ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1449 หุ้นส่วนที่ดี

เด็กน้อยทั้งสองต่อสู้กันเพื่อขวดนมขวดเดียว หู่เป้าฉงหลัวกับพวกเฟอเรทแบลคฟุตเบียดเข้ามาทีละตัว พวกมันนั่งเรียงแถวกันอยู่ที่ประตู และมองฉากนี้ด้วยความสนใจ พวกมันชอบไทยมุงมากที่สุด
ฉงเอ้อคือลูกหมีที่เพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน มันจัดอยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพ ตัวมันมีความสามารถทางสายเลือดตามธรรมชาติ แต่นี่จะยังไม่ได้พัฒนาออกมา ยิ่งกว่านั้นมันไม่ได้กินนมแม่มาหลายวัน เพียงแค่ขุดเนื้อปลาที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งกิน พลังงานของมันก็หมดแล้ว ซึ่งส่งผลต่อการแสดงความแข็งแกร่งอย่างมาก
เสี่ยวเถียนกวามีกำลังรบที่แข็งแกร่ง นี่ต้องขอบคุณเจ้าตัวน้อยแถวนั้นที่ประตู ปกติเธอจะฝึกซ้อมกับสัตว์ที่ดุร้ายในฟาร์มปลาพวกนี้ แน่นอนว่าก็ต้องขอบคุณทารกอ้วนตัวโตของบ้านบูลเหมือนกัน นั่นก็คืออีกเป้าหมายหนึ่งของเธอ
สั้นๆ ก็คือ ในขณะนี้เสี่ยวเถียนกวาอยู่ที่ต้นลม เธอเพิ่งจะดื่มนม ซึ่งจะเต็มไปด้วยพลังกาย หลังจากกดฉงเอ้อลงด้วยท่าแปดหมัดจักรพรรดิของเถียนกวา ฉงเอ้อที่ถูกตีก็หอนออกมาสองครั้งอย่างต่อเนื่อง มันทำได้แค่ยื่นอุ้งมือออกไปอย่างส่งเดชและพยายามผลักเถียนกวาลงอย่างไร้ประโยชน์
วินนี่เก็บขวดนมขึ้นมาและส่งสัญญาณทางสายตาให้ฉินสือโอว เธออุ้มเถียนกวาลงมาจากตัวของฉงเอ้อ และกอดไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับบุ้ยปาก “จุ๊บๆ มาที่รัก จุ๊บ จุ๊บกับแม่”
เสี่ยวเถียนกวาเกาอุ้งเท้าของฉงเอ้ออีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็หลับตาและบุ้ยปากเล็กๆ จุ๊บกับวินนี่
“สาวน้อยไม่แค้นด้วย” ทริกเกอร์พูดอย่างชื่นชม
ฉินสือโอวพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เพื่อน เธออายุแค่ 1 ขวบ จะรู้จักความแค้นได้อย่างไร? ตอนนี้แม้แต่เพราะอะไรถึงสู้กับฉงเอ้อที่น่าสงสารเธอก็ลืมไปแล้ว!”
เขาอุ้มฉงเอ้อไว้ในอ้อมแขน และยัดขวดนมเข้าไปในอ้อมแขนของมันอย่างแอบๆ ลูกหมีเห็นขวดนมก็ตื่นเต้นอย่างมาก และก็ลืมความเศร้าที่เพิ่งจะถูกทุบตีไป มันกัดจุกขวดนมและออกแรงทั้งหมดดูดนมขึ้นมา
เจ้าพวกตัวน้อยที่ประตูเข้าใจว่าไม่มีความครึกครื้นให้ดูแล้ว จึงแยกย้ายกันอย่างเหงาหงอย และวิ่งออกไปหาความครึกครื้นด้วยตัวเอง
ฉงเอ้อดื่มนมไป 2 ขวดติดต่อกัน มันยืดคอแบบยังต้องการดื่มอีก ฉินสือโอวกลัวว่ามันจะท้องเสียและทนไม่ไหวจึงไม่ให้อาหารมันอีก ลูกหมีไม่พอใจมาก มันอ้าปากและส่งเสียงคำรามออกมาอย่างไร้เดียงสา “ฮือๆๆๆ!”
เถียนกวาได้ยินเสียงร้องของมัน ก็ลุกขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว และเดินไปหามันอย่างก้าวร้าว
หมีขั้วโลกเป็นสัตว์ที่มักจะอาฆาตพยาบาทสายพันธุ์หนึ่ง พวกมันจะจดจำกลิ่นตัวกับลักษณะของศัตรูที่เคยทำร้ายตัวเองเอาไว้ภายในหนึ่งปีครึ่ง หลังจากนั้นตอนที่เจอกันครั้งถัดไป มันจะเริ่มโจมตีอย่างไม่ลังเลเพื่อแก้แค้น
แม้ว่าฉงเอ้อจะยังไม่โตเต็มวัย แต่นี่ก็คือธรรมชาติของหมีขั้วโลก มันเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เมื่อเห็นเถียนกวาเดินเข้ามา มันจึงหยุดส่งเสียงร้อง และอ้าปากโชว์ฟันน้ำนมพร้อมกับคำรามใส่เถียนกวาให้ตกใจกลัว
จุดที่เก่งของมนุษย์อยู่ที่ความสามารถในการใช้เครื่องมือ เถียนกวาหยิบหมอนข้างจากโซฟาขึ้นมาอย่างง่ายดาย ขาสั้นๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าไปใกล้ลูกหมีก็เหวี่ยงหมอนข้างขึ้น เหมือนกับบรูซลีเหวี่ยงกระบองสองท่อน “ฮึ่ยฮ่าเฮ้ย…”
ลูกหมีต้องทนทุกข์กับความพ่ายแพ้อีกครั้ง นมผงไม่ใช่ยาเพิ่มความแข็งแกร่ง การออกฤทธิ์ก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้น มันยังมีพลังกายไม่อึด ดังนั้นมันจึงถูกเด็กน้อยกดลงกับพื้นและทุบตีอีกครั้ง
ฉินสือโอวกับวินนี่จำใจต้องแทรกแซงการต่อสู้ต่อ แต่เจ้าตัวน้อยทั้งสองไม่ถูกชะตากัน ภายหลังขอเพียงแค่มีโอกาส ทั้งสองฝ่ายก็คงสู้กันอีก หรือพูดได้ว่า ขอเพียงแค่เถียนกวามีโอกาส ก็จะไปทุบตีลูกหมีแน่นอน
แบล็คไนฟ์อุทานด้วยความชื่นชม “ข้อสันนิษฐานของใครที่บอกว่ามนุษย์ไม่ใช้อาวุธ และความแข็งแกร่งในการต่อสู้คือตะกรัน 5 กัน? ดูเถียนกวาสิ เธออายุเกือบจะเท่ากับลูกหมีตัวนี้ใช่ไหม? เห็นไหมว่าเธอสู้ชนะหมีขั้วโลกตัวนี้ด้วยวิธีไหน?”
แอร์แบ็คพูดว่า “เถียนกวาก็คือแบล็ก วิโดว์จากมาร์เวล เธอจะเป็นแชมป์เปี้ยนที่ต่อสู้แบบไร้อาวุธในช่วงอายุของเธออย่างแน่นอน!”
“ต่อให้ใช้อาวุธก็ไม่มีปัญหา เธอสามารถกวาดเด็กช่วงอายุนี้พ้นไปได้เหมือนกัน” ทริกเกอร์พูดเสริม
ลูกหมีถูกทุบตีจนหวาดกลัวอย่างรวดเร็ว ในความคิดของมันที่ยังไม่โตเต็มวัยนั้น มันไม่เคยเจอสิ่งที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย และฉวยโอกาสที่จะทุบตัวเองอย่างรุนแรง เกลียดอะไรบ่นอะไร นึกไม่ถึงว่าจะต้องจัดการตัวเองขนาดนี้?
เจ้าของเรือถือปลาที่หนักมากพวงหนึ่งกลับมา เขายิ้มและถามว่า “เฮ้ เพื่อน หมีน้อยตัวนั้นดีขึ้นรึยัง? อ้อ อีกอย่าง มันอยู่ไหน?”
วินนี่พูดว่า “ขอบคุณนะคะ มิสเตอร์ สุขภาพของมันไม่มีปัญหา แต่ฉันคิดว่าในระยะเวลาสั้นๆ มันคงไม่กล้าโชว์ตัว”
ฉินสือโอวส่งสัญญาณทางสายตา เจ้าของเรือมองตามสายตาของเขาไป และเห็นว่าผ้าห่มผืนเล็กกำลังมีอาการสั่นเป็นจังหวะ คิดว่าที่ไม่รู้ก็คือมีลูกหมีนอนหลับอยู่ด้านใน แต่ฉินสือโอวกลับรู้ว่าเจ้าตัวนี้กลัวจนตัวสั่นอยู่ด้านใน
เถียนกวารออยู่ข้างๆ ในมือเล็กยังคงถือหมอนข้างไว้ และมองหาฉงเอ้อด้วยดวงตากลมโตเพื่อจะทุบตีมันต่อ
ภรรยาของเจ้าของเรืออธิบายถึงความขัดแย้งระหว่างเด็กน้อยกับหมีน้อย เจ้าของเรือหัวเราะออกมาเสียงดัง และพูดว่า “นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ สงครามระหว่างพวกมันจะดำเนินต่อไปจนกว่าเจ้าพวกตัวน้อยจะรู้ความ นี่คือปฏิกิริยาอุรังอุตังหลังเงิน”
“อะไรนะ?” ฉินสือโอวได้ยินไม่ชัด
เจ้าของเรืออธิบายว่า “ปฏิกิริยาอุรังอุตังหลังเงิน กอริลลาหลังเงินเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เอาแต่ใจที่สุดในโลกของธรรมชาติ ในฝูงจะอนุญาตให้มีกอริลลาตัวผู้ที่มีอิทธิพลและมีสิทธิ์ผสมพันธุ์อยู่ได้แค่ตัวเดียว เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 นี้ ความจริงกำลังต่อสู้เพื่อให้มีอิทธิพล ธรรมชาติทำให้พวกเธอเข้าใจซึ่งกันและกันว่าคือคู่แข่งของตัวเองในช่วงอายุนี้ และพวกเธอต้องปกป้องอธิปไตยของตัวเอง”
ฉินสือโอวยิ้มและพยักหน้า แต่ภายในใจของเขาไม่ได้เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้เลย มันก็แค่เด็กโง่สองคนเล่นเกมจิกมือใหม่กันก็แค่นั้น
เจ้าของเรือพูดว่า “อันที่จริงแบบนี้ก็ดี ถึงอย่างไรพวกเธอก็ไม่ใช่กอริลลาหลังเงิน หลังจากที่รอจนกระทั่งพวกเธอรู้ความแล้ว พวกเธอก็จะปฏิบัติต่อกันในฐานะเพื่อนสนิทของตัวเอง พวกเขาจะเติบโตไปด้วยกัน ดื่มนมด้วยกัน เป็นผู้ใหญ่ไปด้วยกัน และสุดท้ายก็จะกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน”
วินนี่ยิ้ม “ใช่ ดังนั้นพวกเราต้องดูแลหมีน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ มันจะได้เป็นเพื่อนที่แสนดีของลูกสาวของพวกเรา”
ฉินสือโอวมองสายตาที่เฝ้าระวังของเด็กน้อยและพูดว่า “ผมไม่เคยใช้หมอนข้างมาทำเป็นค้อนทุบหัวเพื่อนที่แสนดีของตัวเองเลยนะ”
“นั่นเป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้ความ” วินนี่พูด “ถ่ายรูปพวกเขาไว้ ฉันจะให้เถียนกวาเป็นของขวัญวันเกิดในอนาคต”
เจ้าของเรือปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนกันตามต้องการ เขาเดินไปหลังครัวและทำงานอย่างรีบร้อน เพราะต้องต้อนรับฉินสือโอวและพรรคพวกให้ทานอาหารที่บ้าน
ฉินสือโอวขอโทษ และบอกว่าอย่างไรก็รบกวนด้วยล่ะ เจ้าของเรือยิ้ม “ฤดูนี้มันยากมากที่พวกเราจะเจอเพื่อนมาเยี่ยมถึงหน้าประตู ดังนั้นพวกคุณไม่ต้องขอโทษ และพวกเรารู้สึกดีใจมาก ตอนนี้ ทันทีที่พวกคุณลงจากเรือ พวกเราก็ไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจอีกแล้ว แต่เป็นหุ้นส่วนในชีวิต”
คนกรีนแลนด์อบอุ่นมาก เมื่อมีคนมาเป็นแขก แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าแวะเข้ามา พวกเขาก็เต็มใจนำอาหารออกมาต้อนรับอีกฝ่าย ชาวอินูเปียตก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน นี่เป็นวัฒนธรรมของแถบขั้วโลก
ก็เป็นแบบที่เจ้าของเรือพูด เวลาส่วนใหญ่พวกเขาจะโดดเดี่ยวเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นในชีวิตที่สุดโต่งแบบนี้ พวกเขาจะยิ่งเข้าใจความสำคัญของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีคนแวะเข้ามาพวกเขาก็จะต้อนรับอีกฝ่ายอย่างยินดี และมองว่าเป็นการช่วยเหลืออย่างหนึ่ง
ฉินสือโอวบอกว่าเขาจะเข้าไปช่วย ถึงอย่างไรตัวเองก็มีคนเยอะขนาดนี้ จะปล่อยให้คนอื่นทำงานอย่างรีบร้อนโดยไม่มีเหตุผลไม่ได้หรอก
เจ้าของเรือไม่เกรงใจ และพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน มาสิ ผมจะเปลี่ยนปาหี่ให้คุณ ผมคิดว่าแม้ว่าคุณจะเป็นเจ้าของฟาร์มปลา แต่ก็คงไม่เคยเห็นปาหี่แบบนี้แน่นอน”
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset