ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1586 รางวัลปลาทูน่า

ฉินสือโอวพูดออกมาว่า “ไม่มีปัญหา ที่นี่มีฝูงปลาทูน่าครีบดำอยู่ พวกมันไม่ได้อยู่อย่างสันโดษ ตัวนี้หลุดไป ก็ต้องมีตัวอื่นตามมันมาเช่นกัน ไปจัดการพวกมันกันเถอะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น คิ้วที่ขมวดกันของเคอร์ก็คลี่ออก เขายิ้มออกมา แล้วถามว่า “จริงเหรอ? ที่นี่มีฝูงทูน่าครีบดำงั้นเหรอ? เร็วเข้าๆๆ ฝูงต่อไปเราต้องจับมาให้ได้!”
การตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ ถือเป็นการตกปลาที่มีค่าที่สุด คนอย่างเคอร์อาจจะเบื่อกับการกินทูน่าแล้ว แต่ว่าเขาไม่เคยตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินด้วยตัวเองสำเร็จ นี่จึงเป็นความฝันของเขาทุกครั้งที่เขาออกทะเล
ฉินสือโอวอาจจะสามารถเติมเต็มความต้องการของเขาได้ ปลาทูน่าของฟาร์มปลา ไม่เพียงแต่จะมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินเท่านั้นแต่ยังมีปลาทูน่าครีบเหลือง และไม่เพียงแต่มีปลาทูน่าตาโตแต่ยังมีปลาโอแถบด้วย ปลาทั้งหมดนี้สามารถเจริญพันธุ์ได้ดีมาก ดังนั้นการตกปลาจึงไม่ค่อยมีผลกระทบต่อพวกมันเท่าไร
แม้ว่า จะต้องรอจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นฤดูการจับปลาทูน่าก็ตาม เขาตั้งใจวางอวนลงไปในทะเล เพื่อที่จะจับฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงินทั้งฝูง แต่กระนั้นจำนวนของพวกมันก็ยังคงเยอะอยู่ดี
สายเบ็ดถูกโยนออกไปเส้นแล้วเส้นเล่า คันเบ็ดตกปลาถูกสอดเข้าไปบริเวณราวกั้นของดาดฟ้าเรือและด้านข้างของเรือ บนตะขอเบ็ดมีปลาแฮร์ริ่งเกี่ยวไว้อยู่ นี่เป็นอาหารที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินชื่นชอบที่สุด
พระอาทิตย์ลอยขึ้นฟ้าไปเรื่อยๆ เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบยังผืนน้ำทะเล พวกเขาก็มองเห็นพื้นที่ตกปลาได้อย่างชัดเจน เกลียวคลื่นพัดไปมา น้ำบริเวณนี้สดใสสะอาดราวกับคริสตัล บางครั้งก็มีน้ำพ่นออกมาจากที่ไกลๆ นั่นคือสัญญาณว่าวาฬขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ
ฉินสือโอวรอให้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเข้ามาแย่งเหยื่อ เขาชมวิวทิวทัศน์ของทะเลไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นน้ำพุรูปตัววีปรากฏตัวขึ้น เขาก็ชี้ให้เคอร์ดู แล้วพูดออกมาว่า “นั่นคือวาฬหัวคันศร อยากไปดูหรือเปล่า?”
เคอร์มองลงไปในทะเลอย่างตั้งใจ เขาส่ายหัวแล้วตอบกลับว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะรอปลาทูน่าก่อน พูดจริงๆ นะเพื่อน ฉันอยากจะตกปลาชนิดนี้ได้ด้วยตัวเองสักครั้ง”
ฉินสือโอวยักไหล่ จากนั้นเขาก็ส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในทะเล รอบๆ นี้มีฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงินว่ายผ่านมาจริงๆ สิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อันที่จริงแล้วฝูงปลาทูน่าที่ฟาร์มปลาไม่ได้มีเพียงฝูงเดียว โดยทั่วไปแล้วตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจะเป็นผู้นำฝูง จากนั้นตัวอื่นๆ ก็จะคอยว่ายน้ำตามมา ดังนั้นเมื่อเจอเข้ากับจ่าฝูงแล้ว ก็สามารถเจอเข้ากับฝูงของพวกมันได้
เบิร์ดถือกล่องแช่ปลาแฮร์ริ่งไว้ในมือ ฉินสือโอวสวมถุงมือ จากนั้นก็เข้าไปแล่ปลาแฮร์ริ่งกับเบิร์ด แล้วโยนเนื้อปลาพวกนั้นลงไปในน้ำ เพื่อที่จะล่อให้ฝูงปลาเข้ามาใกล้เรือ
พวกที่ได้กลิ่นอันหอมหวานของปลาแฮร์ริ่งพวกแรกไม่ใช่ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แต่เป็นนกนางนวล เมื่อพวกเขาเริ่มโยนเนื้อปลาลงไปในทะเล พวกนกนางนวลก็บินมาหาทันที พวกมันส่งเสียงดัง จากนั้นก็บินไปมาเพื่อแย่งเนื้อปลา
นกนางนวลพวกนี้ไม่ใช่นกนางนวลสีเงินก่อนหน้านี้ นกนางนวลสีเงินอพยพไปยังมหานครเซนต์จอห์นแล้ว หลังจากที่ปล่อยให้พวกมันเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้สองสามวัน รัฐบาลก็ต้องจำยอมอนุญาตให้มีการกำจัดนกนางนวลสีเงินพวกนี้ ทำให้พวกมันกลัวจนบินหนีไปในที่สุด
มีนกนางนวลมากกว่ายี่สิบตัวบินมาหาพวกเขา พวกมันตัวเล็กแต่มีปากที่ยาว ลูกนกพวกนี้บินวนไปมาอย่างสะเปะสะปะ บางครั้งเมื่อคลื่นทะเลลูกใหญ่พัดมาแล้วพวกมันหลบไม่ทัน ก็โดนคลื่นพัดลงทะเลไป
แต่ว่านกนางนวลไม่จมน้ำตาย ขนของพวกมันมีความเงามัน เมื่อตกลงไปในน้ำปีกของพวกมันจะยังคงสภาพเดิมและบินขึ้นมาได้อีกครั้ง
เบิร์ดหยิบปืนออกมาไล่ฝูงนกเล็กๆ พวกนี้ ฉินสือโอวมองไปยังฝูงนกนางนวล จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วบอกเบิร์ดว่า “ไม่เป็นไร ให้พวกมันได้กินอาหารหน่อยละกัน”
เมื่อเนื้อปลาถูกโยนลงไปในทะเล ปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ถูกเนื้อปลาดึงดูดให้เข้ามา พวกมันกินเนื้อปลาเหล่านั้นอย่างสบายใจ และสายตาของพวกมันก็มองเห็นปลาแฮร์ริ่งที่ติดอยู่บนตะขอ
เหล่านกนางนวลมาช่วยด้วย เมื่อพวกมันแทงลงไปในน้ำเพื่อกินเนื้อปลา ทุกครั้งที่มันแทงลงไปทำให้เกิดน้ำกระเด็นขึ้นมา แบบนี้ทำให้ทัศนวิสัยในการมองในน้ำลดลง ทำให้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมองเห็นสายเบ็ดได้ไม่ชัดเจน
ปลาทูน่าทุกตัวสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนโตเต็มวัย พวกมันทุกตัวว่ายผ่านเส้นเอ็นตกปลาและสายเบ็ดมาก่อน พวกมันฉลาดมาก ถ้าหากว่าพวกมันเห็นสายเบ็ด พวกมันก็จะว่ายน้ำหนีทันที เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉินสือโอวรู้เมื่อตอนที่ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปสำรวจ ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินว่าปลามีความจำอยู่เพียงไม่กี่นาที แต่เมื่อเขาเจอกับเหตุการณ์นี้ เขาก็รู้สึกสมเพชกับสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์
ในที่สุด เมื่อนกนางนวลกินจนอิ่มแล้ว ทันใดนั้นสายเบ็ดก็ตึงขึ้นมาทันที รอกตกปลาหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คันเบ็ดโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยว
“เร็ว!” ฉินสือโอวตั้งใจเดินเข้าไปช้าๆ เพื่อให้เคอร์ได้จับเบ็ดไว้ จากนั้นเขาก็เข้าไปช่วยดึงเบ็ดขึ้นมา
ปลาทูน่าตัวนี้มีความยาวประมาณสามเมตร ไม่ถือว่าใหญ่มาก ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่อยู่ในฟาร์มปลาสามารถยาวได้ถึงห้าเมตร แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ถูกนำไปประมูล แต่ก็มีมูลค่าหลายล้าน
การตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินจำเป็นที่จะต้องมีเทคนิค การต่อสู้กับปลาชนิดนี้ไม่ควรใจร้อน ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ผู้ตกปลาต้องมีความอดทน ที่สำคัญคือต้องมีประสบการณ์
เคอร์ไม่มีประสบการณ์ในการตกปลา เขาจึงไม่รู้ว่าเมื่อไรควรปล่อยสายเบ็ดและเมื่อไรควรดึงสายเบ็ด ฉินสือโอวคอยสอนเขาอยู่ข้างๆ ทุกครั้งที่เคอร์ทำผิดเขาจะได้เข้ามาช่วยได้อย่างทันถ่วงที แบบนี้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินหนีไปไหนไม่ได้แน่นอน
นีลเซ็นเป็นคนคุมหางเรืออยู่ในห้องโดยสาร ฉินสือโอวตะโกนไม่หยุด บอกให้เขาเปลี่ยนทิศทาง “ไปข้างหน้า ความเร็วสิบน็อต!” “โอเคๆ หยุดๆ จอดตรงนี้ก่อน!” “เลี้ยวหัวเรือ ไปยังสิบนาฬิกา ความเร็วหกน็อต!”
เคอร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เขาหมุนรอกตกปลาพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วพูดออกมาว่า “นายนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ฉิน ฉันมีลางสังหรณ์ว่า ปลาตัวใหญ่ที่กำลังอยู่ใต้น้ำตอนนี้ไม่สามารถหนีเราไปไหนได้แน่นอน”
เขาพูดออกมาด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะมีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่อยู่ใต้น้ำคอยสร้างคลื่นลดแรงของปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่ล่ะก็ ปานนี้มันคงหนีไปแล้ว
พลังโพไซดอนไม่เพียงแต่จะปรับปรุงเนื้อของปลาทูน่าครีบน้ำเงินให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มแรงให้พวกมันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพลังและความอึดของพวกมันก็โดดเด่นเป็นอย่างมาก นักตกปลาทั่วไปไม่สามารถจับมันได้แน่นอน
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็เสียเวลาไปมากกว่าสี่สิบนาที กว่าปลาทูน่าจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ
ฉินสือโอวให้เคอร์ตั้งใจกับการตกปลา เขาหยิบฉมวกมาจากเบิร์ด แล้วพูดเสียงต่ำว่า “เอาล่ะเพื่อน ดึงมันกลับมา ฉันจะจบชีวิตมันเอง!”
เคอร์ใช้แรงมหาศาลในการดึงสายเบ็ดกลับมา เมื่อปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่ห่างฝูงนกนางนวลประมาณสิบเมตร ฉินสือโอวก็สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วใช้กล้ามแขนขว้างฉมวกไปข้างหน้า
‘สวบ’ เสียงฉมวกผ่านอากาศดังขึ้น ฉมวกแทงเข้าที่คอของปลาอย่างแม่นยำ ปลายแหลมทั้งสามแทงเข้าไปจนมิดด้าม และด้ามของฉมวกก็สั่นไหวอย่างแรง
“สุดยอด!” เคอร์ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับไฮไฟว์ให้ฉินสือโอว
ปลาถูกดึงกลับมาช้าๆ จากนั้นเขาก็ใช้บ่วงเกี่ยวเข้ากับหางรูปพระจันทร์เสี้ยวขึ้นมา แล้วใช้มอเตอร์ในการดึงมันขึ้นมา เพียงเท่านี้ก็ถือว่าสิ้นสุดการตกปลาแล้ว
เคอร์เข้าไปกอดปลาทูน่าแล้วถ่ายรูปสองสามรูป จากนั้นก็เรียกให้ฉินสือโอวเข้ามาถ่ายรูปด้วยกัน
เขาถ่ายรูปไปหลายรูปเลยทีเดียว เคอร์โพสท่าราวกับเด็กๆ เขาไม่หยุดถ่ายรูปไปจนกว่าเขาจะหมดลม
เมื่อเคอร์ถ่ายรูปเสร็จ เบิร์ดก็เข้าไปตัดเหงือกของมันด้วยมีด ทำให้เลือดและไส้ของปลาทูน่าไหลออกมา
ฉินสือโอวส่งไอซ์ไวน์ให้เคอร์ดื่ม ทั้งสองคนชนแก้วกันแล้วพูด ‘ยินดีด้วย’ ออกมาพร้อมกัน
ดังนั้นอาหารกลางวันจึงออกมาเช่นนี้ ฉินสือโอวนำหนังปลาและเนื้อปลาแยกออกมา แล้วทำอาหารง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความอร่อยให้เคอร์ทานสองสามอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหนังย่าง หนังปลาผัด ปลาย่างและปลาทอด
…………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset