ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 196 เจ้าพวกกลุ่มนี้

บทที่ 196 เจ้าพวกกลุ่มนี้
โดย
Ink Stone_Fantasy

พละกำลังของปลาเก๋าสือนั้นค่อนข้างน้อย ซึ่งมันเป็นปลาที่เกียจคร้านประเภทหนึ่ง พวกมันชอบอาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำ เพราะว่าบริเวณนั้นมีอาหารปลาที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด
คนที่เคยดูภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ของเซียงเจียงและไต้หวันจะรู้ดีว่าปลาเก๋าเสือนั้นเป็นที่นิยมในฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน เป็นที่รู้จักกันว่าปลาเก๋าสือเป็นหนึ่งในสี่ของปลาที่มีชื่อเสียงในประเทศ
ฉินสือโอวได้ช่วยวินนี่จับคันเบ็ดและดึงปลาเก๋าสือที่อยากจะดิ้นหนีอย่างลุกลี้ลุกลนขึ้นมาบนผิวน้ำ หู่จือและเป้าจือแหงนหน้าขึ้นว่ายน้ำเข้ามา ในความเป็นจริงแล้วเพียงแค่ฉินสือโอวออกแรงอีกนิดก็สามารถยกปลาขึ้นมาได้แล้ว แต่ทว่าฉินสือโอวอยากที่จะให้วินนี่ได้เห็นการจับปลาของหู่จือและเป้าจือ ดังนั้นหลังจากที่ดึงปลาขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วก็ได้หยุดดึง
หู่จือและเป้าจือได้ขนาบเข้าไปทั้งสองข้าง พวกมันว่ายน้ำไปข้างหน้าสักสองสามเมตรก่อน จากนั้นก็หันกลับมาโจมตีขนาบทั้งสองด้านไปที่ปลาตัวนี้ และขับไล่มันหนีเตลิดไปทางเรือหัวกว้าง
ด้วยเหตุนี้ ฉินสือโอวจึงคลายมือออก ปล่อยให้วินนี่หมุนรอกวงล้อเบ็ดด้วยตัวเองและตกเอาปลาตัวนี้ขึ้นมาอย่างสบายๆ
และก็เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ วินนี่แปลกใจกับการแสดงความสามารถของหู่จือและเป้าจือเป็นอย่างมาก เมื่อพวกมันว่ายน้ำกลับมา เธอจึงรีบยื่นมือลงไปงมเจ้าสองตัวนั้นขึ้นมาบนเรือทันที
ฉินสือโอวเอาเลือดปลาเก๋าเสือออกให้หมดและแช่แข็งไว้ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “นี่เป็นปลาที่ดีตัวหนึ่งเลย พวกเรามีอาหารกลางวันกินแล้ว”
วินนี่จึงพูดอย่างไม่พอใจขึ้นมาว่า “ไม่สนหรอกว่าจะกินอะไร? ดูพวกลูกๆของฉันสิ ทำไมถึงแสดงความสามารถออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้? ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าต่อไปตัดใจทิ้งพวกมันไปยังไง”
ฉินสือโอวหัวเราะคิกคักและเอ่ยออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องไปแล้ว อยู่ที่นี่ มีผมและก็มีลูกๆ แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ?”
วินนี่คิดแล้วคิดอีก จากนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า “ถ้าเช่นนั้นฉันต้องคิดให้ดีจริงๆซะแล้ว”
เมื่ออากาศร้อนขึ้นมาแล้ว ฉินสือโอวจึงกางร่มกันแดดที่ใช้สำหรับเรือยอชต์ออกมาที่บนดาดฟ้า ด้วยเหตุนี้ แค่ลมทะเลพัดโชย จัดคู่เข้ากับน้ำผลไม้ที่เย็นเจี๊ยบก็สามารถทำให้อุณหภูมิของอากาศลดลงมาอย่างทันทีทันใด
การตกปลาในทะเลนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ความอดทนมาก เพราะว่าไม่ใช่ทุกน่านน้ำของทะเลที่จะมีฝูงปลาเคลื่อนไหวอยู่ และถึงแม้ว่าจะมีฝูงปลากำลังแหวกว่ายอยู่รอบๆ แต่เมื่อคุณยกคันเบ็ดขึ้นก็แทบจะทำให้พวกปลาเหล่านี้ตกใจกลัวและว่ายน้ำหนีไปกันหมด
การระมัดระวังตัวของปลานั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์ป่ามาก หากทำให้พวกมันตกใจกลัวจนหนีไปครั้งหนึ่งแล้วก็ยากที่จะจับพวกมันด้วยวิธีเดิม
แต่ทว่าเสน่ห์ของกีฬาอยู่ที่ระดับความยาก ดังนั้นจึงมีนักตกปลาหลายคนชอบที่จะมาตกปลาในทะเล
ฉินสือโอวเพียงแค่อยากจะให้วินนี่มีความสุข พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อการแข่งขันแต่มาเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ดังนั้นเขาจึงเอาอาหารปลาที่ได้เตรียมมาจำนวนหนึ่งโยนลงไปในน้ำ นอกจากนั้นยังขยายหลอดไฟไอโอดีนทังสเตนแบบเต็มมุมลงไปในน้ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลาที่มีความไวต่อแสงมากแหวกว่ายมารวมตัวกัน
ภายใต้การนำวิธีเหล่านี้เข้ามาช่วย ปลาทะเลจึงเข้ามาติดเบ็ดอย่างต่อเนื่อง แต่ปลาที่ติดเบ็ดล้วนแล้วแต่เป็นปลาขนาดเล็ก แต่ทว่าวินนี่ก็ตกได้ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตัวหนึ่ง นั่นก็คือปลาแมคเคอเรลมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีความยาวเกือบครึ่งเมตร ฉินสือโอวต้องช่วยเธอดึงเบ็ดถึงจะสามารถยกมันขึ้นมาได้
พวกเขาตกปลาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงเวลากลางวัน ฉินสือโอวเห็นวินนี่คล้ายกับยังอยากที่จะตกปลาต่อจึงเอ่ยถามเธอขึ้นว่า “คุณยังอยากที่จะตกปลาต่อไหม?”
วินนี่ยักไหล่และเอ่ยขึ้นว่า “ฉันอยากตกให้ได้ปลาตัวใหญ่ๆสักตัว ฉันเห็นเพื่อนในทวิสเตอร์และเฟซบุ๊กโพสต์รูปที่พวกเขาตกได้ปลาตัวใหญ่กันบ่อยๆ ฉันก็อยากจะโพสต์บ้างสักสามสี่รูป”
ฉินสือโอวยิ้มหัวเราะและเอ่ยออกมาว่า “ได้ ไม่มีปัญหา แต่ว่า เอ็นเบ็ดและคันเบ็ดของคุณไม่เหมาะกับการตกปลาที่มีขนาดใหญ่”
โดยปกติแล้วการตกปลาทะเลและการตกปลาแม่น้ำนั้นแตกต่างกัน ซึ่งจะใช้สองสายในการตก เรียกว่าสายหลักและสายย่อย เมื่อประกอบสายเข้ากันสายหลักจะเชื่อมต่อกับคันเบ็ดและตะขอวงเลขแปด และโดยปกติแล้วจะเป็นสายที่มีสี หลักสำคัญก็เพื่อเพิ่มสัดส่วนการตัดผ่านน้ำของเส้นหลักให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น
แท้ที่จริงแล้วสายที่แขวนไว้กับคันเบ็ดคือสายย่อย สายเอ็นประเภทนี้จะเล็กกว่าสายหลักและส่วนใหญ่จะเป็นสีใส ด้วยเหตุนี้จึงสามารถลดการระมัดระวังตัวของปลาลงได้ ทำให้พวกมันมาติดเบ็ดได้ง่ายขึ้น
เอ็นเบ็ดสองสายนี้ต้องใช้คู่กัน สายหลักจะมีราคาสูงกว่าสายย่อย และตะขอจะเชื่อมไว้กับสายย่อย เช่นนี้หากตกได้ปลาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และคาดว่าสายเอ็นตกปลาจะรับน้ำหนักไว้ไม่ได้ ก็ให้ตัดสายย่อยออกก่อน เช่นนี้ก็สามารถรักษาสายหลักไว้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดต้นทุน
 ฉินสือโอวให้วินนี่เลือกสายที่แข็งแรงอย่างสายเบอร์แปดทำเป็นสายหลัก ซึ่งสามารถรับน้ำหนักในการดึงได้มากกว่าห้าสิบกิโลกรัม โดยปกติแล้วการตกปลาขนาดใหญ่ใช้สายประเภทนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ถึงอย่างไรฉินสือโอวก็ไม่ได้เตรียมสายที่มีความหนากว่านี้มาด้วย
วินนี่เกี่ยวเหยื่อที่ตะขอเบ็ดอย่างคาดหวังจากนั้นก็เหวี่ยงเอ็นเบ็ดลงไปในน้ำ ฉินสือโอวก็ได้เอาปลาแฮร์ริ่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่ตกมาได้ก่อนหน้านี้มาหั่นเป็นท่อนๆและโยนลงไปในน้ำ นี่คือการโยนเหยื่อ จุดประสงค์ก็เพื่อดึงดูดให้ปลาตัวใหญ่เข้ามา
เมื่อตอนที่ชาร์คไปตกปลาเป็นเพื่อนฉินสือโอว ได้เคยสาธิตวิธีโยนเหยื่อให้เขาดู นี่เป็นเทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งของลูกจ้าง ขนาดเล็กใหญ่ของชิ้นเนื้อปลาแฮร์ริ่งและจังหวะในการโยนนั้นมีความสัมพันธ์กันมาก ขอบเขตในการโยนเหยื่อก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน
ฉินสือโอวไม่ใช่นักเรียนที่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงโยนเหยื่อลงไปเรื่อยเปื่อย และเดิมทีเขาก็ไม่ได้อยากให้วินนี่ตกได้ปลาที่มีขนาดใหญ่ เพราะว่าถ้าหากการออกทะเลในครั้งนี้ได้เติมเต็มความมุ่งหวังทุกอย่างในการตกปลาของเธอ ถ้าเช่นนั้นต่อจากนี้พวกเขาสองคนจะมีโอกาสออกทะเลมาตกปลาอีกเหรอ?
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเขาโยนเหยื่อลงไปได้สักครู่ก็ไม่มีปลาขนาดใหญ่มาติดเบ็ดเลย วินนี่รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก รอไปถึงครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีผลใดๆเกิดขึ้น ดังนั้นเธอจึงเลือกได้เพียงแค่เก็บคันเบ็ดขึ้นมาอย่างผิดหวัง
ฉินสือโอวจึงได้ปลอบใจเธอ โดยบอกกับเธอว่าการตกปลาในทะเลก็เป็นเช่นนี้แหละ หากเลือกบริเวณตกปลาไม่ถูกที่ ต่อให้รออยู่ที่นี่หนึ่งวันถึงสองวันก็ยังคงตกปลาขึ้นมาไม่ได้ เช่นนี้ในวันหลังพวกเขาค่อยออกมาทะเลกันใหม่อีกครั้ง และเลือกตกบริเวณที่มีคนเคยตกได้ปลาที่มีขนาดใหญ่
อาหารกลางวันที่พวกเขากินก็คือปลาที่วินนี่ตกมาได้ ฉินสือโอวมีความชำนาญในการทำปลามาก ไม่ว่าจะเป็นปลาเก๋าเสือหรือปลาแมคเคอเรล เมื่ออยู่ในมือของฉินสือโอวก็ได้กลับกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
สำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศแล้วปลาแมคเคอเรลมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นคำที่พวกเขาไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เพราะในประเทศนิยมกินปลาชนิดนี้กันน้อย แต่ปลาชนิดนี้และปลาสายพันธุ์เดียวกับปลาแมคเคอเรลแอตแลนติกต่างเป็นอาหารที่ชื่นชอบของคนที่อยู่ตามเมืองเกาะทะเล ซึ่งมีชื่อเรียกทั่วไปว่า แมคเคอเรล ซึ่งมีชื่อสามัญมาจากวงศ์ปลาอินทรี(Scomberomorus niphonius)
วิธีการทำอาหารก็เหมือนกับปลาอื่นๆ ปลาชนิดนี้จะมีเนื้อที่สดและนุ่มในตัวของมันเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เครื่องปรุงให้เป็นพวกปลาน้ำแดง เพียงแค่หั่นปลาเป็นท่อนๆ หมักด้วยเหล้าและเกลือเล็กน้อย แค่วางลงไปตุ๋นในหม้อก็ได้แล้ว เสริมด้วยต้นหอม ขิงและโป๊ยกั๊กวางไว้ด้านบน เมื่อตุ๋นไปสักครู่ก็จะมีกลิ่นหอมโชยออกมา
ในแคนาดา ปลาแมคเคอเรลมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อตุ๋นออกมาก็สามารถที่จะกินได้เลย แต่ว่าขณะที่ฉินสือโอวอยู่ที่ประเทศของตัวเองก็ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเมื่อรอให้ปลาต้มจนเกือบสุกแล้ว ก็โรยกุยช่ายลงไปข้างบนเล็กน้อย เช่นนี้ถึงจะกระตุ้นความสดอร่อยของปลาแมคเคอเรลมากยิ่งขึ้น
การทำปลาเก๋าเสือนั้นแสนง่ายขึ้นไปอีก แค่เอาปลาไปนึ่งก็เพียงพอแล้ว และฉินสือโอวเลือกที่จะราดน้ำมันลงไปด้วย
หลังจากที่กำจัดกลิ่นคาวของปลาโดยการล้างปลาให้สะอาด ถูด้วยเกลือและเหล้าสำหรับทำอาหารแล้ว ก็ห่อด้วยต้นหอมและขิงแผ่นไว้ที่ด้านนอกหนึ่งชั้น จากนั้นก็นำไปนึ่งไว้ในหม้อประมาณยี่สิบนาที เมื่อนำปลาออกมาจากหม้อแล้วก็เอาน้ำมันที่เดือดแล้วราดลงไป เทซอสดำลงไปเล็กน้อยก็สามารถที่จะกินได้แล้ว
ชาร์คและคนอื่นๆออกไปทำงานที่ทะเล ปกติแล้วในตอนพักกลางวันจะไม่กลับมา เพราะพวกเขาได้เตรียมอาหารกลางวันไปด้วย และจะเดินเรือกลับมาอีกครั้งในช่วงเวลาบ่ายแล้ว มิเช่นนั้นหากเดินเรือไปๆมาๆก็จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้
ลูกๆทุกคนก็ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว ส่วนเออร์บักก็เป็นคนแก่ที่ยอดเยี่ยมมาก เขาสร้างโอกาสให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ดังนั้นในช่วงเช้าเขาจึงไปช่วยงานแฮมเล็ตที่รัฐบาลเมือง ‘ทีมตรวจสอบการท่องเที่ยวของจีนได้เดินทางมาถึงแล้ว ที่เมืองแฟร์เวลได้ขาดผู้ที่จะมาเป็นล่าม เดิมทีฉินสือโอวคือคนที่จะเป็นล่ามได้ดีที่สุด แต่ทว่าเขาต้องพาวินนี่ไปเที่ยว และจะมีเวลาไปดูแลทีมตรวจสอบการท่องเที่ยวได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้เออร์บักจึงทำงานนี้ด้วยตัวเอง
ก่อนที่จะกินข้าววินนี่ได้ใส่บะหมี่น้ำซุปปลาไว้ในชามอาหารสัตว์ให้กับหู่จือ เป้าจือและฉงต้าก่อน เพื่อให้พวกมันได้กินอิ่มก่อนแล้วเธอถึงจะเริ่มกินอาหารของตัวเอง
เหล่าครอบครัวพอสซั่มอย่างต้าป๋าย เสี่ยวหมิงและเสี่ยวหวงก็ได้กินลูกเบอร์รี่ นกโจรสลัดนิมิตส์ที่ไม่รู้ว่าในช่วงเช้าได้บินไปที่ไหนมาก็ได้กลับมาแล้วเช่นกัน หลังจากที่บินลงมาบนพื้นดิน มันก็ได้เดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปในบ้าน
ขาของนกโจรสลัดนั้นเป็นจุดอ่อนของตัวพวกมันเอง เมื่อได้รับบาดเจ็บแล้วจึงยากที่จะฟื้นคืนสภาพเดิม นกโจรสลัดหลายตัวที่กล้าจะต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำก็จะถูกทำลายที่ขาและเท้าจนมีอาการบาดเจ็บ ในขณะที่บาดแผลตามที่ต่างๆของนิมิตส์ได้กลับคืนสู่สภาพเดิมหมดแล้ว จะมีเพียงแค่ที่เท้าเท่านั้นที่ยังไม่ฟื้นคืนเป็นปกติ
เมื่อเห็นนิมิตส์ ฉินสือโอวจึงโกรธแค้นมาก เจ้าหมอนี่ช่างจงรักภักดีจริงๆ เดิมทีฉันคิดว่าแกจะออกไปเที่ยวแอ๊บหล่อในทะเลกับฉัน ผลสุดท้ายคือแค่กินอาหารเช้าเสร็จแกก็บินออกไปไม่เห็นแม้แต่เงา พอถึงเวลากินอาหารกลางวันก็บินกลับมา
นิมิตส์จ้องมองฉินสือโอวอย่างไร้เดียงสา และอ้าปากร้องเสียง ‘จุ๊กกรู๊ จุ๊กกรู๊’ ออกมา และสายตาก็มองไปที่เนื้อสีขาวราวหิมะของปลาแมคเคอเรลอย่างต่อเนื่อง
ฉินสือโอวกลัวว่ามันจะบินขึ้นมาบนโต๊ะจริงๆ จึงหยิบปลาแฮร์ริ่งโยนให้มันหนึ่งตัว นิมิตส์คาบเข้าปากและกลืนมันลงไป จากนั้นก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูบริเวณที่แขวนเสื้อและเริ่มที่จะจัดขนของมันให้เป็นระเบียบ
 ……………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset