ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1447 ฉงเอ้อมาแล้ว

ถึงจะพูดขนาดนี้ แบล็คไนฟ์ก็ยังรีบช่วยแอร์แบ็คถอดเสื้อผ้ากับรองเท้าออก และหยิบชุดลอยน้ำมาให้เขา พร้อมกับสั่งให้เขาสวมและนอนลง จากนั้นก็บิดเสื้อผ้าที่เปียกและห่มผ้าบนตัวให้เขา ซึ่งก็ทำให้อบอุ่นเหมือนกัน
ฉินสือโอวพายไปที่ข้างๆ เรือด้วยระดับความเร็วที่เร็วที่สุด แบล็คไนฟ์รับลูกหมีตัวน้อยมา และยัดมันเข้าไปในผ้าห่ม ลูกหมีกะพริบตามองปริบๆ และหันหน้าเข้าไปในผ้าห่มด้วยแรงทั้งหมดทันที
“เด็กโง่นี่คงจะรู้สึกหนาวมาก” วินนี่พูดด้วยอย่างอ่อนโยน
เจ้าของเรืออธิบายว่า “คงจะรู้สึกกลัว มันคงคิดว่านี่คือถ้ำที่แม่มันขุดเอาไว้”
ทุกคมล้อมเข้ามาดูลูกหมี หมีขั้วโลกไม่ได้หายาก แต่เจอลูกหมีอยู่ในทะเลนี่ก็หายากอยู่
วินนี่ขอให้เจ้าของเรือรีบกลับขึ้นฝั่ง เพื่อเตรียมอาบน้ำร้อนให้ลูกหมีกับพาไปพบสัตวแพทย์และอื่นๆ เธอก็เพิ่งจะเห็นว่าสุขภาพของลูกหมีตัวนี้แย่มากเหมือนกัน
ฉินสือโอวไม่ค่อยกังวลนัก หลังจากที่ลูกหมีตกน้ำเขาก็ส่งพลังโพไซดอนเข้าไปไม่น้อย ตอนนี้มีผ้าห่มให้ความอบอุ่น อย่างน้อยเจ้าตัวน้อยก็ไม่ตายแล้ว
คนกลุ่มหนึ่งรุมล้อมกัน ทำให้เรือไม้เริ่มโคลงเคลงขึ้นมา เจ้าของเรือตื่นตระหนก “อย่าอยู่ตรงนี้กันทุกคน กระจายๆ กันหน่อย! ความสมดุลของเรือลำนี้แย่มาก ท้องเรือก็แคบเกินไป เรือจะล่มง่ายมากนะ”
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถ้าเรือล่ม ซึ่งมีทั้งลูกหมีมีทั้งเด็ก เรื่องสนุกก็คงจะมากขึ้น
พวกทหารจำใจต้องกระจายกันออกไป ฉินสือโอวกอดผ้าห่มไว้ในอ้อมแขน วินนี่แย่งมันไป จากนั้นก็ส่งเด็กน้อยให้เขา และพูดว่า “พวกเราสองคนมาเปลี่ยนกันหน่อย คุณอุ้มลูกสาวของคุณนะ”
นี่เขาดูโง่ขนาดนั้นจริงๆ เหรอ ท่านชายฉินกลอกตาไปมาอย่างต่อเนื่อง
วินนี่ยกผ้าห่มมุมหนึ่งขึ้น หัวของลูกหมีจึงปรากฏออกมา เมื่อพบว่าตัวเองถูกเปิดเผย ใบหน้าของลูกหมีก็เต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนก มันส่งเสียงร้องอ่อนแอออกมา และพยายามมุดต่อหลังจากนั้น
“เด็กที่น่าสงสารตัวนี้ มันจะมาอยู่บนน้ำได้อย่างไร?” วินนี่ถาม
ฉินสือโอวตอบว่า “ผมก็เจอมันอยู่บนน้ำแข็งลอยก้อนนั้น ตอนนั้นผมสนใจแค่ด้านบนมีปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนืออยู่ แต่ไม่ได้สนใจและนึกไม่ถึงว่าจะยังมีหมีตัวใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วย! ซึ่งก็แปลกมากจริงๆ!”
เจ้าของเรือพูดด้วยความกลุ้มใจ “นี่ไม่มีอะไรแปลกหรอก เพราะปรากฏการณ์เรือนกระจก ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สภาพอากาศไม่หนาวพอ…”
“ฮะ ฮะ ฮัดชิ้ว! ผมจะหนาวตายอยู่แล้ว!” แอร์แบ็คพึมพำกับตัวเองอยู่ตรงนั้น
เจ้าของเรือพูดว่า “นี่คืออากาศที่ร้อนแล้ว เพื่อน ถ้าเป็นฤดูหนาวตอนที่ผมยังเด็ก ถ้าคุณกล้าลงน้ำแบบนี้ สิ่งที่คุณจะจับมาได้นั้นก็คือก้อนน้ำแข็ง!”
แอร์แบ็ครู้สึกอายอย่างหาที่เปรียบมิได้ อันที่จริงเขาไม่ได้จะหักล้างคำพูดของเจ้าของเรือ แต่เขารู้สึกหนาวมากจริงๆ!
เจ้าของเรือพูดต่อ “สภาพอากาศไม่หนาวพอ ชั้นน้ำแข็งไม่หนาพอ สำหรับมนุษย์คงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับสัตว์อย่างหมีขั้วโลก หมาจิ้งจอกอาร์ติก หมาป่าขั้วโลกและอื่นๆ ถือเป็นปัญหาค่อนข้างร้ายแรง”
“ดูหมีน้อยตัวนี้สิ ชัดเจนว่าเพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน คาดว่าเป็นแม่หมีที่ทนหิวไม่ได้ จึงตื่นจากการจำศีลก่อนเวลาและพามันออกไปล่าอาหาร เมื่อพบว่าบนก้อนน้ำแข็งมีปลาจำนวนมาก มันก็ทุบก้อนน้ำแข็งและคิดจะจับปลาออกมา ผลคือก้อนน้ำแข็งบางเกินไป จึงแตกทั้งหมด หมีน้อยตัวนี้จึงตกลงไปบนก้อนน้ำแข็งในหมู่ก้อนน้ำแข็งพวกนั้น และลอยมาตลอดทาง”
เมื่อพูดถึงขนาดนี้ เจ้าของเรือก็ถอนหายใจ “นับว่าชีวิตมันหนักมาก ก่อนจะมาพบพวกเรา ถ้าลอยตามกระแสน้ำไปเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่มันจะหิวตายก่อน แต่ถ้ารอจนกระทั่งก้อนน้ำแข็งละลาย มันคงจะหาที่พักในทะเลไม่ได้ ซึ่งมันจะจมน้ำและแข็งตายอย่างแน่นอน!”
ถ้าอยู่ในเขตขั้วโลกที่เหนือยิ่งกว่านี้ หมีขั้วโลกจะอยู่ในสถานะจำศีล และเมื่อถึงเดือนมีนาคมมันจึงจะตื่น จากนั้นก็จะไปค้นหาอาหาร
เรื่องที่เจ้าของเรือพูดก็มีเหตุผล หมีน้อยตัวนี้ปรากฏตัวเร็วขนาดนี้ ก็เป็นไปได้แค่แม่หมีตื่นจากการจำศีลก่อนเวลา ผลคือด้านนอกยังมืดมาก พวกมันไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมือนกับหมาป่าตอนอยู่ในที่มืด จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างที่แม่หมีออกล่า และสร้างความสูญเสียให้กับลูก!
แต่นี่ก็ค่อนข้างดี ฉินสือโอววิเคราะห์นิดหน่อย ลูกหมีตัวนี้กับแม่ของมันไม่ได้เพิ่งตื่น อย่างน้อยแม่ของมันก็สอนมันว่าทุบก้อนน้ำแข็งเพื่อค้นหาปลาอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นมันก็โชคดีมาก ในก้อนน้ำแข็งที่มันอยู่นั้นมีปลา และพึ่งการขุดปลาพวกนั้น มันจึงคำจุ้นชีวิตของมันมาจนถึงตอนนี้อย่างฉิวเฉียดพอดี
แต่ลูกหมีก็คือลูก มันยังเด็กเกินไป คาดว่าเกิดมาได้ไม่กี่วัน และยังต้องการนมแม่เพื่ออยู่รอด มันสามารถกินปลาได้ แต่ไม่สามารถกินแค่ปลาได้  คำพูดที่เจ้าของเรือเพิ่งจะพูดมีทั้งถูกและผิด สิ่งที่ผิดคือลูกหมีตัวนี้จะไม่รอดจนถึงน้ำแข็งละลาย และจะตายเพราะโภชนาการไม่สมดุล
สิ่งที่เขาพูดถูกนิดหน่อยก็คือ ลูกหมีโชคดีมาก ที่ถูกฉินสือโอวเจอ
ฉินสือโอว วินนี่ เจ้าของเรือ พนักงานเปิดประตูและคนอื่นๆ คุยกันตลอดเวลา ผลสุดท้ายก็คือเจ้าของเรือไขว้แขนเป็นรูปกากบาทบนหน้าอกและพูดว่า “พระเจ้าทรงอวยพร คุณฉิน คุณกับหมีน้อยตัวนี้ถูกลิขิตให้เจอกัน พระเจ้าคงส่งมันมาอยู่เคียงข้างคุณ!”
เมื่อวินนี่ได้ยินคำพูดนี้ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไปเปล่งประกาย “ใช่แล้วๆ นี่ก็คือโชคชะตา…”
เธอไอออกมา จากนั้นก็ใช้เสียงที่นุ่มนวลพูดว่า “สำหรับเจ้าหมีน้อย มันได้เจอกับคนที่มันต้องการเจอในหมู่คนนับพันนับหมื่น สำหรับสามีของฉัน เขาในช่วงพันปีหมื่นปี ในถิ่นทุรกันดารที่ไร้ขอบเขตของเวลา ไม่มีก้าวที่เร็ว และก็ไม่มีก้าวที่ช้า บังเอิญได้มาเจอหมีน้อยตัวนี้ ไม่มีคำอื่นจะพูด แค่คำสัญญาจากก้นบึ้งของหัวใจ โอ้ คุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ? นั่นถูกลิขิตไว้ให้พวกเราได้อยู่ด้วยกัน!”
“ว้าว นายหญิงมีพรสวรรค์จริงๆ!” ทริกเกอร์อุทานด้วยความชื่นชม
แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ พยักหน้า เจ้าของเรือก็ยกนิ้วให้วินนี่ และพูดว่า “ผมเดาว่า คุณผู้หญิงจะต้องเป็นนักกวีแน่ๆ และก็คงไม่ใช่นักการเมือง นักธุรกิจและอย่างอื่นที่สกปรกอะไรนั่นแน่”
แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ไม่กล้าพยักหน้า
ใบหน้าของฉินสือโอวเต็มไปด้วยอาการทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่จะรับเลี้ยงหมีน้อยงั้นเหรอ ทำไมวินนี่ถึงพูดอะไรที่เป็นวรรณกรรมขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้น การบิดเบือนและเปลี่ยนคำพูดที่มีชื่อเสียงของคนอื่น นี่ดีแล้วจริงๆ เหรอ?
วินนี่ไม่ได้กดดันเลย เธอพูดจบและมองไปที่ฉินสือโอวอย่างเฝ้ารอ “เร็วๆๆ ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้!”
กฎของฟาร์มปลา ถ้าเกิดสัตว์มีชื่อแล้ว นั่นก็คือคนในครอบครัว
ฉินสือโอวพูดโดยไม่คิดว่า “ง่ายมาก เรามีฉงต้าไม่ใช่เหรอ? งั้นนี่ก็ฉงเอ้อไง!”
จิตใต้สำนึกของเขาพูดขนาดนี้ แต่หลังจากที่พูดจบเขาก็มีความสุข มันเป็นชื่อที่ดีจริงๆ ฉงต้ากับฉงเอ้อ คู่กันขึ้นมาพอดี
ที่นี่มีแค่วินนี่ที่เข้าใจความหมายของชื่อนี้ รวมถึงแบล็คไนฟ์และคนอื่นที่อยู่ข้างใน ต่างก็มองไปที่ฉินสือโอวด้วยสายตาประหลาดใจ พนักงานเปิดประตูไม่ได้พูดด้วยความวิตกกังวลเลย “ชื่อนี้ห่วยมาก! ผมไม่เคยได้ยินชื่อที่แย่ขนาดนี้มาก่อนเลย! นี่คือหมีขั้วโลกนะ คุณจะเรียกมันว่าฉงเอ้อเหรอ? โอ้ พวกคุณยังมีหมีอีกตัว หมีตัวนั้นชื่อฉงอีใช่ไหม?”
ฉินสือโอวใช้สำเนียงภาษาจีน และพูดว่า “ฉงอีเอ้อ โอเค? มันออกเสียงแบบนี้ ไม่ใช่ออกเสียงแบบนั้นเหมือนพวกคุณ อย่างไรก็ตามนี่เป็นชื่อที่ดี ใช่ไหมที่รัก?”
วินนี่ยิ้มหวาน “แน่นอน ฉันไม่รังเกียจชื่อใดๆ ของลูกหรอก แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเรียกมันว่า ‘โวลเท็กซ์’”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “นี่สิถึงจะเป็นชื่อที่แย่!”
แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ พูดเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่ครับ นี่คือชื่อของฮีโร่!”
วินนี่ยิ้มอย่างภูมิใจ และอธิบายให้ฉินสือโอวฟังนิดหน่อย โวลเท็กซ์สำหรับหมีถือเป็นชื่อของฮีโร่จริง มันคือหมีสงครามตัวหนึ่ง ซึ่งเคยรับใช้กองทัพโปแลนด์ที่ประจำการอยู่ในอิตาลีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสังกัดอยู่ในหน่วยปืนใหญ่ของกองทัพพันธมิตร มียศทหาร มีเหรียญทหาร ต่อมาถึงขั้นได้กลายเป็นมาสคอตและตราทหารของกองทัพ
ฉินสือโอวฟันจนจบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และพยักหน้า “โวลเท็กซ์เป็นนักสู้ในกลุ่มหมีและเป็นวีไอพีในกลุ่มนักสู้จริงๆ ดังนั้นผมตัดสินใจแล้วว่าลูกหมีตัวนี้จะชื่อฉงเอ้อ!”
ทุกคน “…”
………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset