ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1428 รุ่นพี่นำรุ่นน้อง

และอีกหนึ่งเหตุผลที่ปูจักรพรรดิไม่เหมาะที่จะอยู่ในประเภทปูก็เพราะว่าปูจริงๆ เป็นพวกไต่เร็ว ยิ่งเมื่อเคลื่อนไหวใต้ก้นทะเลแล้วนั้น พวกมันจะวิ่งฉับๆ ไปอย่างรวดเร็ว แต่ปูจักรพรรดิไม่เหมือนกัน พวกมันเป็นพวกนวยนาด เดินเอ้อระเหย อย่างกับสุภาพบุรุษใต้ท้องทะเล
และถ้าใครว่ามันเป็นสุภาพบุรุษ คงบอกได้เพียงแค่ว่าคิดผิดแล้วล่ะ ปูจักรพรรดิมีนิสัยดุแถมยังโลภมากในการกินอีกด้วย
สัตว์กระดองเหล่านี้เป็นพวกชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม เวลาพวกมันล่าเหยื่อมันมักจะเข้าไปล้อมเหยื่อ และซึ่งถ้าถูกพวกมันหมายตาไว้แล้วล่ะก็ แม้แต่ลูกฉลามก็ยังถึงกับต้องยอมศิโรราบ ยิ่งถ้าเมื่อโดนล้อมแล้วก็เตรียมโดนตัดแขนตัดขาได้เลย
นอกจากนี้เมื่อมองจากลักษณะภายนอกแล้วจะรู้ได้เลยว่าพวกมันนั้นดุร้าย อีกทั้งกระดองและขาของเจ้าพวกนี้ก็เต็มไปด้วยหนามแหลม บวกกับกระดองที่นิ่มและมีหนามโดยธรรมชาติ จึงไม่ค่อยมีศัตรูตามธรรมชาติในน่านน้ำทะเลขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
ฉินสือโอวถ่ายทอดภารกิจจับปลาอยู่บนดาดฟ้าเรือ เหล่าชาวประมงยี่สิบกว่าคนก็ลุกขึ้นทำตามสั่งในทันที
“ตาเกิง สักหน่อยก็คอยดูสี่คนที่นายพามาด้วยนะ พวกนายอย่าเพิ่งทำอะไร เดี๋ยวชาร์คจะนำทีมในสองรอบแรกของการทำงานด้านหน้าก่อน ส่วนพวกนายคอยดูไปก่อนแล้วกัน โอเคไหม?” ฉินสือโอวกำชับเขาเป็นพิเศษ
เหมือนกับที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การจับปูจักรพรรดิเป็นงานที่อันตรายมาก มีคนตายให้เห็นได้อย่างง่ายดายและมีคนได้รับบาดเจ็บให้เห็นอยู่ตลอด ถ้ามีเรือสักลำไปจับปูในฤดูจับปูแล้วคนงานทุกคนปลอดภัย นั่นก็ถือว่าคงได้พรจากพระเจ้ามา
นี่ไม่ได้พูดเกินไปแต่อย่างใด ทุกๆ ฤดูกาลจับปูตั้งแต่เริ่มจนจบฤดูกาลที่มีแค่สี่ห้าวัน แต่ในช่วงเวลาสี่ห้าวันนี้ การจับปูนั้นทั้งตึงเครียดและหนักหน่วง อีกทั้งชาวประมงยังมีเวลาพักไม่เกินห้าชั่วโมงต่อวันอีกด้วย
ซึ่งความเหนื่อยล้าบวกกับความง่วง สุดท้ายก็จะทำให้หลุดโฟกัสและง่ายต่อการเกิดปัญหาตามมาในที่สุด
นับตั้งแต่วินาทีที่ลงเรือจับปู พวกชาวประมงก็ตกอยู่ในอันตรายในทันที
ชาวประมงแห่งเมืองแฟร์เวลเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ถึงแม้จะไม่เคยทำแต่ก็เคยได้ยินมาก่อน ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ฉินสือโอวพยักหน้าและพูดเริ่มงานอย่างเป็นทางการ ทุกคนก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ปูจักรพรรดิดำรงชีวิตอยู่ในทะเลลึก ถ้าจะจับพวกมัน จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่แข็งแรงเตรียมเอาไว้ ซึ่งก็คือสิ่งที่แข็งแรงกว่ากระชังปู
ซึ่งรูปทรงของกระชังชนิดนี้จะเป็นทรงกระบอกกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลางปากกรงประมาณสองเมตรครึ่ง ประกอบด้วยเหล็กไส้ตันหนักสามร้อยกิโลกรัมทั้งชิ้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถจมลงสู่ก้นทะเลลึกได้
และเพื่อให้เป็นการเหลือพื้นที่ใช้สอยบนเรือ กระชังปูพวกนี้จะถูกวางซ้อนกันเป็นชั้นสูงขึ้นไป คล้ายกับกองปีศาจเส้นเหล็กที่สูงกว่าสิบเมตร และมัดไว้อย่างแข็งแรงแน่นหนาเป็นพิเศษด้วยโซ่หนาเท่านิ้วกับเชือกหนาเท่าแขน
เกิงจุนเจี๋ยพาลูกน้องทหารคนจีนทั้งสี่ยืนดูอยู่ด้านข้างด้วยความประหลาดใจ จนฉินสือโอวถามขึ้น “พวกนายสงสัยอะไรก็ถามได้ตลอดเลยนะ เพราะฉันอยากให้พวกนายเป็นชาวประมงที่เก่งที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุดเข้าใจไหม?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้น “พี่ใหญ่ ผมขอถามนิดนึง กระชังปูพวกนี้ต้องมัดแน่นขนาดนี้เลยเหรอ?”
ชาร์คที่อยู่ข้างฉินสือโอวตอบคำถามนี้ “พวก นายต้องเข้าใจนะว่า มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเปรียบเสมือนหญิงสาวที่อารมณ์แปรปรวน ที่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่คลื่นลมแรงมากที่สุด แต่พอเมื่อเข้าเดือนมกราคม คลื่นลมทะเลก็จะเบาบางลงมาก แต่ตลอดทางที่พวกเรามากัน ยังไม่เจอคลื่นทะเลยักษ์เลยสักลูก นั่นก็แสดงว่าพระเจ้าคุ้มครองพวกเราอยู่”
“แต่โดยปกติแล้ว ทุกปีนักชีววิทยาจะกำหนดโควตาการจับปูตามการเติบโตของปูจักรพรรดิ และช่วงที่รัฐบาลให้ออกจับปูก็คือช่วงนี้ในเดือนตุลาคม ซึ่งก็เป็นช่วงที่เรือจับปูต้องออกทะเลในเวลาที่ลมแรงที่สุด”
“พวกนายเคยเห็นลมทะเลหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงไหมล่ะ? แล้วพวกนายเคยรอดผ่านคลื่นยักษ์สูงสิบเมตรมาก่อนไหมล่ะ?”
เกิงจุนเจี๋ยส่ายหน้า แต่สี่คนที่เหลือกลับพยักหน้าและพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย “สมัยก่อนตอนที่ผมอยู่หน่วยเรือรบ จะเจอลมทะเลกับคลื่นยักษ์แบบนี้บ่อยมาก”
นอกจากเกิงจุนเจี๋ยแล้ว สี่คนที่เหลือต่างก็เป็นทหารเรือปลดเกษียณกันมาก่อน ซึ่งนี่เป็นอีกข้อที่นอกจากลักษณะนิสัยแล้วฉินสือโอวพิจารณาเป็นอันดับแรกตอนประกาศรับสมัครงาน ทหารเรือมีข้อดีก็ตรงนี้ สามารถลงเรือทำงานได้เลยและไม่เมาเรือ
สำหรับชาวประมงสิ่งสำคัญที่สุดคือการเมาเรือ เพราะหากเมาเรือแล้วจะทำงานไม่ได้ ยิ่งถ้าออกทะเลไกลพวกที่เมาเรือจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ไหมนั้นก็ยังไม่แน่ใจ
ได้ฟังพวกเขาพูดดังนั้นแล้ว ชาร์คก็หัวเราะขึ้น “งั้นพวกนายก็เข้าใจแล้วใช่ไหม? เมื่อเรือลำหนึ่งกำลังลอดผ่านคลื่นทะเลสูงสิบเมตร ของข้างบนที่มัดไว้แน่นหนายังดูน้อยไป”
จากนั้นซีมอนสเตอร์ก็สั่งให้ชาวประมงใจเย็นสองคนแก้มัดเชือกเส้นใหญ่ จากนั้นก็สตาร์ทเครน แล้วกระชังปูก็ถูกหย่อนลงไปในน้ำทีละอัน
อยู่ในทะเลก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีลมแรง เรือปริ้นเซสเมล่อนเลยมีจังหวะโคลงเคลง และหลังจากปล่อยกรงจับปูพวกนี้แล้ว ภายใต้การพัดของคลื่นทะเลจึงเหมือนกับสัตว์ป่าหนีออกจากกรงขังและเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
“ขณะที่ทุกคนหย่อนของสิ่งนี้ที่หนักถึงสามร้อยกิโลกรัมลงทะเล พวกนายต้องพากันระวังเป็นพิเศษ แล้วหลีกเลี่ยงอย่าให้มือเข้าไปติดอยู่กับกระชังปู และป้องกันการตกลงไปในกระชังด้วย ฉันคิดว่าพวกนายคงไม่อยากกลายเป็นปูใหญ่ตัวแรกในกระชังกันหรอกใช่ไหม?” ชาร์คแนะนำ
แล้วก็มีคนหัวเราะล้อเลียนขึ้น พอซีมอนสเตอร์ได้ยินเสียงหัวเราะก็เลยหันไปเตือนพวกเขาว่า “หยุดนะ พวกนายคิดว่าชาร์คพูดเล่นอยู่งั้นเหรอ? ให้ตายสิ! เมื่อเจ็ดปีก่อน ลูกพี่ลูกน้องฉันบรูโน ก็ถูกแขวนกับไอ้กระชังปูบ้านั่น รู้ไหมสุดท้ายแล้วเป็นไง? ตอนที่พวกเราดึงกรงจับปูขึ้นมา หัวใจของเขากลายเป็นน้ำแข็งไปเลย!”
ชาวประมงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ตบไปที่ไหล่ของซีมอนสเตอร์และพูดว่า “บรูโนไปสบายแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องนั้นอีกเลย”
เกิงจุนเจี๋ยเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นไปโอบไหล่ซีมอนสเตอร์พร้อมกับพูดขึ้นด้วยภาษาอังกฤษที่ยังไม่คล่องว่า “ขอโทษด้วยนะพวก ความผิดพวกเราเอง พวกเราจะตั้งใจทำงานนี้ มันน่ากลัวใช่ไหม?”
ซีมอนสเตอร์ฝืนยิ้มและพูดว่า “แต่ก็ไม่ต้องไปกลัวมันหรอก”
แค่รับมืออย่างระมัดระวังและรอบคอบ การจับปูจักรพรรดิก็ไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้น อีกทั้งตอนนี้ฉินสือโอวก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานที่มีความเสี่ยง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาตัดสินใจมาเกาะกรีนแลนด์ก่อนหนึ่งเดือน เพราะภูมิอากาศในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมโหดร้ายมาก
กระชังปูตกลงไปในทะเลเป็นชุดๆ พร้อมกับปลาซาบะ ปลาแฮร์ริ่งและเนื้อปลาซาบะบดเลิศรส สำหรับปูจักรพรรดิแล้วนี่คืออาหารชั้นเยี่ยม ซึ่งพวกมันไม่มีทางต่อต้านสิ่งยั่วยวนนี้ได้อย่างแน่นอน
หลังจากกระชังปูถูกปล่อยลง ชาร์คและซีมอนสเตอร์ก็เริ่มพาทีมเข้าสู่งานที่สอง นั่นก็คือใช้ไม้ถูพื้นทำความสะอาดทุกส่วนของดาดฟ้าเรือและหางเรือ
ถึงตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาเที่ยง แต่อุณหภูมิภายนอกของเรือยนต์ยังคงติดลบประมาณสิบองศา ยิ่งถ้าถึงตอนเย็น อุณหภูมิก็จะลดลงจนถึงติดลบยี่สิบองศา
แล้วนี่มันหมายความว่าอย่างไรน่ะเหรอ? ก็หมายความว่าคลื่นทะเลเรียกร้องการปะทะขึ้นมาบนเรือ เพียงแค่ฟองคลื่น บนเรือก็จะมีน้ำแข็งเพิ่มขึ้นอีกชั้น!
ชั้นน้ำแข็งไม่เพียงแต่ทำให้ลื่นแต่ยังทำให้เรือแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก จึงเป็นเหตุให้เรือคว่ำในที่สุด
“ฉันคิดว่าพวกนายก็คงเห็นแล้ว คลื่นทะเลนั้นมาจากอีกทิศหนึ่ง หากข้างใดข้างหนึ่งของตัวเรือเต็มไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนาๆ งั้นความหวังเดียวของพวกเราก็คือยามชายฝั่งที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือทางทะเล” ชาร์คทั้งทำงานทั้งอธิบายรายละเอียดต่างๆ
ส่วนฉินสือโอวก็ลงสนามกับเขาด้วย ไม่ใช่เพียงเพื่ออยากนำหน้ามวลชน เพียงแต่ต้องยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เพราะในสภาพแวดล้อมเช่นนี้พึ่งแต่เครื่องทำความร้อนคงไม่ไหว ต้องอาศัยการขยับร่างกายมากๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset