ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1387 คำเชิญของเอ็นแอลซีซี

คาปาไลต้อนรับอย่างเอาใจใส่มาก ชาวคิวบามีความประทับใจต่อชาวจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มสังคมนิยม ไม่อย่างนั้นคาปาไลและซ่งชิงชาน คนแปลกหน้าสองคนก็คงจะไม่ไปด้วยกันจนสนิทสนมกันขนาดนี้
ในขณะที่ทั้งรับประทานอาหารและพูดคุยไปด้วยนั้น ซ่งชิงซานก็ยังคงยิ้มพร้อมกับพูดคุย เมื่อคาปาไลเห็นเขาในตอนแรก จึงเรียกเขาออกไปว่าเพื่อนยาก ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเรียกคำว่า ‘สหาย’ คำนี้แทน จึงทำให้ไม่คุ้นชินกับมัน
คาปาไลพูดอย่างเขินอายว่า “เมื่อก่อนตอนที่อยู่โรงกลั่นไวน์ หัวหน้าวิศวกรของเราก็เป็นเพื่อนชาวจีน พวกเราจึงพากันเรียกเขาแบบนั้นกัน”
คำว่า ‘สหาย’ คำนี้คาปาไลออกเสียงเป็นภาษาจีน เพราะภาษาจีนกลางเขาพูดได้ค่อนข้างเป็นมาตรฐาน และได้มาตรฐานมากกว่าพ่อและแม่ฉิน
สำหรับมื้อนี้ ฉินสือโอวพอใจกับอาหารมากและเขายังได้เห็นวิธีการทำอาหารใหม่ๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะจานที่ชื่อว่า ‘ราชินีแห่งทะเลแคริบเบียน’ จานนี้ทำจากกุ้งมังกร โดยนำมานึ่งจนสุก เมื่อแกะเนื้อกุ้งออกจะใช้เปลือกกุ้งมาประกอบกันเป็นรูปดอกไม้ จากนั้นก็นำเนื้อกุ้งมาสับกับหอมใหญ่และโรสแมรีผสมกับเครื่องเครื่องปรุงอื่นๆ สุดท้ายก็ตักใส่ช้อนแล้วก็กิน
นอกจากนี้ยังมีอาหารหลักที่ชื่อว่ากงรี เป็นอาหารที่ใช้ข้าวขาวและถั่วหลากสีมาต้มเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเติมน้ำมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวอมหวาน พอฉินสือโอวกินเข้าไปก็รู้สึกสดชื่นมาก เขาจึงตัดสินใจว่าจะกลับไปทำ
คาปาไลบอกว่าอาหารจานนี้เป็นราชาแห่งอาหารคิวบา มันดูเหมือนจะง่าย แต่จริงๆ แล้วทำยากมาก เขาพูดว่า “ภรรยาของผมทำอาหารอร่อย แต่น่าเสียดายที่ผมไม่เคยเรียนรู้งานฝีมือจากเธอเลย ผมเสียดายมากที่มักจะขี้เกียจเวลาที่อยู่บ้าน จึงไม่ได้เรียนรู้วิธีศิลปะการเข้าครัวเลย”
ฉินสือโอวมองไปที่อาหารแสนอร่อยบนโต๊ะ จากนั้นก็มองไปที่ซ่งชิงซาน ซ่งชิงซานจึงยืนขึ้นอย่างมีสติและพูดว่า “พวกคุณคุยกันไปเลย ผมจะไปทำความสะอาดก่อน”
เมื่อทานเสร็จ ฉินสือโอวต้องการจะกลับ แต่คาปาไลขอให้เขารอสักครู่และหยิบกล่องสี่เหลี่ยมออกมา หลังจากเปิดออกมาแล้วก็พบว่าข้างในนั้นก็คือซิการ์
“ผมนำสิ่งนี้มาจากบ้านเกิด ไม่ใช่ของแบรนด์เนมอะไร แต่พี่ชายของผมม้วนมันเองกับมือ ซิการ์ที่เขาม้วนมีชื่อเสียงมากในฮาวานาและเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คุณฉินนี่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากผม หวังว่าหลังอาหารมื้อนี้คุณจะเพลิดเพลินกับมันได้” เขากล่าว
วินนี่จึงช่วยรับไว้แทนฉินสือโอว จากนั้นทิ้งหมายเลขเอ็มเอสเอ็นของเธอไว้และพูดว่า “ให้เอลิซาเพิ่มฉันเป็นเพื่อน ถ้าเธอมีข้อสงสัยอะไร ฉันสามารถช่วยได้”
เย็นวันนั้นผ่านไปอย่างมีความสุข เมื่อฉินสือโอวขับรถออกมาได้ไกลแล้ว จึงมองกลับก็พบว่าคาปาไลและซ่งชิงซานยังคงโบกมืออยู่ที่ประตู
วันรุ่งขึ้น ฉินสือโอวก็พาเด็กๆ วัยรุ่นไปเริ่มซื้ออุปกรณ์และของขวัญสำหรับวันฮาโลวีนในอินเทอร์เน็ต
เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น หลังจากรับสายแล้วฝั่งนั้นก็พูดว่า “สวัสดีครับคุณฉิน เราคือคณะกรรมการการทำปุ๋ยหมักแห่งนิวฟันแลนด์ สวนผักของคุณเก็บเกี่ยวฟักทองได้ถึงสองพันปอนด์ใช่ไหมครับ?”
คณะกรรมการการทำปุ๋ยหมักแห่งนิวฟันแลนด์? นี่มันอะไรกัน? ฉินสือโอวรู้สึกงงในใจจึงตอบกลับไปว่า “ไม่ถึงสองพันปอนด์หรอก แต่น่าจะมากกว่าหนึ่งพันเก้าร้อยปอนด์ ทำไมเหรอครับ?”
เมื่อได้ยินคำตอบของเขา คนฝั่งนั่นก็ตกใจและร้องเสียงสูงกันแล้วพูดว่า “เป็นอย่างนี้นี่เอง คุณฉิน เราจะจัดการแข่งขันการชั่งน้ำหนักฟักทองภายในบริเวณนิวฟันด์แลนด์ จึงอยากจะเชิญชวนให้คุณเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ สถานที่จัดงานอยู่ที่ตลาดเกษตรปากิลาในเซนต์จอห์น ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจไหม?”
ฉินสือโอวจึงให้พวกเขารอสักครู่และถามว่า “คณะกรรมการการทำปุ๋ยหมักแห่งนิวฟันแลนด์คืออะไร?”
เออร์บักอธิบายว่า “NLCC มีชื่อเต็มว่า Composting Council of Newfoundland & Labrador ซึ่งเป็นสมาคมพื้นเมืองที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลส่วนกลาง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีในการทำการเกษตร”
ฉินสือโอวพูดถึงคำเชิญของพวกเขา เออร์บักจึงพูดว่า “ไม่มีปัญหา กิจกรรมแบบนี้จัดขึ้นทุกปี เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมวันฮาโลวีนและนี่ยังสามารถทำการบันทึกรับรองได้อีกด้วย ราชาฟักทองของทุกปีจะได้ใบรับรอง นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ยังขึ้นอยู่กับเมืองเป็นหลักและยังสามารถส่งเสริมเมืองของเราได้”
หลังจากเข้าใจแล้ว ฉินสือโอวจึงตอบกลับว่า “โอเค ผมคิดว่าผมจะเข้าร่วม”
บุคคลในโทรศัพท์พูดว่า “ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ ผมขอแนะนำอะไรก่อนสักหน่อย ตอนที่ปลูกฟักทองนี้ ปุ๋ยที่ใช้คือปุ๋ยหมักอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี? เคยนำเข้าสารอาหารฉีดเข้าต้นกล้าฟักทองไหมครับ? ปลูกอยู่นอกบ้านหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวตอบว่า “อืม ผมใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์และไม่มีการฉีดสารอาหารใดๆ เข้าไปเลย ส่วนสถานที่เพาะปลูกนั้นก็ต้องปลูกนอกบ้านอยู่แล้ว”
หลังจากได้รับคำตอบจากเขา ทางฝั่งนั้นก็ส่งคำเชิญให้อย่างพึงพอใจ จากนั้นก็บอกเขาว่าให้นำฟักทองไปเข้าร่วมการแข่งขันในวันที่ 30 ตุลาคม แต่ควรนำเถาฟักทองหรือแม้แต่รากและดินที่ปลูกด้วยกันมาด้วย
วันฮาโลวีนจะจัดขึ้นปลายเดือนตุลาคม ซึ่งยังเหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ นี่เป็นเทศกาลที่สำคัญอีกวันหนึ่ง โดยเฉพาะวันที่ 31 ตุลาคมของปีนี้ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ดีและกำหนดการจัดงานก็มีชีวิตชีวามากกว่าปีก่อนๆ ดังนั้นทุกครอบครัวจึงเริ่มเตรียมความพร้อมกันตั้งแต่ตอนนี้ หลายๆ องค์กรและเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดกิจกรรมแล้ว
ในช่วงสองปีที่ผ่านมาฉินสือโอวไม่ได้สนใจกับเทศกาลนี้เลย เพราะฟาร์มปลาของเขาอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก ถ้าเขาไม่ได้ไปติดต่องานด้วยตัวเองก็จะไม่รู้เรื่องข่าวสารเหล่านี้ ปีนี้จึงลองจับตาดูเป็นพิเศษและพบว่ามีกิจกรรมมากมาย
กิจกรรมเฉลิมฉลองในสวน การแข่งขันฟักทอง การแข่งขันแกะสลักฟักทองหรือแม้แต่การแข่งขันเรือฟักทองก็ยังมี
ปลูกฟักทองที่ปลูกในฟาร์มปลามีจำนวนมาก มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เด็กๆ วัยรุ่นก็ต่างพากันเก็บมันกลับมาด้วยความตื่นเต้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแต่ละคนก็กำลังยุ่งกับการแกะสลักโคมไฟฟักทองและรูปปั้นฟักทอง
แน่นอนว่าการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดก็คือปาร์ตี้แต่งหน้าในช่วงเย็น เมืองแฟร์เวลจะจัดงานอย่างสนุกสนานขึ้นทุกปี โดยเฉพาะหลังจากที่ตลาดนักท่องเที่ยวเปิดให้บริการ จะมีนักท่องเที่ยวได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย ถึงอย่างไรทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นรายได้จำนวนมาก
ฉินสือโอวถามวินนี่ว่าเธอจะแต่งตัวอะไร วินนี่มองเขาด้วยสายตาที่สดใสและถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วคุณล่ะที่รัก?”
ฉินสือโอวยิ้มอย่างพอใจและพูดว่า “ผมยังไม่บอกคุณหรอก”
“แล้วคุณคิดว่าฉันจะบอกคุณไหม?”
ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ ก็จริง ทำไมตัวเองถึงซื่อบื้อขนาดนี้นะ พูดว่าแกล้งวินนี่ยังจะดีกว่า
วินนี่หยิกแก้มของเขา จากนั้นปลายเท้าก็กระดกขึ้นและจูบลงไปที่เขาอย่างอ่อนหวานแล้วพูดว่า “ฉันชอบที่คุณดูซื่อบื้อแบบนี้จัง โอเค เชิญเศร้าต่อไปเถอะค่ะ พอถึงเวลาฉันจะทำให้คุณรู้สึกเห็นโลกกว้างเอง”
ในวันที่ 30 บรรยากาศฮาโลวีนก็เริ่มคึกคักขึ้น ชาวแคนาดาจะให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้มากและลักษณะการปฏิบัติของพวกเขาก็แทบจะเหมือนกับเทศกาลคริสต์มาสทุกอย่าง ร้านค้าจะเริ่มจัดโปรโมชั่นสินค้าต่างๆ เหมือนกับต้องการจะขายของที่ค้างอยู่ในร้านออกให้หมด
ในตอนเช้าฉินสือโอวพาวินนี่และเด็กๆ ไปที่ตลาดเกษตรปากิลา คราวนี้เขาจะไปรับสถิติด้วย แม้ว่ากินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจะไม่มีเงินรางวัล แต่สถิติของเอ็นแอลซีซีจะมีรางวัลเพิ่มให้อีกห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก
หลังจากที่บูลรู้ก็นึกถึงแต่เงินรางวัลมาโดยตลอด ถ้าเลือกได้ เขาคงจะยอมปลูกฟักทองขนาดใหญ่แบบนี้เองและเอาสถิติแตงกวาให้ฉินสือโอวแทน
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset