ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1379 เงินซื้อขายสินค้า

เสี่ยวเถียนกวาชอบการเคลื่อนไหวมากเหมือนกับเด็กๆ ส่วนใหญ่ และความสามารถด้านกีฬาของเธอก็โดดเด่นมาก ไม่รู้ว่าตัวเล็กๆ แค่นี้ไปเอาพลังงานมากมายมาจากไหน เมื่อก่อนตอนที่เธอคลานก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ตอนนี้พอตัวเองเดินได้แล้ว เธอก็แทบจะเดินด้วยตัวเองทุกครั้ง
ฉินสือโอวสังเกตเห็นถึงจุดนี้ ช่วงตอนเย็นจึงไปคุยกับวินนี่สักพักแล้วถามว่าจะต้องพาเด็กหญิงตัวน้อยไปโรงพยาบาลเด็กดูไหม วินนี่จึงพูดอย่างไม่แน่ใจว่า “ไม่ต้องหรอก ชอบออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี หมอโอโดมบอกว่าขอแค่อย่าทำให้พัฒนาการกระดูกของเธอมีปัญหาก็จะพอแล้ว เพราะมันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเธอ”
ในเมื่อวินนี่พูดเช่นนั้น ฉินสือโอวก็รู้สึกโล่งใจ เขาเปิดโทรทัศน์ดูข่าว ทันใดนั้นก็มีการรายงานข่าวข่าวหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจเขา บริษัทบอมบาร์เดียร์เรียกประชุมไต่สวนผู้ถือหุ้นที่สำนักงานใหญ่ในมอนทรีออลและประกาศว่า บริษัทจะปลดพนักงานประมาณหนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ตามการรายงานข่าว ตำแหน่งงานชุดนี้ที่วางแผนจะยกเลิกมีประมาณหนึ่งตำแหน่งซึ่งเป็นคนที่มาจากมอนทรีออล ส่วนอีกสี่ร้อยแปดสิบตำแหน่งมาจากโทรอนโตและสองร้อยแปดสิบตำแหน่งอยู่ที่ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งการได้รับผลกระทบจากการปลดพนักงานในครั้งนี้ มีทั้งสมาชิกสหภาพแรงงานและสมาชิกที่ไม่ใช่สหภาพแรงงาน นอกจากนี้ยังมีพนักงานที่เซ็นต์สัญญาอีกด้วย!
“ตามการรายงานข่าวและการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญของสถานีโทรทัศน์ช่องนี้กล่าวว่า การปลดพนักงานของบริษัทบอมบาร์เดียร์ จะเริ่มในเดือนมิถุนายนของปีนี้และจะยาวไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2016…” พิธีกรประกาศข่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
วินนี่ทั้งดูข่าวไปด้วยทั้งแกล้งลูกสาวไปด้วย เธอถอนหายใจและพูดว่า “โอ้พระเจ้า บริษัทบอมบาร์เดียร์เริ่มปลดพนักงานแล้วเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนจำนวนมากต้องถูกปลดออกจากงาน เศรษฐกิจของแคนาดากำลังประสบปัญหาอย่างแท้จริง”
แม้ว่าบริษัทบอมบาร์เดียร์จะไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา แต่เนื่องด้วยคุณสมบัติของบริษัทอุตสาหกรรมการก่อสร้างประเภทนี้จึงสามารถจัดหาตำแหน่งงานได้ดีที่สุด ดังนั้นเมื่อพวกเขาเริ่มปลดพนักงานออก นั่นก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างแย่แล้ว
ฉินสือโอวนึกถึงคำพูดของจอร์จที่เคยบอกไว้ในตอนแรกว่า จริงๆ แล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าสู่บริษัทบอมบาร์เดียร์ แม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทที่ถือหุ้น แต่ก็ยังดีที่สามารถมีส่วนร่วมในการร่วมมือกับรัฐบาล
เมื่อนึกขึ้นได้ เขาจึงโทรศัพท์หาแบรนดอนและถามว่า “แร่ทองคำมีการจัดการเป็นอย่างไรบ้าง?”
แบรนดอนพูดอย่างกลุ้มใจว่า “มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก นายต้องรอสักพักหนึ่งเลย ตอนนี้ทองคำเพิ่งถูกกลั่นออกมาปริมาณมากถึงสิบสองตัน ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องจัดการกับทองคำมากมายขนาดนี้!”
“แล้วจะจัดการเสร็จเร็วที่สุดเมื่อไร?” ฉินสือโอวกล่าว
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ค่อนข้างรีบร้อนของเขา แบรนดอนก็ถามว่า “นายรีบใช้เหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินนายพูดเรื่องเงินด้วยน้ำเสียงแบบนี้”
สำหรับคนเหล่านี้ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ฉินสือโอวจึงพูดตามความเป็นจริงไปว่า “ใช่ ฉันวางแผนว่าช่วงระยะเวลาใกล้ๆ นี้จะลงทุนกับบริษัทอุตสาหกรรม แต่ตอนนี้ฉันมีเงินติดตัวไม่มากพอ”
แบรนดอนได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มสนใจขึ้นมาทันทีและถามว่า “บริษัทอะไร?”
ฉินสือโอวจึงอธิบายสถานการณ์ของบริษัทบอมบาร์เดียร์ แบรนดอนพูดว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมนายต้องรอทองล็อตนี้ล่ะ? ทำไมต้องเอาเงินตัวเองออก? ตอนนี้นายเป็นเจ้าของฟาร์มปลาขนาดใหญ่ นี่นายเป็นเจ้าฟาร์มปลารายใหญ่เลยนะ ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะกู้เงินจากธนาคาร!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของฉินสือโอวก็กระจ่างขึ้นทันที เขาลูบหน้าผากไปมา เพราะเขาไม่เคยกู้ยืมเงินมาก่อนเลย เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ใช่สิ เขาสามารถใช้เงินธนาคารมาบริหารเองก่อนได้
แบรนดอนทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ฉินสือโอวถามเขาว่าตัวเองสามารถให้ยืมเงินได้เท่าไร แบรนดอนว่า “นายสามารถยืมได้อย่างน้อยห้าร้อยล้าน ถ้านายไม่ต้องการดอกเบี้ยสูง นายสามารถเพิ่มได้อีกห้าร้อยล้าน!”
จำนวนเงินทั้งสองนี้ทำให้เขาตกตะลึงมากและเขาก็ถามกลับว่า “พระเจ้า ฉันสามารถยืมหนึ่งพันล้านในตอนนี้ได้ไหม?!”
“ปกติแล้วไม่สามารถทำได้ ถ้าเพิ่มฟาร์มปลาและยานพาหนะของนายเข้าไปก็สามารถยืมได้เพียงสี่ร้อยถึงห้าร้อยล้าน ดอลลาร์แคนาดา แต่ก็มีฉันไม่ใช่เหรอ? ฉันช่วยนายหาวิธีเพื่อให้ได้เงินถึงหนึ่งพันล้านได้อย่างไม่มีปัญหา” แบรนดอนกล่าว
ฉินสือโอวฮึกเหิมขึ้นมาทันที ถ้าเขาสามารถได้เงินหนึ่งพันล้านได้ ก็จะสามารถมีความสัมพันธ์แบบไตรภาคีกับบริษัทบอมบาร์เดียร์และรัฐบาลควิเบกที่เป็นตัวแทนของฌับลี ในอนาคตผลกำไรของเขาจะยิ่งมากขึ้นเป็นธรรมดา
แล้วการคืนเงินล่ะ? ความน่าจะเป็นไปได้น่าจะมีไม่มาก รัฐบาลควิเบกจะช่วยเขาหาวิธีหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะขาดทุน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ถ้ารัฐบาลควิเบกขาดทุนแปดร้อนล้านดอลลาร์แคนาดาในทันที การประชุมรัฐทั้งหมดจะต้องถูกยุบ
ด้วยการรับประกันของแบรนดอน ทำให้ฉินสือโอวมีแผนในใจ แบรนดอนถามเขาว่าต้องการเงินกู้จริงๆ ใช่ไหม ฉินสือโอวได้ตัดสินใจอย่างแน่ชัดแล้วว่าจะให้เขาช่วยยืมเงินห้าร้อยล้านดอลลาร์แคนาดามาให้ก่อน
แบรนดอนบอกว่าไม่มีปัญหา ดังนั้นเรื่องนี้จึงตกลงกันแบบนี้
ฉินสือโอววางสายโทรศัพท์และรู้สึกว่าเลือดในตัวของเขากำลังเริ่มเดือดพล่านขึ้น เขาคิดว่าตัวเองไม่มีเงินแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น การบูชาเงินของผู้คนได้ฝังลึกเข้าไปในกระดูกดำแล้ว
จากนั้นไม่นาน เหมาเหว่ยหลงก็โทรศัพท์มาและวิดีโอแชทพูดคุยกับเขา เขากำลังมีปาร์ตี้บาร์บีคิวและบนกองไฟก็มีแกะทั้งตัวย่างอยู่ พวกเขาจึงกวักมือเรียกเขาไปกินแกะย่าง
ฉินสือโอวเห็นพวกเขากำลังเพลิดเพลินกันอย่างมีความสุข จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้ง จึงชูนิ้วกลางขึ้นใส่และพูดว่า “กินเถอะๆ ตอนนี้โรคไข้คิวกำลังระบาดในแคนาดาพวกแกควรระวังเรื่องนี้ให้มากและอย่าให้ตัวเองหนักถึงแปดสิบหรือหนึ่งร้อยกิโลกรัมด้วย”
เฉินเหลยตะโกนว่า “เฮ้ ฉินนายกำลังด่าพวกเราอยู่นะ”
ฉินสือโอวยิ้มอย่างอิ่มอกอิ่มใจและพูดว่า “ใช่ ฉันด่าพวกนาย พวกนายจะทำอะไรฉันได้?”
คนพวกนั้นไม่ได้ทะเลาะกับเขา แต่กลับมาคุยกันใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ซ่งจวินเหมยโบกมือให้ฉินสือโอวและมองเขาด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจและพูดว่า “ฉิน โน จั้ว โน ดาย วาย ยู ไทร?”
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร บังเอิญวินนี่กำลังเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่พอดีก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “โคโกโร่ส่งวิดีโอมาให้ฉัน ในนั้นมันคืออะไร?”
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวจึงรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี จากนั้นก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ลบทิ้งไปเลย เจ้านั่นจะส่งอะไรดีๆ ให้นายได้อย่างไรล่ะ? เดาว่าคงต้องการจะแกล้งเรา อย่าหลงกลนะ รีบลบทิ้งเลย”
วินนี่มองเขาด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มและพูดว่า “คุณดูเหมือนจะกังวลนะ”
ฉินสือโอวยิ้มแห้งและพูดว่า “ผมกังวลอะไรกัน? ผมก็แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่สบายใจ”
เมื่อวินนี่เปิดวิดีโอ ก็มีเสียงร้องของผีและหมาป่าดังขึ้น ฉินสือโอวมองไม่เห็นว่าในนั้นคืออะไร จึงพูดได้แค่ว่า “คุณดูสิ ผมพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ? โคโกโร่ไม่เคยทำเรื่องดีๆ หรอก”
วินนี่ยังคงดูต่อไป จากนั้นเธอก็สวมหูฟัง เธอทั้งดูวิดีโอทั้งเหลือบมองฉินสือโอวไปด้วย
ฉินสือโอวเข้าไปดูใกล้ๆ ว่าในนั้นคืออะไร สีหน้าของวินนี่ก็เคร่งเครียดและให้เขานั่งตรงหน้า จากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า “ให้ฉันดูจบก่อน แล้วฉันจะคิดบัญชีกับคุณ!”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จึงพูดว่า “คิดบัญชีอะไรกับผม? คุณไม่รู้จักผมดีเลยนะ?”
วินนี่หัวเราะเยาะพลางถอดหูฟังออกแล้วถามว่า “เซี่ยจือหลินคือใคร?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว เขาจึงยกนิ้วขึ้นและพูดว่า “ที่รัก ผมกล้าสาบานต่อพระเจ้าได้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเซี่ยจือหลินไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน!”
หลังจากแบบนั้น รอยยิ้มของวินนี่ก็สวยหยาดเยิ้มมากขึ้น
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset