ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1475 อาหารคืนส่งท้ายปี

เนื่องด้วยหลิวซูเหยียนอยู่ข้างๆ ด้วย ฉินสือโอวจึงยังจะปล่อยเหมาเหว่ยหลงไป ไม่ได้กะมอมให้สลบ ถึงแม้ว่าจะดื่มจนเมาแล้ว แต่อย่างน้อยก็รับประกันว่าเขายังจะเดินกลับได้
เหมาเหว่ยหลงดื่มไปเยอะมาก เขาลากหลิวซูเหยียนไปที่ห้อง พร้อมพึมพำว่า “ฉินมันก็ทำได้แค่โม้เรื่องที่ลูกน้องมันเยอะเท่านั้นแหละ นอกจากลูกน้องเยอะ แล้วมันมีอะไรอีกบ้าง? ผมมีลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายอีกหนึ่งคน มันมีไหม? ปะ เสี่ยวซู พวกเรามีลูกกันต่อ มีอีกสักคนเอาให้มันโกรธตายไปเลย!”
เมื่อได้ยินสามีของเธอพูดแบบนี้ต่อหน้าสาธารณชน หลิวซูเหยียนทั้งโกรธทั้งอาย เลยพูดขึ้นว่า “กลางวันแสกๆ พูดไร้สาระอะไรเนี่ย นั่งลง นั่งกินข้าวดีๆ เลยนะคะ!”
เหมาเหว่ยหลงถูกมอมจนกลัวไปหมดแล้ว ส่ายศีรษะอย่างแรงแล้วพูดว่า “ไม่ได้นะที่รัก พวกเขายังจะมอมผมต่อ ผมไม่ไหวแล้ว”
หลิวซูเหยียนยิ้มแล้วเอาแก้วเหล้ามาจากเขา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรค่ะ คุณนั่งลงไป ถ้ามีใครจะดื่มอีก ฉันจะดื่มแทนคุณเอง!”
เมื่อพูดถึงดื่มเหล้า หลิวซูเหยียนถือเป็นผู้หญิงที่ไม่เป็นสองรองใครเลย ตอนนี้ฉินสือโอวยังจำตอนที่เหมาเหว่ยหลงแต่งงานตอนนั้นได้ ฉากที่หลิวซูเหยียนคนเดียวมอมเขา เฉินเหลยและพวกเพื่อนนักเรียนจนสลบหมดทุกคน
พวกทหารดื่มไปเยอะ พอได้ยินหลิวซูเหยียนพูดแบบนี้ จึงเข้าไปรวมตัวกันแล้วพึมพำว่า “มา ถ้าอย่างนั้นคุณก็ดื่มสิ?” “บอส ยังจะจัดการอยู่ไหม? พวกพี่น้องมอมสลบคุณชายเหมาไม่ได้เนี่ย”
เมื่อนึกถึงความอัปยศที่หลิวซูเหยียนมอบให้พวกเขาในตอนนั้น ฉินสือโอวก็ตบโต๊ะเสียงดัง “ดื่ม!”
วินนี่หยิกแก้มเขาหนึ่งที พูดด้วยความโกรธว่า “คุณดื่มจนมึนแล้วเหรอ? พี่ซูยังอยู่ในช่วงให้นมลูกอยู่นะ คุณจะดื่มบ้าอะไร! ดื่มเยอะแล้วกลับไปนอนได้แล้ว อย่ามาทำตัววุ่นวายแถวนี้เลย”
ฉินสือโอวโอบเอวของเธอด้วยความเจ็บปวด “ถ้าจะนอนพวกเราก็ต้องนอนด้วยกันสิ พวกเรายังต้องมีลูกด้วยกันด้วย คุณดูสิ โคโกโร่ชอบเอาเรื่องนี้มาทับถมผมตลอด”
พวกทหารพากันหัวเราะ เกิงจุนเจี๋ยเตะพวกเขาไปคนละทีแล้วพูดว่า “ไม่รู้จักตายกันหรือไง เรื่องที่บ้านของบอสยังจะไปล้อมวงฟังอีก? รีบไสหัวไปเลย รู้ยิ่งเยอะยิ่งตายไว เมื่อก่อนหัวหน้าพวกนายไม่เคยสอนหรือไงกัน?”
วินนี่ถูกฉินสือโอวกวนจนรำคาญ เธอรับขวดเหล้ามาจากมือหลิวซูเหยียน เทให้เขาสองแก้ว มอมให้สลบไปเลย หลังจากนั้นก็ตะโกนเรียนอีวิลสันที่กำลังกินเต็มปากอยู่ “แบกกลับไป ทิ้งบนเตียง!”
อีวิลสันแบกฉินสือโอวไว้ แล้วหยิบเอาบาร์บีคิวไม้ใหญ่ขึ้นมา แล้วกัดมันไว้ในปาก ดึงไม้ทิ้ง บาร์บีคิวชิ้นยัดเต็มคำเต็มปากของเขา
“ไอ้บ้านี่ มันช่างเป็นหนุ่มร่างใหญ่จริง!” เกิงจุนเจี๋ยกับพรรคพวกยังคงเชื่อมั่นในอีวิลสันเสมอ
เมื่อตื่นขึ้นมาจากการเมาเหล้า ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ฉินสือโอวเดินลงตึกพร้อมกับหาวฟอดไป วินนี่กำลังถือนมที่อุ่นร้อนพอดีไปให้เขา แล้วก็คร่ำครวญว่า “คราวหลัง คุณก็ดื่มให้มันน้อยๆ หน่อย ถ้าคราวหน้ายังดื่มเหล้าเป็นบ้าเป็นหลัง ฉันจะให้อีวิลสันพาคุณไปโยนทิ้งลงทะเล”
ฉินสือโอวหัวเราะ พอเขาดื่มนมเสร็จ วินนี่ก็เรียกเขาไปหา ให้เขาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงานปาร์ตี้ปีใหม่หน่อย
พอได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็ถามด้วยความสงสัยขึ้นมาว่า “งานปาร์ตี้ปีใหม่อะไร? ตอนนี้หมูบ้านแฟร์เวลเรามีจัดปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”
วินนี่พูดอย่างกระตือรือร้น “คืออย่างนี้นะ ปีนี้ไม่เหมือนกับปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งมาฉลองตรุษจีนที่หมู่บ้านพวกเรา ฮานี่ย์นับดูแล้ว จำนวนไม่ได้มากมายนัก ตอนนี้มี 10 ครอบครัว 48 คนจะอยู่ฉลองต่อ ดังนั้นฉันเลยอยากจะจัดปาร์ตี้ขึ้นมา”
ฉินสือโอวถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้สถานที่มีพื้นที่ใหญ่พอควร ของที่เตรียมก็ต้องเยอะมากนะ”
วินนี่ดีดนิ้วแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่จัดการได้ดีก็พอแล้ว คนที่จะอยู่ต่อเป็นคนรวยทุกคนเลย อาหารส่งท้ายปีเก่ามื้อหนึ่งก็ตกคนละ 500 ดอลลาร์แคนาดาเลยนะ แต่พวกเขากลับสั่งอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด เป็นคนรวยกันจริงๆ”
หนึ่งคน 500 ดอลลาร์แคนาดา ถ้าคิดเป็นเงินจีน มื้ออาหารส่งท้ายปีเก่าต่อหนึ่งครอบครัวก็เกือบ 10,000 หยวน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลยสำหรับคนเหล่านี้ เพราะปกติอาหารมื้อก่อนปีใหม่ก็มักจะกินในโรงแรม มื้ออาหารแบบนี้ในโรงแรมระดับสูงโต๊ะหนึ่งก็หลายพันหยวน
ฉินสือโอวบีบไปที่จมูกของเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณก็เป็นภรรยาเศรษฐีนะ คุณจะกินมื้อใหญ่ที่ราคาห้าพันดอลลาร์แคนาดาก็ได้”
วินนี่ยิ้ม “ไม่เอาดีกว่าค่ะ เพราะฉันคิดว่าต่อให้เป็นมื้ออาหารที่ใหญ่ขนาดไหนก็ไม่สู้เนื้อผัดคู่กับแตงกวาที่คุณทำให้ฉันได้หรอก”
พอได้ยินแบบนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา สายตาที่เขามองไปยังวินนี่ช่างอ่อนโยน มองไปก็รู้ว่าเริ่มจะแสดงความรักกันอีกแล้ว
เสียงไอดังขึ้นจากด้านข้าง โลลิต้ายักไหล่แล้วพูดว่า “มีใครอยากฟังหนูเล่นไวโอลินไหมคะ? หนูเพิ่งเล่นเพลง ‘อาเว มารีอา’ เป็น เพราะมากๆ”
วินนี่มองไปที่โลลิต้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดขึ้น “จริงเหรอ?”
โลลิต้าพยักหน้าด้วยความภูมิใจ “แน่นอนสิ ตอนที่หนูเล่นนะ แม้แต่กอร์ดอนยังนั่งฟังเงียบๆ เลย”
กอร์ดอนโผล่หัวออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วพูดว่า “ฉันจะไม่กล้าเงียบได้ไง? ถ้าฉันไม่เงียบ เธอก็จะต่อยฉัน!”
“ไปไกลๆ เลย!”
“ได้!”
หลังจากที่เด็กทั้งสองทะเลาะกันเสร็จ วินนี่ก็ดีดนิ้วขึ้น แล้วพูดว่า “ดีมาก ที่รัก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ช่วงสองสามวันนี้เรามาหัดเล่นให้มันดีที่สุด คืนส่งท้ายปีเก่าพี่จะเชิญหนูให้ไปแสดง ถึงตอนนั้นพอมีเพลงบรรเลงจากไวโอลิน จะต้องสร้างสีสันให้งานปาร์ตี้ได้ไม่น้อยแน่ๆ”
เชอร์ลี่ย์ทำท่าทางเหมือนคนพ่ายแพ้ สีไวโอลินแล้วก็เดินจากไป
สองสามวันถัดมาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ คนงานในฟาร์มปลามีเพียงพอ มีคนนำทีมอย่างชาร์คและซีมอนสเตอร์ จึงไม่เกิดความวุ่นวายใดๆ ฉินสือโอวจึงไปช่วยวินนี่เตรียมมื้ออาหารค่ำต้อนรับปีใหม่
ที่วินนี่อยากจัดปาร์ตี้คืนส่งท้ายปีนี้ขึ้นมา นอกจากเหตุผลที่ว่าเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของตัวเมืองแล้ว เหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่าคือทำเพื่อพ่อฉินและแม่ฉิน เธอมองออกว่าทั้งสองชอบงานครึกครื้นตอนงานเทศกาล ก็เลยจัดงานให้ใหญ่ไปเลย
เธอเข้าใจดี สำหรับผู้สูงอายุแล้ว วันตรุษจีนที่ดีที่สุดคืออยู่ที่บ้านเกิด ถ้าฉลองที่บ้านเกิดได้ ท่านทั้งสองก็ยิ่งมีความสุข แต่ก็เป็นเวลาสองปีแล้วที่พวกเขากลับไปบ้านไม่ได้เพราะเธอ เธอจึงอยากจัดให้มันครึกครื้นหน่อย
ฉินสือโอวก็เข้าใจในจุดนี้ดี จึงช่วยวินนี่จัดงานปาร์ตี้ต้อนรับปีใหม่นี้อย่างเต็มที่
ก่อนอื่นเลยคือกำหนดอาหาร ซึ่งเรื่องนี้ง่ายมาก จัดอาหารทะเลของฟาร์มปลาก็เรียบร้อยแล้ว เมนูล็อบสเตอร์ที่ใหญ่เท่าแขน ปูจักรพรรดิที่ใหญ่กว่าขนาดจาน ปลาค็อดแอตแลนติกเนื้อแน่นหอมหวาน ปลาลิ้นหมาเนื้อนุ่มฉ่ำ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วปลิงทะเลของฟาร์มปลาในที่สุดก็มีผลผลิตแล้ว แต่ละคนสามารถกินปลิงทะเลถ้วยหนึ่งได้
เมื่อคำนวณด้วยวิธีนี้ ฉินสือโอวก็ค้นพบอย่างน่าเสียดายว่า ปาร์ตี้มื้ออาหารส่งท้ายปีเก่านี้เขาต้องใช้เงินเพิ่มด้วยซ้ำ อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉิน 1 โต๊ะถ้าคิดตามราคาขาย อย่างน้อยก็ต้องมี 4000-5000 ดอลลาร์แคนาดา แล้วอาหารที่เขาใช้ก็เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้วย
โชคยังดีที่เขาเลี้ยงเองในฟาร์มปลา ของพวกนี้จะมีมูลค่าเมื่อไปอยู่ในโรงแรมระดับไฮเอนด์เท่านั้น อยู่ที่ฟาร์มปลาไม่มีมูลค่าอะไรเลย
เมื่อมีเมนูอาหารออกมา ครอบครัวที่ยินดีจะอยู่ฉลองต่อเพิ่มขึ้นเท่าหนึ่งอย่างรวดเร็วเป็น 20 ครอบครัว พวกนักท่องเที่ยวฉลาดมาก เดิมที พวกเขาคิดว่าคนละ 500 ดอลลาร์แคนาดาแพงเกินไป แต่ปรากฏว่าอาหารมีแต่ดีๆ ทั้งนั้น แล้วยังเป็นอาหารที่พวกเขาหาทานเองได้ยากด้วย ดังนั้นแล้วทำไมจะไม่อยู่ต่อล่ะ?
เดิมทีวินนี่และฉินสือโอวก็คิดจะใช้ผลไม้และผักจากฟาร์มปลา แต่เมื่อเห็นว่าครอบครัวที่อยู่ต่อมีเพิ่มมากขึ้น จึงไม่สามารถใช้ผักและผลไม้ในฟาร์มปลาได้ เพราะเตรียมจำนวนมากขนาดนั้นคงไม่ทันการ
นอกจากนี้แล้วยังขาดสถานที่ที่จัดได้ใหญ่พอ นี่เป็นงานเลี้ยงที่มีถึง 100 กว่าคนเลยนะ
แต่ทว่าฉินสือโอวมีแผนการ เขาโทรศัพท์หาวิล วิลพาทีมงานก่อสร้างทำงานหามรุ่งหามค่ำ บ้านกระเบื้องเหล็กสีหลังมหึมาถูกสร้างเสร็จภายใน 4 วัน สร้างเสร็จทันพอดีคืนก่อนปีใหม่
………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset