ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1344 พวกมันจะกลัวนะ

ฉินสือโอวลองถามเพ่าไห่ว่าใบประกอบอาชีพต้นกลของเขามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหม การเดินเรือในแคนาดาจะต้องมีใบรับรองของแคนาดาวถึงจะสามารถดำเนินการได้
แต่นอกจากเรื่องนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกนับถือพ่อแม่ของเพ่าไห่มาก และสิ่งแรกก็คือแซ่ของพวกเขา เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในหนังสือร้อยแซ่จะมีแซ่แบบนี้อยู่ด้วย ตอนแรกที่เจอยังไม่คุ้นเคยกัน จะถามเรื่องแบบนี้ก็คงไม่ดีนัก
และอีกสิ่งหนึ่งก็คือปัญหาเรื่องการตั้งชื่อ เพ่าไห่ไม่ได้หมายถึงหนีออกทะเลหรอกเหรอ? หรือว่าพี่ชายนายช่างร่างท้วมผิวดำคล้ำคนนี้จะเลือกทำงานในแวดวงนี้เพราะชื่อของเขากันนะ
เพ่าไห่บอกว่าเรื่องที่เขาทำเป็นอย่างแรกหลังจากมาถึงแคนาดาก็คือการตรวจสอบเอกสารประกอบอาชีพต้นกลให้ผ่านอีกรอบ และจัดการแปลงเอกสารรับรองจากจีนให้เป็นเอกสารที่ได้รับการยอมรับจากกรมประมงและมหาสมุทรแคนาดา ด้วยเหตุนี้เมื่อพูดกันตามระเบียบการปฏิบัติก็ถือว่าเขาสามารถออกทะเลได้แล้ว
ฉินสือโอวลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่ได้ชวนเพ่าไห่ให้มาทำงานด้วยกัน เขาต้องถามเอี๋ยนตงเหล่ยเรื่องเกี่ยวกับคนคนนี้ให้ดีก่อน ต้องรู้จักนิสัยใจคอของเขาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยชวนให้เขามาเที่ยวที่ฟาร์มปลา เพื่อให้พวกชาวประมงทดสอบความสามารถของเขา เมื่อมั่นใจแล้วค่อยตัดสินใจอีกที
ในการเดินเรือออกทะเล จะต้องเลือกลูกเรือทุกคนอย่างระมัดระวัง คนที่จะมารับตำแหน่งต้นกลก็เช่นกัน เนื่องจากฉินสือโอวต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและลูกน้องที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องรับผิดชอบทางฝั่งของเพ่าไห่ด้วย ถ้าชวนให้มาทำงานด้วยกันแล้วแต่หลังจากนั้นกลับพบว่าเพ่าไห่ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ถึงตอนนั้นแล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ?
เป็นคนบ้านเดียวกันทั้งนั้น จะเอาแต่บอกว่าธุรกิจก็คือธุรกิจอย่างนั้นไม่ได้
หลังจากที่ฉินสือโอวคุยกับคนกลุ่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็กลับไปหาคุณปู่นายทหารเก่าเฉินทั้งยังคอยอยู่กับเขาตลอดเวลา ที่เขาทำอย่างนี้ย่อมไม่ใช่เพียงเพราะอำพันทะเลก้อนนั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพื่อนร่วมรบของปู่สอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือความรู้สึกก็ทำให้เขาต้องคอยอยู่เป็นเพื่อนชายชรา
เขาแนะนำวินนี่กับเออร์บักให้ชายชราได้รู้จัก เออร์บักเคยได้ยินเรื่องเขามาก่อน หลังจากนายทหารเก่าเล่าเรื่องของเขากับฉินหงเต๋อให้ฟัง เออร์บักก็ถามเขาด้วยความสงสัยว่า “คุณคือนายเฉินเส้นใหญ่ใช่ไหม? นายเฉินเส้นใหญ่จากคาลการีใช่ไหม?”
หลังจากนายทหารเก่าได้ยินชื่อฉายาของตัวเองก็เกิดอาการน้ำตาคลอขึ้นมา “ใช่แล้วเฉินเส้นใหญ่ เฉินเส้นใหญ่! พี่ฉินยังไม่ลืมฉันแน่ๆ เขาเป็นคนพูดถึงฉายานี้ให้คุณฟังใช่ไหม?”
อยู่ๆ ชายชราก็หลั่งน้ำตา ฉินสือโอวก็ตกใจจนสะดุ้ง เขาจึงรีบเอ่ยปลอบชายชรา
นายทหารเก่าพูดทั้งน้ำตาว่า “นายไม่เข้าใจหรอก พ่อหนุ่มน้อยแซ่ฉิน เฉินเส้นใหญ่เป็นฉายาที่พวกเพื่อนๆ ตั้งให้ฉันสมัยฝึกอยู่ในกองทัพ 136 เพราะฉันชอบกินก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ของบ้านเกิดมากๆ สมัยที่ฝึกทหารกองทัพของเราไม่เคยขาดแคลนอาหารการกิน ตัวฉันเองก็ทำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่กินทุกวัน”
เขากุมมือเออร์บักไว้แล้วพูดว่า “สิบปีแล้ว ผ่านมาตั้งสิบปีแหนะ สุดท้ายหลังจากบานี่ย์จากไปก็ไม่เคยมีใครเรียกฉันด้วยชื่อนี้อีกเลย”
ฉินสือโอวยืนอยู่ข้างๆ ชายชราอย่างเงียบๆ เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตอนนี้ชายชรากำลังรู้สึกอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะเข้าใจได้
เออร์บักพูดกับเขาว่า “เมื่อก่อนพ่อของผมมักจะเล่าเรื่องสมัยสงครามโลกครั้งที่สองให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ ผมสัมผัสได้เลยว่าวันเวลาในช่วงที่เขาฝึกทหารอยู่ที่แวนคูเวอร์พร้อมกับพวกคุณ เป็นความทรงจำที่งดงามที่สุดสำหรับเขา”
ฉินสือโอวหันไปมองคุณปู่เออร์แวบหนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ชายชราเรียกฉินหงเต๋อว่าพ่อต่อหน้าเขา
นายทหารเก่าพูดด้วยความเจ็บปวดใจว่า “แล้วทำไม หลังจากนั้นพี่ฉินถึงไม่เคยตามหาพวกเราเลยล่ะ? หลังจากกลับมาจากหนานหยาง พวกเราก็อยู่ที่แวนคูเวอร์ต่ออีกตั้งหลายปี”
เออร์บักส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “พ่อของผมอาจจะเรื่องที่เก็บเอาไว้ในใจแต่บอกให้ใครฟังไม่ได้ หลังจากรับเลี้ยงผมแล้วพ่อก็มาอยู่ที่เกาะแฟร์เวลเลย ในความทรงจำของผม พ่อออกจากบ้านไปที่ไกลๆ แค่ตอนที่ผมเรียนจบมหาลัย นอกเหนือจากนั้นปกติแล้วเขาจะไม่ไปไหนเลย”
ฉินสือโอวพอจะเดาสาเหตุได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าปู่สองกังวลว่าความลับเรื่องหัวใจโพไซดอนจะถูกเปิดเผย จึงเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างสันโดษโดยที่แทบจะไม่มีใครรู้จักเขาเลยสักคน ไม่มีแม้กระทั่งจะแต่งงานหาภรรยา สุดท้ายจึงส่งต่อหัวใจโพไซดอนมาให้เขา
ย้อนกลับไปครึ่งศตวรรษตอนที่วิทยาศาสตร์ยังไม่ได้รับการพัฒนาเหมือนในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ยังมีความรู้น้อย ทั้งยังเชื่อเรื่องผีและวิญญาณ หัวใจโพไซดอนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของปู่สองเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาสังเกตเห็นก็คงคิดถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ง่ายกว่าคนในยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะตอนที่ยังฝึกอยู่ในกองทหารถ้าหากปู่ฉินเคยเปิดเผยความลับบางส่วนเกี่ยวกับเรื่องที่เขาแตกต่างกับคนอื่นออกไป และถ้าปู่เคยใช้พลังวิเศษทำอะไรสักอย่างก็จะยิ่งทำให้คนอื่นสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น
ฉินสือโอวมาลองคิดๆ ดูก็พบว่าชีวิตของปู่สองช่างยากลำบากจริงๆ
นายทหารเก่าส่ายหัวไปมาพร้อมกับพูดพึมๆ พำๆ ว่า “เฮ้อ ก็อาจจะใช่ พี่ฉินดีทุกเรื่องเลย เสียก็แต่ว่าเขาเย็นชาเกินไป แต่ฉันรู้ว่าเขาแค่ดูเย็นชาแต่ที่จริงแล้วข้างในนั้นเขาเป็นคนอบอุ่น ตอนที่อยู่ในค่ายฝึกทหาร ถ้าไม่ใช่เพราะได้เขาช่วยฉันไว้หลายครั้ง ฉันคงถูกนายพลอังกฤษซ้อมจนตายไปตั้งแต่แรกแล้ว แล้วไม่ใช่แค่ฉันนะ ตอนนั้นเพื่อนๆ ของเราหลายคนก็ติดค้างน้ำใจเขาด้วยกันทั้งนั้น”
หลังจากนั้นเออร์บักก็เป็นคนคอยอยู่คุยกับนายทหารเก่า ทั้งสองคนมีเรื่องให้คุยกันมากกว่า ทั้งเรื่องวันเวลาเก่าๆ และนิสัยของฉินหงเต๋อ
หลังจากกิจกรรมงานรำลึกสิ้นสุดลง ฉินสือโอวก็ถือโอกาสเชิญนายทหารเก่ารไปที่ฟาร์มปลาของเขาด้วยกันเสียเลย หลังจากนั้นเขาก็จะกลับไปส่งชายชราอีกครั้ง เพื่อหาวิธีนำอำพันทะเลก้อนนั้นมาไว้ในมือ เนื่องจากเขาไม่ได้พบของสิ่งนี้มาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว
นายทหารชราตอบรับด้วยความยินดี ฉินสือโอวจึงพาเขากลับไปที่ฟาร์มปลา ที่จริงเขาก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เป็นเออร์บักเสียอีกที่คอยอยู่กับชายชรา และทั้งสองคนก็เพียงแค่พูดคุยกันเท่านั้นเนื่องจากนายทหารชราเดินไม่ค่อยไหวแล้ว และวันต่อมาหลังจากกลับไปถึงฟาร์มปลา สภาพอากาศก็ย่ำแย่กว่าเดิม
ความกดอากาศต่ำทางตอนเหนือของประเทศอเมริกาเริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทางตอนใต้ของแคนาดา เริ่มตั้งแต่ในช่วงเช้า คลื่นทะเลในนครเซนต์จอห์นก็เริ่มกรีดเสียงคำราม ซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว
ฉินสือโอวพาเหล่าชาวประมงเข้าไปยึดเรือไว้กับท่าเรือ พร้อมกับลาดตระเวนตรวจดูฟาร์มปลาอีกรอบ เพิ่งจะเช็กจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร กลุ่มเมฆมืดครึ้มก็ลอยเข้ามาปกคลุมแล้ว ต่อจากนั้นก็เกิดเป็นฟ้าแลบฟ้าร้อง พายุฝนเดินทางมาถึงตามกำหนดเวลาของมัน
ฝนตกเทลงมาอย่างหนัก ทันใดนั้นเชอร์ลี่ย์ก็พกเอาร่มคันหนึ่งจะวิ่งออกไปข้างนอก
ฉินสือโอวรีบดึงเธอไว้แล้วถามว่า “เธอจะไปทำอะไร? จะออกไปอาบน้ำเหรอ?”
เชอร์ลี่ย์พูดกับเขาด้วยความรีบร้อนว่า “เปากงกับตี้หลูต้องพากันกลัวแน่ๆ มีแต่พวกมันสองตัวที่อยู่ในคอก พวกมันยังเด็กอยู่เลยยังไงก็น่าจะต้องกลัวแน่ๆ ใช่ไหมล่ะคะ?”
ฉินสือโอวปลอบเธอว่า “ไม่เป็นไรหรอก ม้าน่ะหูหนวกอยู่แล้ว พวกมันไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องหรอก…”
เด็กสาวจ้องเขาด้วยท่าทางถมึงทึง เธอพูดกับเขาด้วยเสียงที่ลากเสียงยาวว่า “ฉิน หนูไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนเสี่ยวเถียนกวานะ ตอนนี้หนูอายุสิบสี่แล้ว! หนูกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมปลายอยู่แล้วด้วย มาหลอกกันแบบนี้คงไม่ค่อยดีเท่าไรนะคะ?”
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “เอาล่ะๆ เธอไม่ต้องไปอยู่กับพวกมันหรอก พวกมันก็ต้องเติบโตขึ้นเหมือนกันใช่ไหมล่ะ? ไม่เคยผ่านลมผ่านฝนแล้วจะได้พบกับสายรุ้งได้ยังไงกัน!”
เชอร์ลี่ย์ก็พูดอย่างดื้อรั้นว่า “คุณน่ะเร่งรัดแต่จะให้พวกมันรีบเติบโต พวกมันยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ หนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนพวกมัน ถ้าคุณจะไม่ไปก็ไม่ต้องมาขวางทางหนู”
ฉินสือโอวสูดอากาศลอดไรฟัน เขาหันกลับไปหาวินนี่ วินนี่ที่กำลังดูแลเสี่ยวเถียนกวาอยู่ก็พูดด้วยท่าทางสบายๆ ว่า “เชอร์ลี่ย์ทำดีแล้วค่ะ ที่รักคะ คุณไปเป็นเพื่อนเธอหน่อยเถอะ”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้” ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงกางร่มแล้วพาเชอร์ลี่ย์เดินออกไป ปรากฏว่าพอก้มหน้าลงเขาก็พบว่าเชอร์ลี่ย์พกไวโอลินตัวน้อยมาด้วย อยู่ๆ ฉินสือโอวไม่รู้เลยว่าต้องพูดอย่างไรดี “เธอสะพายของพวกนี้มาทำไม?”
เชอร์ลี่ย์ก็ตอบเขาด้วยความมั่นใจว่า “คุณฟังสิคะ เสียงฟ้าร้องเสียงลมพัดดังขนาดนี้ ตี้หลูกับเปากงก็อาจจะพากันกลัวใช่ไหมละคะ เพราะอย่างนั้นหนูจะสีไวโอลินให้พวกมันฟัง ใช้เสียงไวโอลินกลบเสียงลมพัด แบบนี้พวกมันก็ไม่ต้องกลัวแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวจ้องมองเชอร์ลี่ย์ “โกรธแค้นอะไรกัน? หนูตั้งใจจะไปขู่พวกมันให้เสียขวัญใช่ไหม?”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset