ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1547 กลับบ้านอย่างปลอดภัย

แน่นอนว่า เรื่องที่ทำให้เกิดคลื่นแรงจนทะลักเข้าไปในห้องโดยสารกั้นน้ำนั้น เป็นฝีมือของพลังโพไซดอน
ฉินสือโอวไม่ได้มีความคิดกับคนพวกนี้ถึงขึ้นว่าไม่ตายไม่รามือ ดังนั้นเขาจึงไม่พาเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ไปจมในแถบทะเลน้ำลึก ตำแหน่งนี้เป็นจุดที่เขาคัดเลือกมาโดยเฉพาะ ก็คือใต้เรือประมาณสามสี่เมตรจะมีแนวโขดหินลับอยู่ด้วย
แบบนี้มีข้อดีอยู่สองข้อ หนึ่งคือตอนที่ทำการตรวจสอบเรือมาสามารถสรุปได้ว่าโขดหินคือสาเหตุที่ทำให้เรือจม สองก็คือเรือลำนี้จะไม่จมลงไปมาก มันแค่จะเกยตื้นอยู่บนโขดหินลับเท่านั้น
ฤดูล่าแมวน้ำมีเวลาเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น เชื่อว่าในหนึ่งอาทิตย์นี้ คนพวกนี้ไม่สามารถมาลากเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ไปได้อย่างแน่นอน เรื่องจะซ่อมแซมยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย หรือก็คือว่า ปีนี้โรบินเลิกคิดเรื่องล่าแมวน้ำไปได้เลย ขอแค่เอาตัวเองให้รอดได้ก็ไม่เลวแล้ว
อัศวินออร์แลนโด คนเถื่อนหลี่หนาตู้ เรืออัครมุขนายกโทบิน และปริ้นโอกีเยร์เรือสี่ลำนี้ก็ไม่สามารถนิ่งดูดายได้ เพราะเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์มาออกหน้าให้พวกเขาจึงทำให้ชนโดนโขดหินเข้า พวกเขาเองก็ต้องไปช่วยลากเรือและซ่อมแซมด้วยเหมือนกัน
แถมความสัมพันธ์ของคนพวกนี้แม้จะยุ่งเหยิงแต่ก็กลมเกลียวกัน เรียกได้ว่าคนหนึ่งเกิดเรื่องสามารถส่งผลไปทั้งกลุ่มได้ ดูท่าว่าคนในกลุ่มที่ยังมีกะจิตกะใจไปล่าแมวน้ำอีกก็คงมีไม่กี่คนแล้ว
ฉินสือโอวไม่ได้ทำการพัดคลื่นทะเลถาโถมเข้าไปเร็วนัก เพื่อที่จะเผื่อเวลาให้คนบนเรือได้หนีออกจากเรือได้ แน่นอนว่าถ้าพวกเขาใจถึงจริง ก็สามารถที่จะไม่ออกจากเรือก็ได้ เพราะว่าเรือแค่เกยตื้นเท่านั้นไม่ได้จมลงไป ดูท่าแล้วน่าจะจมลงไปไม่ถึงกราบเรือด้วยซ้ำ
แต่คนบนเรือไม่ได้รู้ถึงจุดนี้ และเพราะทุกคนได้เข้าสู่ช่วงชุลมุนและหมดหวัง ทำให้ไม่ได้มีคนสังเกตว่าทะเลแถบนี้ตื้นแค่ไหน หลังจากพวกเขารู้ว่าไม่สามารถซ่อมเรือได้แล้ว ก็พากันกระโดดขึ้นเรือชูชีพเพื่อหนีกันแล้ว
โรบินไม่อยากสละเรือ นี่น่ะเป็นถึงเรือบรรทุกขนาดสองพันตันเลยนะ ราคาอย่างน้อยๆ ก็หลายสิบล้านดอลลาร์แคนาดาเลย ชีวิตทั้งครอบครัวของเขาก็ขึ้นอยู่กับเรือลำนี้ หากว่าไม่มีเรือลำนี้แล้ว งั้นทั้งชีวิตของเขาก็จบเห่แล้ว
ดังนั้นเขาจึงอยู่ในห้องบังคับการต่อเพื่อต่อสายเรียกเรือลำอื่นทีละลำ แต่ก็ไม่มีคนกล้ารับสายเขา พวกเขารู้ว่าโรบินคิดจะทำอะไร
ไม่มีทางเลือก โรบินจึงทำได้แต่ตะคอกไปในสายสาธารณะอย่างโกรธแค้นว่า “รีบมาช่วยฉันลากเรือไปเซ่! โขดหินลับที่นี่มีแค่นิดเดียวเท่านั้น พวกนายไม่ต้องกังวลไปหรอก! ให้ตายสิ พวกแกมันพวกไก่อ่อน ใจเสาะ! รีบมา มาช่วยลากเรือฉันไปเลย!”
“สตัคกีย์! เรือของนายล่ะ? เพราะฉันมาช่วยนายแก้แค้นถึงได้พบกับอันตรายนะ รีบเร็ว! นายรีบมาช่วยเรือของฉันเลย!”
“หม่าหลง พี่น้องที่รักของฉัน เห็นแก่หน้าพระเจ้า รีบมาช่วยเรือของฉันเร็ว!” ไม่มีคนตอบ ในที่สุดโรบินก็เก็บอารมณ์โกรธ แล้วเปลี่ยนเป็นขอร้องขึ้นมา
“พวกพ้องทั้งหลาย อย่าทำอย่างนี้ พวกเราเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่เหรอ? พวกเราล้วนเป็นพี่น้องที่รักกันนะ! ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว พวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตอนนี้พวกนายจะไม่ช่วยเหลือกันจริงๆ เหรอ? ไม่ อย่าทำอย่างนี้เลยพวกพ้อง…”
แต่ก็ไม่มีคนเข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาเพียงแค่บังคับเรือให้ลดความเร็วลง แล้วมองดูอยู่ไกลๆ เท่านั้น
สถานการณ์ของเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ทำให้พวกเขาตกใจกลัวแล้ว พวกเขาเห็นใจโรบิน อยากจะช่วยเหลือเขา แต่ก็ต้องดูว่าจะช่วยเหลือแบบไหนด้วย ช่วยให้เขาและลูกเรือของเขาขึ้นเรือนั้นไม่มีปัญหา แต่การเข้าไปลากเรือนั้นไม่ได้จริงๆ หากว่าเกิดชนโดนโขดหินอีกจะทำอย่างไร?
เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์คือชีวิตของโรบิน เรือลำอื่นๆ ก็คือชีวิตของพวกเขาด้วยเหมือนกัน
“อ๊ากกกก! ฉันจะฆ่าไอ้พวกสารเลวพวกนี้ซะ! ให้พวกลูกหมา ถ้าจะตายงั้นก็ตายพร้อมกันไปเลย! ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งครอบครัว!” ในที่สุดโรบินก็ตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง
ต้นเรือและรองต้นเรือเข้ามาปลอบเขาว่า “กัปตัน ไปเถอะครับ! ที่นี่อันตรายเกินไป ใครจะรู้ว่าเรือจะจมลงไปตอนไหนนะครับ? น้ำได้ท่วมเข้ามาแล้ว รีบไปเถอะครับ!”
“ใช่ครับ กัปตัน ขอแค่พวกเราไม่เป็นอะไร จะสามารถหาเงินอีกเมื่อไรก็ได้ ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยซื้อเรืออีกลำก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ? รีบไปเถอะครับ ถ้าไม่ไปอีก ก็จะไปไม่ได้แล้วนะครับ!”
เรือบรรทุกขนาดสองพันตันมีน้ำหนักที่น่ากลัวอยู่ ตอนที่มันจมลงไปจะไม่ได้จมลงไปเฉยๆ เท่านั้น หากว่าจมลงไปทั้งลำแล้วบนน้ำจะเกิดเป็นคลื่นวนออกมา สุดท้ายจะกลายเป็นคลื่นวนที่อันตรายมาก ถึงตอนนั้นเรือชูชีพจะไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะมีโอกาสสูงที่จะถูกดูดเข้าไปแล้วจมลงไปด้วย
โรบินไม่พูดอะไร เขาอุ้มเสาเรือไว้แล้วยืนอยู่ตรงนั้น ต้นเรือและรองต้นเรือร้อนใจจนแทบบ้า พวกเขามองออกไปดูการจมของเรือเรื่อยๆ ตอนท้ายพอน้ำทะเลสูงเท่ากับกราบเรือแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้ารออีกต่อไปแล้ว ในเมื่อโรบินไม่ยอมไป พวกเขาก็จะไปแล้ว
ทั้งสองคนวิ่งออกไปอย่างร้อนรน แต่สุดท้ายพอวิ่งไปที่กราบเรือเท่านั้น กลับเห็นโรบินกระโดดขึ้นเรือชูชีพอีกลำไปก่อนแล้ว…
แม้ว่าโรบินจะเสียดายเรือบรรทุก แต่สุดท้ายก็ยังอยากรักษาชีวิตอยู่ ขอแค่มีภูเขาอยู่ก็ไม่กลัวจะไม่มีไม้มาทำฟืน คนต่างชาติก็เข้าใจในจุดนี้เหมือนกัน สามารถพูดได้ว่าในจิตสำนึกของพวกเขานั้น ไม่มีอะไรที่สำคัญกว่าชีวิตแล้ว
ลูกเรือทำการพายเรืออย่างสุดกำลัง เรือชูชีพได้หนีออกมาจากทะเลแถบนี้อย่างรวดเร็ว โรบินพอขึ้นไปบนเรือชูชีพแล้วก็ก้มหัวลงไประหว่างหัวเข่าทันที เขาไม่สามารถมองดูเรือของตัวเองจม เรื่องแบบนี้โหดร้ายเกินไป!
“ฉันจะฆ่าเจ้าพวกสารเลวนั่น! ฉันจะฆ่าทุกคนในครอบครัวของพวกมัน! ฉันจะไม่ปล่อยพวกมันไปแม้แต่คนเดียว…” โรบินสะอื้นไปพลางตะคอกไปพลาง “สเปนเซอร์ กลับไปติดต่อพวกแก๊งมาเฟียให้ฉันที ฉันจะแก้แค้น!”
ทันใดผู้คนบนเรือชูชีพก็แปลกใจกันขึ้นมา “เอ๋ เรือไม่ได้จมลงไป?”
เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว โรบินก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่น่าเชื่อ จริงตามนั้น พวกเขาได้พายออกมาไกลขนาดนี้แล้ว ตามหลักความเร็วในการจมลงของเรือแล้ว ตอนนี้น่าจะจมไปแล้วถึงจะถูก แต่เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงลอยอยู่เหนือน้ำอยู่ครึ่งลำ แถมยังไม่ได้จมลงไปต่อด้วย
ในที่สุดรองต้นหนสเปนเซอร์ก็ฉลาดขึ้นมาบ้าง เขาร้องอย่างดีใจว่า “ฉันรู้แล้ว นั่นน่ะเป็นแนวโขดหิน! ไม่ใช่การอับปาง แต่เป็นเกยตื้น! โอ้เย่ แค่เกยตื้นเท่านั้น! กัปตัน ดีจังเลยครับ แค่เกยตื้นเท่านั้นครับ!”
โรบินเองก็ตื่นเต้นจนริมฝีปากสั่นไปมา น้ำตาราวกับก๊อกน้ำที่เปิดออก ไหลรินลงมาไม่ขาดสาย
แม้ว่าเรือบรรทุกที่เกยตื้นจะต้องทำการซ่อมแซมครั้งใหญ่อีกก็เถอะ แต่ว่าเทียบกับการจมลงไปนั้นไม่รู้ว่าดีกว่ากี่เท่า
ผู้คนบนเรือพากันปรบมือกันเหนือหัวเพื่อยินดี สเปนเซอร์ก็ร่วมยินดีด้วยสักพักแล้วก็ถามออกไปอย่างระมัดระวังว่า “กัปตัน แล้วพวกเรายังต้องติดต่อแก๊งมาเฟียเพื่อแก้แค้นอีกไหมครับ?”
โรบินพูดด้วยแรงที่อิดโรยว่า “แก้แค้นอะไรอีกล่ะ ถ้ามีเงินตรงนั้นก็เก็บไว้ซ่อมเรือเถอะ! ให้ตายเถอะ ไม่สิ เงินที่จะซ่อมเรือฉันจะให้สตัคเกอร์เป็นคนออก! เจ้าสารเลวนั่น นี่น่ะเพราะมันก่อเรื่องแท้ๆ!”
เรื่องราวหลังจากนั้นฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจแล้ว โรบินจะไปจัดการกับเพื่อนของเขาอย่างไรไม่ใช่เรื่องของเขา เขาได้สั่งสอนคนพวกนี้ไปแล้ว แถมยังได้ปกป้องแมวน้ำในละแวกนี้แล้วด้วย เชื่อว่าหลังจากผ่านเรื่องในคืนนี้แล้ว พวกเขาคงไม่มีกะใจไปล่าแมวน้ำแล้วล่ะ
พวกเขาอยู่ดูลาดเลาบนทะเลอีกสักพัก เมื่อแน่ใจว่าเรือพวกนี้ไม่กล้ารุกล้ำเข้าไปในเกาะที่มีแมวน้ำแล้ว พวกเขาจึงจะกลับไป ครั้งนี้ฉินสือโอวได้จัดแจงให้มีเรือมาลาดตระเวนตอนกลางคืนด้วย หากว่าคนพวกนี้ยังกล้ามาล่าแมวน้ำอีก เขาก็จะหาวิธีมาจัดการให้สิ้นซากซะ!
เขาอยู่ที่ฟาร์มปลาต่ออีกสองวัน เหล่านักล่าไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีก เรือส่วนมากก็จากไปแล้ว ส่วนเรืออัศวินออร์แลนโด เรือคนเถื่อนหลี่หนาตู้ เรืออัครมุขนายกโทบิน และเรือปริ้นโอกีเยร์ เรือสี่ลำนี้กำลังคิดหาวิธีลากเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์กลับไปอยู่
เรื่องนี้ก็ได้จบลงไปแบบนี้ ฉินสือโอวบอกลากับพวกอารอน เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบิน เรือกำปั่นทะเลกางใบเรือ เขาพากลุ่มเรือหาปลาออกจากฟาร์มปลาอย่างสง่าผ่าเผย และก้าวไปยังเส้นทางกลับบ้าน
ปลอดภัย กลับบ้าน!
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset