ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1556 การซ่อมแซมในฤดูใบไม้ผลิ

เมื่ออันเดร์มาถึง สวนดอกไม้ก็สามารถเริ่มงานได้แล้ว ทีมก่อสร้างของวิลได้ขับรถยก รถปั้นจั่น รถขุดตามมา รถปีศาจเหล็กคันแล้วคันเล่าได้ขับเข้าไปในฟาร์มปลา
การสร้างสวนดอกไม้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทุกรูปแบบ ถือโอกาสที่อุปกรณ์ครบมือแบบนี้ ฉินสือโอวจึงซื้อของจำพวกสีอะคริลิกและสีกันสนิมมาด้วย เพื่อจะทำการซ่อมแซมบ้านพักเสียใหม่
บ้านพักในฟาร์มปลานั้นเป็นบ้านเก่าแล้ว น่าจะมีอายุกว่าสี่ห้าสิบปีได้ ดีที่ตอนนั้นคุณปู่ฉินใช้แต่วัสดุที่คุณภาพดี ไม่ได้เลือกใช้ของลวกๆ ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวคงต้องเปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังใหม่แทนแล้ว
ความจริงกับสภาพทางการเงินของท่านชายฉินในตอนนี้ จะสร้างบ้านพักที่ทันสมัยหลังหนึ่งนั้นง่ายราวกับปอกกล้วย แต่บ้านพักหลังนี้ นอกจากว่าดูแก่ไปหน่อย แต่วัสดุที่ใช้นั้นทนทานมาก แถมจนถึงทุกวันนี้บ้านก็ยังคงแข็งแรงดีอยู่ด้วย ไม่ว่าจะลมพัดฝนตกหรือว่าหิมะตก ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
ดังนั้น เขาจึงไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนบ้านใหม่ แต่ว่าตามลักษณะนิสัยของคนแคนาดาแล้ว ฤดูใบไม้ผลิของทุกปีจะต้องทำการบูรณะบ้านใหม่อย่างง่ายๆ รอบหนึ่ง ถือว่าเป็นการบำรุงรักษาบ้าน สามารถยืดอายุการใช้งานของบ้านได้
ฉินสือโอวอยู่มาสี่ปีแล้ว ยังไม่ได้บำรุงรักษาบ้านมาก่อนเลย มีบางจุดที่เสียหายไปแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องบูรณะแล้วจริงๆ
จุดนี้พวกชาวประมงถนัดมาก พวกเขาล้วนอาศัยอยู่ในบ้านเก่ากันทั้งนั้น เป็นบ้านที่พ่อแม่ทวดเหลือไว้ให้ จะต้องทำการบูรณะทุกปี ดังนั้นแต่ละคนจึงเป็นมือดีทั้งนั้น หลังจากฉินสือโอวบอกความคิดนี้ออกไปแล้ว พวกเขาก็แสดงออกว่าไม่มีปัญหา จะมาช่วยเหลือแน่นอน
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ฉินสือโอวก็เหมือนกับผู้ชายที่เป็นเสาหลักครอบครัวคนอื่นๆ ในแคนาดา ก็คุ้นเคยกับการลงมือทำงานฝีมือเองเช่นกัน อีกอย่างบ้านเขายังมีวัยรุ่นอีกตั้งห้าคน ที่จะต้องฝึกทักษะในการทำงานฝีมือให้พวกเขา ดังนั้นเขาจึงได้เตรียมเครื่องมือมาครบชุดๆ หนึ่ง
หาวันหยุดสุดสัปดาห์มาวันหนึ่ง ฉินสือโอวบอกล่วงหน้าหนึ่งวันว่าจะแจกจ่ายงานให้ ถามเหล่านักล่ารางวัลว่าสนใจกันไหม
วินนี่เริ่มลดค่าขนมให้เด็กชายทั้งสี่คน นอกจากเชอร์ลี่ย์แล้ว คนอื่นๆ จะได้รับเงินค่าขนมกันแค่วันละสิบเหรียญเท่านั้น เพียงพอแค่นำไปซื้อเครื่องดื่มหลังออกกำลังกายเท่านั้น ทำให้เมื่อเห็นว่ามีโอกาสสำหรับหาเงินได้เพิ่มแล้ว พวกเขาจึงไม่ปล่อยไปเด็ดขาด
กอร์ดอนถามว่าให้เงินเท่าไร ฉินสือโอวบอกว่ารายได้ต่อชั่วโมงคือ 15 เหรียญ ในการตามเขาไปซ่อมบ้าน
เหล่าเด็กวัยรุ่นดีใจขึ้นมาในทันที รายได้เท่านี้ไม่ถือว่าต่ำแล้ว วันหนึ่งทำงานแปดชั่วโมง งั้นก็คือหนึ่งร้อยยี่สิบดอลลาร์แคนาดา สองวันก็จะได้สองร้อยกว่าเหรียญ เพียงพอให้พวกเขานำไปจับจ่ายได้ช่วงหนึ่งแล้ว
ฉินสือโอวก็ดีใจเหมือนกัน เขาได้ประหยัดเงินด้วย หากว่าไปหาคนข้างนอกมาซ่อมบ้าน งั้นค่าจ้างต่อชั่วโมงก็ต้องเริ่มต้นที่สี่สิบดอลลาร์แคนาดา ช่างซ่อมบ้านเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมในแคนาดา ซี่งรวมไปถึงช่างท่อประปา ช่างกุญแจ และช่างทาสี และงานจำพวกติดตั้ง เดินสายไฟฟ้า ซ่อมแซมทั้งในและนอกอาคารงานกำแพงบ้านรวมไปถึงซ่อมห้องน้ำหรือน้ำรั่ว ก็ล้วนมีรายได้สูงกันทั้งนั้น
งานซ่อมบูรณะบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้แรง ถือเป็นคนงานปกสีน้ำเงิน แต่ว่าต้องพึ่งทักษะพิเศษ แถมบางงานยังต้องมีใบรับรองอีกด้วย และยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเกี่ยวกับการต่อเติมบ้านด้วย เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูง จะเรียกค่าใช้จ่ายสูงก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ดังนั้น ในครอบครัวปกติทั่วไป เจ้าของบ้านทั้งชายหญิงจึงเป็นงานฝีมือกันหมด หากว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องพึ่งการจ่ายเงินแล้วล่ะก็ แม้จะเป็นเศรษฐีทั่วไปในแคนาดาก็ใช้ชีวิตยากเช่นกัน
ฉินสือโอวไม่เพียงแต่จะประหยัดเงิน เขายังอยากจะเป็นนักลงทุนที่ใจดำอีกด้วย จึงพูดว่า “งานซ่อมบูรณะบ้านเป็นงานที่ต้องพึ่งฝีมือด้วย พวกนายไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้นฉันจึงต้องหาคนมาสอนพวกนาย นี่น่ะต้องให้ค่าเรียนด้วยเข้าใจไหม? คนละห้าสิบดอลลาร์แคนาดา ห้ามต่อราคา!”
กอร์ดอนกำลังจะพูดอะไร เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของเขาแล้วก็หุบปากลงอย่างเศร้าสร้อย
วินนี่ที่ฟังอยู่ข้างๆ จึงถอนหายใจไปเฮือกใหญ่ ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง
ไวส์ยกมือเหมือนกับเด็กดีคนหนึ่งว่า “ไม่ครับ ฉิน พวกเราไม่ต้องให้คุณหาคนมาสอนหรอก แค่นี้พวกผมก็ไม่ต้องควักเงินจ่ายแล้วใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวบอกว่า “งั้นในกลุ่มพวกนายมีใครซ่อมบ้านเป็นบ้าง?”
ไวส์พูดอย่างหนักแน่นว่า “พวกเราสามารถหาคนสอนได้ครับ”
พวกของกอร์ดอนก็ยิ้มออกมาด้วย พวกเขานึกถึงพวกชาวประมง ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ล้วนเป็นช่างฝีมือดีในด้านนี้
เสียดายที่ฉินสือโอวไม่มีทางเหลือช่องว่างที่ใหญ่ขนาดนี้ให้พวกเขาหลุดไปได้หรอก จึงพูดว่า “อย่าคาดหวังกับพวกชาวประมง พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดของพวกเขา ดังนั้นถ้าพวกเขาจะมาสอนพวกนาย ก็เท่ากับขาดงาน”
“ไม่!” มิเชลร้องอย่างโศกเศร้า
ไวส์ยังคงเต็มไปด้วยสีหน้าแน่นิ่ง บอกว่าไม่พึ่งพวกชาวประมง พวกเขาสามารถหาคนมาช่วยได้
เมื่อเป็นแบบนี้ฉินสือโอวเลยหมดคำจะพูดขึ้นมา เขาแปลกใจว่าทำไมไวส์ถึงแน่นิ่งขนาดนี้ เด็กวัยรุ่นพวกนี้นอกจากพวกชาวประมงแล้ว จะไปหาใครมาช่วยได้อีก?
ตอนบ่าย เครื่องบินลำหนึ่งได้ลงจอดที่ฟาร์มปลา คู่สามีภรรยาจอร์จได้เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ฉินสือโอวใจหายไปเฮือกหนึ่ง พูดว่า “ให้ตายสิ ไวส์ เพื่อที่จะประหยัดเงินห้าสิบเหรียญ นายถึงขั้นเรียกพ่อกับแม่มาเลยเหรอ?”
ไวส์พูดอย่างดีใจว่า “ไม่ใช่สักหน่อยครับ พวกเขาจะมาเยี่ยมผม พอดีเลยสามารถมาช่วยซ่อมบ้านได้ด้วย แล้วก็นะ ฉิน ค่าแรงของพวกเขาผมเป็นคนจ่าย พวกเขาเป็นคนที่ผมหามา คุณจ่ายเงินให้ผม เดี๋ยวผมเอาไปจ่ายให้กับพวกเขาเอง”
วินนี่มองไปที่ฉินสือโอวทีหนึ่ง แล้วทอดถอนใจออกมาว่า “คุณดูคุณสิ นี่น่ะเป็นนักธุรกิจใจคดตัวน้อยที่คุณสอนออกมา!”
คู่สามีภรรยาจอร์จเข้ามาสวมกอดฉินสือโอว ทุกครั้งที่มาพวกเขาล้วนนำของขวัญจำนวนมากมาด้วยเสมอ มีให้ตั้งแต่เออร์บัก พ่อแม่ของฉินสือโอวจนถึงหู่จือกับเป้าจือ ล้วนมีของขวัญกันทั้งนั้น รวมไปถึงเหล่าชาวประมงเองก็มีด้วยเช่นกัน
ดังนั้นคู่สามีภรรยาจอร์จจึงเป็นที่ต้อนรับของฟาร์มปลาเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นพวกเขามาถึงเหล่าชาวประมงก็พากันโบกมือเพื่อทักทาย
คู่สามีภรรยาจอร์จงานยุ่งมาก ตอนนี้เศรษฐกิจของทั่วโลกไม่ค่อยดี ธุรกิจเหล็กกล้าก็ด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสมาเยี่ยมไวส์เท่าไร ดังนั้นฉินสือโอวจึงตัดสินใจไม่ให้ไวส์ทำงานแล้วให้พวกเขาไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวแทน
จอร์จได้ยินแล้วก็บอกว่า “ไม่เป็นไรครับ ฉิน เมื่อคืนไวส์ได้พูดในโทรศัพท์แล้ว พวกเรามากันในวันนี้ก็เพื่อมาเป็นครูให้กับพวกเด็กๆ นะครับ ฮ่าๆๆ ผมเองก็ไม่เคยเป็นครูแบบนี้มาก่อนเลย แต่ทว่าจะต้องมีความหมายมากอย่างแน่นอนเลย”
วิเวียนบอกว่า “แน่นอนว่า การมาทำงานเล็กๆ น้อยกับลูก จะต้องมีความหมายกว่าพาเขาไปเที่ยวข้างนอกแน่นอนค่ะ แต่ว่าฉินคะ ค่าจ้างของพวกเราคือเท่าไรคะ?”
ฉินสือโอวปัดมือออก พูดอย่างหมดทางเลือกว่า “ผมไม่สามารถจ่ายค่าแรงให้พวกคุณได้หรอกนะครับ ค่าแรงรายชั่วโมงของพวกคุณน่าจะต้องหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐเลยหรือเปล่าครับ? บ้านพักของผมยังไม่มีค่าเท่านี้เลย!”
ไวส์บอกว่า “คุยกันแล้วว่า 15 ดอลลาร์แคนาดานี่!”
จอร์จเคาะไปที่หัวลูกชายทีหนึ่ง หัวเราะแล้วพูดว่า “เด็กโง่ แม่ของลูกกำลังจะเจรจาค่าจ้างที่ดีกว่าให้นะ ช่างเป็นทีมที่โง่จริงๆ เลย”
ระหว่างพูดคุยหัวเราะกันอยู่ ฉินสือโอวก็เปิดโรงรถที่อยู่เยื้องกับบ้านพักออกหนึ่งห้อง โรงรถห้องนี้ว่างไว้ตลอด เพราะรถล้วนจอดอยู่บนสนามหญ้าไม่ก็ลานบิน ตอนนี้โรงรถนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องเก็บเครื่องมือไปแล้ว
ทั้งสองด้านของโรงรถได้ตั้งแผงไม้ไว้สองแผง บนนั้นมีกล่องเครื่องมือหลากหลายชนิดวางอยู่ มีทั้งประแจ สว่าน เครื่องตัดเหล็ก ชะแลง และสายรัด ท่อและข้อต่อท่อทุกประเภท มากมายละลานตาไปหมด
นอกเหนือจากนี้ ที่สะดุดตามากที่สุดก็คือแท่นเลื่อยไม้กับเครื่องเคลือบที่ตั้งอยู่ในนั้น นี่คือของที่คุณปู่ฉินเหลือไว้ เป็นของเก่าชิ้นหนึ่ง ก่อนหน้านี้เพราะมันเสียแล้วจึงไม่ได้ถูกธนาคารเก็บไป หลังจากนั้นพอฉินสือโอวมาแล้ว ก็ให้ซีมอนสเตอร์ซ่อมแซมมันไปทีหนึ่ง ทำให้เครื่องสามารถกลับมาใช้งานได้อีก
เครื่องมือเล็กๆ พวกนั้นเป็นของที่เขาทยอยใส่เข้าไปเอง ไม่ใช่เอาไว้ซ่อมแซมบ้าน แต่เอาไว้บูรณะเรือหาปลา
ฉินสือโอวนำชุดทำงานที่เตรียมไว้แล้วให้พวกเขาเปลี่ยน แล้วก็หน้ากากอีกคนละอัน เพราะอีกสักพักจะต้องทาสีอะไรพวกนี้ด้วย เพื่อป้องกันสีกระเด็นเข้าไปในปากหรือรูจมูก
เมื่อเห็นพวกเขาแต่งองค์ทรงเครื่องกันออกมาทำงาน ทันใดนั้นหู่จือกับเป้าจือก็ร้องอาวๆ ออกมา
……………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset