ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1280 ชำระก้นทะเลครั้งใหญ่

หลังจากลากเอาฝูงปลาไส้ตันกลับมาที่ฟาร์มปลาเวลาก็ไม่เช้าแล้ว ฉินสือโอวจึงตัดสินใจจะกลับไปนอน
เขาเดินเลียบไปตามชายหาด ส่วนด้านหลังของเขาก็เป็นฉงต้า หู่จือ เป้าจือ พี่น้องเฟอเรท ราชาซิมบ้า หลัวปอ ที่พากันส่งเสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวหยอกล้อกันไปมาอย่างสนิทสนม
หลังจากพวกเพื่อนตัวเล็กสงบลง ฉินสือโอวก็หอมเข้าให้คนละฟอด และพอกลับมาถึงห้องนอนเขาก็หยิบเอาตะไบมาถูกระดองแมลงยักษ์สีดำและนำผงกระดูกป้อนต้าป๋าย สุดท้ายถึงค่อยเข้านอนได้
ในขณะที่กินอาหารเช้า เออร์บักยื่นหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ให้วินนี่ดูและพูดว่า “ข่าวแพร่ไปเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”
ฉินสือโอจึงเขยิบเข้าไปอ่านข่าวด้วย ซึ่งมันคือสำนักหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวเช้าเมืองเซนต์จอห์น’ ในส่วนของการรายงานข่าวด้านการท่องเที่ยว ได้นำเสนอข่าวใหม่ว่าเจอหอยพิษทำร้ายคนบนเกาะแฟร์เวลและเนื้อหาด้านข้างกันนั้นก็มีรูปภาพของหอยเต้าปูนลายเสือติดอยู่หนึ่งรูป พร้อมพาดหัวข่าว ‘นักฆ่าเขตร้อนปรากฏตัวแล้ว พวกมันมาได้อย่างไร’
วินนี่พูดพร้อมขมวดคิ้ว “ซวยแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ ข่าวนี้ถูกปิดไว้อย่างดี พวกสื่อไปรู้กันมาจากไหน?”
เชอร์ลี่ย์พูดเสริม “นั่นสิคะ อาจารย์และเพื่อนๆ ของเราต่างก็พากันเดาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางโรงเรียนแจ้งเรามาแค่ว่าห้ามเข้าใกล้ชายหาด หลายคนก็พูดกันไปว่ามีสัตว์ประหลาดทะเลบ้าง มีเรือผีบ้าง ไม่มีใครคิดไปถึงว่าจะมีหอยพิษหรอก”
คนยิ่งอายุเยอะก็จะยิ่งฉลาด ม้ายิ่งอายุมากก็จะยิ่งคล่องแคล่วว่องไว กระต่ายยิ่งแก่ก็จะยิ่งโดนเหยี่ยวจับกินยาก จากข่าวนี้ เออร์บักวิเคราะห์ออกมาว่า “มีพวกผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังหอยพิษนี้ ระวังกันหน่อยนะ วินนี่ มีคนคอยจ้องจะจัดการพวกเราอยู่”
ฉินสือโอวตบบ่าพวกเขาทั้งสองคนเบาๆ แล้วพูด “เรื่องนี้ต้องค่อยๆ ตรวจสอบ หอยพิษนั้นยกให้เป็นหน้าที่ผม วันนี้ผมจะต้องจับคนผิดมารับสารภาพให้ได้”
เขาพูดแล้วก็ขยิบตาให้วินนี่ “อย่าลืมนะว่าผู้ชายของคุณกินอะไรเป็นอาหาร กับอีแค่ไปดำน้ำหาหอยพิษมันจะไปยากอะไรล่ะ?”
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เขาก็รวบรวมชาวประมงชายที่สามารถดำน้ำได้ไปที่ท่าเรือในเมือง ชาร์คที่กำลังตะโกนผ่านทางวิทยุติดต่อ และผู้คนจำนวนหนึ่งก็มาถึงพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ
เมื่อรู้ว่าพวกเขาจะดำน้ำหาหอยพิษ ดอน แพตตันที่เป็นหัวหน้าดูแลรับผิดชอบด้านการเก็บซากฟอสซิลขึ้นจากน้ำก็ส่งนักดำน้ำมาช่วยสมทบ นักดำน้ำเหล่านี้มีประสบการณ์การดำน้ำสูงระดับประเทศ การที่มีพวกเขาอยู่น่าจะช่วยได้มากทีเดียว
เมื่อฉินสือโอวมาถึงท่าเรือ ก็มีคนไม่น้อยที่รวมตัวกันรออยู่บนชายหาดอย่างคึกคักอยู่ก่อนแล้ว เขาและประชาชนส่วนใหญ่ต่างรู้จักกันดี ถึงไม่รู้จักแต่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ จึงกล่าวทักทายทุกคนมาตามทาง
แต่ทว่าในตอนที่เขาเดินไปบนชายหาด เขาก็สังเกตเห็นว่ามีกลุ่มเล็กๆ ที่ดูต่างออกไป พวกเขามีผิวสีน้ำตาลอ่อน ผมสีดำตาสีดำ จมูกโด่ง ใบหน้าเรียว ซึ่งดูแตกต่างจากคนที่อยู่บนเกาะนี้อย่างสิ้นเชิง
พอเห็นแบบนั้น ฉินสือโอวก็มีความรู้สึกว่าต้องระวังคนพวกนี้ไว้ เขาจึงดึงฮิวจ์มาถาม “คนพวกนั้นเป็นใครกัน? ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยล่ะ?”
ฮิวจ์เหลือบมองไปแวบหนึ่งแล้วตอบ “คนเม็กซิกันน่ะ เพิ่งมาที่เกาะนี้ได้ไม่นาน เห็นว่ามาขายพวกผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นของเม็กซิโกน่ะ ทำไมเหรอ?”
ฉินสือโอวส่ายหัวและบอกว่าเขาเพียงแค่รู้สึกแปลกๆ ครั้งนี้ชัดเจนเลยว่าเกาะแฟร์เวลถูกคนใส่ร้ายและที่ดูจะเป็นไปได้ก็คือพวกเม็กซิกันเป็นคนทำ
วินนี่และฮานี่ย์พาคนของพวกเขามาและแซนเดอร์สก็มาด้วย เขาถูกว่าจ้างให้มาช่วยค้นหาเบาะแสของหอยพิษ พร้อมกับชี้แนะในเรื่องความปลอดภัย
ศาสตราจารย์ที่มีความรู้เชิงลึกในด้านนี้พูดว่า “ผมเจอกับคุณหมอโอดอมโดยบังเอิญ เมื่อวานนี้เขาได้แยกเนื้อเยื่อบาดแผลของนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และดึงเศษแรดูลาที่เหลือออกมา หลังจากที่ผมทำการวิเคราะห์แล้ว เลยคิดว่าหอยเต้าปูนยังอยู่ในทะเล”
“ในสถานการณ์ทั่วไป เมื่อมันออกล่ามันจะฝังตัวเข้าไปในทราย โผล่เพียงจมูกขึ้นมา ไม่เพียงเพื่อเป็นการรับออกซิเจน แต่ยังใช้ในการเฝ้าสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของเหยื่อ”
“ดังนั้นการจะหาตัวมันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก พวกคุณจะต้องมีความอดทนและคอยระมัดระวังตัว แรดูลาของมันสามารถยืดยาวได้หลายเซนติเมตรและแหลมคมมาก และแน่นอนว่าอย่าให้ผิวหนังสัมผัสกับพวกมันโดยตรงโดยเด็ดขาด”
“แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลจนเกินไป ในบรรดาหอยเต้าปูนหลายๆ ประเภท เช่นหอยเต้าปูนประเภทที่กินปลาเป็นอาหารจะมีพิษร้ายแรงที่สุด ประเภทที่ล่าสัตว์ลำตัวนิ่มพิษจะไม่ร้ายแรงเท่าไร ส่วนประเภทที่จับแมลงทะเลเป็นอาหารจะไม่ถึงกับทำให้คนเสียชีวิตได้”
“หอยเต้าปูนลายเสือที่ล่าสัตว์ที่มีลำตัวนิ่มเป็นอาหาร พิษของมันจึงไม่ถือว่ารุนแรงมาก ถ้าหากพวกคุณพบเจอพวกมันแล้วต้องดูให้ดี ถ้ามันมีปากแคบ พิษก็จะค่อนข้างน้อย แต่ถ้าปากยิ่งกว้าง พิษจะยิ่งรุนแรง พวกคุณต้องระวังให้ดี”
หลังจากแซนเดอร์สให้ข้อมูลความรู้พื้นฐานทั่วไปเสร็จ ฉินสือโอวก็เกิดคำถามสะกิดใจและถามขึ้น “ศาสตราจารย์ คุณบอกว่าพวกมันมักจะซ่อนอยู่ในทรายงั้นเหรอ? แต่เมื่อวานจากที่ผมสอบถามจากนักท่องเที่ยวมา เขาบอกว่าเห็นมันอยู่บนพื้นผิวก้นทะเล นี่มันยังไงกันแน่ล่ะ?”
“ง่ายมาก จากสภาพการณ์แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าพวกมันกำลังเตรียมพร้อมที่จะผสมพันธุ์และวางไข่ พวกมันก็เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน” แซนเดอร์สตอบ
ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ฉินสือโอวก็แน่ใจในการคาดเดาของตัวเองแล้ว เกาะแฟร์เวลโดนคนวางแผนจัดฉากใส่ร้ายอย่างแน่นอน
หลังจากรอจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นและอุณหูภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นเล็กน้อย ฉินสือโอวก็พาชาวประมงและนักดำน้ำลงไปใต้น้ำ โดยพวกเขาเริ่มสำรวจไปจากตำแหน่งที่นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ
เมื่อวานตอนกลางคืนฉินสือโอวเอาหอยเต้าปูนสิบสี่ตัวมาปล่อยไว้บริเวณรอบๆ แถวนี้ ดังนั้นในการค้นหาพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องยาก และที่ใกล้ๆ กันนั้นก็มีคนดำน้ำอยู่สามสิบคน ค้นหาไปได้ไม่นานก็พบกับข่าวดี
ส่วนเขาไม่ได้ไปตำแหน่งที่ที่ค้นพบหอย เขาแค่ลอยไปลอยมาอยู่ใต้ท้องทะเล ชมทัศนียภาพใต้ท้องทะเลลึก
เนื่องจากรอบๆ ฟาร์มปลามีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ฟาร์มปลาสาธารณะในเมืองเล็กๆ ก็มีปลาจำนวนไม่น้อย แต่สภาพการเติบโตของสาหร่ายทะเลและวัชพืชในน้ำค่อนข้างแย่ จึงเป็นเหมือนแค่ทางผ่านของพวกปลาทะเล พวกมันจะไม่ค่อยมาอยู่กันนานนัก
ดังนั้น ใต้ท้องทะเลของฟาร์มปลาสาธารณะจึงสะอาดขึ้นมาก เบื้องหน้าของเขามีเศษหินและเม็ดทรายที่ละเอียดเกลี้ยงเกลา ฉินสือโอวยื่นมือออกไปกำมันขึ้นมา ทรายเม็ดละเอียดก็ค่อยๆ ลอยไปตามสายน้ำ ดูแล้วสวยงามมาก
หลังจากอยู่ใต้น้ำกว่าครึ่งชั่วโมง ฉินสือโอวก็ขึ้นมาพักหายใจ เห็นชาร์ค บลู และคนอื่นๆ นั่งอยู่บนเรือและกำลังพูดคุยหัวเราะกันเสียงดัง พอเห็นท่าทางอวดดีของพวกเขา ก็รู้ได้เลยว่าพวกเขาค้นพบหอยเต้าปูนแล้ว
ฉินสือโอวลอยขึ้นมาจากน้ำได้ไม่ถึงสิบนาที ก็มีคนโผล่ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับชูตาข่ายและตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ดูนี่สิพวกว่าฉันเจออะไร? หอยเต้าปูนหกตัวเลยนะ!”
ชาร์คก็หัวเราะและพูดขึ้น “ส่วนพวกเราเจอตั้งแปดตัว!”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วและพูด “ทำไมมีเยอะขนาดนี้เนี่ย?”
พอได้ยินแบบนั้น ชาร์คก็คิ้วขมวดขึ้น “ตอนที่พวกเราเจอหอยเต้าปูนแปดตัวนี้ พวกมันอยู่บนผืนทราย ไม่ได้ซ่อนตัวเลยด้วยซ้ำ แถมยังมาอยู่รวมตัวกันอีก ผมเลยคิดว่าพวกมันน่าจะถูกคนเอามาปล่อยไว้ตรงนี้”
นักดำน้ำที่ในมือถือตาข่ายอยู่ก็พยักหน้าและพูด “เหมือนกัน ตอนที่ผมเจอพวกมันก็เป็นแบบนั้นเลย พวกมันไม่ได้ซ่อนตัวในทรายเลยแม้แต่น้อย แถมยังออกมาล่าสัตว์แบบโต้งๆ แบบนั้นอีกเลยด้วย”
จากนั้นคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยขึ้นจากน้ำกัน จากที่ปกติพวกเขาไม่เคยหาหอยเต้าปูนเจอ แต่ตอนนี้กลับเห็นพวกมันตั้งสองชุด
ชาร์คและนักดำน้ำขึ้นไปยังริมฝั่งเพื่อส่งมอบหอยเต้าปูนให้แก่แซนเดอร์ส ฉินสือโอวยังคงค้นหาต่อไป ที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีแล้ว แต่คนอื่นไม่รู้ แล้วรับประกันได้เลยว่าถ้าจะเจอได้อย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่ใกล้ทะเลในระยะสองร้อยเมตร
ซึ่งถึงจะหาไปยังไงก็คงจะไม่เจออย่างแน่นอน
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset