ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1469 ติดตั้งเครื่องบันทึกวิดีโอดูวาฬ

หลังจากจัดการใบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ถอนหายใจออกมา เขาพูดออกมาด้วยความโล่งอกว่า “ปีนี้การหาเงินถือว่าไม่ง่ายเลย”
“ไม่ว่าจะหาเงินหรือกินขี้ก็ลำบากเหมือนกันหมด คำพูดของบรรพบุรุษนี้ถือว่าไม่ผิดเลย” จางเผิงพูดตามอารมณ์ออกมา
หลังจากนั้น เขาก็มีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรุนแรง เขามองไปที่ฉินสือโอวด้วยสีหน้าราวกับเห็นผีแล้วพูดว่า “บอส ที่คุณพูดเมื่อกี้คือล้อเลียนผมใช่ไหม? การล้อเลียนลูกน้องที่น่าสงสารแบบนี้ เป็นเรื่องที่ดีเหรอครับ?”
ฉินสือโอวตบบ่าของจางเผิงแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ล้อเลียนนาย ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ อีกอย่าง สี่ปีก่อนหน้านี้ฉันลำบากกว่านายเยอะ นายดูหลังจากสี่ปีนั้นสิ ฉันมีสิ่งที่ฉันมีในวันนี้ ดังนั้นนายก็ตั้งใจให้ดี ตอนนี้นายจนมาก รู้สึกว่าใช้ชีวิตไม่ได้ สี่ปีหลังจากนี้…”
เขามองไปยังจางเผิง จางเผิงยืดอกแล้วพูดออกมาว่า “สี่ปีหลังจากนี้ ผมจะกลายเป็นคนรวยใช่ไหมครับ? ขอบคุณบอสสำหรับกำลังใจ…”
“อย่าพึ่งรีบพูดขอบคุณเลย ฉันยังพูดไม่จบ สี่ปีหลังจากนี้นายอาจจะจนมากอยู่ แต่เมื่อถึงเวลานั้นนายจะสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตได้ ดังนั้นอย่ารู้สึกแย่ไปเลยนะ” ฉินสือโอวลุกขึ้นแล้วเดินออกมา ประโยคสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้คือ “เก็บใบเสร็จให้ดี อาทิตย์หน้าพาฉันไปจ่ายภาษีด้วย”
จางเผิงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้พลางพูดออกมาว่า “คุณทำร้ายลูกน้องด้วยวิธีนี้จริงๆ เหรอ?”
“ฉันไม่ได้ทำร้ายนายนะ ฉันแค่หาเรื่องราวดีๆ จากตัวของนายเท่านั้นเอง”
การประมงมักมีคนมาจัดการให้เสมอ ดังนั้นเขาจึงทำงานได้อย่างราบรื่น ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉินสือโอวคือการที่ให้ชาวประมงทีมที่สองรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของฟาร์มปลา แบบนั้นจะทำให้พวกเขากลายเป็นคนงานที่มีศักยภาพ
เกิงจุนเจี๋ยและคนอีกห้าคนที่ไปกรีนแลนด์ได้รับการยอมรับจากพวกของชาร์ค พวกเขาเคยทะเลาะด้วยกันในบาร์ เคยดื่มด้วยกัน ระหว่างผู้ชาย ขอเพียงมีเรื่องเช่นนี้ มิตรภาพก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น
ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ได้ถูกยอมรับให้อยู่ในแวดวงของพวกเขา ดังนั้นบรรยากาศระหว่างชาวประมงจึงค่อนข้างแปลก
ฉินสือโอวรู้สึกว่า เขาควรจะหาทางออกเดินทางไปยังนอกฟาร์มปลาอีกสักครั้ง แล้วปล่อยให้คนพวกนี้ทำงานด้วยกัน แบบนั้นความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้นมาก
เพราะว่าอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินมีสาขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการของอาหารทะเลก็มีเพิ่มมากขึ้น ทุกวันต้องออกเรือประมงไปเพื่อเป้าหมายในการตกปลา เนื่องจากฟาร์มปลาเป็นแหล่งส่งออกปลากุ้งและปูทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง
มื้อค่ำคืนวันศุกร์ ฉินสือโอวบอกให้วินนี่พาหมีโลลิไปฉีดวัคซีน วินนี่บอกว่าเธอมีงานช่วงสุดสัปดาห์ “เมืองมีการสั่งซื้อเครื่องบันทึกวิดีโอใต้น้ำมาจำนวนหนึ่ง วันนี้เพิ่งจะมาถึง พรุ่งนี้จะทำการติดตั้ง ฉันต้องไปคุมงานวันพรุ่งนี้ค่ะ”
ฉินสือโอวถามออกมาว่า “เครื่องบันทึกวิดีโอใต้น้ำงั้นเหรอ? เอามาทำอะไร?”
วินนี่ยิ้มออกมาอย่างน่าหลงใหล พลางตอบว่า “มันเป็นของทันสมัยมาก ถ้าหากว่าคุณสงสัย งั้นพรุ่งนี้คุณก็ไปดูสิ มันสุดยอดเลยล่ะ”
ฉินสือโอวไม่ได้ติดธุระอะไร ดังนั้นเช้าวันเสาร์เขาจึงนับรถไปส่งวินนี่ในเมือง และแวะมาดูสิ่งที่เรียกว่าเครื่องบันทึกวิดีโอสุดไฮเทค
เขาพบกับคนทำความสะอาดถนน คาปาไล ปาจิฮาเก้น เขาถามออกมาว่า “คุณฉิน คุณอยากเรียนรู้เรื่องการทำไวน์เมื่อไร? พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของผมล่ะ”
ฉินสือโอวมองด้วยสายตาเปล่งประกาย เขาตอบกลับว่า “รอจนกว่าอากาศจะอุ่นกว่านี้เถอะ ฤดูนี้ คุณมีเวลาพักผ่อนก็ไปพักผ่อนเถอะ ไปตกปลา ดื่มเบียร์ ไปเดินเล่นที่เซนต์จอห์น ให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง”
คาปาไล ปาจิฮาเก้นยักไหล่พลางพูดกลั้วหัวเราะว่า “ผมไม่ได้มีชีวิตที่ดีแบบนั้น งั้นรอช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไวน์รสชาติดีที่สุด”
ฉินสือโอวขับรถต่อไปบนถนน วินนี่พูดออกมาว่า “คาปาไลเป็นคนไม่เลวเลยนะคะ เขาทำงานหนักและขยันมาก เขามาที่เมืองเพื่อที่จะพักผ่อนเพียงวันเดียว ส่วนวันหยุดอื่นๆ เขาทำงานตลอด ดูเหมือนว่าเขาต้องการเงินจำนวนมาก”
รถจอดอยู่ที่ท่าเรือของเมือง มีใครบางคนกำลังขนของไปที่เรือลำเล็ก ทีละกล่องๆ ข้างในน่าจะเป็นเครื่องบันทึกวิดีโอไฮเทคที่วินนี่พูดถึง
ฉินสือโอวถามว่ามันมีไว้ทำอะไร วินนี่จึงอธิบายว่า “เอามาใช้ดูวาฬและฉลามยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะสร้างเมืองแห่งนี้ให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของวาฬหรอกเหรอ? เจ้าพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ในน้ำเกือบจะตลอดเวลา ต้องคอยสังเกตให้ดี”
ที่ท่าเรือมีคนงานกำลังทำงานอยู่ ดูเหมือนกำลังติดตั้งชั้นเหล็กอยู่ ฉินสือโอวถามออกมาอีกว่าเอาไว้ทำอะไร วินนี่เลยบอกว่าจะมีการติดตั้งหน้าจอแสดงผลที่นี่ ภาพที่บันทึกด้วยวิดีโอจะถูกนำมาฉายภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
ฉินสือโอวนึกขึ้นมาได้ในทันที เขาพูดออกมาว่า “คุณจะเปลี่ยนวิธีการดูวาฬของเมืองใช่ไหม? ให้นักท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะเล็กๆ นี้ เพื่อให้พวกเขาเห็นภาพวาฬว่ายน้ำในทะเลก่อนใช่ไหม? ”
วินนี่ดีดนิ้วแล้วพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “บิงโก คุณเดาได้ถูกต้องค่ะ”
เมื่อลงจากรถ ฉินสือโอวก็อุ้มลูกสาวของตัวเอง ส่วนวินนี่อุ้มหมีโลลิ จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปยังท่าเรือเพื่อดูคนงานทำงาน
เสี่ยวเถียนกวามองไปยังหมีโลลิด้วยท่าทีปั้นปึ่ง ส่วนหมีโลลิก็อยู่ในอ้อมกอดของวินนี่อย่างมีความสุข บางครั้งมันก็ขยับหัวไปมาเพื่อสัมผัสความอ่อนนุ่มสบายของอกทั้งสองข้างของวินนี่
การกระทำดังกล่าวของหมีโลลิเป็นจุดชนวนของสงคราม เสี่ยวเถียนกวามองไปที่มันด้วยความไม่พอใจ แล้วตะโกนออกมาว่า “ตีเลย ตีเลย ตีเลย!”
ฉินสือโอวรีบปลอบเด็กน้อยทันที เขาอุ้มเธอมาวางไว้บนไหล่ แบบนี่เสี่ยวเถียนกวาก็สามารถมองภาพได้จากมุมสูงซึ่งเธอพอใจเป็นที่สุด เธอชำเลืองมองไปยังหมีโลลิแล้วกลับมามองภาพที่สวยงามตรงหน้า จากนั้นก็หยุดส่งเสียงดัง
คนงานเริ่มติดตั้งเครื่องถ่ายวิดีโอใต้น้ำ ไม่น่าแปลกใจที่วินนี่บอกว่านี่เป็นเทคโนโลยีทันสมัย ฉินสือโอวดูผ่านๆ ก็ไม่สามารถเข้าใจวิธีการติดตั้งได้ เครื่องบันทึกวิดีโอนี้มีความซับซ้อนมา
เครื่องบันทึกวิดีโอนี้สามารถตรวจสอบน่านน้ำได้ ลักษณะของมันเหมือนกับโทรทัศน์สีขาวดำขนาดเล็กที่เป็นที่นิยมกันในช่วงปีแปดศูนย์เก้าศูนย์ มันมีกล้องอยู่หกด้าน คอยตรวจจับพื้นที่ทะเลทั้งหมด
ความไฮเทคของมันก็คือ ตราบใดที่มีวาฬอยู่รอบๆ ร่างกายอันใหญ่โตของพวกมันจะสร้างคลื่นขึ้นมา กล้องวีดีโอนี้จะตามรอยคลื่นไป และจะสามารถหาวาฬได้พบ หลังจากเข้าไปในฝูงวาฬแล้ว เนื่องจากแรงของคลื่น จะทำให้มันติดตามการว่ายน้ำของวาฬอยู่ตลอด และจะเก็บภาพของวาฬเสมอ
หลังจากที่ฉินสือโอวได้ฟังหลักการทำงานทั่วไป เขาก็ตื่นตาตื่นใจไปกับเทคโนโลยีไฮเทคในยุคนี้ คนงานกล่าวว่ามีเทคโนโลยีขั้นสูงกว่านี้ที่กำลังเป็นที่แนะนำ มันสามารถควบคุมการลอยตัวแบบอัตโนมัติ ถ้าไม่มีไฟมันก็จะลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำเพื่อชาร์จพลังงานเองอัตโนมัติ…
“ซื้ออีกสักอันไหม? นอกจากนี้ยังมีรีโมทคอนโทรลด้วยนะ ตอนนี้ทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ใต้ท้องทะเลก็ใช้เจ้าสิ่งนี้กัน ใครจะยังใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำอีกล่ะ? ของพวกนั้นได้ถูกกำจัดไปแล้ว” วิศวกรคุมงานคนหนึ่งพูดขึ้นมา
เมื่อคนพวกนี้เคยได้ยินมาว่า ชาวเกาะแฟร์เวลเป็นคนรวย เป็นคนโง่ที่เงินเยอะ เวลาซื้อของไม่ซื้อของที่ดีแต่ซื้อของที่แพง เขาเลยอยากจะขายอะไรแพงๆ สักหน่อย
น่าเสียดายที่ฉินสือโอวทำเพียงยักไหล่ แล้วพูดออกมาว่า “ของเล่นอันนี้ใช้ทำอะไรได้?”
เขามีเพียงจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็สามารถตรวจสอบทะเลได้ทุกซอกทุกมุมแล้ว
หลังจากติดตั้งเครื่องบันทึกวิดีโอเสร็จ คนงานก็นำมันไปไว้ในฝูงโลมาเพื่อทำการทดสอบ
เหล่าโลมาลอยอยู่บนผิวน้ำทุกวัน พวกมันปรับตัวให้เข้ากับแสงอาทิตย์ได้ ในช่วงที่อากาศดี พวกมันจะขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่ออาบแดด แม้ว่าหางจะขาดครึ่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
การให้อาหารโลมาเป็นโครงการการท่องเที่ยวประจำเมือง นี่เป็นโครงงานที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสามฝ่าย โลมาได้กินอิ่ม เมืองได้รับเงิน นักท่องเที่ยวก็มีความสุข
หลังจากที่วางเครื่องบันทึกวิดีโอไปได้ครึ่งชั่วโมง คนงานก็หยิบมันขึ้นมา เขานำดิสก์เก็บข้อมูลออกมาเปิดในคอมพิวเตอร์ จากนั้นภาพวิดีโออันชัดเจนก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ
ฉินสือโอวผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาถามออกมาว่า “นี่คือสิ่งที่มันบันทึกได้เหรอ? มันไม่เชื่อมต่อกันเหรอ?”
คนงานคนนั้นมีสีหน้าเหยเก “คุณหมายถึงการส่งวิดีโอแบบไร้สายเหรอ? อ้อ ฟัค เป็นไปไม่ได้! นี่คือเครื่องบันทึกวิดีโอ ไม่ใช่จอภาพ!”
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset