ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1494 นี่คือพ่อแท้ๆ?

หลายวันต่อมา ฉินสือโอวก็เริ่มรวบรวมคู่แข่งในงานประมูลฟาร์มปลาคาร์เตอร์ หลังจากที่กลายเป็นประธานพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์ คอนเนคชั่นด้านเกษตรกรรมของเขาก็ขยายกว้างขึ้นมามาก
สมาชิกหลักของพันธมิตรการประมงมาจากรัฐโนวาสโกเชียกับนิวฟันด์แลนด์ เขาเลยโทรออกไปหลายต่อหลายสาย ฉินสือโอวก็ได้ข่าวจากปากของเจ้าของฟาร์มปลาใหญ่รัฐโนวาสโกเชียบางคน คู่แข่งของเขาไม่ค่อยเยอะ คนที่อยากได้ฟาร์มปลาคาร์เตอร์มีน้อยเพราะฟาร์มปลานี้ใหญ่เกินไป ราคาก็สูงเกิน
ก็ยังคงคำนั้นมีเงินเป็นร้อยล้านไม่เอาไปทำอย่างอื่นเอาไปเลี้ยงปลาเนี่ยนะ? ร้อยล้านดอลลาร์แคนาดาไปทำอสังหาริมทรัพย์ในเมืองส่วนใหญ่ของรัฐโนวาสโกเชียได้แล้ว
สุดสัปดาห์ บูลกับแอนนี่ก็พาบูลน้อยมาเป็นแขกที่ฟาร์มปลา เพราะปกติวินนี่ไปทำงาน วันจันทร์ถึงวันศุกร์แอนนี่ก็เลยไม่ค่อยมา มีแค่สุดสัปดาห์ถึงจะมารวมตัวกันได้
ตอนนี้บลุน้อยมีภาพจำที่ไม่ดีต่อฟาร์มปลา ฉินสือโอวยืนทักทายพวกเขาอยู่หน้าประตู บูลน้อยที่เดิมทีกำลังกอดขวดนมดูดในอ้อมอกของบูลอย่างมีความสุขพอเงยหน้าขึ้นไปเห็นวิลล่า ตาที่อวบอ้วนจนเป็นเส้นตรงก็เบิกกว้างทันที จากนั้นก็ยื่นมือชี้ไปด้านหลังพลางร้องเสียงอู้อี้ “บ้าน บ้าน! บ้าน!”
ฉินสือโอวยอมใจกับบูลน้อยนี่จริงๆ เจ้าเด็กนี่ทั้งโง่ทั้งตะกละแถมยังขี้เกียจ ถึงตอนนี้แล้วยังเดินเองไม่เป็นอีก ปกติได้แต่ต้องอาศัยให้พ่อแม่พาอุ้มเดิน
บูลกับแอนนี่ยังไม่ได้สติ พอได้ยินเสียงของบูลน้อย เสี่ยวเถียนกวาที่นั่งเล่นคนเดียวในห้องรับแขกก็ผุดลุกขึ้น ‘พรึบ’ ก่อนจะวิ่งก้าวเล็กๆ เตาะแตะออกมา
พอเห็นบูลน้อยในอ้อมอกบูล ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าในดวงตาของลูกสาวแทบจะเปล่งแสงออกมา เธอชี้ไปที่บูลน้อยแล้วร้องขึ้น “มานี่ ตีเลย! ตีเลย!”
บูลน้อยเห็นเสี่ยวเถียนกวาที่ปรากฏตัวขึ้น ไขมันบนหน้าก็กระตุกสั่นด้วยความตกใจ มือสั้นเล็กชี้ไปที่ทางที่เพิ่งเดินผ่านมาอย่างเอาเป็นเอาตาย จากนั้นก็เริ่มแหกปากตะโกน “แม่ แม่ บ้าน! บ้าน! บ้าน!”
ที่จริงบูลไม่ค่อยชอบอุ้มลูกชายมาเล่นที่นี่ เทียบกับเสี่ยวเถียนกวา ลูกของบูลก็โง่เหมือนหมา โตกว่าเถียนกวาตั้งสองเดือนกว่า แต่จนถึงตอนนี้นอกจากน้ำหนักกับขนาดตัวที่เกินคนอื่น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเทียบได้เลย
เสี่ยวเถียนกวาเกือบจะวิ่งเหยาะได้แล้ว เรื่องนี้มีเหตุมาจากคู่ต่อสู้สุดแกร่งอย่างหมีโลลิ ตอนแรกเธอแค่เดิน ต่อมาก็พบว่าไล่ตามหมีโลลิไม่ทันก็เลยเรียนรู้การวิ่งเหยาะไปโดยปริยาย
บูลน้อยล่ะ? ตอนนี้ยังคลานเป็นอย่างเดียวอยู่เลย บางทีแอนนี่จะพยุงให้เดิน เจ้าเด็กน้อยก็เอาแต่ใจนั่งลงกับพื้นหรือกระทั่งกลิ้งร้องไห้งอแงบนพื้น
นอกจากนี้เสี่ยวเถียนกวาก็พูดได้ไว ตอนอายุเจ็ดเดือนก็เรียกพ่อแม่ได้แล้ว ตอนนี้ยิ่งพูดตามพ่อฉินแม่ฉินได้แบบงูๆ ปลาๆ
พูดถึงข้อนี้ ท่านชายฉินก็ดีใจและวางใจมาก คำแรกประโยคแรกของลูกสาวเป็นภาษาจีนหมดเลย ที่น่าเสียดายคือไม่ใช่จีนกลาง อย่างไรก็พูดตามพ่อฉินแม่ฉินนี่นา
บูลอุ้มลูกชายเดินมา เสี่ยวเถียนกวาก็เดินตามขนาบข้างอย่างใจจดใจจ่อ เงยใบหน้าดวงน้อยมองดูหนูน้อยอย่างดีใจ และตะโกนว่า “ตีเลย! อยู่ตลอด ตีเลย! ฉันจะตีให้เลย!”
สงสารก็แต่บูลกับแอนนี่ที่ไม่เข้าใจภาษาจีน และยิ่งไม่เข้าใจภาษาจีนที่แฝงสำเนียงท้องถิ่มเต็มเปี่ยมที่พ่อแม่ฉินสือโอวสอน ท่าทางดีใจแบบนี้ ยังดีใจความเป็นมิตรที่เธอแสดงต่อลูกชายเสียอีก
ด้านบูลน้อยแทบจะร้องไห้แล้ว บางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสัมผัสที่หกของเด็กนั้นไวกว่าจิตสำนึกของผู้ใหญ่มาก ฉินสือโอวเชื่อว่าบูลน้อยก็ไม่รู้ว่าเถียนกวาพูดว่าอะไร แต่กลับรู้ว่าเด็กผู้หญิงหน้าตาเบิกบานคนนี้จะอัดเขา!
พอเข้าบ้านไปนั่ง บูลก็ให้วินนี่กับแอนนี่เล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ เขายังต้องไปทำงาน
แอนนี่มองเขาโกรธๆ แล้วเอ่ยขึ้น “ทำงาน? ฉินบอกว่าสุดสัปดาห์นี้พวกคุณหยุดงาน”
บูลพูดอย่างเคร่งขรึม “สาวๆ นี่มีตาหามีแววไม่! ฟาร์มปลากำลังขาดคน ผมจะหยุดได้อย่างไร? พวกเพื่อนๆ ก็ทำงานล่วงเวลากันทั้งนั้น ผมจะมามัวนั่งเล่นอยู่นี่ได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวงง พวกชาวประมงทำงานล่วงเวลาตั้งแต่เมื่อไร วันนี้ก็พักกันนี่ แต่หลังจากนั้นก็เห็นบูลขยิบตาให้เขาก็เลยแค่ยักไหล่ ไม่ได้แฉคำโกหกนั้น
ได้ยินแบบนั้นแอนนี่ก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก อย่างไรฟาร์มปลาก็ดีกับพวกเขาทั้งครอบครัวมาก วินนี่ซื้อของให้ลูกเธอ กระทั่งซื้อชุดให้บูลน้อยหนึ่งชุด แน่นอนว่าชุดนี้คือขนาดใหญ่พิเศษ
วินนี่เข้ามาทำให้บรรยากาศดีขึ้น เธอพูดว่า “คอยดูลูกไว้ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าพวกคุณหงุดหงิดก็มาดูลูก จะต้อง โอ้ พระเจ้า เถียนกวาหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
บูลน้อยถูกวางลงบนพรมปุ๊บก็ใช้แขนขาทั้งสี่เตรียมจะหนี เสี่ยวเถียนกวาตามทันได้อย่างง่ายดาย สี่ขาก็ยังวิ่งไม่เร็วกว่าสองขา ทำเอาบูลน้อยเศร้าเหลือใจ
พอตามจนทัน เสี่ยวเถียนกวาก็กระโดดขึ้นกระแทกตัวจนบูลน้อยล้มลง จากนั้นก็พลิกตัวอย่างคล่องแคล่วขึ้นมาขี่บนพุงอ้วนกลม
บูลเห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ให้ตาย บอส เถียนกวานี่สุดยอดจริงๆ อย่างกับนักขี่หญิง พวกคุณสอนแกขี่ม้าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? งั้นผมกล้าพนัน ต่อไปเธอต้องกลายเป็นนักขี่ม้าหญิงที่มีชื่อแน่!”
ส่วนเรื่องที่ลูกชายโดนเถียนกวาชนจนล้มแล้วขึ้นขี่ เขาก็ไม่คิดอะไร ตอนเด็กๆ เขาก็เกลือกกลิ้งในแอ่งโคลนกับเพื่อนยันโต การตีกันระหว่างเด็กเป็นเรื่องธรรมดามาก กระทั่งสามารถช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กได้
แอนนี่ก็ไม่ใส่ใจ ลูกชายขี้เกียจเกินไป ปกติก็เอาแต่กินนอนดูการ์ตูน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมออกกำลังกาย ดังนั้นไม่ว่าจะการหัดพลิกตัว คลานหรือเดินก็ช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป มีเถียนกวาพาเล่นแบบนี้ถึงดีกว่า
หมีโลลิที่นอนอยู่บนโซฟาสังเกตการณ์ด้วยสายตาเย็นชา มองดูบูลกับภรรยาที่มีสีหน้าไม่ใส่ใจ มันรอดูอะไรสนุกๆ อยู่ มนุษย์ผู้โง่เขลา พวกแกนึกว่าเจ้าเด็กผู้หญิงตัวแสบนี่กำลังขี่ม้าเหรอ? ไม่ อู่ซงตีเสือต่างหาก!
วินนี่รู้ดีถึงกระบวนท่าต่อจากนี้ของเสี่ยวเถียนกวา เธอเห็นฉากแบบนี้มาเยอะแล้ว ชนหมีโลลิจนล้มแล้วก็ขึ้นขี่บนท้อง จากนั้นก็ลงหมัดรัวราวกับห่าฝน…ฉะนั้นเธอจึงร้องเสียงหลงแล้วรีบไปดึงเสี่ยวเถียนกวาออกมา
เสี่ยวเถียนกวาเสียดายมาก เธอพึ่งจะเงื้อหมัดก็โดนแม่ดึงออกมา ไม่อย่างนั้นก็ได้ต่อยเจ้าอ้วนเล่นแล้ว บูลน้อยเนื้อเยอะจ้ำม่ำมาก เวลาต่อยขึ้นมานุ่มๆ นิ่มๆ สนุกมากเลยนะ
บูลน้อยร้องไห้พลางลุกขึ้นมา เขาพยายามบิดคอมองไปทางเถียนกวา พบว่านางแม่มดยังคงดิ้นอยากจะพยายามไล่ตามตัวเองมา ชั่วขณะนั้นก็ตกใจจนไขมันสั่นทั้งตัว
เมื่อกี้คลานแล้วโดนไล่ตามทันได้ง่ายๆ ก็เลยพยายามอยู่พักหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะยืนขึ้นมาได้ จากนั้นก็เดินโซเซไปหาแอนนี่ ปากก็ตะโกนไปด้วย “แม่ กอด! กอด!”
แอนนี่ดีใจแทบแย่ เธอพูดอย่างประหลาดใจว่า “ฉันรู้ว่าถ้าลูกเล่นกับเถียนกวาบ่อยๆ ต้องดีกับการหัดเดินของลูก พระเจ้า พวกคุณเห็นไหม? ยืนขึ้นมาแล้ว!”
บูลเข้ามาอุ้มลูกชายแล้วโยนขึ้นฟ้าสองสามรอบราวโยนกระสอบทราย สุดท้ายก็รับไว้แล้วเอาเคราถูหน้าอ้วนก่อนจะเอาเขาให้เถียนกวาอีก
หมีโลลิที่ดูเหตุการณ์เบิกตากว้างด้วยความอึ้ง นี่พ่อแท้ๆ กันหรือเปล่าเนี่ย? ดีนะที่เราไม่มีพ่อแท้ๆ พ่อแท้ๆ น่ากลัวเกินไปแล้ว แค่ทรมานลูกไม่พอ ยังส่งไปให้คนทรมานอีก!
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
Status: Ongoing
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset