ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 193 หมาและหมีขนเกรียน

บทที่ 193 หมาและหมีขนเกรียน
โดย
Ink Stone_Fantasy

ตอนฉินสือโอวหยิบกรรไกรและมีดโกนออกมานั้น เจ้าหมาไร้เดียงสาสองตัวหู่จือและเป้าจือยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน จึงยังคงกระโดดโลดเต้นแลบลิ้นทำหน้าน่ารักรอบๆตัววินนี่
รอจนถึงวินนี่ถือกรรไกรไว้ในมือแล้วเท่านั้น พวกมันก็รู้สึกชักไม่ชอบมาพากล ก้มหน้าก้มตาอยากจะวิ่งหนีหางจุกตูดออกไป แต่จะทันได้อย่างไรกัน?
วินนี่โอบหู่จืออย่างนุ่มนวล ให้มันนอนอยู่บนพื้นหินอ่อน เสียงกรรไกรดัง ‘ฉับๆ’ สองที หู่จือก็ร้องลั่นขึ้นมา ขนทองอร่ามบนหลังของมันถูกตัดออกไปล็อตใหญ่
หู่จืออยากลุกขึ้นมา ฉินสือโอวรีบเกาไปที่ขนคอของมัน นี่คือจุดที่หู่จือและเป้าจือชอบให้เกามากที่สุด การเกาไปที่ขนคอพวกมันทำให้พวกมันรู้สึกสบาย
ตอนนี้ หู่จือรู้สึกสบายจนร้องครางออกมาเบาๆ และนอนนิ่งๆอยู่บนพื้น ให้วินนี่จัดการขนของมันต่อ
แต่ว่า หู่จือก็ยังคงมองฉินสือโอวด้วยสายตาน่าสงสาร ร้องขอความสงสารออกมาเป็นพักๆไม่หยุด ฉินสือโอวมองแล้วก็รู้สึกปวดใจ แต่ทำได้เพียงพูดปลอบใจมันว่า “ที่ต้องทำแบบนี้เพราะหวังดีกับนายนะ ลูกรัก ตัดขนแล้วแกจะได้รู้สึกเย็นสบายตัวมากขึ้น”
สาวสมัยใหม่อย่างวินนี่นั้นเคยเรียนการใช้กรรไกรกับช่างทำผมมืออาชีพมาก่อน เพราะบางทีเธอต้องตัดผมและทำผมด้วยตัวเอง ดังนั้นเพียงแค่ไถมีดออกไปเบาๆ ขนหนาๆบนตัวของหู่จือก็บางลงไปทันทีอย่างรวดเร็ว
เมื่อก่อนฉินสือโอวเคยเห็นสุนัขที่โดนตัดขนเพราะเข้าหน้าร้อนมาก่อน ก็คือขนบนตัวต่างก็ถูกโกนหมดเผยให้เห็นถึงแผ่นหนังสีชมพูของมัน ดูไม่ได้เอามากๆ เขานึกว่าวินนี่ก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด วินนี่เพียงตัดให้ขนของหู่จือให้สั้นลงเท่านั้น บนตัวมันยังเหลือขนบางๆอีกชั้นอยู่
นอกจากส่วนหัวแล้ว ขนสีทองทั่วตัวรวมถึงขนขาของหู่จือล้วนถูกไถออกไป มองไปแล้วดูผอมลงไปมาก แต่ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
เมื่อลุกขึ้น หู่จือวิ่งไปที่สนามหญ้าหน้าประตูเพื่อสะบัดเศษขนบนตัวออก วินนี่พูดออกมาอย่างประหลาดใจว่า “เด็กพวกนี้รู้งานดีจัง หู่จือถึงกับวิ่งไปที่สนามหญ้าเพื่อสะบัดขนออก เป็นเด็กดีจริง”
ฉินสือโอวพร้อมด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เพียงเท่านั้น คุณดูสิ อีกสักพักหู่จือยังจะไปอาบน้ำเองด้วยนะครับ”
แล้วก็เป็นไปตามนั้น หลังจากสะบัดตัวไปสองสามที หู่จือกางเล็บออกวิ่งไปที่ชายทะเล แล้วกระโดดลงไปอาบน้ำ
วินนี่ตาเป็นประกาย ตะโกนออกมาไม่หยุดว่า ‘เด็กดีๆ เป็นเด็กดีจริงๆ’ เมื่อชมได้สักพัก เธอก็หยิบกรรไกรขึ้นมามองไปที่เป้าจือ
จากเมื่อกี้ถึงตอนนี้เป้าจือหมอบตัวหลบอยู่หลังโซฟามาตลอด แล้วก้มหัวมุดหน้าเข้าไปในขาหน้าของมัน
วินนี่เรียกมันสองครั้ง หูเป้าจือสั่นระริกไปมา แล้วมุดหัวของมันเข้าไปลึกกว่าเดิม
เออร์บักที่นั่งอยู่บนบันไดหัวเราะขึ้นมา แล้วพูดหยอกล้อว่า “วินนี่ เธอไม่สามารถปลุกคนที่แกล้งหลับให้ตื่นขึ้นมาได้ฉันใด ก็ไม่สามารถเรียกหมาที่แกล้งโง่ได้ให้เข้ามาหาได้ฉันนั้น”
วินนี่เม้มปากยิ้ม ตบมือไปมาแล้วพูดว่า “อย่างนั้นคงใช้กำลังบังคับให้ร่วมมือเสียแล้ว”
สุดท้าย เป้าจือก็หนีไม่พ้นการถูกตัดขน หู่จือสะบัดน้ำบนตัวจนแห้งแล้ววิ่งกลับมา มันนั่งอยู่ข้างๆดูเป้าจือโดนตัดขน มุมปากเบะออกอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ฉินสือโอวคิดวิเคราะห์อยู่พักหนึ่ง มีความรู้สึกว่ามันกำลังยิ้มอยู่!
สุนัขแลบราดอร์ริทรีฟเวอร์สองตัวนี้ บางทีก็ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกว่า พวกมันเป็นลูกของฉินสือโอวจริงๆ ลูกที่ทั้งฉลาดทั้งเงอะงะ
พอเป้าจือตัดขนเสร็จ มันก็วิ่งไปสะบัดขนบนสนามหญ้า และไปอาบน้ำในทะเลเหมือนกัน
วินนี่ตัดขนจนรู้สึกติดลม หลังจากปล่อยเป้าจือไปแล้ว เธอก็ยิ้มตาหยีแล้วกวักมือให้ฉงต้า
ฉงต้าไม่สนใจ สำหรับสัตว์แล้ว ขนบนตัวก็เหมือนเป็นเกราะป้องกันของพวกมัน ในป่านั้น หากมีคนลงมือกับขนของพวกมันก็เหมือนกับการเอาชีวิตพวกนั้น คงต้องข้ามศพพวกมันไปก่อน
ดังนั้น ฉงต้าจึงเบ่งตัวทำท่าขู่ วินนี่ใช้ถ้วยอาหารของมันใส่ผลไม้ราดน้ำเชื่อม แต่ครั้งนี้มีใส่น้ำสลัดและเนยลงไปด้วย หลังจากป้อนให้ฉงต้ากินคำหนึ่งแล้ว ตาของฉงต้าก็หยีกลายเป็นเส้นตรงไปชั่วขณะ ไม่ว่าวินนี่เดินไปไหนมันก็เดินไปด้วย
วินนี่จูบมันทีหนึ่ง ให้มันนั่งอยู่ตรงขั้นต่างระดับหน้าประตูบ้านพัก ยื่นถ้วยอาหารให้มันกอดไว้ จากนั้นก็ลงมือตัดขนของมันอย่างสบายใจ
แต่ว่าเราคงคาดหวังอะไรในตัวฉงต้ามากไม่ได้ จะให้มันนั่งนิ่งๆเป็นเด็กดีเหมือนหู่จือและเป้าจือนั้น ก็เหมือนกับการพยายามทำให้โลกเป็นทรงเหลี่ยมและทำให้กลางคืนสว่างไสว
หลังถูกตัดขนแล้ว ฉงต้าก็ลุกขึ้นมาอุ้มถ้วยอาหารวิ่งเล่นไปทั่ว ทำให้เศษขนบนตัวหล่นไปทั่วทั้งบนพื้นและโซฟา
ฉินสือโอวและวินนี่ตกใจหน้าเปลี่ยนสี รีบไปลากมันเพื่อจะอาบน้ำให้ แต่ฉงต้าที่ตัดขนออกแล้วนั้นกระฉับกระเฉงขึ้นมาก เนื้อตัวลื่นไปหมดทำให้จับลำบาก และมันยังคิดว่าฉินสือโอวกับวินนี่กำลังเล่นวิ่งไล่จับกับมันอยู่ ทำให้วิ่งไปมาหนักกว่าเดิม
เออร์บักที่นั่งอยู่ตรงบันไดหัวเราะจนปวดท้อง หู่จือและเป้าจือก็ร้องโฮ่งๆไม่หยุด จากนั้นกระรอกน้อยเสี่ยวหมิงก็ถูกความโกลาหลนี้ดึงดูด พาเสี่ยวหวงเพื่อนกระรอกของมันวิ่งเข้ามาดูด้วย
ในที่สุดก็จับตัวฉงต้าได้ วินนี่จะพามันขึ้นไปอาบน้ำบนชั้นสอง ฉินสือโอวยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า “ระวังนะ วินนี่ ฉงต้าไม่ชอบอาบน้ำ ระวังเถอะสักพักมันได้สาดน้ำไปทั่วแน่”
วินนี่พูดว่า “อย่างนั้นแล้ว คุณยังไม่รีบมาช่วยกันอีกเหรอคะ?”
ฉินสือโอวแอบหัวเราะสักพัก แล้วก็พูดเสียงจริงจังว่า “ได้เลย ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
เข้าไปในห้องอาบน้ำ ฉินสือโอวให้ฉงต้าลงในอ่างอาบน้ำ ราดน้ำไปที่ตัวมันไม่ยั้ง นี่เป็นเกมที่เขากับฉงต้าชอบเล่นด้วยกัน เมื่อโดนสาดน้ำใส่ฉงต้าจะใช้อุ้งเท้าอันอวบอ้วนของมันตบน้ำใส่ตัวฉินสือโอว
ตอนนี้เรื่องชักน่าสนใจขึ้นมาแล้ว วินนี่โดนน้ำสาดไปทั่วตัว เธอใช้มือลูบน้ำบนหน้าหัวเราะแล้วพูดว่า “พระเจ้าช่วย เจ้าตัวนี้นี่ซนจริงๆ โชคดีที่มีคุณอยู่ด้วยฉิน… เฮ้ คุณมองอะไรอยู่?”
อากาศร้อนอย่างนี้ แล้วยังเป็นตอนเที่ยงวันอีก วินนี่จึงสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวบาง เมื่อโดนฉงต้าสาดน้ำใส่ เสื้อผ้าที่โดนน้ำทำให้โปร่งจนสามารถมองทะลุไปถึงข้างใน และยังแนบติดเนื้ออีก เผยให้เห็นถึงรูปร่างที่ได้สัดส่วนและผิวพรรณที่ผุดผ่องของเธอออกมา
ฉินสือโอวมองดูอย่างมีความสุข น่าเสียดายกระโปรงสั้นที่วินนี่สวมอยู่เป็นกระโปรงยีนรัดรูป ไม่อย่างนั้นเขาคงจะมองอย่างมีความสุขกว่านี้
วินนี่เมื่อลูบน้ำบนหน้าออกหมดแล้วทำให้เห็นว่าฉินสือโอวกำลังทำอะไร เธอแสร้งทำทีว่าโกรธ แล้วก็ตบน้ำในอ่างสาดไปที่ตัวของฉินสือโอว พร้อมกับหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณมันคนโรคจิต ฉันรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงอยากช่วยฉันอาบน้ำให้ฉงต้าแล้ว….”
ฉินสือโอวได้ทีรีบตอบโต้กลับ วินนี่ร้องกรี๊ดออกมา ฉงต้าเองไม่อยากเหงาก็ร่วมวงด้วย แต่ในสถานการณ์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ และด้วยนิสัยของฉินสือโอว มีหรือที่จะให้ฉงต้าเข้ามาร่วมด้วย
เขาตบก้นของฉงต้าสองที แล้วรีบหิ้วมันออกไปนอกห้องอาบน้ำ
ฉงต้าไม่เข้าใจสถานการณ์ มันนั่งเหม่ออยู่หน้าประตูห้องอาบน้ำครู่หนึ่ง จากนั้นก็หน้าบูดขมวดคิ้วแล้วเดินลงบันไดไป ระหว่างเดินน้ำบนตัวก็หยดไปตามทางเต็มพื้น
ฉินสือโอวไม่ควรจับฉงต้าออกไป เขาคาดเรื่องนี้ไปผิดถนัด เพราะวินนี่ไม่ให้โอกาสเขาอีก เธอหาโอกาสวิ่งออกมา กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อ ส่วนเขาจึงทำได้แต่ทำหน้าบึ้งไปตามเช็ดน้ำที่ฉงต้าทำเปียกไว้บนพื้นแทน
วินนี่ถอดเสื้อเชิ้ตกระโปรงยีนออก เปลี่ยนมาใส่ชุดเดรสโบฮีเมียนที่ฉินสือโอวเคยเห็นมาก่อนหน้านี้
ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวนี้พิมพ์ลายดอกไม้สีขาว ชุดค่อนข้างยาว แต่เมื่อวินนี่สวมแล้วก็ถือว่ายาวกำลังดี แล้วเธอก็ยังคาดเข็มขัดเส้นเล็กไว้อีก ทำให้ขาทั้งสองข้างของเธอดูเรียวยาวมากขึ้น ชุดอยู่บ้านเรียบง่ายชุดหนึ่ง แต่เมื่ออยู่บนตัวเธอแล้วกลับมีความงดงามอย่างบอกไม่ถูก
ฉินสือโอวเอียงคอมองไปพักหนึ่ง วินนี่เม้มปากยิ้มแล้วพูดว่า “สวยไหมคะ?”
ฉินสือโอวผงกหัวหงึกๆ พูดอย่างจริงใจว่า “สวยมากเลยครับ”
เสียงอึกทึกดังมาจากชั้นล่าง ฉินสือโอวรีบวิ่งลงไปดู เป็นชาร์คและพวกที่ไปเก็บกวาดปลาตายในทะเลกลับมาแล้ว
ชาร์คชี้ไปที่หู่จือและเป้าจือที่ถูกตัดขนแล้ว พูดอย่างเก้ๆกังๆว่า “ตอนผมเดินเข้าประตูมาแล้วพวกมันกระโดดโผเข้าหาผมทำเอาผมตกใจหมดเลย เจ้าสองตัวนี้ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ครับ?”
นีลเซ็นพยักหน้าเห็นด้วยแล้วพูดว่า “ความจริงแบบนี้น่ะถูกแล้ว ผมอยากแนะนำให้บอสตัดขนให้แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์มาตลอด อากาศร้อนแบบนี้หากหู่จือและเป้าจือออกกำลังมากจนร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน จะทำให้ป่วยได้ง่ายนะครับ”
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset