ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1529 โครงการหัวอาหาร เริ่มขึ้นแล้ว

ถึงแม้ว่าจะมีทิญากับเควนตินคอยไกล่เกลี่ย ทว่าระหว่างฉินสือโอวกับคนของบริษัท ABTX ก็ยังมีความขัดแย้งที่ไม่สามารถตกลงกันได้ อีกฝ่ายมองดูฟาร์มปลาของเขาด้วยความละโมบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นปลาเทราต์แอตแลนติกตามธรรมชาติตัวอวบอ้วนพวกนี้ พวกเขาก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าที่นี่เป็นฟาร์มปลาคุณภาพดี
เนื่องจากปลาเทราต์แอตแลนติกตามธรรมชาติเติบโตได้ช้าจึงทำให้เกิดความคิดที่จะนำพวกมันมาผสมพันธุ์กับคิงแซลมอน และในเมื่อฟาร์มปลาแห่งนี้สามารถเลี้ยงปลาเทราต์แอตแลนติกตามธรรมชาติได้อ้วนพีถึงขนาดนี้ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นปลาเทราต์น้ำดีจะยิ่งขนาดไหนกัน?
เทอร์รี่กับเบลดโซคาดหวังกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ฉินสือโอวไม่ยอมปล่อยให้พวกเขามีความหวังเลยแม้แต่นิดเดียว!
หลังจากวนดูรอบๆ ฟาร์มปลาแล้ว ฉินสือโอวก็พาคนกลุ่มนี้กลับไปที่นครเซนต์จอห์น เขาไว้หน้าแมทธิว จินด้วยการเลี้ยงอาหารคนพวกนี้อย่างอิ่มหนำสำราญไปหนึ่งมื้อ ทั้งยังจองโรงแรมให้พวกเขาอีกต่างหาก ถ้าพวกเขามีความต้องการทางเพศ ฉินสือโอวก็ไม่ถือสาที่จะออกค่าใช้จ่ายให้
เขายินดีที่จะสร้างมิตรภาพแถมยังไม่คิดเสียดายเงิน แต่ถ้าคิดจะทำให้ฟาร์มปลาของเขาเกิดปัจจัยเสี่ยง แบบนั้นเขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด
สองวันหลังจากนั้นการประชุมของพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนในนครเซนต์จอห์นก็ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยมีฉินสือโอวเป็นคนอำนวยการ
เนื่องจากการแสดงออกอย่างแข็งกร้าวของเขาในการประชุมที่ออตตาวา ความเคารพยำเกรงที่บรรดาเจ้าของฟาร์มปลามีต่อเขาจึงยิ่งเพิ่มพูนขึ้น สมาชิกกลุ่มพันธมิตรจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบกว่าคนต่างก็มาถึงที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งยังมีคนกว่าสี่สิบห้าสิบคนที่มาสมัครเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรเพิ่มอีก
ก่อนเริ่มการประชุม เทอร์รี่ เบลดโซและฉินสือโอวก็ได้ทำการปรึกษาหารือร่วมกันก่อนเป็นอันดับแรก เขาอธิบายสถานการณ์ของกลุ่มเจ้าของฟาร์มปลาให้ทั้งสองคนฟังอย่างคร่าวๆ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไรนัก พวกเขาเพียงแต่ตอบอืมๆ อือๆ อยู่ไม่กี่คำเท่านั้น
ฉินสือโอวไม่ถือสา เขาก็พูดของเขาต่อไป เมื่อพูดจบแล้วจึงถามขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านพอจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพการณ์ทั่วๆ ไปของกลุ่มพันธมิตรบ้างแล้วหรือยังครับ? ถ้ายังมีข้อสงสัย สามารถถามผมได้ทันทีเลยนะครับ”
เทอร์รี่กับเบลดโซหันมาสบตากัน ก่อนที่เทอร์รี่จะลองถามหยั่งเชิงเขาว่า “คุณฉิน ฟาร์มปลาของคุณเยี่ยมยอดมาก พอจะบอกพวกเราได้ไหมว่าธนาคารประเมินมูลค่าฟาร์มปลาของคุณไว้ที่เท่าไร?”
นี่ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นจะต้องปิดบังอยู่แล้ว ฉินสือโอวจึงตอบพวกเขาว่า “ได้อยู่แล้วครับ มูลค่าก็ประมาณสองพันล้านดอลลาร์”
พอได้ยินอย่างนี้ทั้งสองคนก็พากันเบิกตาโตแล้วถามเขาด้วยความตื่นตกใจ “มูลค่าสูงขนาดนี้เลยเหรอครับ?”
ฉินสือโอวไหวไหล่แล้วพูดกับพวกเขาเล่นๆ ว่า “แน่สิครับ ถ้ามูลค่าไม่สูง แล้วกรมสรรพากรจะเก็บภาษีเยอะๆ ได้ยังไงกันล่ะ?”
เทอร์รี่ฝืนหัวเราะจนไม่เป็นธรรมชาติ เขาลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วจึงถามขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณฉินครับ ผมขอถามหน่อยว่าคุณคิดจะนำหุ้นมาแบ่งขายบ้างไหม?”
ฉินสือโอวเข้าใจแล้วว่าเทอร์รี่กำลังคิดอะไรอยู่ บริษัท ABTX หมายตาฟาร์มปลาของเขาไว้แล้ว เลยอยากจะใช้เงินมาแบ่งซื้อหุ้นจากเขา หลังจากนั้นก็จะเอาปลาเทราต์น้ำดีมาเพาะเลี้ยงในฟาร์มยังไงล่ะ
แน่นอนว่าเขาไม่ยอมอยู่แล้ว ฉินสือโอวส่ายหัวปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ไม่ครับ ฟาร์มปลาของผมเป็นสมบัติของครอบครัวที่คุณปู่มอบให้ แล้วผมก็อยากเก็บไว้ให้ลูกของผม ดังนั้นผมจึงเอาหุ้นไปขายไม่ได้”
เทอร์รี่กับเบลดโซยังคิดที่จะโน้มน้าวเขาต่อ ทว่าฉินสือโอวกลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปคุยเรื่องอื่น แล้วพาพวกเขาเข้ามายังห้องเสียก่อน
เมื่อได้พบกับเจ้าของฟาร์มปลาทั้งสองร้อยกว่าชีวิต เทอร์รี่กับเบลดโซก็เริ่มใช้วาทศิลป์พูดชักจูงพวกเขา มอมเมาสมาชิกด้วยการบรรยายถึงข้อมูลด้านเทคโนโลยีและด้านการเงิน พร้อมกับใช้น้ำเสียงชวนลุ่มหลงเพื่อบรรยายถึงแบบร่างแผนการพัฒนาตลาดปลาเทราต์ที่ยิ่งใหญ่ชวนฝัน ด้วยหวังว่าบรรดาเจ้าของฟาร์มปลาจะยอมเพาะเลี้ยงปลาเทราต์แอตแลนติก
หลังจากจบการบรรยาย เทอร์รี่ก็พูดขึ้นมาว่า “ทุกคนครับ เชื่อผมเถอะ ปลาเทราต์น้ำดีจะกลายเป็นดาวเด่นที่สุดของตลาดประมงในอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน รีบนำพวกมันไปเพาะเลี้ยงไว้ในฟาร์มปลาของพวกคุณตั้งแต่ตอนที่มันยังไม่เพิ่มจำนวนมากขึ้นดีกว่านะครับ บอกผมหน่อยว่า มีใครอยากได้สิทธิ์ในการนำพวกมันไปเพาะเลี้ยงบ้าง?”
หลังจากนั้นก็มีเจ้าของฟาร์มปลาคนหนึ่งลุกยืนขึ้น เทอร์รี่จึงแสดงสีหน้าดีอกดีใจขึ้นมาทันที ปรากฏว่าเจ้าของฟาร์มปลาคนนั้นกลับไม่ได้มองไปที่เขา แต่กลับหันไปถามฉินสือโอวว่า “ท่านประธานกรรมการบริหารครับ ผมขอถามหน่อยว่าคุณได้วางแผนที่จะรับปลาเทราต์ชนิดนี้เข้าไปไว้ในอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินบ้างหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวไหวไหล่แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้วางแผนเรื่องนี้เลย ส่วนในอนาคต ก็คงมีแต่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่ล่วงรู้”
ต่อจากนั้นก็มีเจ้าของฟาร์มปลาอีกคนที่ลุกยืนขึ้น แต่คราวนี้เขาหันไปที่เทอร์รี่แล้วถามว่า “คุณครับ ถ้าพวกเราเพาะพันธุ์ปลาเทราต์น้ำดี แล้วหลังจากนั้นพวกเราจะเอามันไปขายที่ไหนเหรอครับ? ไม่ทราบว่าบริษัทของพวกคุณได้จัดหากิจการที่จะรับซื้อไว้ด้วยไหม?”
คำถามข้อนี้ทำให้เทอร์รี่รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก เขาหลีกเลี่ยงปัญหาหนักด้วยการตอบกลับไปว่า “คุณต้องรู้ก่อนนะว่าปัจจุบันนี้ตลาดมีความต้องการปลาเทราต์ในปริมาณที่สูงมาก ปีที่แล้วอเมริกานำเข้าปลาเทราต์แอตแลนติกกว่า 200,000 ตัน แคนาดานำเข้า 60,000 ตัน แล้วคุณรู้ไหมว่าญี่ปุ่นนำเข้าเท่าไร? พวกคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ 500,000 ตันเต็มๆ เลยล่ะ!”
ปลาเทราต์แอตแลนติกเป็นวัตถุดิบหลักในการทำแซลมอนซาซิมิ ในญี่ปุ่นมีตลาดค้าขายมาตั้งแต่สมัยโบราณ อีกทั้งยอดขายทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงอย่างไรบรรดาเจ้าของฟาร์มปลาก็เป็นนายทุนเหมือนกัน จะถูกหลอกง่ายๆ ได้ที่ไหนกันล่ะ? คำตอบของเทอร์รี่ทำให้บรรดาเจ้าของฟาร์มปลารู้สึกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาต่างก็พากันส่ายหัวให้ และหลังจากนั้นก็ยังมีคนไล่จี้ถามเขาว่ามีช่องทางการจัดการที่แน่นอนไหม
เทอร์รี่แอบสบถด่าอยู่ในใจ ถ้ามีช่องทางในการจัดการที่มั่นคงแล้ว พวกเขาจะยังต้องมาเร่ขายลูกพันธุ์ปลาอยู่อีกไหมเล่า? ก็คงจะเลี้ยงเองไปแล้วน่ะสิ! บริษัท ABTX มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง พวกเขาเป็นยักษ์ใหญ่ของทั้งอุตสาหกรรมเกษตร ปศุสัตว์รวมทั้งการประมงและป่าไม้ การซื้อฟาร์มปลาสักแห่งจึงไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร
การนำเสนอสินค้าในครั้งนี้จึงต้องจบลงทั้งที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากคนในกลุ่มพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์ต่างก็ไม่ยินดีที่จะเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ ปลาเทราต์น้ำดี เป็นสัตว์เศรษฐกิจดัดแปลงพันธุกรรมพวกแรกของโลก ใครจะยอมเสี่ยงเป็นหนูทดลองให้ล่ะ?
ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีรสชาติดี แต่ของสิ่งนี้ก็อาจจะสามารถฆ่าคนให้ตายได้ก็ได้
คณะของเทอร์รี่กับเบลดโซเดินทางออกจากนครเซนต์จอห์นไปพร้อมกับความผิดหวังเศร้าซึม พวกเขายังไม่ได้กลับอเมริกา แต่จะมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือ ในเมื่อฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ไม่ยินดีที่จะเพาะพันธุ์มัน พวกเขาก็ต้องไปหาคนอื่นที่ยอมเลี้ยงแทน ในแคนาดายังมีเจ้าของฟาร์มปลาอยู่อีกเยอะแยะ
แต่จะว่าไปแล้ว ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ก็เป็นที่ที่เหมาะกับการเพาะเลี้ยงที่สุดแล้วจริงๆ เพราะว่าแหล่งเพาะพันธุ์อยู่ในเกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ดซึ่งอยู่ข้างๆ กันกับนครเซนต์จอห์น และเนื่องจากปลาสายพันธุ์นี้ไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้เอง จึงต้องใช้วิธีผสมเทียมในการขยายพันธุ์เพียงอย่างเดียว
การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของเจ้าของบรรดาฟาร์มปลาพอดี ฉินสือโอวจึงอาศัยโอกาสนี้ในการชี้แจงโครงการหัวอาหารปลาครั้งใหญ่
ฟาร์มปลาจำเป็นต้องใช้อาหารปลากันแทบจะทุกแห่ง ฟาร์มปลาอย่างฟาร์มปลาต้าฉินที่อาศัยแค่สาหร่ายทะเลเพียงอย่างเดียวเพื่อเลี้ยงห่วงโซ่ระบบนิเวศทั้งหมดก็แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว
เขากล่าวว่า “ผมกำลังจะเพาะพันธุ์สาหร่ายทะเลกับหญ้าทะเลเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารปลาชั้นดีโดยเฉพาะ ทุกคนสนใจอยากจะซื้ออาหารปลาจากผมไหมครับ?”
บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็มองไปที่เขาด้วยความมึนงงและความรู้สึกประหลาดใจ ประธานกรรมการบริหารไม่มียางอายแบบเขาคงมีให้เห็นไม่บ่อยนัก พวกเขาเคยเห็นคนที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นใครที่พอรับตำแหน่งแล้วก็รีบหาเงินเข้ากระเป๋าทันที แบบนี้ไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ?
ฉินสือโอวไม่สนใจสายตาของคนพวกนี้ เขาพูดต่ออีกว่า “ฟาร์มปลาที่ใช้อาหารปลาต้าฉิน ผลผลิตที่ได้จะเข้าไปอยู่ในอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินโดยอัตโนมัติ และผมจะรับซื้อปลาพวกนั้นในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด 10%”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็เริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที ทำไมพวกเขาถึงเข้าร่วมกับพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์น่ะเหรอ? เพื่อสิ่งที่เรียกว่าข่าวคราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการประมงอะไรนั่นน่ะเหรอ? ผิดแล้ว พวกเขาเห็นแก่ฉินสือโอวที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร พวกเขาต่างก็อยากจะนำอาหารทะเลของตัวเองเข้าไปชุบทองด้วยแบรนด์ต้าฉินกันทั้งนั้น!
…………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
Status: Ongoing
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset