ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1346 จิตสำนึกเทพทั้งแปดสาย

หลังจากแกะกระดาษสีเหลืองแต่ละชั้นออกแล้ว อำพันทะเลสีเหลืองที่มีรูปร่างเหมือนกับลูกฟุตบอลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินสือโอว
ฉินสือโอวเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เขาอยากจะเข้าไปหยิบลูกบอลอำพันทะเลขึ้นมาแล้วดูดซับพลังที่อยู่ในนั้นจนแทบทนไม่ไหว
ทว่าตอนนี้มีนายทหารชรากับเออร์บักอยู่ด้วย เขาจะทำอย่างใจอยากไม่ได้อยู่แล้ว ชายชรายื่นมือออกไปลูบอำพันทะเลก้อนนั้นแล้วพูดอย่างทอดถอนใจว่า “เฮ้อ ฉันเก็บรักษาของชิ้นนี้ไว้หกสิบเจ็ดสิบปีแล้ว ในที่สุดมันก็ไม่ไร้ประโยชน์อีกต่อไปแล้ว”
ฉินสือโอวพูดพร้อมกับพยายามห้ามตัวเองไม่ให้เขมือบมันลงไป “ปู่เฉินครับ ตอนนั้นปู่ของผมกินของแบบนี้เข้าไปเหรอครับ? ของแบบนี้จะกินได้ยังไง ใช่ไหมล่ะครับ?”
นายทหารเก่าพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว พวกเราก็เคยถามพี่ฉินแบบนี้เหมือนกัน พี่ฉินบอกว่าเขาเป็นโรคประหลาดอย่างหนึ่ง ต่อมาฉันถึงได้คิดว่า บางทีอาจจะเป็นอาการที่หมอสมัยนี้เรียกว่าโรคชอบกินของแปลกอะไรนั่นหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวพยักหน้าพูดว่า “น่าจะใช่นะครับ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบกินเปลือกส้ม แถมยังเป็นเปลือกส้มที่ตากแดดจนแห้งแล้วอีกต่างหาก ตอนที่รู้ ผมก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ”
เขาก็พูดไปเรื่อยไปอย่างนั้น จะให้บอกว่าของประหลาดๆ ชิ้นนี้มีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยเสริมหัวใจโพไซดอนให้เขาแบบนั้นก็คงจะไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?
หลังจากนายทหารเก่าให้ทั้งสองคนดูอำพันทะเลก้อนนี้แล้วเขาก็นำมันกลับไปห่อไว้อีกครั้ง หลังจากนั้นก็ล็อกเก็บไว้ในกล่องไม้แล้วยื่นมันให้กับฉินสือโอวพร้อมกับบอกเขาว่า “ฉันอยากมอบมันให้กับพี่ฉินมาโดยตลอด เฮ้อ โชคชะตาชอบเล่นตลกเสียจริง พวกนายเอามันกลับไปด้วยเถอะ ถ้าไปเยี่ยมหลุมศพเขาอีกก็ช่วยเผามันไปให้พี่ฉินแทนฉันหน่อยนะ แบบนั้นก็ถือว่าฉันได้ทำตามความปรารถนาแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวรับกล่องนั้นมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม นายทหารเก่าหยิบอัลบั้มปึกหนาออกมาแล้วเริ่มพลิกดูมัน สำหรับคนแก่ ความทรงจำน่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบที่สุดแล้ว ขณะที่นายทหารเก่ากำลังไล่พลิกดูอัลบั้มรูปอยู่นั้น เขาก็ไม่พูดอะไรออกมาเลย
ฉินสือโอวกับเออร์บักพากันไปอยู่ตรงมุมประตู พวกเขาปรึกษากันว่า “ปู่เออร์ ผมว่าสภาพการเงินของปู่เฉินน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไร พวกเราควรจะช่วยท่านยังไงดีครับ? ให้เงินไว้สักก้อนดีไหม?”
เออร์บักครุ่นคิดอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “จะให้เงินไว้อย่างเดียวไม่ได้ เอาอย่างนี้สิ ฉันจำได้ว่าที่แวนคูเวอร์มีสถานดูแลทหารผ่านศึกดีๆ อยู่ที่หนึ่ง พวกเราลองไปถามความเห็นของเขาแล้วค่อยพาเขาไปอยู่ที่นั่นดีไหม?”
ที่แคนาดาไม่มีบ้านพักคนชรา แต่จะมีสถานดูแลอยู่สองประเภท คือสถานดูแลสำหรับผู้ใหญ่และศูนย์รับดูแลประเภทสถานพยาบาล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับบ้านพักคนชรา แต่จะมีการแบ่งงานที่ชัดเจนกว่า แบบแรกจะเน้นเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับสังคม เหมาะกับผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียว ในขณะที่แบบหลังจะให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาพยาบาล เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วย
สถานดูแลประเภทนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการพัฒนาทักษะทางสังคม เช่นผู้สูงอายุที่เป็นทหารผ่านศึก โดยจะจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมโอกาสในการสร้างปฏิสัมพันธ์ให้กับพวกเขา
นอกจากนี้แล้ว สถานดูแลของแคนาดายังแบ่งประเภทอย่างค่อนข้างละเอียด ไม่เหมือนกับบ้านพักคนชราทั่วไป ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความชื่นชอบและความต้องการเลยแม้แต่นิดเดียว แค่ส่งผู้สูงอายุเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่นก็ถือว่าจบเรื่องแล้ว  สถานดูแลแบบนี้จะออกเป็นประเภทต่างๆ อย่างเช่นสถานดูแลทหารผ่านศึก ที่ภายในจะมีแต่ทหารผ่านศึก ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีเรื่องให้พูดคุยกันมากกว่า ทั้งยังเข้าใจกันและกันได้ดียิ่งกว่า
แต่ประเภทที่ถูกให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสถานดูแลสำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์โดยเฉพาะ แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยมากถึง 500,000 จาก 30 ล้านคน!
และจากการคาดการณ์ ภายในยี่สิบปีหลังจากนี้จำนวนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในแคนาดาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันเป็นเท่าตัว จากผู้ป่วยจำนวน 480,000 จะเพิ่มขึ้นมากถึง 1.1 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลแคนาดาจึงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคนี้เป็นพิเศษ อีกยี่สิบปีข้างหน้า โรคนี้จะทำให้เกิดความต้องการบริการดูแลระยะยาวเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า และภาระทางเศรษฐกิจที่มาจากการดูแลทางสังคมจะสะสมมากถึง 872 พันล้านดอลลาร์แคนาดา!
เขาปล่อยให้เออร์บักเป็นคนไปคุยเรื่องนี้ ฉินสือโอวต้องคำนึงถึงความเคารพในตัวเองของนายทหารเก่าด้วย เพราะบางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากไปอยู่สถานดูแลก็ได้ เขาคิดว่าถึงอย่างไรทหารผ่านศึกที่จีนก็คงไม่อยากไปอยู่บ้านพักคนชราเหมือนกัน
หลังจากปล่อยให้เออร์บักเป็นคนดูแลเรื่องนี้ ฉินสือโอวก็แอบกลับไปโรงแรมก่อนแล้ว เขาอดไม่ไหวจริงๆ ลองนึกถึงคนที่หิวโหยมาเป็นสัปดาห์แล้วได้มาเห็นไก่ย่างสักตัวดูสิ…
เขาหอบเอากล่องตรงไปหาโรงแรมที่อยู่ข้างๆ กันเพื่อเปิดห้องพัก ขณะที่กำลังจัดหาห้องพักพนักงานโรงแรมก็มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ
ฉินสือโอวกระวนกระวายใจจนอยู่ไม่สุข เขายื่นมือออกไปเคาะกล่องอยู่เรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย
พนักงานยื่นบัตรผ่านประตูให้เขา หลังจากนั้นก็พูดกับเขาด้วยรอยยิ้มคลุมเครือว่า “คุณผู้ชายมาเที่ยวเหรอครับ? ต้องการพนักงานบริการพิเศษไหมครับ? โรงแรมของเรามีสาวๆ สวยๆ อยู่ด้วยนะครับ”
“เอาน้องสาวนายน่ะสิ!” ฉินสือโอวด่าไปหนึ่งที แล้วจึงหอบกล่องเดินขึ้นไปบนตึก
พนักงานโรงแรมวิเคราะห์คำพูดของเขาอยู่สักพัก แล้วหลังจากนั้นก็ตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา “1055 แขกผู้ชายหนึ่งคน หาผู้หญิงที่ยังสาวๆ หน่อยไปส่งให้เขาด้วย”
แต่ฉินสือโอวไม่ได้รู้เลยว่าความรีบร้อนของเขาทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเข้าเสียแล้ว พอเข้ามาในห้องพักเขาก็ตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที เปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำแล้ววางอำพันทะเลก้อนนี้ลงไป
อำพันทะเลไม่ถูกน้ำท่วมจนทั่ว เขาจึงจะไม่สามารถดูดซับพลังออกมาได้ ทำให้เขารู้สึกร้อนใจอย่างหนัก ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของนายทหารเก่าขึ้นมา ปู่สองของเขากินของพวกนี้เข้าไปโดยตรง บางทีแบบนั้นอาจจะทำให้เขาให้พลังได้ดีกว่าเดิมก็ได้
ด้วยความคิดนี้ ฉินสือโอวจึงทุบแก้วใบหนึ่งให้แตก เขาหยิบเศษแก้วมาขูดให้มันกลายเป็นผง หลังจากนั้นก็เอามันใส่ปากแล้วหลับตาลงเพื่อให้สัมผัสรสชาติได้อย่างเด่นชัด
อืม รสชาติของมันช่าง…ไม่อร่อยเลยโว๊ย! เหมือนกินเศษหินอย่างไรอย่างนั้น รสชาติฝาดเฝื่อน เขาฝืนกลืนลงไปแล้วบางส่วน แต่ก็ไม่เห็นจะสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวของหัวใจโพไซดอน
เห็นได้ชัดว่าการซึมซับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนด้วยวิธีนี้ไม่มีประโยชน์กับเขา ฉินสือโอวจึงเลิกล้มวิธีนี้อย่างเด็ดขาด แล้วหันไปรอให้น้ำในอ่างท่วมอำพันทะเลจนหมด เขาใช้มือทั้งสองข้างปิดทับมันไว้พร้อมกับหลับตาลงเพื่อเตรียมตัวพบกับความรู้สึกเป็นสุขเหมือนล่องลอยอยู่บนสวรรค์
ปรากฏว่าเสียงเคาะประตูห้องกลับดังขึ้นมาในเวลานี้
ฉินสือโอวสบถด่าในใจไปหนึ่งคำ พอเขาส่องตาแมวบนประตูห้องเพื่อมองออกไปข้างนอก ก็เห็นผู้หญิงผมบลอนด์แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านกำลังยืนส่งสายตาหยาดเยิ้มให้เขาอยู่ทางด้านนอก
เขาเปิดประตูออกไปด้วยความตกตะลึง แล้วถามเธอว่า “คุณเป็นใครเหรอครับ มีธุระอะไรหรือเปล่า?”
สาวสวยยื่นมือออกมาลูบไล้หน้าอกของเขา เธอพูดพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมาให้ “คุณผู้ชายคะ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าอยากได้สาวสวยสักคน?”
ใช่กับผีน่ะสิ! ฉินสือโอวบอกเธอว่า ‘มาหาผิดคนแล้ว’ แล้วจึงปิดประตูทันที คราวนี้เขาปิดล็อกแล้วเรียบร้อย หลังจากนั้นจึงถลาเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร่งรีบ ใช้สองมือปิดทับอำพันทะเลเพื่อเริ่มดูดซับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน
ความรู้สึกเป็นสุขที่คุ้นเคยปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขาเอาไว้ ราวกับว่าทุกเซลล์ในร่างกายได้ปะทุตัวออกมา และเหมือนว่าความสุขที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เข้าควบคุมทุกๆ เซลล์และเส้นประสาทของเขาทุกเส้นเอาไว้หมดแล้ว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ณ เวลานี้
ความรู้สึกสบายกายไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ฉินสือโอวอยากรู้ว่าในครั้งนี้หัวใจโพไซดอนมีอะไรที่เหนือชั้นขึ้นบ้าง เพราะถึงอย่างไรอำพันทะเลก้อนนี้ที่เขาดูดซับพลังเข้าไปก็มีขนาดใหญ่พอสมควร
เมื่อปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่สายออกไป สิ่งแรกที่ฉินสือโอวสังเกตเห็นก็คือการเปลี่ยนแปลงของจำนวน ที่ไม่ได้มีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่แค่สี่สาย ตอนนี้เขามีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนถึงแปดสายด้วยกัน อีกทั้งขอบเขตในการควบคุมพลังก็ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดสายถูกส่งออกมาพร้อมกัน และเขายังสามารถควบคุมอาณาเขตหลายร้อยลูกบาศก์กิโลเมตรได้ภายในครั้งเดียว!
นอกจากนี้แล้ว ก็เหมือนว่าจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ อีก ฉินสือโอวลองสัมผัสดูอยู่สักพัก เขามีความรู้สึกที่ไวต่อสัตว์น้ำสติปัญญาสูงมากยิ่งขึ้น การถ่ายทอดคำสั่งก็ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว
ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ อำพันทะเลขนาดใหญ่เท่านี้ต้องเสริมความแข็งแกร่งให้เขาได้มากกว่านี้ถึงจะถูกต้อง
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset