร์มปลาถึง 250% นั้นง่ายมาก” บิลพยายามโน้มน้าวให้ฉินสือโอวเปลี่ยนพันธุ์สาหร่าย
ฉินสือโอวส่ายหน้าไม่เห็นด้วย เขาพูดว่า “ผมจะลองแบบไฮเอนด์ดู พันธุ์ผสมผลผลิตมากขึ้นก็จริง แต่ทั้งรสชาติและสารอาหารก็ตกลง”
บิลจึงอธิบาย “ไม่ตกลงเท่าไรหรอก เนื้อสัมผัสก็ไม่ต่างกันมาก”
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดต่อ “ของไฮเอนด์กับของแผงลอยก็ต่างกันแค่เล็กน้อยนั่นแหละ แต่เพราะแค่นั้นก็มีคนยินดีควักกระเป๋าจ่ายเป็นเท่าหรือหลายเท่าเพื่อจะซื้อของไฮเอนด์”
ล้อเล่นหรือเปล่า นายมีของดีอย่างพลังโพไซดอน ยังต้องกังวลเรื่องผลผลิตอีกเหรอ? ดูแนวเกาะสาหร่ายสีน้ำตาลในแถบทะเลตะวันตกเฉียงเหนือเป็นตัวอย่างสิ
บิลยักไหล่ ลูกค้าคือพระเจ้า ในเมื่อพระเจ้าตัดสินใจแล้ว เขาก็อย่าคิดจะเปลี่ยนมันดีกว่า
สภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตของสาหร่ายมาตรฐานสูงมาก อย่างแรกคือพื้นดิน ก็คือก้นทะเลที่ไชราก ที่ดีที่สุดคือพื้นโคลนกับตะกอนเรียบ พื้นทรายที่ค่อนข้างแข็งดีรองลงมา ส่วนพื้นโคลนนิ่มแย่ที่สุด
ที่เยอะที่สุดในก้นทะเลฟาร์มปลาต้าฉินก็คือแนวหิน แบบนี้ก็โอเค ชาร์คเคยทำงานที่ฟาร์มสาหร่าย ถือว่าเป็นผู้รู้ “แนวหินก้นทะเล สาหร่ายชอนไชรากได้ยากกว่า ขอแค่ไชรากได้สำเร็จก็จะไม่โดนลมทะเลหรือคลื่นถอนออกมาโดยง่าย”
ยังมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงซึ่งก็คือความลึกของน้ำ สาหร่ายปลูกในฤดูใบไม้ร่วง โตในฤดูหนาว แต่เขตทะเลใกล้ฝั่งจะมีความต่างของน้ำขึ้นน้ำลงในฤดูหนาวและร้อน ปกติแล้วสภาพแวดล้อมที่สาหร่ายจะเติบโตต้องอยู่ในเขตทะเลตอนน้ำลดที่มีความลึกอย่างน้อยห้าเมตรในฤดูหนาว
นอกนั้นยังมีปัจจัยอย่างกระแสน้ำ คลื่นพายุที่ต้องคำนึง ต้องตรวจความใสและสารอาหาร ที่ดีที่สุดคือกระแสน้ำไหลเร็ว น้ำมากแต่คลื่นน้อย ต้องมีความใสค่อนข้างมาก แบบนั้นแสงส่องได้ดีกว่า สาหร่ายถึงจะโตไว
หลักๆแล้วสารอาหารต้องตรวจหาปริมาณไนโตรเจน มาตรฐานคือหนึ่งลูกบาศก์เมตรต้องมีห้าสิบมิลลิกรัมขึ้นไป อย่างอื่นอย่างปริมาณออกซิเจน เกลือสมุทรก็ยิ่งไม่มีปัญหา ความหนาแน่นของสาหร่ายในฟาร์มปลาต้าฉินถือว่าดีมากที่สุดในท้องทะเลทั่วโลก ไม่เยอะจนเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสีแต่ก็ไม่น้อย ออกซิเจนที่ผลิตจึงเพียงพอ
สำหรับสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่เข้มงวดที่สุดก็คือปริมาณน้ำเสีย อันนี้ไม่ต้องตรวจ ที่เกาะแฟร์เวลตอนนี้ไม่มีโรงงานเคมีสักโรง น้ำเสียที่เกิดจากชีวิตประจำวันก็มีสถานบำบัดน้ำเสีย ไม่ปล่อยทิ้งลงทะเลโดยตรง
หลังจากตรวจเสร็จ นักวิเคราะห์น้ำทะเลที่บิลพามาก็อุทานใหญ่ “พระเจ้า ฟาร์มปลานี้ดีจริงๆ ออกซิเจนเพียงพอ สารอาหารอุดมสมบูรณ์ ความใสของน้ำก็สูง ฟาร์มนี้เป็นเงินเป็นทองทีเดียว”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ใช้ฟาร์มผมคงจะผลิตทองออกมาไม่ช้าก็เร็ว”
ผลิตทองอาจจะยังไวไป แต่ผลิตเงินละก็ไม่มีปัญหา
บิลลี่ สเต็มเมอร์ จากบริษัทโอดิสซีย์ มารีน เอ็กซ์โพลเรชั่นโทรมาอีกครั้งตอนกลางคืน ฉินสือโอวรู้จุดประสงค์ของเขาจึงเปิดอกหงายไพ่ไปเลย “ปัญหางมเรือดังเคิลออสเตียสจบไปแล้วเพื่อน เงินบนเรือฉันก็งมขึ้นมาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะไปงมเรือดังเคิลออสเตียสกับฉันละก็ต้องขอโทษด้วย”
บิลลี่อึ้งไป เขารีบลนลานพูด “งั้นก็ยินดีด้วย ฉิน ขอถามหน่อยได้ไหมว่านายใช้บริษัทกู้ซากเจ้าไหน? อีกอย่างเงินของนายกะจะจัดการยังไง? อ้อ ฉันไม่มีเจตนาอื่น แค่คิดว่าบริษัทฉันทำด้านนี้มานาน อาจมีประสบการณ์อะไรที่ช่วยได้”
ฉินสือโอวพูด “ฉันใช้ทีมงมส่วนตัว จุดที่เรือดังเคิลออสเตียสจมไม่ถือว่าลึก แค่ซ่อนเร้นเท่านั้น ส่วนเงินแท้ร้อยตัน ฉันก็เอาไปขายแน่อยู่แล้ว ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะขายอย่างไร”
บิลลี่ออกไอเดียให้เขา “งั้นนายก็ระวังหน่อยฉิน นายเป็นเจ้าของฟาร์มปลาใช่ไหม? นายรีบเอาเงินย้ายไปไว้ที่ฟาร์มก่อน แล้วอย่าบอกว่างมขึ้นมาจากเรือดังเคิลออสเตียส ให้บอกว่าเป็นเรืออับปางที่ไม่มีชื่อก็พอ สุดท้ายแท่งเงิน นายควรหลอมเพิ่มน้ำหนักค่อยขายดีที่สุด”
แม้ว่าบิลลี่จะพูดทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เห็นได้ชัดว่าเขาเชี่ยวชาญด้านนี้
ฉินสือโอวครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “บิลลี่ เพื่อนของฉัน ฉันรู้ว่านายอยากได้บันทึกของกัปตันเรือดังเคิลออสเตียสมาตลอด ไม่สู้เรามาค้าขายแลกเปลี่ยนกันดีกว่า นายช่วยฉันจัดการเงินหนึ่งร้อยตันนี้ ฉันให้ส่วนแบ่งได้ แล้วยังสามารถให้นายยืมบันทึกของกัปตันใช้ด้วย”
พอได้ยินแบบนั้น บิลลี่ก็ร้องอย่างดีใจ “ฉิน ช่วยนายจัดการเงินน่ะไม่มีปัญหา ฉันไม่ได้ต้องการส่วนแบ่ง แต่ฉันหวังว่านายจะไม่ได้ให้ฉันยืมบันทึกแต่ให้ฉันเลย”
ฉินสือโอวอึ้งไป เงินหนึ่งร้อยตัน ถ้าขายสำเร็จละก็ส่วนแบ่งก็จะได้อย่างน้อยเป็นล้าน บิลลี่กลับไม่เอาเงินก้อนโตแต่กลับขอแค่บันทึกของกัปตันคนหนึ่ง นี่มันอะไรกัน?
ในใจเขาเริ่มตั้งการ์ด แม้ว่าพวกอเมริกันมักจะทำท่าเปิดเผย เรียบง่าย ใสซื่อ แต่จริงๆ เจ้าพวกนี้ฉลาดจะตาย
พอเป็นแบบนั้นฉินสือโอวเลยถามหยั่งเชิง “เพื่อน ฉันไม่รู้ว่าบันทึกกัปตันนี้มีความลับอะไรที่คุ้มค่าพอให้นายยอมทิ้งรายได้หลักล้าน แต่ฉันต้องขอบอกก่อน อย่าคาดหวังกับบันทึกนี้มาก เพราะมันแทบจะแช่น้ำจนเปื่อยไปแล้ว แทบจะอ่านเนื้อหาข้างในไม่ออก”
บิลลี่เป็นคนฉลาด เข้าใจความหมายของฉินสือโอวในทันทีจึงอธิบาย “ฉิน บันทึกกัปตันนั้นอาจเป็นขยะสำหรับใครหลายคน ไม่มีคุณค่าทางโบราณคดี ไม่ได้ซ่อนข้อมูลมีค่าอะไร”
เว้นไปสักพัก เขาถึงพูดต่อ “แต่บันทึกนั้นสำคัญกับบริษัทเรามาก เพราะบริษัทเรากำลังมีเรื่องฟ้องร้องกับบริษัทเนเธอร์แลนด์สมควรตายอยู่! ถ้าเป็นแบบนั้นอาทิตย์หน้าฉันไปคุยเรื่องเงินกับบันทึกที่เซนต์จอห์นได้ไหม?”
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ฉินสือโอวรับคำจะไป ยังไงแถวนี้ก็ถิ่นเขา
นัดเวลาโดยประมาณเสร็จฉินสือโอวก็วางสาย จิตสำนึกโพไซดอนเข้าสู่ทะเล
ครั้งนี้เขาไปดูปลาทูน่าครีบเหลืองก่อน อืม เจ้านี่เชื่องจริงๆ ว่ายน้ำเล่นเป็นเพื่อนเมียที่นอกใจมันอยู่แนวสาหร่าย งูทะเลสองสามตัวอยู่แถวๆนั้นเป็นยามให้ด้วย ฉินสือโอวไม่อยากวันไหนมาดูแล้วกลายเป็นว่าคู่ปลาทูน่าครีบเหลืองลงท้องฉลามตัวไหนไป
จากนั้นเขาก็เตรียมคุมให้ทูน่าครีบน้ำเงินไปเที่ยวทะเลลึกหน่อย ปรากฏว่าพอจิตสำนึกโพไซดอนเคลื่อนไป บนหัวก็มีเงาใหญ่พาดผ่าน!
เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น? ฉินสือโอวเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ดีที่หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงเรือยนต์ดังสนั่นถึงได้เข้าใจว่าเหนือหัวเขานั้นคือเรือหาปลา
แต่แถวๆ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีท่อนปลาแฮร์ริ่งเป็นชิ้นๆ ไม่น้อยร่วงลงมา ชิ้นปลาพวกนั้นถูกหั่นอย่างประณีต เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือคนทำ
นั่นก็แปลว่า ในฟาร์มนี้มีคนพบน้ำเงินใหญ่แล้ว และกำลังหั่นปลามาล่อมันให้ติดเบ็ด!
………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset