ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1423 ออกเดินทาง เรือปริ้นเซสเมล่อน

“สิบ เก้า แปด…”
พวกชาวประมงเมาหัวราน้ำและส่งเสียงกันออกมาอย่างคึกคัก พวกเขาล้อมกันเป็นวงกลม ตรงกลางวงเป็นโต๊ะเหล้าขนาดเล็กที่มีฉินสือโอวที่กำลังยิ้มอยู่และชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่กำลังหน้าดำหน้าแดง
“สาม สอง หนึ่ง…ศูนย์!”
หลังจากนับเลขจนจบ ฉินสือโอวขมวดคิ้วขึ้นมาทันที กล้ามเนื้อแขนด้านขวามีพลังงานปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ ทำให้แขนขนาดใหญ่กว่าสองเท่าของฝ่ายตรงข้ามเอนไปที่โต๊ะโดยตรง!
“ฟัค!” ลีโอนาร์โดผู้หล่อเหลาที่พยายามประคับประคองความอ่อนโยนของตัวเองอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
ผู้คนในผับพากันวิ่งออกไปข้างหน้าพร้อมส่งเสียงร้องออกมา คาเมรอนและคนอื่นๆ ก็วิ่งออกไปเช่นกัน ไม่นานข้างในผับก็ว่างเปล่า ผู้คนต่างพากันเดินไปตามถนนด้านนอก
เสียงดอกไม้ไฟดังไปทั่วบริเวณ เสียงระฆังบอกปีใหม่ดังขึ้น เนื่องจากการตีระฆังของบาทหลวง ผู้คนในเมืองต่างพากันร้องเพลงสวัสดีปีใหม่ขึ้นมา
คนแคนาดาเรียนรู้เรื่องนี้จากคนอเมริกัน เพลงปีใหม่ที่พวกเขาชอบร้องกันคือเพลง ‘ออลด์แลงไซน์’ เป็นเพลงจากภาพยนตร์คลาสสิคอย่างเรื่อง ‘ฟอร์เรสท์ กัมพ์’ นี่คือเหตุผลที่ผู้คนพากันร้องเพลงส่งท้ายปีเก่าที่ไทม์สแควร์นิวยอร์ก หลังจากวันปีใหม่เริ่มขึ้น พวกเขาก็จะร้องเพลงนี้ขึ้นมา
“เหตุไฉนใดควรลืมเลือนความคุ้นเคย และเหตุไฉนถึงไม่ควรจดจำ?…”
เสียงร้องเพลงดังขึ้น เพราะว่าตอนนี้ทุกคนดื่มเหล้ากันจนเมาแล้ว เพลงที่ร้องออกมาจึงไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน และผิดทำนองเป็นครั้งคราว ตอนที่ผู้คนในเมืองร้องเพลงพวกเขาต่างร้องออกมาด้วยความสุข ทำให้เป็นการต้อนรับวันปีใหม่ที่มีความสุขมาก
แน่นอนว่า ที่พวกเขามีความสุขไม่ใช่เพราะการเริ่มต้นปีใหม่ แต่เพราะว่าฉินสือโอวนั้นแข่งชนะคนพวกนั้น ต่อจากนี้ไปในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาจะสามารถดื่มได้อย่างสบายใจ เพราะมีคนจ่ายค่าเครื่องดื่มให้
ไชด์ที่อยู่ด้านข้างฉินสือโอวร้องเพลงพลางยื่นมือไปหาเขา หลังจากที่ทั้งสองคนจับมือกัน เพลงก็จบลงพอดี เขายิ้มออกมาด้วยความดีใจและพูดว่า “ฉิน ขอบคุณสำหรับของขวัญปีใหม่นะ!”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “ฉันไม่ได้ให้ของขวัญอะไรสักหน่อย?”
ไชด์ตะโกนออกมาว่า “ไม่ ต่อไปนี้พวกเราจะดื่มได้โดยไม่ต้องเสียเงินไปอีกนาน เรื่องนี้ต้องขอบคุณนายจริงๆ สำหรับพวกเราแล้ว นี่คือของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุด…ใช่ไหม พวก?!”
เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ เสียงชาวเมืองร้องโห่ดังขึ้นทั่วทั้งเมือง
คาเมรอนมองหน้าลีโอนาร์โด  มุมปากของเขากระตุกขึ้น สุดท้ายพวกเขาก็อดไม่ได้ แล้วพูดขึ้นมาด้วยความพอใจว่า “ฉันว่า พวกนายออกกำลังกายก่อนหน้าที่จะมาถ่ายหนังนานถึงสามเดือนแน่เลยใช่ไหม? หรือว่ากล้ามเนื้อบนร่างกายพวกนี้ มาจากการทานโปรตีนงั้นเหรอ?”
ลีโอนาร์โดพูดขึ้นอย่างเศร้าใจว่า “ไม่ใช่นะ เจมส์ ฉินคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาด! ฟัค เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งด้วย!”
คาเมรอนตอบกลับอย่างดูถูกว่า “หรือว่าพวกนายไร้ประโยชน์กันแน่ ถ้าฉันยังเป็นวัยรุ่นอยู่ล่ะก็ ฉันชนะเขาไปได้ตั้งนานแล้ว!”
เสียงระฆังและเสียงร้องเพลงดังประสานกัน หลังจากที่ผู้คนชมการแสดงของพลุที่งดงามบนท้องฟ้ายามค่ำคืนจบ นีลบาร์เทนเดอร์ในผับก็แจกกระดาษและปากกาให้กับทุกคน เพื่อให้พวกเขาเขียนคำปฏิญาณปีใหม่ เป็นการประกาศเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจจะทำหรือทำให้สำเร็จในปีใหม่นี้ ก่อนหน้านี้ที่ฉินสือโอวทำงานฝ่ายบุคคล ทุกปีพนักงานบริษัทก็จะเขียนคำปฏิญาณเช่นกัน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่เหมือนกับที่บริษัท พวกคนในบริษัทจะเขียนเป้าหมายในการทำงานในปีใหม่นี้ หรือไม่ก็มุ่งมั่นที่จะซื้อบ้าน เลื่อนตำแหน่ง เพิ่มเงินเดือน ซื้อรถยนต์ แต่งงานและอื่นๆ แต่ที่แคนาดานี้ไม่เหมือนกัน คำปฏิญาณของพวกเขาไม่ได้เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องทะเยอทะยาน เป็นเพียงการวางแผนบนความเป็นจริงเท่านั้น
ฉินสือโอวได้ดูรายงานข่าวเมื่อปีที่แล้ว รายงานแจ้งว่าสิ่งที่ชาวแคนาดาต้องการทำเป็นสิ่งแรกในปีใหม่คือการลดน้ำหนัก สองคือการออกกำลังกายมากขึ้น เขาออกกำลังกายทุกวัน เขาเลยไม่อ้วน ซึ่งโดยปกติแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องนี้
เมื่อคิดดูแล้ว เขาเขียนปฏิญาณลงไปในกระดาษด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นก็ใส่กระดาษลงไปในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุดของเคาน์เตอร์บาร์
ต่อไปพวกชาวประมงก็จะเปิดคำปฏิญาณเมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นเขาก็จะหาคำปฏิญาณของตัวเอง เพื่อเป็นการยืนยันว่าตัวเองนั้นทำได้สำเร็จหรือไม่
ปีที่แล้วฉินสือโอวไม่ได้เขียน จึงไม่เกี่ยวกับเขา เขาจึงเตรียมตัวออกจากร้าน
ปรากฏว่าเมื่อเขาเดินไปหยุดอยู่หน้ารถ เขาก็เห็นว่ามีสาวร่างเพรียวยืนอยู่ที่ข้างรถของเขา ไม่ต้องดูให้ละเอียด แค่เห็นท่าทางดูน่าเกรงขามทะเยอทะยานออกมาก็รู้แล้วว่า คนคนนั้นคือเชอริล
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในคืนนี้นะ” เชอริลยิ้มพลางยื่นมือออกมา
ฉินสือโอวไม่ได้จับมือเธอ แต่เลือกที่จะไฮไฟท์ให้เธอแทน ราวกับเป็นการทักทายเพื่อนพี่น้อง แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร คืนนี้เธอเป็นควีนของพวกเราในเมือง จะปล่อยให้คนพวกนั้นมาทำรุ่มร่ามกับเธอได้ยังไง!”
เชอริลยิ้มออกมา เธอยืนกรานที่จะจับมือกับฉินสือโอว เธอมองไปยังเขาและพูดว่า “สวัสดีปีใหมท่ ฉิน ขอให้ปีใหม่นี้ การงานราบรื่น มีความสุขมากๆ”
“ขอให้พรนี้ส่งกลับถึงเธอเหมือนกันนะ เชอริล”
เชอริลยิ้มออกมาพลางปล่อยมือ หลังจากนั้นเธอก็โบกมือให้เขาและเดินไปยังรถของตัวเอง เธอพูดประโยคสุดท้ายออกมาว่า “ลาก่อน วันนี้สนุกมากเลย ฉันมีความสุขจริงๆ”
ฉินสือโอวยิ้มพลางพยักหน้าให้ หลังจากที่เชอริลขับรถออกไป เขาก็ขับรถออกจากผับด้วยเช่นกัน
ตอนที่ขับรถออกมาจากผับ เขาก็เห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งยืนรวมกันร้องเพลงอยู่ที่ประตูตรงริมถนน ค่ำคืนของฤดูหนาวทั้งหนาวและโดดเดี่ยว ฉินสือโอวมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสูงกว้างขวาง ประดับไปด้วยดวงดาว ภาพวิวทิวทัศน์ของเกาะแฟร์เวลในตอนนี้ ราวกับภาพวาดอันสงบสวยงามภาพหนึ่ง
วันปีใหม่วันแรก ทั้งเกาะเล็กๆ แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกครั้ง
งานที่ฟาร์มปลานั้นยิ่งยุ่งกว่าปกติ พวกชาวประมงนำเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า รวมถึงเสื้อกันหนาวและผ้าห่มมากมายหอบขึ้นเรือใหญ่ไป ทุกคนสวมชุดทำงานกันอย่างเรียบร้อย ชาร์คอยู่ที่หัวเรือคอยสั่งการ เรือปริ้นเซสเมล่อนใกล้ออกเดินทางแล้ว
สีหน้าของพ่อแม่ของฉินสือโอวดูเป็นกังวล ฉินสือโอวปลอบพวกเขาว่า “ไม่เป็นไร พ่อแม่ สบายใจเถอะครับ การออกทะเลครั้งนี้เพียงแค่เดือนเดียวเอง พวกเรายังกลับมาฉลองงานตรุษจีนได้ เวลาแป๊บเดียว เมื่อก่อนผมเคยออกทะเลนานถึงสามสี่เดือนเลยนะ”
แม่ของฉินสือโอวมองไปยังเสี่ยวเถียนกวาด้วยความลังเล พลางพูดขึ้นว่า “ใครบอกว่าแม่ห่วงแก? แม่ห่วงหลานสาวต่างหาก เธอยังเล็กอยู่เลย พวกแกจะไปที่ขั้วโลกเหนือไม่ใช่เหรอ? แบบนั้นจะไปได้ยังไง? เด็กไม่สามารถทนหนาวได้นะ”
พ่อของฉินสือโอวพยักหน้า เมื่อเห็นดังนั้นฉินสือโอวก็ทำอะไรไม่ถูก เป็นปู่ย่าที่ดีจริงๆ
วินนี่กอดเสี่ยวเถียนกวาแล้วพูดว่า “วางใจเถอะค่ะ พ่อแม่ ลูกอายุหนึ่งขวบแล้ว เธอปรับตัวกับสภาพแวดล้อมบนเรือได้ และเราควรปล่อยให้เธอปรับตัวกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้แล้ว เราไม่ควรปล่อยให้เธออยู่แต่ในห้อง ต้องให้เธอเจอแดดเจอลม แบบนั้นเธอถึงจะเติบโตมาเป็นอย่างดี”
ที่หัวเรือ ชาร์คตะโกนออกมาว่า “บอส ทุกอย่างสงบดี เตรียมตัวออกเรือได้!”
ฉินสือโอวพยักหน้า พลางมองไปยังเบิร์ด แล้วพูดว่า “ยกฟาร์มปลาให้นายแล้วกัน ฉันไม่อยู่ นายก็เป็นคนดูแลที่นี่นะ”
เบิร์ดทำความเคารพแบบทหารอเมริกัน แล้วตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “วางใจผมเถอะครับ หัวหน้า ก่อนที่คุณจะออกเดินทางฟาร์มปลาเป็นแบบไหน พอคุณกลับมามันก็จะยังคงเป็นแบบนั้น!”
แลนซ์และบลูพยักหน้า ฉินสือโอวหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ทำงานให้ฉันดีๆ ล่ะ กลับมาจะให้รางวัล! ”
“เย้!” เสียงร้องดีใจดังออกมา
ทุกคนที่อยู่บนเรือ พากันเป่านกหวีดออกมาเสียงดัง เรือลำใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ มุ่งหน้าสู่มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่
……………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset