ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1378 ปลาโครงกระดูก

เมื่อพบปลาตัวเล็กๆ เหล่านี้ ฉินสือโอวจึงรวบรวมพวกมันและมองดู พบว่าปลาชนิดนี้มีจำนวนไม่มาก ซึ่งมีประมาณสี่ถึงห้าร้อยตัว สำหรับบริเวณภูเขาไฟใต้ทะเลที่ทอดยาว ความยาวเท่านี้จึงมีขนาดเล็กไปหน่อย
ตอนที่เขาค้นพบ ยังมีปลาตัวเล็กๆ บางตัวทำความสะอาดปลาและกุ้งที่หาทางเข้ามา ฉินสือโอวเห็นว่าปากของปลาตัวเล็กๆ เหล่านี้เปิดและปิดได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับที่ดูดเล็กๆ ซึ่งมันสามารถดูดพยาธิหรือเนื้อเยื่อที่ตายแล้วจากตัวปลาและกุ้งได้
หลังจากคิดเรื่องนี้ได้สักพัก เขาจึงตัดสินใจที่จะเอาพวกมันเป็นร้อยๆ ตัวกลับไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ป้อนพลังโพไซดอนให้พวกมันเป็นจำนวนมากด้วย
เมื่อรู้สึกถึงพลังโพไซดอนที่กำลังหลั่งไหลออกมา งูเหลือมทะเลจอมหน้าด้านรอบๆ ก็ขยับเข้ามาทันทีพร้อมกับมองหาพลังโพไซดอนด้วยความสนใจและบางตัวก็อ้าปากกินปลาตัวเล็กที่เต็มไปด้วยพลังโพไซดอนเข้าไป
ฉินสือโอวรีบควบคุมงูเหลือมยักษ์เหล่านี้ทันที ไม่เพียงแต่สั่งไม่ให้พวกมันกินปลาตัวเล็กชนิดนี้แล้ว และยังให้งูเหลือมยักษ์คุ้มครองพวกมันด้วย เพื่อให้พลังโพไซดอนในปลาตัวเล็กเหล่านี้จะมีมากขึ้นและเพื่อไม่ให้กลายเป็นอาหารของปลาตัวใหญ่ใต้ท้องทะเลได้ง่าย
น่าเสียดายที่งูเหลือมทะเลโตแต่หัว แต่จริงๆ แล้วไม่มีสมอง พวกมันจึงเข้าใจแค่คำสั่งห้ามไม่ให้กินปลาตัวเล็ก แต่ไม่สามารถคุ้มครองพวกมันได้
ฉินสือโอวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายเกิดความคิดใหม่ขึ้น เขาเอาปลาตัวเล็กและงูเหลือมยักษ์มารวมกัน เพื่อให้พวกมันอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งนี่ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะบนตัวของงูเหลือมยักษ์มีแบคทีเรียและพยาธิจำนวนมาก นอกจากนี้เนื่องจากการเคี้ยวปลาและกุ้งจึงมักจะมีสิ่งตกค้างอยู่ระหว่างซอกฟัน ทำให้ปลาตัวเล็กพวกนี้สามารถเข้ามากินได้
เมื่อมีความคิดนี้ ฉินสือโอวจึงเริ่มลงมือทำ โดยการถ่ายทอดความคิดที่จะไม่ทำร้ายปลาตัวเล็กก่อน จากนั้นถึงจะควบคุมปลาตัวเล็กให้เข้าใกล้ๆ งูเหลือมทะเล
ความกล้าของปลาตัวเล็กกับขนาดของพวกมันมีเล็กน้อยเหมือนกัน เว้นแต่ฉินสือโอวจะควบคุมพวกมัน ไม่อย่างนั้นพวกมันจะไม่กล้าโผล่ออกมาต่อหน้างูเหลือมทะเล แต่ถ้าพวกมันไม่โผล่ออกมาแล้วจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร?
ฉินสือโอวควบคุมปลาตัวเล็กสองสามตัวให้เข้าไปในปากของงูเหลือมยักษ์ หลังจากปล่อยการควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนแล้ว ปลาตัวเล็กเหล่านี้ก็จะไม่กลัวและยังว่ายน้ำไปมาอย่างอิสระในปากงูเหลือมยักษ์ได้อีกด้วย จากนั้นก็จะใช้ปากเล็กๆ เริ่มดูดเศษเนื้อตามซอกฟันของงูเหลือมยักษ์
หลังจากร่วมมือช่วยเหลือกันแบบนี้อยู่หลายครั้ง ปลาตัวน้อยก็พบว่างูเหลือมยักษ์ไม่ได้เป็นอันตรายต่อพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงมีความกล้ามากขึ้นและไม่กลัวงูเหลือมยักษ์อีกต่อไป
กุ้งขาวหลายตัวที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของน้ำร้อนได้แล้วก็ค้นพบสิ่งนี้เช่นกัน ที่แท้งูเหลือมยักษ์ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ แต่จริงๆ แล้วมันไม่เป็นอันตรายเลย ดังนั้นพวกมันจึงเข้าใกล้ได้อย่างปลอดภัย
งูเหลือมยักษ์มองพวกมันด้วยสายตาเย็นชาและพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วพร้อมกับอ้าปากกว้างกินกุ้งขาวเข้าไปจนไม่เหลือสักตัว!
เป็นเรื่องยากที่ปลาตัวน้อยที่เพิ่งดึงความกล้าหาญออกมาต้องตกใจกลัวจนฉี่แทบราดเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ทันใดนั้นพวกมันก็หนีกระเจิงและพากันไปซ่อนตัวตามแนวหินปูนและหินโสโครก
ฉินสือโอวทำได้เพียงปล่อยให้งูเหลือมยักษ์บุกเข้าไปตามแนวหินปูนและหินโสโครกก่อน ด้วยการเฝ้าระวังของพวกมัน ไม่ควรจะมีปลาและกุ้งกล้าจับปลาตัวเล็กเป็นอาหาร แล้วการอยู่ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายล่ะ? ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นการวางแผนในระยะยาว
หลังจากทำแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวก็เช็ดตัวและสวมเสื้อผ้า หู่จือและเป้าจือก็เพิ่งกระโดดลงไปในน้ำสักพักและเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกมันนั่งยองๆ ในน้ำและโผล่ขึ้นมาแค่หัวพร้อมกับมองไปที่ฉินสือโอวที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเช็ดตัว พวกมันจึงคิดว่าเขากำลังโยนผ้าเช็ดตัวเล่นกับพวกมัน พวกมันจึงพรวดพราดขึ้นไปเล่นด้วยอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฉินสือโอวจะเช็ดตัวให้แห้งได้ สุดท้ายก็กลับมาเปียกอีกครั้ง เขาผลักหู่จือและเป้าจือออกไปอย่างจนปัญญาและชี้ไปที่ฉงต้าพร้อมกับพูดว่า “ไปๆๆ ไปเล่นกับฉงต้า”
หลังจากจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็เช็ดตัวต่อไป แต่ละอองน้ำก็ยังคงกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง อีกทั้งผ้าเช็ดตัวในมือของเขาก็ขาดและตกลงไปในน้ำอีกด้วย จึงทำให้มันไม่สามารถใช้ต่อได้แล้ว
ฉินสือโอวจ้องไปที่หู่จือและเป้าจืออย่างทำอะไรไม่ได้ เจ้าแลบราดอร์ก็จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตากลมโตไร้เดียงสา เป้าจือมองซ้ายมองขวาและเห็นว่าแมวป่ากำลังนอนอยู่บนสระ ก็รีบเข้าไปลากคอมันลงน้ำทันทีและโยนหัวของมันใส่ผ้าขนหนู
ราชาเจ้าป่าซิมบ้ากระวนกระวายพร้อมกับสะบัดแขนขาในน้ำอย่างสุดชีวิต แขนขาทั้งสี่ของมันแกว่งไปมา แต่หางของมันกลับเหยียดตรง เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นกำลังตกน้ำ
ฉินสือโอวรีบพามันขึ้นมาทันทีและถูกเป้าจือทำร้ายจนมีบาดแผลที่ก้น จากนี้ไปใครที่บอกกับเขาว่าแลบราดอร์จะเชื่อฟังและว่านอนสอนง่ายตอนโตเต็มวัย เขาจะตีคนคนนั้นให้พูดไม่ออกเลยทีเดียว
แลบราดอร์เริ่มซนมากขึ้นเรื่อยๆ สุนัขบ้านอื่นตอนเล็กๆ ก็พากันซนแต่พอโตขึ้นก็เชื่อฟัง แต่หู่จือและเป้าจือเมื่อพวกมันยังเด็กก็ทั้งเชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย แต่ตอนนี้ก็ได้เริ่มเข้าวัยซุกซันของมันแล้ว
สิ่งนี้ทำให้ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฮัสกีหัวหน้าทีมรื้อถอน เขารู้สึกว่าแลบราดอร์ของตัวเองแม้ว่าจะไม่มีสายเลือดของฮัสกี แต่พวกมันก็ต้องมีความสัมพันธ์ห่างๆ กันแน่นอน ตอนนี้ยกเว้นแค่ไม่ฉีกสิ่งของขาด แต่ในด้านอื่นๆ พวกมันก็พอๆ กับฮัสกี
ในเมื่อหมดหนทาง ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงสวมชุดคลุมอาบน้ำออกไป หู่จือและเป้าจือปีนขึ้นมาจากสระว่ายน้ำพร้อมกับก้มหน้ามอง ดูเหมือนพวกมันจะละอายใจเล็กน้อย
ฉินสือโอวจะไม่ถูกการแสดงของพวกมันหลอกได้อีก เขามองดูเจ้าเด็กน้อยทั้งสองด้วยสายตาที่เย็นชาและเมื่อพวกมันปีนขึ้นมาได้ครึ่งทาง เขาก็รีบวิ่งไปและเตะพวกมันลงน้ำทันที จากนั้นก็หัวเราะขึ้นอย่างไม่อาย
ราชาเจ้าป่าซิมบ้า หัวไชเท้าน้อยและพี่น้องเฟอเรทที่อยู่บนฝั่งก็กลับกลับมาด้วยกันและใช้สายตาที่หวาดกลัวจ้องมองไปที่ฉินสือโอว ให้ตายเถอะ มันแย่จริงๆ มีเจ้าของที่ซื่อบื้อแบบนี้ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไมถึงมีแลบราดอร์แบบนี้
เมื่อตัวยังไม่แห้ง ฉินสือโอวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสวมเสื้อคลุมอาบน้ำขับเรือออกทะเลเพื่อเอาปลาตัวเล็กๆ กว่าหนึ่งร้อยตัวกลับมา
เมื่อมองดูปลาตัวเล็กชนิดนี้หลังจากขึ้นจากน้ำแล้วก็เห็นได้ชัดว่าพวกมันโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ พอมองใส่กับแสงอาทิตย์แล้ว แทบจะเห็นกระดูกของพวกมันทุกตัวและทำให้รู้ว่ากระดูกของปลาเป็นสีขาว!
แต่แบบนี้ก็ทำให้เห็นว่าปลาตัวเล็กชนิดนี้น่ารักมากเป็นพิเศษ ฉินสือโอวไม่เคยค้นหาตัวตนของพวกมันเจอบนอินเทอร์เน็ตเลย เขาจึงตั้งชื่อให้พวกมันว่าปลาโครงกระดูก…
หลังจากเอาปลาตัวเล็กเหล่านี้ใส่ลงในสระน้ำพุร้อนแล้ว ฉินสือโอวก็ป้อนพลังโพไซดอนให้พวกมันอีกครั้งและให้ความสำคัญกับสภาพความเป็นอยู่ของพวกมันอย่างระมัดระวัง
น้ำในสระน้ำพุร้อนและน้ำทะเลมีความเค็มต่างกัน แรงดันน้ำก็แตกต่างกันเล็กน้อย ปลาตัวเล็กเหล่านี้จึงดูอ่อนโยนและน่ารัก เขากังวลว่าพวกมันจะทนไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและตายไป
แต่ธรรมชาติมักจะสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนเสมอ ยิ่งเป็นสายพันธุ์ที่อ่อนโยนมากเท่าไร ความมีชีวิตชีวาก็จะเข้มแข็งมากเท่านั้น อย่างเช่นพยาธิต่างๆ หลังจากเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแล้ว ความมีชีวิตชีวาของปลาโครงกระดูกกลับไม่ได้ลดลงเลย พวกมันสามารถว่ายน้ำในสระได้อย่างอิสระ
ฉินสือโอวรู้สึกโล่งใจ เขาจึงกลับไปที่วิลล่าและเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเดินเซไปมาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอเดินอย่างคดเคี้ยวและท่าทางการเดินของเธอก็ดูราบรื่นขึ้นมากแล้ว
เมื่อเห็นลูกสาวกำลังเดินไปมาในบริเวณของตัวเอง ฉินสือโอวจึงไปอุ้มเธอเพื่อไม่ให้เด็กหญิงเดินต่อ
ไม่นานมานี้วินนี่เพิ่งเล่าเรื่องสถานการณ์ของเสี่ยวเถียนกวาให้กับหมอโอดอมฟัง โอดอมบอกเธอว่าเพื่อการเติบโตที่แข็งแรงของเด็กทารก ไม่จำเป็นต้องรีบหัดเดินให้เร็วเกินไป
ลักษณะทางสรีรวิทยาของทารกคือมีคอลลอยด์มากและมีแคลเซียมน้อยในกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนและผิดรูปได้ง่าย โดยเฉพาะการพัฒนาของกล้ามเนื้อขาส่วนล่างและกลุ่มกล้ามเนื้อมัดเล็กที่รักษาส่วนโค้งของเท้ายังไม่สมบูรณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าเด็กถูกสอนให้เดินก่อนกำหนด น้ำหนักของร่างกายจะเพิ่มภาระให้กับกระดูกสันหลังและขาส่วนล่าง เมื่อเวลาผ่านไปกระดูกสันหลังและขาส่วนล่างจะผิดรูป หลังจะค่อม “ขาฉิ่ง” และ “ ขาโก่ง” จะส่งผลต่อรูปร่างและยังเป็นโรคเท้าแบนได้ง่าย
………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset