ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1402 บ่อน้ำร้อนในวันที่หิมะโปรยปราย

เมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่ฉินสือโอวแต่งงาน แมทธิว จินเคยพูดกับเขาว่าจะวางแผนสร้างพันธมิตรด้านการประมงรอบๆ ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ เพื่อรวมการประมงของแคนาดาตะวันออก เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกและอำนวยความสะดวกในการจัดส่งแบบครบวงจร
ฉินสือโอวไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก ตามความคิดของเขาแล้ว เขาต้องการทำในส่วนของตัวเองให้ดีก็พอ ทำไมตอนแรกถึงมาที่เกาะแฟร์เวล? ก็แค่อยากใช้ชีวิตสบายๆ ในฐานะเจ้าของฟาร์มปลาไม่มีอะไรทำก็ตกปลา นอนเล่น ดูแลพ่อแม่ เลี้ยงลูกและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับวินนี่
ตอนนี้วินนี่ก็ได้เป็นนายกเทศมนตรีแล้ว ฉินสือโอวเองก็ไม่อยากตกอยู่ในสังคมขององค์กรราชการอีก ดังนั้นทั้งคู่จึงยุ่ง แม้แต่เวลาว่างเวลาอิสระก็ยังไม่มี
ดังนั้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ฉินสือโอวจึงไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับการดำเนินงานของกรมประมงและต้องการลดอิทธิพลของตัวเองลงให้ได้มากที่สุด
ถ้าตอนนี้มีบุคคลอื่นแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานพันธมิตรกรมประมง เขาก็ยินดีต้อนรับ ยกเว้นคาร์เตอร์
ไม่รู้ว่าทำไมฉินสือโอวที่ใจดีกับคนอื่นถึงรู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นคาร์เตอร์ครั้งแรก นี่สามารถอธิบายได้ด้วยสายตาเท่านั้น มีบางคนเช่นชาร์คและซีมอนสเตอร์ที่เติบโตมาอย่างกำยำ หน้าตาดุร้าย พวกเขาอาจถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในต่างประเทศได้ แต่เขากลับรู้สึกดีและคิดว่าคนเหล่านี้สามารถคบหาได้
คาร์เตอร์มักจะยิ้มตาหยี หน้าตาหล่อดูดีในหมู่คนผิวขาว แต่ฉินสือโอวกลับไม่ชอบเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเริ่มต้นจากการประมูลของกรมประมง และคาร์เตอร์ยังเป็นคนเลือกเอง แล้วจะให้ฉินสือโอวช่วยเขาได้อย่างไร?
ดังนั้น ฉินสือโอวจึงส่ายหัวและปฏิเสธว่า “ขอโทษครับคุณคาร์เตอร์ คุณก็รู้ว่าผมเป็นแค่คนจีนอพยพมา ผู้คนไม่ให้ความสำคัญกับผมหรอกใช่ไหม? เรื่องแบบนี้ผมไม่มีน้ำหนักอะไรมากอยู่แล้วและอาจช่วยอะไรคุณไม่ได้ด้วย”
คาร์เตอร์หัวเราะเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นและพูดว่า “ฉิน คุณนี่ดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดในการประมงนิวฟันด์แลนด์ ถ้าคุณไม่สำคัญจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นอย่างไรล่ะ ฮ่าๆ”
ฉินสือโอวจ้องที่เขาและไม่คิดว่าเขาจะพูดเล่น แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหมือนพูดเสียดสี
บางทีนี่อาจจะเป็นอคติ แต่ฉินสือโอวไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร เขาแค่ไม่ชอบคาร์เตอร์
คาร์เตอร์ยิ้มเจื่อนๆ และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ฉิน ผมคิดว่าผมเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งนี้ ผมมีทรัพยากร มีคอนเนคชั่นและประสบการณ์ ดังนั้นผมจึงเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ ไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าคุณก็เหมาะสมมากเช่นกัน แต่ผมคิดว่าถ้าเราได้ร่วมมือกันคงจะดีที่สุด”
ฉินสือโอวยังคงจ้องมองเขาอย่างต่อเนื่อง ชายคนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อท้าทายหรอกเหรอ?
คาร์เตอร์ยังแนะนำฟาร์มปลาและความสามารถของเขาและยังบอกเป็นนัยๆ ว่า “ฉิน ถ้าคุณสนับสนุนผมให้เป็นประธานคณะกรรมการ ผมคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมที่จะเป็นรองประธานกรรมการได้เท่าคุณแล้ว บางทีถ้าไม่มีผม คุณก็สามารถเป็นรองประธานกรรมการได้ แต่ด้วยการสนับสนุนของผม คุณก็สนับสนุนผมด้วย มันก็ดีต่อทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเห็นฉินสือโอวไม่พูดอะไร เขาก็คิดว่าฉินสือโอวกำลังสนใจอยู่ จึงพูดกระตุ้นต่อไม่หยุด “ตามข้อมูลที่ผมได้สอบถามมา ครั้งนี้กรมประมงมาจริงและพันธมิตรนี้จะเป็นองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมประมงของแคนาดา”
“ตอนนี้กรมประมงต้องการเลือกบุคคลจากภายในเป็นมาเป็นประธาน แต่เราไม่สามารถให้บุคคลภายนอกมาเป็นผู้นำเราได้ ไม่ใช่เหรอ? สำหรับกลุ่มพันธมิตรการประมง ก็ควรจะเป็นเจ้าของฟาร์มปลาเป็นผู้นำใช่ไหม? ถ้าคุณ ผมและเจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ รวมตัวกัน ผมคิดว่าเราสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”
ฉินสือโอวลูบคางไปมา เขาเหมือนจะเข้าใจว่าคาร์เตอร์คงจะมาเพื่อท้าทาย และไม่ได้มาเพื่อพูดโอ้อวด ชายคนนี้คิดว่าเขาเกือบจะรับตำแหน่งประธานนี้ได้จริงๆ และเขาก็ไม่ถือว่าตัวเองเป็นคู่แข่ง ในข่าวของเขาคือกรมประมงได้ที่ส่งคนมาเป็นประธานคณะกรรมการเองและต้องการการสนับสนุนจากเขาเพื่อต่อต้านกับกรมประมง
ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ฉินสือโอวมักจะได้ยินบ่อยๆ กรมประมงจะส่งคนมาเป็นหัวหน้าเองจะไม่ดีกว่าเหรอ? ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เขาทำและก็ไม่ใช่คาร์เตอร์ทำ มันเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งคู่!
เมื่อเข้าใจหลักการนี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ฉินสือโอวจะสนับสนุนคาร์เตอร์ เขาไม่ปฏิเสธอย่างสุภาพอีกต่อไปและพูดความจริงไปตามตรงว่า “ขอโทษจริงๆ คาร์เตอร์ ผมคิดว่าไม่สามารถสนับสนุนคุณได้ ผมชื่นชอบคุณมาก แต่ผมไม่สามารถต้านทานการตัดสินใจของกรมประมงได้”
หลังจากที่เขาพูดจบ กล้ามเนื้อแก้มของคาร์เตอร์ก็กระตุกขึ้น ฉินสือโอวสังเกตเห็นแววตาดูถูกในดวงตาของผู้ชายคนนี้ ซึ่งนี่ทำให้เขาโกรธอยู่ในใจและยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนคาร์เตอร์
แต่เขาไม่ได้ไล่คาร์เตอร์ออกไปตรงๆ ถึงอย่างไรครั้งก่อนก็ได้ส่งลูกปลามาให้ คาร์เตอร์ยังเลี้ยงข้าวและนอกจากนี้ยังเคยให้เขาพักผ่อนในพื้นที่ของเขาเองในขณะที่ฝนตกหนักอีกด้วย
บังเอิญที่ตอนนี้หิมะตกหนัก ฉินสือโอวจึงทำเช่นเดียวกัน เขาเชิญคาร์เตอร์และชาวประมงของเขาเข้ามาพักและจัดให้นีลเซ็นมาต้อนรับ จากนั้นก็กลับไปอยู่กับลูกสาว
เขายอมที่จะเผชิญหน้ากับพวกตัวเล็กอย่างหู่เป้าฉงหลัว ดีกว่าไปเผชิญหน้ากับคาร์เตอร์
หลังจากหิมะตกอุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว คราวนี้ไม่จำเป็นต้องย้ายมาสเตอร์เข้าบ้าน เพราะเต่าอัลลิเกเตอร์สามารถอยู่ในบ่อน้ำร้อนได้
เต่าอัลลิเกเตอร์มีความอดทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี อุณหภูมิของน้ำสามสิบถึงสี่สิบองศาเซลเซียสไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมันและมันจะไม่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ส่วนมากมักจะนอนอยู่บนขอบสระ
ฉินสือโอวพาหู่เป้าฉงหลัวมาป้อนอาหารมาสเตอร์ แต่มาสเตอร์หิวไม่ได้ เพราะมีปลาโครงกระดูกอยู่ในบ่อน้ำร้อน ถ้ามาสเตอร์หิว ฉินสือโอวก็กล้ารับประกันว่าเจ้าเต่าตัวนี้จะไปจับปลามากิน
ไม่เพียงแต่มาสเตอร์เท่านั้น แต่หู่เป้าฉงหลัวก็ให้ความสนใจกับปลาโครงกระดูกเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะฉงต้า นอนอยู่บนสระพร้อมกับกะพริบตาเล็กๆ มองลงไปข้างล่างและยังยื่นอุ้งเท้าอ้วนลงไปในน้ำ เหมือนจะวางแผนหลอกล่อเพื่อจับปลาน้อยมากิน
ฉินสือโอวรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ได้ เขาต้องบอกให้เจ้าเด็กพวกนี้รู้ว่าอะไรกินได้อะไรกินไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสตอนที่ฉงต้ากำลังนั่งยองๆ ในสระและกำลังมองลงไปในน้ำ พุ่งเข้าใส่จากด้านหลังและส่ง ฉงต้าลงไป
ฉงต้าส่งเสียงร้องคร่ำครวญและสำลักน้ำเข้าไปเต็มปาก จากนั้นก็หันกลับมามองฉินสือโอวอย่างไม่พอใจ
ฉินสือโอวจึงเปลี่ยนเป็นกางเกงชายหาดและกระโดดลงไปในน้ำ เขากอดฉงต้าและจูบมันพร้อมกับชี้ไปที่ปลาตัวเล็กในสระให้พวกมันดู จากนั้นก็โบกมือไปมาและพูดว่า “นี่กินไม่ได้นะรู้ไหม? กินไม่ได้! ใครกินจะจัดการคนนั้น!”
ความสนใจของหู่จือและเป้าจือที่สนใจปลาตัวเล็กๆ คือการต้องการเล่นไม่ใช่ต้องการกิน หลัวปอและเฟอเรทแบลคฟรุทยิ่งกลัวไม่กล้าลงไปในน้ำ ดังนั้นฉินสือโอวจึงเตือนพวกมัน พวกมันจึงสงบลง ไม่ไปจ้องมองปลาโครงกระดูกอีก
ข้างนอกหิมะตกหนักและควันในบ่อน้ำร้อนก็มีหมอกลอยฟุ้ง ฉินสือโอวที่กำลังเพลิดเพลินกับการแช่น้ำอุ่นอยู่ จู่ๆ ก็เงยหน้ามองเห็นอะไรแปลกๆ
รอบๆ และด้านบนบ่อน้ำร้อนจะล้อมด้วยกระจก  แต่เป็นกระจกที่มีความแข็งแรงสูงธรรมดาทั่วไปแม้ว่าจะแข็งแรงพอ เหนียวทนทานและทนต่อลม แต่หมอกนั้นรุนแรงเกินไป อุณหภูมิภายในและภายนอกจึงแตกต่างกันมาก ในกระจกจึงเต็มไปด้วยไอน้ำและภายนอกก็มองเห็นไม่ชัด
สิ่งนี้ทำให้ฉินสือโอวไม่สบายใจมาก คิดไปคิดมา การแช่บ่อน้ำร้อนในวันที่หิมะตกแล้วเงยมองหิมะที่กำลังตกหนัก แบบนี้จะสบายแค่ไหนกัน?
ฉินสือโอวลุกขึ้นและโทรศัพท์หาวิลและพูดว่า “ฉันอยากจะเปลี่ยนผนังกระจกบ่อน้ำร้อน นายมาดูหน่อยสิว่าเปลี่ยนได้ไหม?”
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset