ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 205 เจ้าตัวใหญ่ที่ลงมาจากเขา

บทที่ 205 เจ้าตัวใหญ่ที่ลงมาจากเขา
โดย
Ink Stone_Fantasy

เห็นฉินสือโอวกำลังหยอกล้อกับวาฬเบลูกา บิลลี่เริ่มอ้าปากค้าง
ฉินสือโอวผิวปากหนึ่งที จากนั้นยื่นนิ้วชี้และนิ้วกลางออกมาวาดคำว่า ‘2’ ในอากาศ วาฬเบลูกากระโดดในน้ำหนึ่งที อ้าปากออกแล้วพ่นน้ำออกมา 2 ครั้ง ‘พวู่ว พวู่ว’
บิลลี่อ้าปากกว้างกว่าเดิม ฉินสือโอวชี้ไปที่เขา วาฬเบลูกาพุ่งไปหาเขาอย่างรวดเร็ว ยื่นหน้าออกมาจากน้ำและพ่นน้ำทะเลใส่เขา
น้ำทะเลที่มีรสชาติทั้งเค็มและขมเข้าไปในปาก บิลลี่อ้าปากกว้างขึ้นไปอีก!
ฉินสือโอวหัวเราะ ทำท่ากินอาหาร วาฬเบลูกาดำลงไปในน้ำอย่างร่าเริง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็วนกลับมาพร้อมกับปลาแฮร์ริ่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีความยาวกว่า 20 เซนติเมตรในปาก……
หลังจากนั้นบิลลี่ไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อกลับไปถึงฟาร์มปลา เขาจับไหล่ของฉินสือโอวส่ายไปมาราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน และพูดว่า “ให้ตายเถอะ! ให้ตายเถอะ! ให้ตายเถอะ! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง! วาฬเบลูกาจะเชื่อฟังนายได้อย่างไรกัน? มันฉลาดเช่นนี้เชียวเหรอ?! ฉันไม่เชื่อ!”
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “ถ้าฉันบอกว่าวาฬเบลูกาเป็นผู้พบเรือดังเคิลออสเตียส นายน่าจะยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่”
บิลลี่นั่งลง และพึมพำ “พระเจ้า พ่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของฉัน พ่อคนเดียวของฉัน พระเจ้าองค์เดียวในโลก โปรดยกโทษในบาปของฉันด้วย สิ่งที่ฉันได้พบได้เห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตาของท่านเท่านั้น บนโลกนี้มีเรื่องปาฏิหาริย์ ในที่สุดท่านก็แสดงปาฏิหาริย์ของท่าน อาเมน!”
ฉินสือโอวรู้สึกงงงวย ทำไมเจ้านี่จู่ๆ ก็เริ่มอธิษฐานล่ะ?
บิลลี่พึมพำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นวาดไม้กางเขนตรงอก จากนั้นถอนหายใจและพูดว่า “ฉิน ขอบคุณนายมาก ฉันเคยสงสัยในพระเจ้า ฉันเกือบจะก้าวลงเหวแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ให้นายมาช่วยฉัน……”
“อะไรกัน อะไรกัน?” ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ เจ้านี่ประสาทหรือเปล่า?
บิลลี่จับเขาไว้ และพูดอย่างตื้นตันใจว่า “วาฬเบลูกาตัวนั้นยังไงล่ะ มันก็คือปาฏิหาริย์ มันเป็นแกะที่พระเจ้าส่งมาช่วยฉัน! หากพระเจ้าไม่ได้สร้างมัน มันจะฉลาดแบบนี้ได้ไง?!”
ฉินสือโอวเกือบจะเป็นลม นี่มันอะไรกัน? เขารีบตัดเข้าประเด็นสำคัญว่า “ฟังนะ บิลลี่ ฉันมีบอลหิมะ บอลหิมะสามารถไปทั่วทุกสารทิศในมหาสมุทร มันใช้ดีกว่าเครื่องตรวจจับทุกประเภท อย่างนี้เราสามารถร่วมมือกันได้ นายบอกตำแหน่งโดยประมาณของซากเรืออับปาง ฉันให้บอลหิมะไปหาตำแหน่งที่แน่ชัด จากนั้น เมื่อหาซากเรืออับปางเจอ เราก็จะทำการกู้ได้ เข้าใจไหม?”
บิลลี่กล่าวว่า “ได้ยังไงกันล่ะ วาฬเบลูกาตัวนั้นเป็นตัวแทนของพระเจ้า……”
“เจ้าโง่ จุดประสงค์ที่พระเจ้าส่งมันมายังโลกใบนี้ นายคิดว่าเพียงเพื่อมาช่วยจิตวิญญาณอันน่าสงสารของนายหรอกเหรอ? ท่านยังต้องใช้บอลหิมะเป็นตัวกลาง ในการทำให้ซากเรืออับปางปรากฏบนโลกใบนี้!”ฉินสือโอวรีบเปลี่ยนวิธีการพูด
เขาคิดว่าบิลลี่ต้องเคยทำสิ่งเลวร้ายมากมายเป็นแน่ ตอนนี้เมื่อได้เห็นบอลหิมะ จึงคิดว่าน่าเป็นความปาฏิหาริย์ของพระเจ้า ชาวตะวันตกชอบทำเรื่องแบบนี้ที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องโยงไปถึงพระเจ้า
แต่แน่นอนว่า พระเจ้าก็สู้แฟรงกลินไม่ได้(รูปปั้นที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งร้อยดอลลาร์) เมื่อบิลลี่สงบสติอารมณ์ลง เขาคิดว่าก็จริงอย่างที่พูด เมื่อมีบอลหิมะที่แสนฉลาดและทรงพลัง โอกาสที่พวกเขาจะเจอซากเรืออับปางก็เพิ่มขึ้น
สิ่งที่ยากที่สุดในการกู้ซากเรืออับปางคืออะไร? ความลำบากในการทำงานใต้ทะเลลึกเหรอ? วิธีการป้องกันวัตถุโบราณกับปัญหาการเกิดออกซิเดชันหลังกู้มันขึ้นมาเหรอ? ไม่ ไม่ใช่ทั้งสิ้น ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือจะพบซากเรืออับปางได้อย่างไร!
มีซากเรืออับปางมากมายบนโลกใบนี้ แต่ละปีสามารถกู้ออกมาได้เพียงน้อยนิด เหตุผลก็คือความยากในการค้นหาตำแหน่งที่แน่ชัดของมัน การกู้ซากเรืออับปางที่มีชื่อเสียงในโลก ก็ล้วนแต่ใช้เวลานานหลายปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์
ดังเช่นการกู้เรือรบเมอซี่ของโอดิสซีย์ในครั้งนี้ พวกเขาใช้เวลานานสี่ปีในการกำหนดตำแหน่งที่แน่ชัดของมัน แต่การค้นพบและกู้ ใช้เวลาเพียงสองเดือนครึ่งเท่านั้น!
ฉินสือโอวบอกแผนของตนให้บิลลี่ฟัง “บิลลี่ นายทำงานให้ตระกูลของนาย ได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง? มากสุดก็โบนัสนิดหน่อย! ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว นายมีวิธีการและเครือข่ายที่จะได้มาซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของซากเรืออับปางลำใหญ่ ส่วนฉันสามารถหาซากเรือเหล่านั้นเจอ”
“หลังจากนั้น เรากู้สมบัติในเรืออับปาง แล้วร่วมมือกับเบลคและอลัน คนหนึ่งดูแลเรื่องการจำหน่ายผ่านงานประมูล อีกคนจัดการเรื่องเงินให้เราผ่านธนาคาร” พรรคพวก อยากรวย อย่ามักง่ายเกินไป!”
บิลลี่ถูกโน้มน้าวสำเร็จ ใช่แล้ว นี่เป็นแผนการที่ไม่เลว เขาคิดไตร่ตรองอยู่ครึ่งชั่วโมง แล้วพยักหน้าเห็นด้วย “นายพูดถูก ฉิน นี่เป็นแผนที่ไม่เลว ฉันคิดว่าเราสามารถทำแบบนี้ได้”
ความจริงแล้วฉินสือโอวไม่ได้ต้องการเงินมากขนาดนั้น แต่ก็ตามที่เขาได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ ใครจะคิดว่าตัวเองมีเงินมากเกินไปล่ะ? อีกอย่าง ในอนาคตข้างหน้าเขาจำต้องพบซากเรืออับปางอีก เขาคงไม่ทำเป็นไม่เห็นแล้วเก็บไว้ให้รุ่นหลังใช่ไหม? สู้กู้ขึ้นมาเองดีกว่า
อย่างนี้ การกู้สมบัติครั้งที่หนึ่งของเขาสามารถใช้ความโชคดีในการอธิบายได้ แล้วครั้งที่สองล่ะ? ครั้งที่สามล่ะ? ครั้งที่ห้าครั้งที่สิบล่ะ?
หากมีบริษัทกู้ซากเรือและระบบจัดการขุมทรัพย์ที่สมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องง่าย
สำหรับความถี่ในการพบเจอเหรอ? ฮ่าๆ ฉินสือโอวไม่สนใจหรอก
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญา บิลลี่นำเอาบันทึกกัปตันเรือดังเคิลออสเตียสกลับไปด้วย และทิ้งสัญญาโบนัส 15% ไว้
หากเป็นไปตามคาด ฉินสือโอวสามารถทำเงินได้เกือบ 20 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยมือเปล่า!
เมื่อหาเงินได้ง่ายเช่นนี้ ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่าตนกำลังเพ้อฝัน เมื่อก่อน เขาใช้สมองไปกับการได้มาซึ่งเงินสองพันหยวน แต่ตอนนี้ เพียงแค่บันทึกเล่มหนึ่งและหนึ่งความคิด เขาก็สามารถได้มาซึ่ง 20 ล้าน มิหนำซ้ำยังเป็นดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย!
เมื่อส่งบิลลี่กลับ ฉินสือโอวนั่งตากลมและดื่มน้ำอัดลมเย็นๆ บนหาด เพลิดเพลินกับความสงบที่มีมาไม่บ่อยนัก
วินนี่นั่งอยู่ใต้ร่มบังแดดอีกคันและกำลังจัดการกับขนของหู่จือและเป้าจือ ตอนนี้พวกมันดูตลกมาก ขนส่วนหัวและเท้าทั้งสี่ยังคงยาวเหมือนเดิม แต่ขนบนตัวกลับสั้นลงหนึ่งเท่า
อย่างไรก็ตาม แม้จะดูน่าเกลียด แต่มีประสิทธิภาพสูง กลางวันแสกๆ ทั้งหู่จือและเป้าจือต่างไม่ได้แลบลิ้น นอนราบอยู่ข้างๆ วินๆ ปล่อยให้เธอจัดการกับขนของพวกมัน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เด็กทั้งสี่ไม่มีเรียน กอร์ดอนและมิเชลหยอกล้อกันในน้ำ เชอร์ลี่ย์อ่านหนังสือแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเรียน ส่วนมิเชลนั้นสวมหมวกแข่งรถ แว่นกันแดด ใส่เสื้อยีน กำลังเพลิดเพลินกับรถเอทีวี
ฉินสือโอวกำลังพักผ่อน และจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้อง ‘อู้ว อู้ว’ เขารู้ในทันทีว่าเป็นเสียงของฉงต้า จึงรีบลุกขึ้น
จากทางทิศตะวันออกของบ้านพัก ฉงต้าวิ่งกลับมาอย่างรีบร้อน วิ่งไปด้วยมองไปหันหลังและส่งเสียงร้องไปด้วย
หู่จือและเป้าจือลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งตรงไป ส่งเสียงร้องตาม “โฮ่งๆๆ โฮ่งๆๆ”
วินนี่ถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
ฉินสือโอวทำหน้างงงุนและพูดว่า “เหมือนว่าจะมีตัวอะไรเข้ามาในฟาร์มปลา ขอให้ไม่ใช่หมาป่า ให้ตายเถอะ! ฉันต้องไปดูเสียหน่อยแล้วล่ะ!”
วินนี่ดึงเขาไว้ และรีบพูดขึ้นว่า “พระเจ้า คุณเอาปืนไปด้วยสิ……”
ฉินสือโอวเขาเธอพร้อมหอมเธอหนึ่งที พูดว่า “วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”
พูดจบ เขาตะโกนเสียงดังไปทางประตูบ้านพัก “อีวิลสัน หยิบปืน มากับฉัน!”
อีวิลสันที่กำลังกินเนื้อลาแห้งในที่ร่มตรงประตูรีบลุกขึ้น เขาเข้าไปในบ้านเอา AR-15 และเรมิงตัน M870 ของฉินสือโอวออกมา แล้วก้าวขาวิ่งอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวกำลังจะวิ่ง พาวลิสขับซีบิสกิตหักโค้งเข้ามาแล้วพูดว่า “ลุงฉิน ขึ้นรถ เดี๋ยวผมไปส่ง!”
แม้ซีบิสกิตจะเป็นรถเอทีวีขนาดเล็ก แต่ล้อหลังทั้งสองสูงพอสมควร ขั้นบนมีแผ่นกันชนที่ทำจากเหล็ก สามารถนั่งได้ ฉินสือโอวขึ้นไปนั่งพร้อมรับ AR-15 มาด้วยความเคยชิน แต่อีวิลสันขึ้นไปไม่ได้ เขาโบกมือเอา AR-15 กลับคืนมาแล้วส่งเรมิงตันให้เขา และพูดว่า “หมูป่า อันนี้! อันนี้แรง!”
ข้างๆ ฉงต้าหายใจแรงมาก มันกอดล้อรถไว้และอยากปีขึ้นไป แต่ไม่ว่ามันจะพยายามแค่ไหนก็เสียแรงเปล่า ขาสั้นๆ ของมันพยายามปีนป่ายแต่ปีนขึ้นไปได้เพียงครึ่งเมตรก็ร่วงลงมา
ฉินสือโอวรู้สึกจนปัญญา จึงดึงฉงต้าขึ้นไปอีกฟากหนึ่งของรถ เมื่อเห็นเช่นนี้ พาวลิสเหยียบคันเร่งเปลี่ยนเกียร์เพื่อเร่งความเร็ว ซีบิสกิตวิ่งออกไปอย่างสงบ ฉินสือโอวใส่กระสุนปืนเข้าไปทีละนัด ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่นานก็ไปถึงฟาร์มปศุสัตว์
ห่างกันตั้งไกล เขาเห็นร่างใหญ่สองร่างเดินวนอยู่ตรงฟาร์มปศุสัตว์และส่งเสียงร้อง ‘หึ่ง หึ่ง’ ส่วนไก่และเป็ดที่อยู่ข้างในก็ส่งเสียง ‘กุก กุก’ ไม่หยุด เห็นได้ชัดว่ากลัวกันอย่างมาก
เจ้าร่างใหญ่สองตัวนี้ร่างกายสีน้ำตาล มีขนยาวปกคลุมตัว และมีฟันแหลมคมสีส้ม สี่ขาของมันดูยาวและแข็งแกร่งมาก ร่างของมันใหญ่เท่าบานประตู มันคือหมูป่าสองตัวที่วิ่งลงมาจากเขา
ไม่รู้ว่าทำไมหมูป่าสองตัวนี้จึงลงจากเขามาในวันที่อากาศร้อนจัดเช่นนี้ คาดว่าน่าจะเดินมาตามแม่น้ำ เมื่อเห็นฟาร์มปศุสัตว์ ก็อยากจะบุกเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ฟาร์มปศุสัตว์ถูกซีมอนสเตอร์และชาร์คปิดตายด้วยลำต้นขนาดใหญ่และมีความสูงเท่าคน พวกมันวนอยู่หลายรอบก็ไม่พบกับทางเข้า
เมื่อได้ยินเสียงของซีบิสกิต หมูป่าตัวหนึ่งหันมามองด้วยความระมัดระวัง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เผยให้เห็นฟันที่แหลมคม หมูป่าอีกตัวดูแข็งแกร่งยิ่งกว่า เมื่อมันหาทางเข้าฟาร์มปศุสัตว์ไม่พบ ก็เริ่มวิ่งไปกระแทกรั้วไม้
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset