ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1394 สร้างเรือรบฟักทอง

ซีมอนสเตอร์ทำเรือฟักทองและหาวิธีการผลิตได้ด้วยตัวเอง เขาอธิบายให้ทุกคนฟังหลังจากแยกกันไปหาอุปกรณ์และเครื่องมือแล้ว ก็มีสิ่งของหลายอย่างที่ต้องใช้
ฉินสือโอวเดินไปเลือกฟักทองที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ถ้ากะด้วยสายตาคงจะมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งพันแปดร้อยปอนด์ อันที่จริงฟักทองที่ใช้และเหมาะสมกับเด็กๆ มากที่สุดคือฟักทองที่มีน้ำหนักแปดร้อยปอนด์ เพราะถ้ามีขนาดใหญ่กว่านี้มันจะเป็นภาระต่อพวกเขา
แต่เขาทำเรือฟักทอง ไม่เพียงแต่เพื่อการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ในอนาคตอีกด้วย หลังจากที่เรือฟักทองใส่สารกันบูดแล้ว ก็จะสามารถทิ้งไว้นานได้
จากนั้นจึงตัดส่วนบนสุดของฟักทองออก เพื่อให้เห็นเนื้อข้างในของฟักทอง ส่วนนี้จะโยนทิ้งไม่ได้ ฟักทองจากฟาร์มปลามีรสชาติหอมอร่อย สองสามวันมานี้พวกเขากินพายฟักทองด้วยกันมาตลอดจนตอนนี้ก็ยังไม่เบื่อ
ฟักทองสุกเปล่งแสงสีเหลืองสดใสและรสชาติจะค่อนข้างแปลกเล็กน้อย แต่ก็พอทนได้ ฉินสือโอวใช้มีดคมขุดเนื้อข้างในออกจนไม่เหลือเนื้ออย่างรวดเร็ว
พ่อฉินเดินเข้ามาและพูดว่า “แกกำลังทำอะไร? ไม่มีอะไรทำแล้วเหรอ? พืชผลในไร่ก็สุกแล้ว ทั้งองุ่นมากมายในสวน ต่อให้มีคนงานแต่ก็ไม่สู้แกไปจัดการเองหรอกนะ”
ฉินสือโอวพูดอย่างเฉยเมยว่า “พ่อ ไม่ต้องห่วงหรอก องุ่นที่ใช้ทำไอซ์ไวน์ จะเก็บได้ก็ต่อเมื่อหิมะตกเท่านั้น พืชผลในไร่นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แค่กลับไปหาเครื่องจักรที่จะเก็บเกี่ยวก็พอแล้ว”
พ่อฉินเห็นว่าเขาไม่เอาจริงเอาจัง จึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “แค่ไร่ละหมู่สองหมู่ มันคุ้มกับการใช้เครื่องจักรตรงไหน? เอาเวลาที่แกมาเล่นอยู่ที่นี่ไปจัดการกับพ่อสองคนเถอะ”
ฉินสือโอวลุกขึ้นยืนพร้อมกับเกลี้ยกล่อมให้ชายชราออกไป “พ่อรีบไปดูเถียนกวาเถอะ ผมติดธุระอยู่ วินนี่ก็กำลังจะจัดกิจกรรมการแข่งขันเรือฟักทอง ผมไม่ควรสนับสนุนงานของเธองั้นเหรอ?”
หลังจากได้ยินอย่างนั้น พ่อฉินจึงไม่พูดอะไรต่อ เพราะการสนับสนุนงานของวินนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาขอให้ฉินสือโอวทำ
เมื่อขุดเนื้อฟักทองออกมาจนพอประมาณแล้ว ข้างในก็จะเหลือความหนาประมาณฝ่ามือ ฉินสือโอวเจอเข้ากับเบิร์ดและขอให้เขาใช้มีดหั่นบางลงจนเหลือแค่ครึ่งหนึ่งของความหนาฝ่ามือ เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว
เบิร์ดควงมีดเหมือนบินได้ แค่เห็นข้อมือของเขาสะบัดอย่างรวดเร็วและเนื้อฟักทองแต่ละชิ้นที่ถูกหั่นก็เหมือนเนยชิ้นที่มีขนาดเกือบเท่ากันหมด แสดงให้เห็นว่าทักษะการใช้มีดของเขานั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน
“โอเคบอส” ยี่สิบนาทีผ่านไป เบิร์ดจึงพยักหน้าเพื่อแสดงว่าโอเคทำได้
ตอนนี้เค้าโครงของเรือฟักทองก็ได้ออกมาแล้ว ฉินสือโอวโผล่หน้าเข้ามามองดูและเห็นว่าเนื้อฟักทองถูกขูดจนเกลี้ยงและข้างในก็เนียนกว่าข้างนอกมาก ซึ่งมันเหมือนกับใช้กระดาษทรายขัด ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่า “ทำได้สวยงามจริงๆ เบิร์ด เพียงแค่ใช้ทักษะมือนี้ก็สำเร็จแล้ว ฉันคงจะต้องเพิ่มเงินเดือนให้นาย”
เบิร์ดถูมือไปมาอย่างเขินอายและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเท่าไรล่ะครับจึงจะเหมาะสม?”
ฉินสือโอวเหลือบมองเขาและพูดว่า “นายเอาจริงใช่ไหม? รีบไปทำงานเถอะ บอสก็แค่แกล้งนายเล่นเท่านั้นเอง”
เบิร์ดไม่สนใจ เขายิ้มและไปช่วยคนอื่นหั่นเนื้อฟักทองต่อ
ตามเงื่อนไขของสหภาพแรงงานแคนาดา พนักงานจะต้องขึ้นเงินเดือนทุกๆ สิบสองเดือน โดยเริ่มต้นที่แปดเปอร์เซ็นต์ ฉินสือโอวพิจารณาเรื่องนี้อยู่สักพักเขาก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องขึ้นเงินเดือนให้ชาวประมงและทหาร
“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ” ฉินสือโอวเริ่มรู้สึกหดหู่ใจอีกครั้ง
หลังจากหั่นฟักทองแล้ว ก็ต้องแช่ในฟอร์มาลินทันที จุดประสงค์คือกันเน่าเสีย ขอเพียงแค่ฟักทองไม่เน่าและปล่อยให้แห้ง มันก็จะมีความคงทนมาก ซีมอนสเตอร์บอกว่ามันมีความเหนียวเหมือนผิวหนัง
เมื่อใช้แปรงขัดฟักทองทั้งด้านในและด้านนอกหลายๆ ครั้งจนเนื้อฟักทองไม่สามารถดูดซับฟอร์มาลินได้แล้ว ฉินสือโอวถึงจะหยุดลงมือ ในเวลานี้พื้นที่ทุ่งหญ้ากำลังส่งกลิ่นฟอร์มาลินฟุ้งไปทั่ว
เมื่อถือฟักทองขึ้นมา เล็งไปทางทิศใต้และเริ่มตากแดด สภาพอากาศแบบนี้ไม่เหมาะเท่าไร ต่อให้เมืองเซนต์จอห์นส์จะอยู่ทางตอนใต้ของแคนาดา แต่แสงอาทิตย์จะอบอุ่นเกินไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ข้อดีคือลมทะเลฟาร์มปลาจะค่อนข้างแรงและลมทะเลยังสามารถทำให้เกิดการคายน้ำได้ดีอีกด้วย
ซีมอนสเตอร์บอกว่าเขามีความคิดอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการใช้เครื่องทำความร้อนไฟฟ้าในการอบ
ฤดูหนาวของเกาะแฟร์เวลจะทั้งเย็นและชื้น แค่เตาผิงและเครื่องปรับอากาศจึงไม่เพียงพอ ดังนั้นทุกครอบครัวจะต้องมีเครื่องทำความร้อนไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นแสงดวงอาทิตย์น้อยๆ จากบ้านเกิดของฉินสือโอว
สิ่งนี้มีประสิทธิภาพในการแปลงความร้อนไฟฟ้าสูงมาก ซึ่งเปิดด้วยพลังงานสูง จะไม่อ่อนไปกว่าแสงดวงอาทิตย์ในฤดูร้อน
ฟักทองมีขนาดใหญ่มาก เครื่องทำความร้อนไฟฟ้าสองตัววางหันหลังพิงกันไว้และเปิดข้างในออก จะสามารถย่างจากภายในสู่ภายนอกได้
ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ ฉินสือโอวจำเป็นต้องใช้ฟอร์มาลินอย่างต่อเนื่องในระหว่างกระบวนการคั่วไฟฟ้าและจะต้องแช่ให้สะอาด เพื่อให้ได้มาตรฐานการป้องกันการเน่าเสียที่มีความเข้มข้นสูง
สองวันต่อมา เนื้อฟักทองจะเป็นสีดำและสีเหลืองเมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกแข็งและมีกลิ่นฟอร์มาลีนที่เข้มข้นอยู่ข้างใน ดังนั้นจึงสามารถดำเนินการต่อในขั้นตอนต่อไปได้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็คือการติดกาวและทาสี
ขั้นแรกให้ทากาวแห้งเร็วแบบขุ่นที่ผิวด้านนอกและด้านในของเรือฟักทอง จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้คือการแยกฟอร์มาลินออกไป เพราะถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็ยังคงเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์และอีกอย่างมันสามารถกันน้ำได้
หลังจากทากาวแห้งเร็วหนาชั้นหนึ่งแล้ว ขั้นตอนที่สองคือการทาสี จุดประสงค์ของการทาสีนี้มีสองอย่าง อย่างแรกคือกันน้ำและอย่างที่สองก็เพื่อความสวยงาม
ฟักทองของฉินสือโอวจะให้เชอร์ลี่ย์ใช้ เขาถามโลลิต้าว่าจะทาสีรองพื้นเป็นสีอะไร โลลิต้าจึงพูดโดยไม่คิดว่า “ใช้สีขาวแน่นอน ใครให้หนูเป็นสาวน้อยแสนงดงามงามที่บริสุทธิ์อย่างไม่มีใครเทียบได้ล่ะ?”
ฉินสือโอวกระตุกมุมปากพร้อมกับทาสีขาวไปแบบไม่พูดไม่จา จากนั้นจึงถามอีกว่า “แล้วเธออยากวาดอะไรลงไปหน่อยไหม?”
เชอร์ลี่ย์ถามด้วยความคาดหวังว่า “วาดแผนที่โลกได้ไหมคะ? หรือจะแผนที่มหาสมุทรโลกก็ได้ มันหมายความว่าต่อจากนี้เราจะพิชิตโลก”
ฉินสือโอวทำท่าทาง ‘โอเค’ อย่างมั่นใจและพูดว่า “ดูฉันไว้ก็พอ”
เมื่อได้รับการยืนยันจากเขา โลลิต้าก็กระโดดโลดเต้นไปโรงเรียน เมื่อเธอกลับมาจากโรงเรียนก็ถึงกับตกตะลึง เธอกรีดร้องจนหาฉินสือโอวเจอแล้วชี้ไปที่สีน้ำเงินเข้มบนฟักทองและถามว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉินมีคนจงใจทำลายเรือรบของเราใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างเจ็บใจว่า “ไม่ เชอร์ลี่ย์ เธอไม่ได้ต้องการแผนที่มหาสมุทรโลกเหรอ? นี่ก็ไม่ใช่มหาสมุทรเหรอ?”
เชอร์ลี่ย์ถามอย่างประหลาดใจว่า “มหาสมุทรโลกเป็นสีน้ำเงินเข้มเหรอคะ?”
ฉินสือโอวพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “จะเป็นสีน้ำเงินเข้มได้อย่างไร? เธอดู วงกลมด้านนอกเป็นสีฟ้าอ่อน ซึ่งแสดงถึงทะเลตื้น ด้านในยิ่งลึกสีก็จะยิ่งเข้มขึ้น บางพื้นที่ก็เป็นสีดำด้วยซ้ำ ทำไมล่ะ? เพราะมันคือทะเลลึก!”
“เธอดูนี่อีก ตรงนี้มีจุดด่างมากมายใช่ไหม? นี่คืออะไรล่ะ? เกาะกลางทะเลไง! ดูสิ จุดเล็กๆ น้อยๆ นี่คือเกาะแฟร์เวลของเรา ฉันตั้งใจทำเครื่องหมายเป็นสีทองโดยเฉพาะเลยนะ เป็นอย่างไรล่ะ?”
โลลิต้ามองเขาด้วยสายตาโง่เง่า ปากเล็กๆ ก็อ้ากว้างขึ้นพร้อมกับเบิกตาอย่างจนปัญญา ฉินสือโอวคิดว่าเธอโง่และไร้เดียงสา ทั้งสวยงามและน่ารัก
“โอเคฉิน คุณชนะแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันว่าฟักทองของคนอื่นจะทาสีอะไรดีไหมคะ?” เชอร์ลี่ย์พูดอย่างหมดแรง
ฉินสือโอวเห็นด้วยทันที สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือเรือฟักทองลำใหญ่ที่ซีมอนสเตอร์สร้างให้กับกอร์ดอน โดยชั้นนอกของรอบตัวเรือทั้งซ้ายขวาจะทาสีแตกต่างกันไป “นี่มันเรือประจัญบานไอโอวา! นี่คือเรือประจัญบานบิสมาร์ มันสุดยอดไปเลยใช่ไหม?!”
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset