ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1337 แหวนแต่งงาน

ตอนนี้คุยกันถึงแค่เท่านี้ก่อน บัตเลอร์กลับไปแล้ว เนื่องจากว่าเขาต้องรวบรวมกำลังคนเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านสาขา ฉินสือโอวจึงขอติดเครื่องบินไปด้วย เพราะเขาต้องไปนิวยอร์กเพื่อเตรียมแหวนแต่งงาน
เครื่องบินมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติจอห์นเอฟ เคนเนดีแล้ว รถโรลส์รอยซ์คันหนึ่งขับเข้ามาหา หลังจากนั้นคนขับรถก็เปิดประตูรถ คนที่ออกมาจากรถคันนั้นก็คือชายวัยกลางคนท่าทางดูมีภูมิฐานคนหนึ่ง และชายผู้นั้นก็คือวินเซนต์ ทิฟฟานี่ ผู้อำนวยการบริษัททิฟฟานี่แอนด์โคนั่นเอง
“เฮ้ คุณวินเซนต์เองเหรอครับ? เป็นเรื่องบังเอิญจังเลยนะครับที่ได้พบกับคุณที่นี่” ฉินสือโอวเป็นฝ่ายเข้าไปทักทายเขาก่อน
วินเซนต์แย้มรอยยิ้มแล้วตอบเขากลับมาว่า “แต่ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นนะครับ ผมเชื่อว่านี่เป็นเพราะเจตจำนงของพระเจ้าที่ทำให้พวกเราได้มาพบกัน”
ฉินสือโอวพูดว่า “บางทีก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ถึงยังไงผมก็คิดว่าคุณคงไม่มาที่นี่เพื่อมารับผมหรอกครับ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมคงรู้สึกทึ่งมากๆ”
บัตเลอร์จึงพูดว่า “ไม่ใช่หรอก ‘บางที’ ก็อาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ แต่ฉันก็เชื่อว่าพระเจ้าคงจะดลใจให้นายโทรไปหาคุณลีฟล่วงหน้า หลังจากนั้นก็ดลบันดาลให้คุณลีฟโทรไปแจ้งคุณวินเซนต์ ดังนั้นเขาถึงได้บอกว่าการที่ได้พบนายที่นี่เป็นเจตจำนงของพระเจ้า ใช่ไหมละครับ?”
วินเซนต์จับมือกับเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วล่ะครับ คุณบัตเลอร์ คุณขยายความได้ชัดเจนมาก”
หลังจากฉินสือโอวขึ้นมาบนรถโรลส์รอยซ์แล้ว รถยนต์คันนั้นก็ขับตรงไปที่ร้านแฟล็กชิพสโตร์ของทิฟฟานี่แอนด์โคทันที ลีฟได้เตรียมชาเขียวแบบที่เขาชอบไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองฝ่ายคุยกันอยู่สักพักก็ตัดบทสนทนาเข้าสู่เรื่องสำคัญ แล้วฉินสือโอวหยิบเอากล่องผ้าไหมออกมา
พอเขาเปิดกล่องขึ้น ไข่มุกสีดำขนาดใหญ่พิเศษก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาจนครบทุกเม็ด
เมื่อได้เห็นไข่มุกเหล่านี้ต่อให้เป็นคนที่มีประสบการณ์กว้างขวางอย่างวินเซนต์ก็ยังถึงกับร้องอุทานออกมา “พระเจ้า ผมรู้สึกอับอายกับความภาคภูมิใจที่ผ่านมาจริงๆ ที่แท้บนโลกใบนี้ยังมีไข่มุกสีดำเม็ดใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วย!”
ไข่มุกเม็ดใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่ากันกับลูกวอลเลย์บอล แต่แน่นอนว่าพวกนั้นมักจะเป็นไข่มุกคุณภาพต่ำ ที่ขายเอาราคาจากขนาดเท่านั้น เป็นไข่มุกสำหรับนำไปทำงานแกะสลัก แท้ที่จริงกลับไม่ได้มีสุนทรียภาพของความงามแต่อย่างใด รูปร่างไม่กลมกลึง สีสันที่ได้ก็ไม่มีความสวยสดงดงาม
มีไข่มุกสีดำขนาดใหญ่อยู่ไม่มาก เนื่องจากหอยที่ให้กำเนิดพวกมันขึ้นมามีร่างกายเป็นของเพศเมีย หอยนางรมลอยจะเติบโตจนมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษได้ยากมาก แบบนี้จึงทำให้มันไม่สามารถสร้างไข่มุกสีดำขนาดใหญ่ขึ้นมาได้
ไข่มุกสีดำพวกนี้ที่ฉินสือโอวนำมา เม็ดใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่สามเซนติเมตร รูปร่างของมันไม่ได้กลมกลึงมากนัก มันมีขนาดค่อนข้างคล้ายกันกับไข่เบอร์ใหญ่สุดของนกพิราบที่เลี้ยงกันในปัจจุบัน
หากไข่มุกไม่มีความกลมกลึงมากพอ มูลค่าของมันก็จะลดลงมาถึงครึ่งหนึ่ง ทว่าไข่มุกสีดำเม็ดนี้มีสีสันสวยงามมาก เป็นสีดำสนิทหากแต่เกลี้ยงเกลาเงางาม ดูงดงามสว่างสดใสและแฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ดังนั้นมูลค่าของมันจึงยังสูงอยู่มาก
ไข่มุกสีดำอีกสิบกว่าเม็ดที่เหลือแม้จะมีขนาดใหญ่ไม่เท่าไข่มุกเม็ดนี้ ทว่าพวกมันก็กลมกลึงยิ่งกว่า ทั้งยังมีไข่มุกที่มีความกลมกลึงจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบอยู่ถึงสี่เม็ด ไข่มุกสีดำพวกนี้ล้วนแต่เป็นมีความล้ำค่าอย่างประเมินราคาไม่ได้
ได้เห็นไข่มุกพวกนี้วินเซนต์ก็ร้องอุทานด้วยความตกตะลึงไปพร้อมๆ กับความรู้สึกปีติยินดี โชคดีที่เขารู้ว่าฉินสือโอวจะมาที่นี่เลยตั้งใจไปรับเขาด้วยตัวเอง เพื่อแสดงออกถึงความเคารพ ถ้าดูแลลูกค้าอย่างเขาได้ไม่สมฐานะจนทำให้เกิดความไม่พอใจ ก็คงสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาอย่างมหาศาล
ลีฟร่วมงานกับฉินสือโอวมาหลายครั้งแล้ว พวกเขาค่อนข้างสนิทกัน เธอจึงเอ่ยปากถามเขาว่า “ฉิน นี่เป็นของของคุณทั้งหมดเลยเหรอคะ?”
ฉินสือโอวจึงตอบเขาด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วครับ คุณก็รู้ว่าผมมีฟาร์มปลาที่ใหญ่มากอยู่หนึ่งที่ ผมชอบพูดคุยกับพวกคนแก่ที่หากินอยู่กับทะเล ที่จริงผมแค่อยากได้ประสบการณ์การดูแลฟาร์มปลาจากพวกเขา แต่หลายครั้งก็มักจะได้ของที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมมาหลายอย่าง”
“อย่างเช่นปะการังน้ำลึกสีแดงชิ้นนั้นใช่ไหมคะ?” ลีฟถามด้วยใบหน้าแต้มรอยยิ้ม
“หรืออย่างเช่นไข่มุกสีดำพวกนี้” ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ “พวกคุณจะช่วยเก็บความลับให้ผมใช่ไหมครับ? ผมว่าในเมื่อพวกคุณกล้าปฏิเสธการขอต่อราคาของประธานาธิบดี ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็คงกล้าปฏิเสธคนที่มาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับไข่มุกสีดำใช่ไหมครับ?”
ไม่ต้องให้ลีฟเป็นคนตอบ วินเซนต์ก็ยืนยันกับเขาด้วยความหนักแน่น “เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย ฉิน พวกเรายินดีที่จะปกป้องความลับของลูกค้าอย่างเต็มที่!”
ฉินสือโอวยิ้มพร้อมกับหันไปมองท่าทีของลีฟด้วยสายตาแฝงความนัย
วินเซนต์ถามเขาว่าจะจัดการไข่มุกสีดำพวกนี้อย่างไร ฉินสือโอวจึงหยิบไข่มุกเม็ดที่ใหญ่ที่สุดออกมาแล้วพูดว่า “เริ่มจากมันก่อนเลยครับ ผมอยากได้แหวนแต่งงานหนึ่งคู่ พวกคุณยังมีแบบจำลองนิ้วมือของผมกับภรรยาอยู่ใช่ไหมครับ? ก็เอาตามนั้นเลยแล้วกัน”
พอได้ยินเขาพูดอย่างนี้จังหวะหัวใจก็เต้นช้าลงทันที เขาแผ่มือออกแล้วพูดว่า “หมายความว่าคุณต้องการจะให้ทุบมันใช่ไหมครับ? โอ้ ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้นเลย ฉิน นี่เป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้กับมนุษย์ คุณจะทำแบบนี้กับมันไม่ได้!”
ฉินสือโอวตอบเขากลับไปด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นของขวัญสำหรับภรรยาของผม เป็นแค่ของที่ส่งให้เธอด้วยมือของผมเท่านั้นเองครับ”
เขาชี้ไปที่ไข่มุกสีดำเม็ดอื่นๆ แล้วกล่าวว่า “ถ้าใช้ไข่มุกสีดำเม็ดแรกแล้วทำไม่สำเร็จ จะใช้ไข่มุกสีดำพวกนี้ก็ได้ ผมคิดว่าด้วยขนาดของพวกมันก็น่าจะจัดให้เข้ากันได้ใช่ไหมล่ะครับ?”
วินเซนต์ส่ายหัวแล้วตอบว่า “ไม่ครับ ไม่มีทางทำพลาดแน่ คุณฉิน คุณวางใจได้เลยครับ พวกเราไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน”
ฉินสือโอวจึงตอบเขาด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ ที่จริงแล้วผมก็เสียดายที่จะต้องทำลายไข่มุกสีดำมากขนาดนี้เหมือนกัน”
ที่เขาพูดคือเรื่องจริง เขาใช้พลังโพไซดอนไปกับไข่มุกสีดำล็อตนี้เป็นจำนวนมาก ใช้ทั้งพลังกายและกำลังสมองกว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ หลังจากนี้เขาคงไม่ปล่อยให้พลังโพไซดอนเสียไปกับหอยนางรมลอยมากขนาดนี้ แบบนี้มันสิ้นเปลืองเกินไป
ต่อจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มคุยกันถึงค่าใช้จ่ายสำหรับทำแหวนแต่งงาน ลีฟแนะนำเขาว่า “ฉิน ฉันขอแนะนำคุณว่าอย่าใช้ไข่มุกสีดำอย่างเดียวเลยค่ะ แบบนั้นมันสิ้นเปลืองเกินไปแถมยังขาดความแปลกใหม่ แหวนหมั้นของคุณก็ทำมาจากปะการังสีแดงทั้งชิ้นเลยไม่ใช่เหรอคะ? แบบนี้จะทำให้มันดูซ้ำกันหรือเปล่าคะ?”
ฉินสือโอวจึงถามเธอกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าควรจะทำแบบอื่นใช่ไหมครับ?”
ลีฟกล่าวว่า “ใช่แล้วค่ะ ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะลองใช้ไข่มุกสีดำเพื่อเป็นโครงของแหวน ตกแต่งมันด้วยทองคำขาว แล้วใช้เพชรเม็ดเล็กๆ มาประดับตกแต่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ฉันคิดว่าแบบนั้นถึงจะออกมาเป็นผลงานศิลปะ”
ฉินสือโอวพูดว่า “แบบนี้ก็ได้ครับ หวังว่าพวกคุณจะออกแบบมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะต้องเสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้นะครับ แบบนั้นพวกคุณทำได้หรือเปล่า?”
ลีฟพยักหน้ารับ ฉินสือโอวก็กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นค่าใช้จ่ายในการออกแบบกับค่าใช้จ่ายในการผลิตละครับ?”
“เกรงว่าจะน้อยเลยนะครับ” วินเซนต์ไม่ได้บอกราคาออกมาตรงๆ แต่ตอบเขากลับมาแบบนี้พร้อมกับแย้มรอยยิ้ม
ฉินสือโอวไหวไหล่พูดว่า “แต่ผมเดาว่าบางทีพวกคุณอาจจะทำให้ผมฟรีๆ ก็ได้”
วินเซนต์พูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ครับ ฉิน พวกเราเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักบุญ จะช่วยคุณออกแบบช่วยคุณทำแหวนฟรีๆ ได้ยังไงกันละครับ? คุณต้องรู้ด้วยว่าการทำแหวนแต่งงานแบบนี้ ทำให้พวกเราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมหาศาลเลยล่ะ”
ฉินสือโอวจึงพูดกับเขาต่อว่า “ใช่ครับ พวกคุณไม่ใช่นักบุญ แต่พวกคุณเป็นเพื่อนของผมไม่ใช่เหรอครับ?”
วินเซนต์ยื่นมือออกไปทำท่าจะชนหมัดกับเขา แล้วพูดว่า “เพื่อนเหรอ เพื่อน ใช่แล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกัน ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว! ถ้าอย่างนั้นไข่มุกสีดำพวกนี้ที่เหลืออยู่ คุณจะฝากเพื่อนอย่างพวกเราให้ช่วยผลิตกับช่วยขายให้ด้วยใช่ไหม?”
ฉินสือโอวชนหมัดกับเขา แล้วพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ผมคิดไว้อย่างนี้ตั้งแต่ทีแรกแล้ว”
วินเซนต์หัวเราะเสียงดังด้วยความพึงพอใจ ในตอนท้ายเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ได้คุยกับคนฉลาดแล้วมีความสุขมากจริงๆ มาเถอะ ฉิน ปล่อยให้ลีฟไปออกแบบแหวนเถอะ พวกเราไม่ต้องไปรบกวนเธอแล้ว เดี๋ยวผมจะพาคุณออกไปเที่ยวดูรอบๆ เอง”
จัดการเรื่องหลักๆ ที่เกี่ยวกับแหวนแต่งงานเสร็จแล้ว ด้วยความสามารถในการผลิตของบริษัททิฟฟานี่แอนด์โค การออกแบบและผลิตแหวนแต่งงานสไตล์คลาสสิคภายในเวลาหนึ่งเดือนจึงไม่ใช่ปัญหา
หลังจากนั้นลีฟก็ตามเข้ามาคุยกับเขา แล้วใช้โอกาสตอนที่วินเซนต์ไม่อยู่พูดกับเขาว่า “คุณฉินคะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ คือว่าเรื่องปะการังสีแดงน้ำลึกชิ้นนั้นน่ะ ฉันไม่ใช่คนที่ทำให้ความลับเรื่องนั้นรั่วไหลนะคะ”
ฉินสือโอวสบตากับเธอ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ผมรู้ครับ ผมให้แหวนปะการังสีแดงเพื่อขอวินนี่แต่งงานไปแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันบริษัทของพวกคุณก็มีปะการังสีแดงเพิ่มมาอีกชิ้น ใครๆ ก็คงคิดได้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงใช่ไหมล่ะครับ?”
ลีฟแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ขอบคุณที่เห็นใจและให้อภัยกันนะคะ”
……………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset