ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1546 โชคร้ายแล้ว

เหล่ากัปตันของกองเรือนักล่ากำลังปรึกษาหารือกันผ่านวิทยุไร้สายว่า
“ชิท เจ้าสารเลวพวกนี้ก็คือพวกบ้า! ให้ตายสิ พวกมันคนเยอะเกินไป พวกพ้องรีบไปเรียกคนมาช่วยเร็ว ให้ตายเถอะ จะต้องจัดการเจ้าพวกเลวนี่ให้ได้เลย!”
“ใช่แล้ว หรือไม่พวกเราแจ้งความดีไหม? พวกมันต้องทำการดัดแปลงปืนน้ำแบบผิดกฎหมายแน่นอนเลย อีกอย่าง คนของฝั่งนั้นยิงปืนกันตั้งหลายคน ไปแจ้งความกันเถอะ…”
“อย่าแจ้งความนะ เจ้าโง่ บนเรือพี่โรบินเองก็มีปืนน้ำด้วยเหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดคือ แม้ว่าพวกเขาจะยิงปืนด้วยก็จริง แต่ว่าพวกนายก็ยิงด้วยไม่ใช่เหรอไง? ยิ่งไปกว่านั้น บนเรือของเรายังมีปืนลำกล้องใหญ่อีก!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ระวังกันหน่อย ทะเลแถบที่เรากำลังเข้าไปนั้นมีโขดหินลับเยอะมาก ระวังอย่าไปชนโดนเชียวล่ะ!”
“เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาเลย ฉันเคยมาที่นี่แล้ว โขดหินลับไม่ได้อันตรายขนาดนั้น เจ้าพวกลูกหมาพวกนั้นคงคิดว่าที่นี่เป็นสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาหรือไง? ฮ่า เรือของเราจมลงไปในน้ำแค่นี้เอง จะไปชนโดนโขด…”
“ตู้ม!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา!
“ฟัค! ฟัค! ฟัค!” เสียงตะโกนด้วยความตกใจของโรบินได้ส่งผ่านวิทยุไร้สายไปยังหูของคนอื่นๆ
เหล่านักล่าทั้งหลายตกใจกันทั่วหน้า มีคนตะโกนออกไปด้วยว่า “พี่โรบิน เกิดเรื่องอะไร?”
โรบินจะมีอารมณ์ตอบคำถามได้อย่างไร? เมื่อกี้เขากำลังวางแผนว่าจะไปเรียกพี่น้องมาจากไหนเพื่อมาแก้แค้นอยู่เลย เรียกได้ว่าครั้งนี้ขายหน้าครั้งใหญ่เลย ตอนนี้เขารู้สึกว่าผิวเจ็บแสบอีกด้วย ภาพลักษณ์ได้เสียไปหมดแล้ว
แต่ทว่าในทันใดนั้น เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกับว่าจะไปชนกับอะไรเข้า หรือไม่ก็ถูกอะไรมาชนเข้า ที่แน่ๆ คือตัวเรือสั่นไหวไปทีหนึ่ง ตามด้วยสัญญาณไฟสีแดงที่สว่างออกมาจากห้องบังคับการ และเสียงที่ดังกระหึ่มไม่หยุดอีก
“หวอๆๆ!”
เสียงดังแสบหูไม่หยุด เรือบรรทุกก็สั่นไปมาไม่หยุด
ฉินสือโอวบังคับคราเคน เขารอให้เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านไปทางน่านน้ำที่เต็มไปด้วยโขดหิน เริ่มจากให้คราเคนที่ซุ่มอยู่ฟาดกระบองฟันหมาป่าไปที่ท้องเรือจนเกิดเป็นรูก่อน จากนั้นก็ตามด้วยกระบวนท่ากระบองฟันหมาป่าฟันรัวๆ ไปที่รูนั้น เพื่อทำการขยายขนาดของรูจนมีขนาดเท่ากับหัวคนในเวลาอันรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังควบคุมให้คราเคนว่ายไปข้างหน้า แล้วทำหน้าเรือให้เป็นรูใหญ่อีกรูหนึ่งด้วย รูอันนี้มีขนาดใหญ่กว่าอันก่อนหน้านี้ เป็นการสร้างเหตุการณ์เหมือนว่าท้องเรือขูดเข้ากับโขดหินตามด้วยหน้าเรือชนกับโขดหิน
น้ำทะเลไหลทะลักเข้าไปในตัวเรือ เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวยิ้มๆ แล้วก็ออกคำสั่งให้คราเคนกลับไป แบบนี้แหละที่เรียกว่าปิดบังทั้งชื่อและวีรกรรม!
น้ำทะเลเข้าไปในรูทั้งสองพร้อมกัน เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้เริ่มค่อยๆ จมลงไป
เรือบรรทุกในปัจจุบันล้วนใช้ห้องโดยสารแบบกั้นน้ำทั้งนั้น แน่นอนว่า หากให้พูดอย่างโอ้อวดแล้ว เทคโนโลยีนี้เป็นชาวจีนที่เป็นคนคิดค้นขึ้นมา ถูกเรียกให้เป็นหนึ่งในสี่อู่อารยธรรมของท้องทะเลเลยทีเดียว ถูกค้นพบในราชวงศ์ถัง และเสร็จสมบูรณ์ในราชวงศ์ซ่ง ในยุคการเดินทางสมบัติหมิง เทคโนโลยีนี้ก็ได้ก้าวไกลไปมากแล้ว
คำว่าห้องโดยสารกั้นน้ำ ก็ตามชื่อ ก็คือการใช้ไม้กระดานมากั้นเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถเชื่อมกันได้ออกมา เมื่อเป็นแบบนี้ เนื่องจากระหว่างห้องโดยสารเรือถูกกั้นไว้อย่างมิดชิด ดังนั้นในการเดินเรือ ถึงแม้จะมีห้องโดยสารเรือสองห้องถูกทำลายจนน้ำเข้ามา น้ำก็ไม่สามารถไหลไปยังห้องโดยสารส่วนอื่นได้
ดูจากภาพโดยรวมของเรือแล้ว ขอแค่สามารถรักษาการลอยตัวไว้ได้ ตัวเรือก็ไม่จมลงแล้ว แถมยังมีการกั้นน้ำไว้อีก แม้ว่าจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก และแม้ว่าจะมีน้ำเข้ามามากจนเรือทรงตัวไม่ไหว แต่ก็ยังมีเวลาในการโยนของทิ้งเพื่อลดน้ำหนักได้อยู่ เพื่อพยุงให้เรือสามารถแล่นต่อไปได้เป็นปกติ
เรือบรรทุกในตอนนี้ได้ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า นั่นก็คือหลังจากน้ำทะลักเข้ามาในห้องกั้นน้ำแล้ว ขอแค่เรือไม่จม เพราะว่าห้องโดยสารของเรือพวกนี้มีเครื่องยนต์แรงดันสูงอยู่ สามารถสร้างแรงดันเพื่อระบายน้ำออกได้ เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้มีเวลาในการซ่อมแซมเรือและไม่ส่งผลต่อการเดินเรืออีกด้วย
ดังนั้น ตามหลักการแล้วขอแค่มีห้องโดยสารกั้นน้ำอยู่ เรือลำนั้นก็จะไม่จมอย่างแน่นอน
ดังนั้นฉินสือโอวถึงได้เปิดรูให้เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ถึงสองรูใหญ่ ห้องโดยสารกั้นน้ำสองห้องถูกน้ำทะลักเข้าไปพร้อมกัน แค่นี้ก็เพียงพอให้เรือลำนี้กระอักไปพักหนึ่งแล้ว
เรือบรรทุกที่ใช้ทั่วไปปกติแล้วจะมีห้องโดยสารกั้นน้ำอยู่แปดห้อง ขอแค่มีห้องโดยสารกั้นน้ำแค่สี่ห้องที่ใช้งานได้ปกติ เรือก็จะไม่จมแล้ว อย่างมากก็แค่น้ำล้นเข้ามาอย่างล้นหลามเท่านั้น
ดังนั้นในตอนแรกโรบินกับพวกลูกเรือแม้ว่าจะตกใจกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นหมดหวัง พวกเขาพลางก่นด่าพลางวิ่งไปทางห้องโดยสารเรือ เมื่อประเมินสถานการณ์แล้ว โรบินก็เตะไปที่ประตูห้องโดยสารทีหนึ่งอย่างโกรธแค้น แล้วพูดว่า “สเปนเซอร์ ให้ตายเถอะ เจ้าโง่นี้ไปไหน? เร็วๆๆ รีบลากท่อดูดน้ำมาให้ฉันเร็ว รีบดูดน้ำออกไป!”
ต้นเรือวิ่งเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน เกณฑ์พวกลูกเรือไปแบกท่อดูดน้ำเข้ามาในห้องโดยสารเรือ และเริ่มดูดน้ำออกไปข้างนอก
โรบินได้เรียกตัวรองต้นเรือและหัวหน้าฝ่ายเครื่องยนต์มาเริ่มการช่วยเหลือเรือ ทั้งสามคนถือแผนที่ไว้แล้วเริ่มหารือกัน
แต่ว่าไม่ชอบมาพากลแล้ว ตอนที่พวกเขากำลังปรึกษาหารือกันอยู่นั้น เรือลำนี้ไม่ได้หยุดจมลงเลย แต่กลับค่อยๆ จมลงไปเรื่อยๆ ซะอย่างนั้น
ตามหลักการแล้ว หลังจากน้ำทะลักเข้ามาในห้องโดยสารสองห้อง ขอแค่สามารถปิดประตูผนึกน้ำได้ทันท่วงทีเรือก็จะไม่จมแล้วแท้ๆ เนื่องจากตอนนี้ห้องโดยสารทั้งสองของเรือถูกน้ำทะลักเข้ามา ตัวเรือจะจมลงไประยะหนึ่งแล้วก็จะเข้าสู่ระยะทรงตัว รอจนระดับน้ำในเรือและน้ำทะเลด้านนอกเท่ากันแล้ว ตามหลักแรงดันอากาศก็จะไม่มีน้ำไหลเข้ามาอีก
ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมเรือลำนี้ยังคงจมลงไปเรื่อยๆ ล่ะ?
โรบินทั้งโกรธทั้งแปลกใจผสมกัน ตอนนี้ต้นเรือได้พาเหล่าลูกเรือวิ่งออกมา เขาคว้าตัวต้นเรือไว้แล้วตะคอกไปว่า “เกิดอะไรขึ้น? ให้ตายเถอะ ทำไมเรือยังจมลงอีกล่ะ?”
ต้นเรือรีบตะโกนออกไปอย่างตื่นกลัวว่า “รีบไปเถอะครับ กัปตัน เรือจะจมแล้ว พวกเราต้องสละเรือแล้วครับ!”
เมื่อได้ฟังคำนี้ โรบินก็ยกเท้ากระทืบลงไป ทำเอาต้นเรือที่ยืนไม่มั่นล้มกลิ้งไปกับพื้น เขาตะโกนด้วยความโกรธเคืองว่า “พูดไร้สาระอะไรน่ะ ห้องโดยสารกั้นน้ำสองห้องถูกทำลาย จะทำให้เรือจมได้อย่างไร?”
ต้นเรือพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ สงสัยเป็นเพราะคลื่นใหญ่เกินไป น้ำจึงถาโถามเข้ามาพร้อมกับคลื่นน้ำ ตอนนี้ได้ทะลักออกจากห้องกั้นน้ำไปที่ห้องโดยสารอื่นๆ แล้วครับ!”
ห้องโดยสารของเรือบรรทุกพวกนี้ ไม่ได้เป็นแบบปิดกั้นทั้งหมด นี่เป็นเพราะปัญหาเกี่ยวกับความดันอากาศและความแข็งแรงของวัสดุที่ใช้ พูดง่ายๆ ก็คือปัญหาความแข็งแรงของวัสดุที่ใช้ ก็คือจะบวมเมื่อร้อนและจะหดสั้นเมื่อเย็น หากว่าทำการปิดกั้นห้องโดยสารทั้งหมด งั้นก็ต้องใช้วัสดุที่แข็งแรงมากๆ ไม่อย่างนั้นในระยะยาวเมื่อเจอกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศร้อนและเย็นแล้ว แผ่นเหล็กของห้องโดยสารจะเกิดการเปลี่ยนรูปได้
นอกจากเรือรบ เรือยอชต์แบบพรีเมียม และเรือบรรทุกที่สำคัญแล้ว เรือส่วนมากจะไม่ใช้ห้องโดยสารกั้นน้ำที่ปิดผนึก ซึ่งรวมไปถึงเรือบรรทุกขนาดหมื่นตันด้วย ระหว่างห้องโดยสารจะมีแผ่นกั้นน้ำอยู่แผ่นหนึ่ง ด้านบนของแผ่นกั้นจะมีช่องว่างอยู่ หนึ่งสามารถใช้รักษาสมดุลแรงดันอากาศได้ สองก็คือเผื่อช่องว่างให้วัสดุที่ใช้สร้างห้องโดยสารได้เปลี่ยนรูปได้
เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้มีปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือมีโอกาสที่หากมีน้ำเข้าไปในห้องกั้นน้ำ แล้วน้ำทะเลเกิดกระดอนขึ้นมา จะสามารถไหลไปห้องกั้นน้ำอื่นๆ โดยผ่านช่องว่างด้านบนแผ่นกั้นน้ำได้
โดยปกติแล้ว สถานการณ์สุดโต่งแบบนี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้น นี่น่ะเป็นแค่ตามทฤษฎีเท่านั้น ความจริงแล้วโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้นั้นมีต่ำมาก จะต้องเจอกับลมพายุกระหน่ำแล้วไปชนเข้ากับโขดหินเท่านั้นจึงจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้
แต่ว่าการไปชนเข้ากับโขดหินท่ามกลางลมพายุนั้น จะต้องอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอน เพราะว่าเรือที่ถูกลมพายุโจมตีจะไปชนเข้ากับโขดหินเรื่อยๆ แม้ว่าจะเป็นห้องโดยสารแบบกั้นน้ำได้สนิท ก็จะต้องเจอกับการที่เรือเสียหายหลายจุดจนทำให้เรือจมไปในที่สุดอยู่ดี
ดังนั้น ในความเป็นจริง ห้องโดยสารกั้นน้ำของเรือที่ประชาชนทั่วไปใช้จึงไม่ถูกปิดสนิท อย่างไรเสียเรือที่ประชาชนกับทหารใช้ก็ไม่เหมือนกัน เรือกองทัพต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจ และบางภารกิจก็ต้องทำท่ามกลางลมพายุ แต่เรือที่ประชาชนใช้จะทำการหลบหลีกลมพายุมากกว่า
แบบนี้ก็ถือได้ว่าเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์โชคร้ายแล้วล่ะ…
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset