ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 206 ฉงต้าทำผลงาน

บทที่ 206 ฉงต้าทำผลงาน
โดย
Ink Stone_Fantasy

อากาศร้อนเกินไป ดูเหมือนหมูป่าก็เดือดดาลเป็นพิเศษ
เสียงของซีบิสกิตไปกระตุ้นหมูป่าตัวใหญ่สองตัวเข้า ตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นแล้วพุ่งตรงเข้ามา
ใจของฉินสือโอวหล่นไปที่ตาตุ่ม!
ก่อนหน้านี้ ฉินสือโอวขึ้นไปล่าหมูป่าบนภูเขาสองครั้ง ในตอนนี้มีผู้คนจำนวนมาก อีกอย่างพวกเขาทำการซุ่มโจมตีหมูป่า จึงไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของมัน
ตอนที่หมูป่าเข้าปะทะจากด้านหน้า เขาเพิ่งรู้สึกถึงความน่ากลัวของมัน
ไม่แปลกใจในตอนที่อยู่ประเทศจีน เมื่อพรานล่าสัตว์อาวุโสพูดถึงสัตว์ป่ามักจะพูดว่า ‘หมูหนึ่งหมีสองเสือสามหมาป่าสี่’ หมูป่าที่เจริญเติบโตเต็มที่จะมีความยาวกว่าสองเมตร ทั้งตัวถูกปกคลุมด้วยขน ตอนโจมตีด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดัน ก็เหมือนรถถังเคลื่อนที่คันหนึ่ง
เมื่อกองทัพทั้งสองรบกัน พละกำลังคืออันดับหนึ่ง
เมื่อปะทะกันซึ่งๆ หน้า ฉินสือโอวกลับกลัวหมูป่าจนนิ่งไปเลย พาวลิสยิ่งไม่ต้องพูดถึง เจ้าเด็กนี่เหยียบเบรกด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก และลืมไปว่าต้องเลี้ยวรถเพื่อเลี่ยงหมูป่า
เมื่อเห็นหมูป่าพุ่งเข้ามา ฉงต้าที่นอนอยู่บนรถจ้องด้วยสายตากริ้วโกรธ มันกระโดดลงบนพื้นจากนั้นใช้เท้าข่วนบนพื้นดินอย่างแรง ร่างอ้วนท้วนเป็นเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ มันส่งเสียงร้องและกระโจนใส่หมูป่าตัวนั้น!
ใช้เวลาเพียงสองสามวินาทีเท่านั้น แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ฉงต้าและหมูป่าก็เริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด
หากปะทะกันซึ่งๆ หน้า แม้ฉงต้าไม่ถูกชนเจียนตายก็ต้องพิการ เนื่องจากหมูป่าทรงพลังมากและมีฟันที่แหลมคม ฉงต้าเป็นเพียงหมีขนาดกลาง จะสู้กับหมูป่าซึ่งๆหน้าได้อย่างไร?
ฉินสือโอวกลัวมากจนรู้สึกโมโห จึงตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า “ลูกรัก กลับมา……”
ฉงต้าพุ่งไปอยู่ตรงหน้าหมูป่า แต่ในวินาทีสุดท้ายที่จะแตะพื้น เขาบิดตัวออกอย่างคิดไม่ถึง จากการประจันหน้ากันกลายเป็นการบิดตัวหนี จากนั้นไหล่ของมันไปอยู่ตรงช่วงคอของหมูป่าพอดี!
ขณะเดียวกัน ตอนที่ฉงต้าชนเข้ากับหมูป่านั้น มันยกอุ้งเท้าขวาขึ้นอย่างกะทันหัน ตบไปที่คอของหมูป่าอย่างรวดเร็ว
“ปั้บ!”ทั้งสองฝ่ายชนเข้าด้วยกัน และต่างก็กระเด็นออกไป ฉงต้าลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศและตกลงมา ส่วนหมูป่าตัวนั้นก็กระเด็นออกไปกว่าหนึ่งเมตร
หมูป่าถูกชนจนหงายท้อง จากนั้นโซเซลุกขึ้น ฉินสือโอวถือโอกาสนี้ เล็งไปที่หัวของมัน
‘ปั้ง!’ปากกระบอกปืนเรมิงตันพ่นประกายไฟ หมูป่าที่เพิ่งลุกขึ้นยืนถูกกระสุนปืนเข้าแล้วลืมลงกับพื้น
ฉินสือโอวพยายามควบคุมความตื่นเต้นในใจ หลังจากระเบิดหัวของหมูป่าตัวที่ชนฉงต้าแล้วก็เล็งไปที่หมูป่าอีกตัว กระสุนปืนที่เหลือสาดออกไปเกือบทั้งหมด จนหมูป่าตัวนั้นหงายหลัง ครึ่งซีกของมันได้กลายเป็นกระชอน
เมื่อเห็นว่าหมูป่าสองตัวไม่น่าจะมีชีวิตรอด ฉินสือโอวก็โล่งอกไปที เขาวิ่งไปหาฉงต้าอย่างกระวีกระวาด ฉงต้าลุกขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเห็นฉินสือโอว ก็ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารหนึ่งครั้ง และยื่นอุ้งเท้าออกมา
ฉินสือโอวกอดฉงต้าไว้ เขาตรวจเช็คร่างกายของฉงต้าคร่าวๆ ครั้งนี้ฉงต้าได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ผิวตรงไหลแดงและมีเลือดซึมออกมา ปากก็เบี้ยวเล็กน้อย นี่เป็นสิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุด แต่แล้วเมื่อฉงต้าขยับปาก ‘จึ้บ จึ้บ’ ปากก็กลับมาตรงอีกครั้ง
เป็นเวลานานพอสมควร นีลเซ็นก็ขับโพราริสรถเอทีวีมาพร้อมกับอีวิลสัน เขากระโดดลงจากรถไปดูหมูป่าสองตัว หลังจากที่มั่นใจว่าตายแล้วก็พูดกับฉินสือโอวว่า “บอส คุณบ้าบิ่นเกินไปแล้ว! คุณไม่ควรมาคนเดียว จะทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายได้ง่าย! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ต้องให้ทุกคนมาช่วยกันแก้ปัญหาสิ!”
ฉินสือโอวรู้สึกเป็นห่วงฉงต้า จึงตะโกนไปว่า “ใครจะไปรู้ว่าจะเจอหมูป่าสองตัวล่ะ? ให้ตายเถอะ รีบกลับกันเถอะ ฉันจะทำแผลให้ฉงต้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นีลเซ็นรู้สึกตกใจ เขารีบเดินมาดูและโล่งอกไปที แล้วพูดว่า “หนังถลอก สำหรับหมีน้ำตาลแล้วเป็นเรื่องปกติ เมื่อครู่ฉงต้าชนหมูป่าด้วยด้านข้างเหรอ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าและถามว่า “ทำไม?”
นีลเซ็นลูบหัวของฉงต้าพร้อมรอยยิ้ม และชื่นชมว่า “เก่งจริงๆ ตัวเล็กแค่นี้ก็รู้จักใช้ด้านข้างในการชนคู่ต่อสู้ โดยทั่วไปแล้วนี่เป็นวิธีการจู่โจมของหมีสีน้ำตาลตัวเต็มวัย หมีสีน้ำตาลเล็กคิดไม่ได้หรอก”
ฉินสือโอวกอดฉงต้าไว้แน่นและใช้หน้าผากถูกับขนฟูๆ ของมัน แล้วพูดอย่างพึงพอใจว่า “แน่นอน ฉงต้าของฉันเป็นเด็กฉลาด”
กลับถึงบ้านพัก บรรยากาศวุ่นวายอีกครั้ง วินนี้ตกใจที่เห็นฉงต้าบาดเจ็บ เอาชุดปฐมพยาบาลมาและใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นฉีดสเปรย์ห้ามเลือด แล้วพันด้วยผ้าก๊อซ
เมื่อครู่แม้ฉงต้าจะถูกหมูป่าชนจนกระเด็นก็ได้ส่งเสียงกรีดร้อง แต่ตอนนี้ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ กลับร่ำไห้คร่ำครวญ
ดูเหมือนว่า ไม่ว่าคนหรือสัตว์ การฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ยากที่จะทนได้
ฉินสือโอวไปเอาผลเบอร์รี แอปเปิล สาลี่และแตงโตมา ใช้เมเปิลไซรัปและครีมทำผลไม้สลัดชามใหญ่ให้ฉงต้าและยกมาไว้ตรงหน้ามัน ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉงต้าจะเจ็บหนัก ไม่แม้แต่จะหันมองผลไม้สลัดที่เป็นของโปรด อ้าปากกว้างและส่งเสียงครวญคราง ตาเล็กๆ ของมันกะพริบพร้อมน้ำตา
วินนี่เช็ดน้ำตาให้มัน จับหูเล็กๆ ของมันเบาๆ และพูดว่า “ฉงต้าเด็กดี เด็กกล้าหาญ ไม่ร้องแล้วดีไหม?”
ต้าป๋ายคลานไปเลียผ้าก๊อซบนตัวฉงต้า ถือเป็นการปลอบใจฉงต้า ฉินสือโอวกลัวจะติดเชื้อแบคทีเรีย จึงอุ้มต้าป๋ายลงมา วางผลไม้สลัดตรงหน้าต้าป๋ายและพูดกับฉงต้าว่า “ลูกรัก ถ้าแกไม่กินจะให้ต้าป๋ายกินแล้วนะ”
ฉงต้าฟังที่ฉินสือโอวไม่ออก แต่รู้สึกได้ถึงความหิวโหยของต้าป๋ายและครอบครัวของกระรอกดิน มันจึงรีบยกชามมาไว้ระหว่างขา ฉินสือโอวเป็นคนป้อนผลไม้ให้มัน มันจึงได้หยุดร้องครวญคราง
อีวิลสันและนีลเซ็นนำหมูป่ากลับมาด้วย พร้อมกับลูกหมูป่าอีก 7 ตัว ลูกหมูป่าเหล่านี้มีขนาด 30 – 40 เซนติเมตร ส่งเสียงร้องและต้องการหนี แต่น่าสงสารที่ถูกมัดคอเอาไว้ ถูกขังไว้รอบๆ รถ
“ทำไมมีลูกหมูป่าด้วยล่ะ”ฉินสือโอวถาม
นีลเซ็นหัวเราะ “ฉันเป็นมีตัวเมียตัวหนึ่ง ก็เลยเดาว่าน่าจะมีลูกหมูอยู่รอแถวนั้นด้วย และเมื่อลองหาดู ก็เจอจริงๆ ”
ชาร์คที่ตามมาทีหลังพูดว่า “เย็นนี้มีลาภปากแล้วล่ะ ลูกหมูป่าเป็นของหายาก ซึ่งมีค่ากว่าหมูป่ามาก”
หมูป่าตัวเต็มวันนั้นเป็นสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เวลาพวกมันออกหาอาหารหรือเคลื่อนไหวจะเสียงดังมาก หากต้องการหาพวกมันให้เจอ นำสุนัขล่าสัตว์ไปด้วยก็จะเจอได้ง่ายๆ สำหรับลูกหมูป่านั้นหายากกว่ามาก ปกติแล้วพวกมันจะถูกซ่อนโดยพ่อแม่ เคลื่อนไหวในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น เนื่องจากตัวเล็กและว่องไว จึงยากที่จะหาพวกมันเจอ
หลังจากที่ซีมอนสเตอร์สำรวจครอบครัวหมูป่าแล้ว เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าฤดูหนาวปีนี้จะเกิดหายนะหมู ปีก่อนๆ ไม่มีใครขึ้นไปล่าหมูป่า ผมคิดว่าหมูป่าท่วมท้นไปหน่อย ครอบครัวหมูป่านี้น่าจะหาอาหารไม่ได้บนภูเขา จึงเดินลงมาตามแม่น้ำเพื่อหาอาหาร และพบกับฟาร์มปศุสัตว์”
นีลเซ็นและอีวิลสันแบกหมูป่าสองตัวขึ้น และลากลูกหมูป่าไปด้วย แล้วพูดว่า “คืนนี้กินหมูหันกันก่อนไหม?”
ฉินสือโอวคิดทบทวนแล้วพูดว่า “ส่วนลูกหมูป่า เราเลี้ยงไว้ก่อนเป็นไง? เลี้ยงสักครึ่งปีค่อยกิน”
ชาร์คหัวเราะ “ไม่จำเป็นหรอกครับบอส หากคุณอยากกินหมูป่า ในป่ามีไม่น้อย ดูทรงปีนี้แล้ว เรายังต้องขึ้นไปล่าหมูป่าในฤดูหนาว”
ฉินสือโอวโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ได้หมายถึงอย่างนี้ เนื้อหมูป่าไขมันน้อย เราเลี้ยงระยะหนึ่ง อย่างนี้เนื้อหมูจะกำลังพอดี และอร่อยด้วย”
เมื่อคนอื่นๆ คิดพิจารณาก็เห็นว่าเป็นจริงอย่างที่พูด นีลเซ็นกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นเราเอาหมูป่าไปเลี้ยงในฟาร์มเถอะ”
ฉินสือโอวยกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า “เก็บตัวที่อ้วนที่สุดไว้หนึ่งตัว ฮ่าๆ คืนนี้กินหมูหันกัน”
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset