ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1519 นกอ้วนเป็นแหล่งอาหาร

สุดท้ายการถกเถียงกันเรื่องกลับบ้านเก่าก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ฉินสือโอวรู้ว่าพ่อกับแม่ของเขาก็คิดถึงบ้านเหมือนกัน
จริงอยู่ว่าความสุขจากการที่ได้อยู่กับลูกชายและหลานสาวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันถือเป็นสิ่งที่งดงาม แต่ถึงอย่างไรก็ควรจะมีสิ่งบันเทิงซึ่งเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการใช้ชีวิตสำหรับพวกเขาด้วย ชีวิตของคนเรานั้น หากราบรื่นเกินไปก็คงจะไม่น่าสนใจ อีกทั้งคนพอยิ่งแก่ตัวไปก็จะยิ่งนึกถึงวันคืนเก่าๆ ยิ่งชื่นชอบความครึกครื้น ต้องมาอยู่แต่ในฟาร์มปลาอย่างเหงาๆ แต่ละวันได้แต่เดินไปเดินมารอบๆ บ้านหลังใหญ่ ช่างน่าเบื่อหน่ายเสียจริง
ฉินสือโอวมองออกว่าพ่อกับแม่ของเขาคงจะรู้สึกอย่างนั้น
ดังนั้นหลังจากทานอาหารเสร็จ เขาก็โทรศัพท์ไปหาพี่สาวของเขา แล้วบอกเธอว่าพ่อกับแม่อาจจะกลับบ้านตอนช่วงฤดูร้อน ให้พี่ไปดูแลบ้านก่อนล่วงหน้า อันไหนควรเก็บก็เก็บ ของที่ควรเปลี่ยนก็เปลี่ยนซะ
นอกจากนี้เขายังบอกพี่สาวว่าในช่วงนี้ให้เอาใจใส่ให้มากขึ้นกว่าเดิม ลองหาดูหน่อยว่ามีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่พอจะเช่าเพื่อล้อมกระชังได้บ้างไหม ถ้าเช่าได้พอกลับไปจะได้ให้พ่อกับแม่เป็นคนดูแล ไม่อย่างนั้นถ้าไม่มีอะไรให้ทำเดี๋ยวพ่อกับแม่ก็กลับไปปลูกผักปลูกหญ้าอีก เทียบกันแล้วมันเหนื่อยกว่ากันมาก ให้เลี้ยงปลายังดีเสียกว่า
กิจการร้านอาหารของฉินสือโอวที่บ้านเก่าเปิดมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเป็นช่วงเดียวกันกับที่เถียนกวายังเล็กอยู่มาก เขาออกไปที่อื่นไม่ได้ ช่วงเปิดร้านเลยไม่ได้กลับไป และปล่อยให้ต้วนเหล่ยเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด
ต้วนเหล่ยเป็นผู้จัดการใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ แหล่งที่มาของลูกค้า หรือการติดต่อกับหน่วยงานราชการต่างๆ ล้วนแต่มีเขาเป็นคนจัดการทั้งสิ้น ส่วนหน้าที่ของฉินสือโอวก็คือการจัดหาอาหารทะเล ทั้งสองคนลงทุนร่วมกันจึงทำให้พวกเขาต่างก็ถือหุ้นกันคนละครึ่ง
ฉินสือโอวไม่ค่อยสนใจกิจการร้านอาหารร้านนี้เท่าไรนัก เขามอบอำนาจในการบริหารจัดการทั้งหมดให้กับพี่สาวและพี่เขยของเขา ปล่อยให้ทั้งสองคนติดต่อพูดคุยกับต้วนเหล่ยเอาเอง บ่อเลี้ยงปลาในแม่น้ำไป๋หลงก็มอบหน้าที่ให้ทั้งสองคนเป็นผู้ดูแล ดังนั้นบ่อเลี้ยงปลาจึงกลายเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักสำหรับร้านอาหารของพวกเขา
เขามีตัวช่วยพิเศษอย่างหัวใจโพไซดอนอยู่ การที่เขาให้พ่อกับแม่กลับไปดูแลบ่อเลี้ยงปลา แท้จริงแล้วเขาจะเป็นคนลงแรงดูแลบ่อเลี้ยงปลาเอง พ่อกับแม่ของเขาไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ส่วนปลาในบ่อก็สามารถนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารได้ด้วย
ด้วยความที่กิจการร้านอาหารเริ่มเฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ วัตถุดิบจากบ่อปลาแห่งเดียวในแม่น้ำไป๋หลงจึงเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องขยายบ่อเลี้ยงปลา พี่สาวของฉินสือโอวได้ล้อมแม่น้ำไป๋หลงตรงบริเวณหน้าหมู่บ้านไว้ตลอดทั้งช่วง บ่อปลาถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเกือบถึงสิบเท่า
คุยเรื่องนี้กับพี่สาวเสร็จแล้ว หลังจากกดวางสายฉินสือโอวก็ไปช่วยพ่อกับแม่คัดเมล็ดพันธุ์เพื่อนำมาเร่งให้แตกหน่อ
มะฮอกกานีจีนสามารถออกดอกผลได้มากพอดูทีเดียว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปลูกเมล็ดพันธุ์ในปริมาณมาก แต่จะมีอัตราการแตกหน่อที่ต่ำมาก ต่อให้คัดแต่เมล็ดพันธุ์ดีๆ อัตราการแตกหน่อก็อาจจะไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์จึงเป็นงานที่สำคัญมาก
เมล็ดพันธุ์ที่วินนี่สั่งซื้อมาเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่อย่างดีที่ออกผลเมื่อปีที่แล้ว ฉินสือโอวคัดเอาแต่เมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์อวบอิ่มเป็นพิเศษ เขานำโคมไฟมาด้วยหนึ่งดวง เมล็ดพันธุ์ที่ดีจะสะท้อนแสงแวววาวภายใต้แสงไฟ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้รู้ได้ว่านั่นเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีพลังงานอยู่อย่างเต็มอิ่ม
เพื่อการแตกหน่ออย่างสมบูรณ์ จึงต้องทำการเร่งเมล็ดพันธุ์มะฮอกกานีจีนที่เลือกมาให้แตกหน่อ ซึ่งวิธีการจัดการก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่แช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูง 40 องศา เป็นเวลาประมาณ 5 นาที โดยจะต้องคนอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นก็นำมาแช่ในน้ำอุณหภูมิ 20 ถึง 30 องศา หนึ่งวันหลังจากนั้นก็เก็บเมล็ดพันธุ์ขึ้นจากน้ำแล้วรอให้แตกหน่อ
เมื่อถึงเวลาเข้านอนในตอนกลางคืน ก็มีเสียงนกร้องก็ดังลอดเข้ามาผ่านทางหน้าต่าง เพราะมีนกจมูกหลอดหางสั้นอยู่เยอะเกินไป ดังนั้นแม้ว่าฉินสือโอวจะปิดม่านก็ไม่ได้ช่วยให้เสียงเบาลงแต่อย่างใด ถึงแม้ว่านกชนิดนี้จะล่าเหยื่อในเวลากลางวันและนอนในเวลากลางคืน ทว่าพวกมันก็มีจำนวนมากเกินไป ทำให้ถึงอย่างไรก็ยังมีนกบางส่วนที่กระพือปีกบินออกไปจับปลาอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้จึงมักจะมีนกจมูกหลอดหางสั้นบินผ่านหน้าต่างอยู่เสมอ พวกมันกระพือปีกและส่งเสียงร้องออกมาไม่ขาด จนทำให้พวกเขานอนหลับได้ไม่สนิท
วินนี่ที่เหนื่อยล้ามาแล้วทั้งวันก็อยากจะนอนหลับให้สนิท พอนอนหลับไม่สนิทก็เป็นธรรมดาที่จะอารมณ์ไม่ดี
ฉินสือโอวพาแก๊งนกสามตัวมาไว้บนหลังคาวิลล่า ถ้ามีนกจมูกหลอดหางสั้นบินมา เขาก็จะให้พวกมันจู่โจมทันที ไม่ยอมให้พวกมันเข้ามาใกล้ได้เด็ดขาด
มีนกใหญ่ทั้งสามตัวคอยคุ้มกันวิลล่า หลังจากถูกโจมตีอยู่ไม่กี่ครั้งพวกนกจมูกหลอดหางสั้นก็รู้แล้วว่าที่ตรงนี้คือสถานที่ต้องห้าม จึงไม่กล้าเข้าใกล้อีก เมื่อเป็นเช่นนี้ในที่สุดพวกเขาก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายแล้ว
เมื่อถึงตอนที่พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าในเวลาเช้าตรู่ ฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นก็เริ่มออกปฏิบัติการ
ฉินสือโอวที่ได้ยินเสียงใสกังวานของนกก็ถึงกับยิ้มออกมา บรรยากาศในตอนนี้ช่างเหมือนกับโคลงกลอนโบราณบทหนึ่งที่ว่า ฤดูใบไม้ผลิหลับจนไม่รู้อรุณ เสียงนกร้องดังขจรทั่วทุกแห่งหน แต่น่าเสียดายที่เมื่อคืนนี้ฝนไม่ได้ตก ทำให้วันนี้พระอาทิตย์ลอยตัวสูง ไม่อย่างนั้นก็คงจะได้บรรยากาศที่สอดคล้องกับฤดูกาลยิ่งกว่านี้
เดินออกมาจากวิลล่าแล้วมองไปยังฝั่งทะเล เหนือมหาสมุทรเนืองแน่นไปด้วยนกจมูกหลอดหางสั้น พวกมันทิ้งขนไว้บนชายหาดเป็นจำนวนมาก บางทีอาจจะมีไข่นกอยู่ด้วย เพียงแต่ว่าไม่ได้โผล่พ้นผืนทรายขึ้นมาก็เท่านั้น
ยังดีที่นกชนิดนี้มีข้อดีอยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือพวกมันชอบที่จะขับถ่ายบนผิวทะเล ดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้ชายหาดกลายเป็นบ่ออึไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงจะทำความสะอาดได้ยากแน่ๆ
มูลของนกจมูกหลอดหางสั้นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับฟาร์มปลา ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปชมน่านน้ำบริเวณแถบชายฝั่งทะเล พวกกุ้งเปปเปอร์มินต์ กุ้งสเตโนพุสกับกั้งตั๊กแตนก็พากันดีใจยกใหญ่ จนละเลยการทำหน้าที่หมอฟาร์มปลาของพวกมัน มีปลาเจ็บกุ้งป่วยส่งมาให้รักษาถึงที่แต่พวกมันก็ไม่สนใจ เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการกินอึนกทะเล
ฉินสือโอวคิดว่า หลังจากที่ฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นจากไปคราวนี้ กุ้งพยาบาลในฟาร์มปลาคงจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
พวกหู่เป้าฉงหลัวกับแมวป่าเดินไปที่ชายหาดด้วยกันกับเขา หลังจากได้เห็นฝูงนก พวกมันก็กระโจนเข้าใส่ฝูงนกด้วยใจที่ฮึกเหิม ในตอนนี้ราชาเจ้าป่าซิมบ้าได้แสดงวิธีล่าสัตว์ที่ดุดันให้ได้เห็น มันวิ่งทะยานออกไปด้วยความว่องไว แล้วกระโดดขึ้นไปบนฟ้าสูงถึงสองเมตรกว่าๆ อุ้งเท้าหน้าตะครุบนกจมูกหลอดหางสั้นตัวหนึ่งที่เพิ่งจะบินขึ้นมาแล้วกดไว้บนพื้นทรายได้อย่างฉับไว
ปกติแล้วเหล่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ล่าสัตว์ ดังนั้นตอนนี้พวกมันจึงรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ แต่ละตัวทั้งวิ่งทั้งกระโดด จับนกจมูกหลอดหางสั้นมาได้เรื่อยๆ
สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ลงมืออย่างไร้การวางแผน นอกจากลูกแมวป่ากับหมาป่าขาว สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ก็แค่อยากจะแกล้งแหย่นกจมูกหลอดหางสั้นเล่นเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่หลังจากถูกพวกมันแกล้งนกจมูกหลอดหางสั้นพวกนั้นก็จะตายลงในที่สุด
ฉงต้าฉงเอ้อกับหู่จือเป้าจือต่างก็กินนกเป็นอาการ ทว่านกไม่ใช่แหล่งอาหารที่เป็นตัวเลือกแรกของพวกมัน ดังนั้นเมื่อไม่ได้รู้สึกหิวและไร้ซึ่งความรู้สึกแปลกใหม่ พวกมันก็จะไม่กินนกจมูกหลอดหางสั้นที่ตายแล้ว
ฉินสือโอวจึงต้องเป็นคนไปจัดการเก็บกวาดนกจมูกหลอดหางสั้นพวกนั้น พ่อฉินกับแม่ฉินก็ยกอ่างน้ำใบใหญ่เพื่อมาถอนขนนกพวกนี้ เนื้อของนกจมูกหลอดหางสั้นมีรสชาติดีทั้งนุ่มเด้ง แต่ก่อนอื่นจะต้องจัดการล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน เนื่องจากเนื้อของสัตว์ป่ามีแบคทีเรียอยู่ไม่น้อยเลย
ถอนขนและกำจัดเครื่องในรวมถึงตัดหัวและเท้าของนกจมูกหลอดหางสั้นเสร็จแล้วก็วางลงไปในกะละมัง หลังจากนั้นก็ปรุงรสอย่างง่ายๆ ด้วยการทาเกลือกับเครื่องเทศห้าชนิดลงไป แล้วจึงนำไปหมักกับเหล้าทำอาหาร พอถึงตอนค่ำก็นำไปทำนกย่างเตาอบได้แล้ว
แต่ปรากฏว่าพอพวกเขานำนกไปทำอาหาร บรรดาสัตว์เลี้ยงก็นึกว่าพวกมันจะต้องจับนกมาให้พวกเขาทำอาหาร จึงพากันกระตือรือร้นกับการจับนกยิ่งกว่าเดิม ในที่สุดราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็ได้โอกาสที่จะแสดงคุณค่าในตัวเองแล้ว หลังจากกินนกเข้าไปไม่กี่คำ มันก็เริ่มกระโดดไล่จับนกจมูกหลอดหางสั้นมาส่งให้พวกเขา
ฉินสือโอวบอกพวกมันว่าให้พอแล้วๆ แต่เหล่าสัตว์เลี้ยงก็เล่นไล่จับนกอย่างมีความสุข จึงไม่ได้สนใจว่าจะพอหรือไม่พอ แต่ยังพากันไล่จับนกต่อ!
ขณะที่กำลังหมักนกจมูกหลอดหางสั้น เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พอกดรับสายเสียงของฮานี่ย์ก็ดังทะลุออกมา “ฉิน เห็นแก่พระเจ้าเถอะนะ นายรีบพาคนมาที่นี่เร็ว มีคนหาเรื่องมาให้วินนี่แล้ว!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ฉินสือโอวก็ร้อนใจขึ้นมาทันที ใครมันช่างไร้ยางอายถึงขนาดว่ากล้ามาหาเรื่องภรรยาของเขากัน เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะล้างมือ รีบตะโกนเรียกเบิร์ดให้ตามเขาเข้าไปในเมือง
ในขณะนี้ฝูงคนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมประตูทางเข้าหน่วยงานเทศบาลเอาไว้ ตรงนั้นมีรถตำรวจจอดอยู่ด้วยหนึ่งคัน ข้างๆ กันคือวินนี่ที่กำลังคุมเชิงกับวัยรุ่นอีกสองสามคน
…………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset