ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1503 ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ

อุทยานแห่งชาติเคจิมกูจิกอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ดังนั้นจึงไม่มีมลภาวะทางแสง จึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมทางช้างเผือกในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกว่านั้นคือ เนื่องจากสภาพอากาศและท้องฟ้า จึงทำให้ที่นี่สามารถมองเห็นแสงขั้วโลกในช่วงฤดูหนาวได้
แน่นอนว่าแสงขั้วโลกที่นี่ไม่เหมือนกับที่กรีนแลนด์ในวงกลมอาร์กติก ตราบใดที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างสดใส ก็จะทำให้สามารถมองเห็นแสงขั้วโลกได้ทุกวัน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วไป อาจจะมีถึงสี่หรือห้าครั้งต่อปี ซึ่งขนาดจะเทียบไม่ได้กับที่วงกลมอาร์กติก แต่จะมองดูแสงขั้วโลกที่นี่ได้ โดยไม่ต้องทนกับความหนาวเย็นในวงกลมอาร์กติก
สำหรับสภาพอากาศในกรีนแลนด์ ฉินสือโอวยังคงจำสภาพอากาศนั้นได้ดี ถ้าไม่จำเป็น เขาจะไม่ไปที่นั่นอีกเลยในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ฟาร์มปลาคาร์เตอร์แล้ว เขาก็จะสามารถนอนดูแสงขั้วโลกที่ฟาร์มปลาได้
นอกจากอุทยานแห่งชาติจะมีทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว ยังมีแม่น้ำเซนต์แคเทอรีนส์ในบริเวณฟาร์มปลาอีกด้วย แม่น้ำสายนี้เป็นกระแสน้ำหลัก ทุกๆ ปีมีนักศึกษาจำนวนมากมาที่แม่น้ำเพื่อจัดกิจกรรมล่องแก่ง นอกจากนี้แม่น้ำสายนี้ยังมีการจัดการแข่งขันเรือแคนูและการแข่งขันแคนูจากทั่วทั้งวิทยาลัยแคนาดาก็จัดขึ้นที่นี่
สรุปแล้ว ตอนนี้ฉินสือโอวก็ได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับฟาร์มปลาคาร์เตอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้เขายิ่งต้องการซื้อมัน เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคาร์เตอร์ถึงไม่พอใจขนาดนั้น? มีฟาร์มปลาที่ดีแบบนี้ ยังจะไปวุ่นวายกับเขาอีก รนหาที่ตายให้ตัวเองจริงๆ
จุดที่ไม่ดีอยู่ที่รัฐโนวาสโกเชียเป็นเหมือนกับนิวฟันด์แลนด์ ที่กว้างขวางแต่มีผู้คนเพียงน้อยนิด บริเวณเคจิมกูจิกอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก กิจกรรมการประมูลฟาร์มปลาจึงจัดขึ้นในเมืองหลวงของแฮลิแฟกซ์
แฮลิแฟกซ์เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐโนวาสโกเชีย ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกและเป็นท่าเรือน้ำลึกธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย
ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรทางตอนใต้ของรัฐโนวาสโกเชีย ริมมหาสมุทรแอตแลนติกและเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ปราศจากน้ำแข็งมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ จึงถูกเรียกว่าเป็น “ประตูสู่ภาคเหนือ” ในปี 1749 มีผู้อพยพเข้ามาตั้งรกรากและตั้งเป็นเมืองในปี 1841
ตอนนี้เมืองแห่งนี้ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งมีประชากรถึง 400,000 คน ผู้คนเกือบครึ่งหนึ่งรัฐโนวาสโกเชียล้วนอาศัยอยู่ที่นี่…
สภาพอากาศของแฮลิแฟกซ์ดีที่สุดในแคนาดา ฤดูหนาวจะไม่หนาวจัด เพราะตั้งอยู่ทางใต้ ฤดูใบไม้ผลิก็มาเร็วมาก เมื่อฉินสือโอวลงจากเครื่องบินในตอนเที่ยง แสงดวงอาทิตย์จะส่องแสงอย่างอบอุ่น ซึ่งทำให้ร่างกายอบอุ่นอย่างรวดเร็วและที่นี่ในช่วงฤดูนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ อีก
การใช้ชีวิตในเมืองนี้ค่อนข้างที่จะสโลวไลฟ์ ในฤดูใบไม้ผลิอากาศจะแจ่มใส ผู้คนเดินบนถนนไม่กันอย่างไม่เร่งรีบ แม้แต่คนหนุ่มสาวก็ยังเอื่อยเฉื่อย ผู้คนทั่วทั้งเมืองจึงรู้สึกผ่อนคลายมาก
ฉินสือโอวออกไปที่ประตูสนามบิน เบิร์ดจึงไปเรียกรถแท็กซี่มาให้เขา หลังจากที่พวกเขาขึ้นรถแล้ว คนขับก็ถามว่า “พวกคุณ จะไปไหน?”
“ไปไหนก็ได้” ฉินสือโอวกล่าว การประมูลจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้และโรงแรมก็ได้ให้วินนี่จัดการจองให้แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรทำ สู้ไปตามจังหวะของเมืองนี้และเดินเล่นอย่างช้าๆ อย่างสบายใจยังจะดีกว่า
คนขับรถคิดว่าพวกเขาเป็นนักท่องเที่ยว จึงแนะนำว่า “ผมจะพาพวกคุณไปท่าเรือของเมืองดีไหม? ที่นั่นมีทางเดินเล่นริมทะเลที่ยาวที่สุดในโลก แม้ว่าในช่วงฤดูนี้จะไม่ได้เห็นบิกินี่ก็ตาม แต่ก็มีสาวสวยมากมายมาเดินเล่น ถ้าหนุ่มหล่ออย่างพวกคุณไปที่นั่น บางทีอาจจะได้สาวกลับมาก็ได้”
ฉินสือโอวยิ้มพร้อมพูดว่าไม่เป็นไร ‘หนุ่มหล่อ’ ที่คนขับรถกล่าวทำให้เขามีความสุขมาก เพราะตั้งแต่มีลูก เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเป็นวัยรุ่นอีกเลย ดังนั้นจึงไม่เร็วเกินไปที่จะมีลูก
รถแท็กซี่แล่นออกไปบนถนนอย่างรวดเร็ว หลังจากเห็นแนวชายฝั่งแล้ว ความรู้สึกดีๆ ของฉินสือโอวที่มีต่อคนขับก็หายไป
แม่เจ้า หมอนี่หลอกพวกเขา ท่าเรือและสนามบินของแฮลิแฟกซ์ตั้งอยู่เกือบจุดสูงสุดของสองเส้นทแยงมุมของเมือง ซึ่งถ้านั่งแท็กซี่ไปต้องจ่ายถึง 100 กว่าดอลลาร์แคนาดา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แฮลิแฟกซ์ก็เป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งการค่าแท็กซี่จ่ายมากกว่า 100 ดอลลาร์แคนาดาในเมืองเล็กๆ นี้ถือว่าเป็นการหลอกลวงอย่างแน่นอน
โชคดีที่แนวชายฝั่งของเมืองนี้สวยงามมากและดูเหมือนว่าคนขับจะสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของพวกเขา ครั้งนี้ฉินสือโอวพาเบิร์ดและแบล็คไนฟ์มาด้วย ทั้งสามคนล้วนรักในความเป็นธรรม ดังนั้นหลังจากที่คนขับรถหลอกพวกเขา จึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย นี่อาจเป็นความต้องการชดเชย จึงค่อยๆ ชะความเร็วของรถลงและปล่อยให้พวกเขามีอารมณ์และเวลาได้ชมวิวทิวทัศน์
มีเกาะเล็กๆ มากมายรอบนอกทะเลนอกแฮลิแฟกซ์ ลักษณะเด่นของเกาะเหล่านี้คือ ‘เล็ก’ เกาะเล็กๆ แต่ละที่จะคล้ายกับกระถางขนาดใหญ่ บนระลอกคลื่นทะเลสีฟ้า ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวที่มีความงดงาม
แม้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ก็จะมีสีเขียวปรากฏบนเกาะเล็กๆ เหล่านี้และร่มไม้สีเขียวก็เผยให้เห็นท่าเรือเล็กๆ บ้านไม้อันงดงามและเรือลำเล็กที่เคลื่อนไหวไปมาอยู่ด้านบน รู้สึกว่าอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ก็ดูลึกลับ
แบล็คไนฟ์ไม่เคยมาแฮลิแฟกซ์มาก่อน เมื่อมองออกไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ที่นี่มีเกาะเล็กๆ มากมาย ผมคิดว่าต้องมีหลายร้อยเกาะใช่ไหม?”
คนขับรถรีบพูดว่า “ใช่ มีเป็นหลายร้อยเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกโจรสลัดก็คงจะไม่เลือกตั้งฐานทัพที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าพวกคุณชอบวัฒนธรรมโจรสลัด ก็สามารถไปดูที่เกาะเล็กๆ ได้ เพราะเกาะเล็กๆ เหล่านี้เกือบทั้งหมดจะมีร่องรอยของโจรสลัด ซึ่งเมื่อก่อนในแต่ละเกาะเคยมีกลุ่มโจรสลัดอาศัยอยู่”
หลังจากหยุดพักไปพักหนึ่ง เขาก็พูดเสริมว่า “ถ้าพวกคุณโชคดี บางทีคุณอาจจะพบสมบัติของโจรสลัดก็ได้นะ โจรสลัดหลายคนได้ทิ้งสมบัติไว้ที่นี่ โดยเฉพาะที่เกาะต้นโอ๊ก ว่ากันว่าที่นั่นได้ฝั่งสมบัติที่มีมูลค่ามากจนสามารถซื้อรัฐโนวาสโกเชียได้ทั้งหมด!”
ที่จริงแฮลิแฟกซ์เคยเป็นสวรรค์ของโจรสลัดและจอมโจรคิดผู้มีชื่อเสียงก็อยู่ที่นี่ ซึ่งบางเกาะก็ตั้งชื่อเกี่ยวกับเขา
เช่นเกาะแม่ม่ายในอ่าวเชด จอมโจรคิดได้เคยซ่อนสมบัติไว้ที่นี่ เขาส่งคน 43 คนไปขุดหลุมไว้สองหลุม จากนั้นเขาก็ฝังสมบัติและชายทั้ง 43 คนไว้ในหลุม ดังนั้นจึงมีหญิงม่าย 43 คนร้องไห้ทั้งวันทั้งกลางคืน และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อเกาะแม่ม่าย
แต่ก็เหมือนกับที่คนขับรถได้พูดไว้ ตำนานเล่าว่าเกาะต้นโอ๊กมีสมบัติจำนวนมากที่สุดและสมบัติครึ่งหนึ่งของจอมโจรคิดก็ฝังอยู่ที่นั่น ว่ากันว่า เมื่อต้นโอ๊กทั้งหมดบนเกาะที่ถูกปกคลุมเกาะแห่งนี้เหี่ยวเฉาตาย จะต้องมีคน 7 คนจะเสียชีวิตในเวลาเดียวกัน ความลึกลับของสมบัติถึงจะถูกเปิดเผย
ด้วยเหตุนี้ฉินสือโอวจึงหัวเราะขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เกาะต้นโอ๊กถูกค้นพบมานานหลายร้อยปีและรื้อค้นจนหมด สุดท้ายแม้แต่ลมก็ไม่มี ใครเชื่อคนนั้นก็คนโง่แล้ว
เมื่อขับรถไปถึงท่าเรืออย่างช้าๆ แล้ว รถแท็กซี่ก็หยุดลง ฉินสือโอวจึงจ่ายเงินให้ คนขับรถคนนั้นจึงโล่งใจ เมื่อกี้แบล็คไนฟ์มองเข้าไปในดวงตาของเขา จนทำให้เขารู้สึกขนหัวลุกเพราะกลัวว่าทั้งสามคนจะทำร้ายเขา
ท่าเรือเงียบและสงบ มีนกนางนวลสีขาวราวกับหิมะบางตัวกำลังบินอยู่บนทะเลพร้อมส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วเหนือน่านน้ำทะเล มีใบเรือสีขาวเล็กๆ และเรือขนาดเล็กใหญ่กำลังเข้าออกท่าเรือ ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบ
จากท่าเรือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะมีถนนคดเคี้ยวเรียบไปตามชายหาด โดยทั่วไปแล้วนี่เป็นถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในโลก
ในช่วงตอนเที่ยง บนถนนจะมีผู้จำนวนมาก ข้างทางจะมีร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย ทำให้ส่งกลิ่นหอมออกมาอย่างไม่ขาดสาย ฉินสือโอวจึงวางแผนว่าจะพาทั้งสองคนไปกินข้าวก่อน
ในขณะที่กำลังเดินอยู่บนถนน ฉินสือโอวก็คิดอะไรไปเรื่อย ทันใดนั้นก็มีคนสองสามคนออกมาจากร้านอาหาร หัวหน้าของคนเหล่านี้เป็นคนรู้จักของเขาซึ่งก็คือ ชาลส์ มอร์รี่ ลูกชายคนที่สามของตระกูลมอร์รี่ ซึ่งเป็นครอบครัวชาวประมงอเมริกันขนาดใหญ่
……………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset