ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1462 เรือแมวน้ำ

ในขณะที่นั่งอยู่ในห้องควบคุม ฉินสือโอวดื่มกาแฟพลางขมวดคิ้วครุ่นคิดไปด้วย ครั้งนี้เขาต้องขอบคุณจุดอ่อนของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็มีจุดอ่อนของตัวเอง จุดอ่อนของเขาคือโรคจิตหลงผิด ตั้งแต่เขามีหัวใจโพไซดอน เขาก็มีนิสัยขี้สงสัยมากขึ้น นอกจากคนที่สนิทแล้ว เขาระวังตัวกับคนอื่นเป็นพิเศษ
เดิมทีเขาเพียงแค่กังวลว่าจะมีคนรู้ว่าเขามีหัวใจโพไซดอน หลังจากนั้นเขาก็กีดกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามา ต่อมาโรคจิตหลงผิดก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น จนเขากลายเป็นโรคทางจิต ทำให้เขาระวังคนแปลกหน้าที่เข้ามาใกล้ทุกคน
ครั้งที่แล้วที่เรือขนส่งลักลอบจับเฟอเรทแบลคฟุตต้องการที่เข้าเทียบท่าเรือของฟาร์มปลา ฉินสือโอวค่อนข้างคิดมาก โชคดีที่ครั้งที่แล้วเขาสามารถพิสูจน์ความจริงได้ เขาถูกโรคจิตหลงผิดเข้าครอบงำ ทำให้เขาหาปัญหาของเรือลำนั้นจนเจอ
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตอนที่คนเหล่านั่งเรือชูชีพเข้ามาใกล้ ใจของฉินสือโอวก็ร้องเตือนขึ้นมาทันที อันที่จริงแล้วถึงแม้ว่าแบล็คไนฟ์จะไม่เตือนเขา เขาก็จะไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ขึ้นเรือมาง่ายๆ อยู่แล้ว
บางครั้งการทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรอบคอบมากขึ้น การคิดมากไปอีกสักหน่อยก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด และมีอีกหลายครั้งที่เวลาเกิดเรื่อง ต้องขอบคุณโรคจิตหลงผิดที่ครอบงำเขา ทำให้สามารถแก้ไขวิกฤตต่างๆ ได้
พวกที่ขึ้นเรือมาเป็นพวกที่สิ้นหวังจริงๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่พวกเขาที่เป็นฝ่ายเริ่มใช้อำนาจก่อน แบบนั้นเรือปริ้นเซสเมล่อนอาจจะเกิดเรื่องนองเลือดก็เป็นได้ พวกเขาฆ่าคนมาแล้วสามสิบเอ็ดคน แน่นอนว่าการฆ่าคนอีกกลุ่มไม่ใช่เรื่องยากเลย
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ ด้านนอกก็เกิดเสียงดังโวยวายขึ้นมา ฉินสือโอวชะโงกหน้าออกมามอง เขาเห็นแบล็คไนฟ์กำลังพาคนของตัวเองรุมทุบตีคนทั้งห้า
คนพวกนั้นเป็นพวกไม่มีความเป็นคน นอกจากจะสมควรโดนทุบตีแล้วยังสมควรโดนฆ่าอีกด้วย แต่เขาไม่อยากให้คนของตัวเองต้องเปื้อนเลือดของคนสิ้นหวังพวกนี้ อย่างไรพวกเขาก็ไม่ใช้ผู้บังคับใช้กฎหมาย สามารถป้องกันตัวเองได้ และสามารถตอบกลับได้ แต่ความตายไม่ใช่เรื่องที่ดี
ดังนั้นฉินสือโอวจึงเดินออกมาพลางร้องห้ามว่า “พวกนาย หยุดเดี๋ยวนี้! พวกมันอยากจะให้พวกนายฆ่าตายจะแย่แล้ว แบบนั้นพวกมันก็จะสามารถหยุดพ้นจากการลงโทษทางกฎหมายได้!”
แบล็คไนฟ์พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “บอส คุณฟังพวกเราพูดให้จบก่อน พวกเราอดไม่ได้ที่จะจัดการกับพวกสารเลวพวกนี้! เมื่อกี้ผมสอบปากคำพวกมันอีกครั้ง ผมกลัวว่าเมื่อตำรวจมาถึง ตำรวจอาจจะสาวเรื่องมาถึงพวกเราได้ คุณเดาสิว่าผมเจออะไรจากการสอบปากคำ?”
“อะไรนะ?” ฉินสือโอวถาม
“ไอ้สารเลวพวกนี้ คุณรู้ไหมว่าแผนการของพวกมันคืออะไร? พวกมันจะปล้นเรือของพวกเรา จากนั้นก็จะฆ่าพวกเราทุกคน จากนั้นก็จะขับเรือของพวกเราไปยังทางตอนเหนือของกรีนแลนด์ พอถึงเวลานั้นพวกมันก็จะซ่อนตัวอยู่ในน้ำแข็งและหิมะ และก็จะไม่มีใครหาพวกมันพบ” แบล็คไนฟ์พูดออกมาด้วยความโกรธ
สีหน้าของฉินสือโอวเปลี่ยนไปทันที “ฟัค คนพวกนี้เป็นปีศาจที่มาจากนรกรึเปล่า?”
แอร์แบ็คพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “นั่นแหละพวกมัน ฆ่าคนสามสิบเอ็ดคนกับฆ่าคนห้าสิบคนสำหรับพวกมันคงไม่มีอะไรแตกต่างหรอกมั้ง? เครื่องยนต์และโทรศัพท์ดาวเทียมของเรือพวกมันเสียหายหมดแล้ว ไม่สามารถหนีไปได้ จึงคิดดักหาเรือตามทางเท่านั้น พวกเราโชคดี ที่บังเอิญเจอเข้ากับพวกมัน!”
ฉินสือโอวถอดเสื้อขนเป็ดออก เขากำหมัดแน่นและพูดลอดไรฟันออกมาว่า “เตือนฉันด้วยถ้าพวกทหารยามมาถึง ฉันจะหักกระดูกพวกมัน!”
ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเขาและแบล็คไนฟ์ระแวงคนพวกนั้น หลังจากที่คนพวกนั้นเข้ายึดเรือลำนี้และควบคุมเรือได้จริงๆ เรื่องหลังจากนั้นคงจะน่ากลัวเป็นอย่างมาก วินนี่และเถียนกวาก็อยู่บนเรือนี้ด้วยเช่นกัน!
ที่เรือฝั่งตรงข้ามยังมีคนอยู่อีกสองคน ตามหลักแล้ว หนึ่งในนั้นจะต้องเป็นกบฏที่ถูกขังไว้ และอีกคนมีไว้เพื่อดูลาดเลา
คนที่ถูกขังจะต้องเป็นชายคนที่โบกธงสัญญาณก่อนหน้านี้แน่นอน แสดงว่าชายคนนั้นยังมีจิตใจที่ดีอยู่ ตอนนั้นที่เขาส่งสัญญาณธงอาจจะหมายถึง ‘อย่าเข้ามา แจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาช่วยเหลือ’
จางตงไม่ได้เข้าใจมันชัดเจน เขาเข้าใจเพียงแค่อย่าเข้าใกล้และเชิญเข้ามาเท่านั้น ดังนั้นคนทั้งหมดจึงเกิดความสับสนขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่
แบล็คไนฟ์ถามว่าต้องการจัดการคนทั้งสองคนนั้นหรือไม่ ฉินสือโอวส่ายหัวและบอกว่าช่างพวกเขาเถอะ คนพวกนั้นให้ตำรวจจัดการดีกว่า ใครจะรู้ว่าคนบนเรือนั้นจะมีอาวุธหรือเปล่า? สิ่งที่เหลืออยู่บนเรือนั้นจะต้องเป็นปลอกกระสุนอย่างไม่ต้องสงสัย ความสูญเสียพวกนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากจะเห็น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ ตำรวจทางทะเลจะรีบมายังที่เกิดเหตุด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เสียงเฮลิคอปเตอร์ทั้งสี่ลำค่อยๆ ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หนึ่งในนั้นมีเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธเพียงลำเดียวซึ่งเป็นของตำรวจรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์
หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ พวกตำรวจทะเลยังคิดว่ามีคนโทรมาแกล้ง พวกเขายังบอกกับฉินสือโอวว่าหากใครพูดเรื่องโกหกคนนั้นจะโดนจับ ปรากฏว่าหลังจากที่ตรวจสอบแล้วว่าเรือลำนั้นขาดการติดต่อมาแล้วสิบกว่าวัน พวกเขาจึงเริ่มรีบทำงาน!
พวกเขาไม่สนใจพายุหิมะที่กำลังจะเข้ามาเร็วๆ นี้ กองกำลังตำรวจที่ยอดเยี่ยมที่สุดถูกส่งมาที่เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์หยุดอยู่เหนือเรือปริ้นเซสเมล่อน ตำรวจทะเลที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีไถลตัวลงมาจากเชือกที่ห้อยลงมา พวกเขาแบ่งกันไปดูเหตุการณ์สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมายังเรือปริ้นเซสเมล่อน อีกกลุ่มมุ่งหน้าไปยังเรือชูชีพและนั่งเรือไปทางเรือลำใหญ่ลำตรงข้าม
ฉินสือโอวและพรรคพวกไม่สามารถไปไหนได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง พวกเขาเป็นคู่กรณี จึงจำเป็นที่ต้องอยู่เพื่อให้ความร่วมมือในการสอบสวน
ผู้บังคับการสูงสุดของตำรวจทะเลมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาคือผู้พันผิวขาวคนหนึ่งที่ดูท่าทางมีความสามารถเป็นอย่างมาก เขาเข้ามาแนะนำตัวกับฉินสือโอว “สวัสดีครับผมพันเอกฟอร์เร็ก ลีโอนาร์ด เรียกผมว่าฟอร์เร็ก”
“สวัสดีครับคุณฟอร์เร็ก” ฉินสือโอวกล่าว
ผู้พันพูดขึ้นว่า “คุณวางใจได้เลยครับ อย่างน้อยภายในหนึ่งชั่วโมง ผมเราจะจัดการสถานการณ์นี้เรียบร้อยแน่นอน พวกเราสามารถไปที่แหลมนีนเพื่อดื่มกาแฟกันได้นะครับ มา เข้าไปที่ห้องควบคุมดีกว่า ผมมีเรื่องที่ต้องถามคุณอีกเยอะเลยครับ”
ฉินสือโอวบอกข่าวที่พวกเขารู้ทั้งหมดออกมา ตั้งแต่เจอเข้ากับคนโบกธงสัญญาณจนถึงตอนที่ตัดสินใจช่วยเหลือพวกเขาและจากนั้นก็เกิดทะเลาะวิวาทกันทั้งสองฝ่าย เขาเล่าเรื่องนี้อีกครั้งอย่างละเอียด
เมื่อเขาพูดจบพันตรีคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “บนเรือบูลด็อกในรัฐเมนพบคนเพียงคนเดียวครับ ไม่พบผู้ต้องสงสัยรายที่หก ตอนนี้คาดว่าเขาน่าจะโดดลงทะเลฆ่าตัวตายไปแล้วครับ”
“ทีมกอบกู้ล่ะ? หากกระโดดลงทะเล ก็ให้พวกเขางมศพขึ้นมา!” ผู้พันพูดดอกมาเสียงดัง
ฉินสือโอวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปดูน้ำทะเลรอบๆ ที่ใต้น้ำไม่มีร่างของศพอยู่เลย แต่ว่ามีฉลามวัวสองสามตัวว่ายไปมาอยู่ใกล้ๆ ถ้าหากว่ามีคนกระโดดลงทะเลไป เช่นนั้นพวกเขาคงหาศพไม่เจอแน่นอน
เมื่อผู้พันเห็นหู่จือและเป้าจือดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา เขาพูดขึ้นว่า “เฮ้ เพื่อนยาก นี่ใช่สุนัขราศีเมถุนแห่งเซนต์จอห์นรึเปล่า?”
หู่จือและเป้าจือเป็นสุนัขซูเปอร์สตาร์แห่งมหานครเซนต์จอห์น ชื่อของพวกมันคือสุนัขราศีเมถุน พวกมันคอยช่วยเหลือเรื่องในศาล การหาเสียงเลือกตั้งของรัฐและประสบความสำเร็จในงานโฆษณา เรื่องที่ผู้พันจะรู้จักพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ฉินสือโอวพยักหน้าบอกว่าใช่ ผู้พันขอให้ส่งแลบราดอร์ทั้งสองตัวนี้ขึ้นไปบนเรือเพื่อที่จะหาตัวฆาตกรที่หายไป เพราะสุนัขตำรวจของตำรวจทะเลยังอยู่ในระหว่างการเดินทางอยู่
อันที่จริงแล้วฉินสือโอวไม่อยากออกไปเสี่ยงอันตราย ใครจะรู้ว่าฆาตกรคนนั้นโดดลงทะเลไปหรือเปล่า? ถ้าหากว่าฆาตกรคนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่มุมไหนสักมุมหนึ่งแล้วพอถึงตอนนั้นเขาออกมายิงหู่จือหรือไม่ก็เป้าจือล่ะ เขาจะหาเรื่องให้ตัวเองต้องเสียน้ำตาทำไม? อีกอย่างเขาก็ยังหาศพในทะเลไม่เจอ
ผู้พันเห็นว่าเขามีท่าทีลังเล เขายังคงพูดชักแม่น้ำทั้งห้า อีกทั้งยังสัญญาอีกว่าหลังจากคดีนี้จบหู่จือและเป้าจือจะได้รับเหรียญรางวัล
พอเป็นนี้ฉินสือโอวก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เขาจึงทำได้เพียงตามหู่จือและเป้าจือไปยังเรือลำนั้นด้วยกัน
หลังจากขึ้นเรือบูลด็อกในรัฐเมนแล้ว หู่จือและเป้าจือก็นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็วิ่งไปยังห้องโดยสารอย่างบ้าคลั่ง
“เกิดเรื่องแน่!” ฉินสือโอวรีบตามพวกมันไปด้วยความรีบร้อน ตำรวจทะเลไล่ตามพวกเขาพร้อมปืนกลมือด้วยความระมัดระวัง จนเมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร ก็มีกลิ่นเหม็นลอยออกมาจากห้องนั้น ฉินสือโอวมองไปรอบๆ จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก…
พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? นี่ไม่ใช่เรือตกหมึกกระดองหรอกเหรอ? ทำไมถึงกลายเป็นเรือแมวน้ำได้ล่ะ?!
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset