ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1593 เป็นคลื่นอันตรายที่สุด

คลื่นลมไหวแรง คลื่นทะเลซัดสาดอย่างหนักหน่วง
คลื่นทะเลที่ม้วนตัวมีความเด่นชัดและใสมาก เมื่อมีแสงแดดมากระทบบนผิวน้ำก็เกิดเป็นประกายสีเขียวอ่อน ราวกับมรกตชั้นดี เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินลดระดับความสูงเพื่อถ่ายทำจากด้านข้าง เรือเด็คเออร์บักตามถ่ายวิดีโออยู่ด้านหลัง
ฉินสือโอวตะโกนร้องเสียงดัง เจ็ทสกีถูกเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น พุ่งเข้าใส่คลื่นทะเลราวกับลูกศรที่แหลมคม บินลอยโผล่พ้นออกมาจากคลื่นทะเล วินนี่กอดเขาแน่นอยู่ด้านหลัง เธอรู้สึกเพียงพริบตาเดียวก็ราวกับทะลุกำแพงด้านหนึ่งออกมาจนต้องส่งเสียงกรีดร้อง
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของภรรยา ฉินสือโอวก็ยิ้มเบิกบาน
การถ่ายวิดีโอครั้งนี้เป็นเหมือนโอกาส เขาและวินนี่ยังไม่เคยอัดวิดีโอกีฬาผาดโผนด้วยกันในทะเลเลย ช่างน่าเสียดายไม่น้อย ก็พอดีกับที่ตอนนี้คว้าโอกาสนี้ไว้เป็นเซอร์ไพรส์ให้วินนี่ และเป็นดั่งของขวัญให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมือง
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนแปดสายแล่นออกไปพร้อมกัน สายหนึ่งออกไปหาวาฬที่อยู่รอบๆ เพื่อให้พวกมันว่ายมาหา อีกสายหนึ่งก็ไปหาเจ้าสามตัวบอลหิมะ เมื่อมีการถ่ายทำในทะเล แน่นอนว่าพวกมันก็ควรอยู่ในกล้องด้วย เพราะอย่างไรที่นี่ก็เป็นถิ่นของพวกมัน
ส่วนหกสายที่เหลือ แบ่งสองสายคอยดูแลความปลอดภัยอยู่รอบๆ ส่วนอีกสี่สายคอยก่อคลื่นทะเล ก่อคลื่นยักษ์ที่อันตรายแต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัด
เจ็ทสกีแล่นไปอย่างรวดเร็ว คลื่นทะเลเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญ่ซัดเข้ามาแล้วก็ผ่านไปทีละระลอก ฉินสือโอวควบคุมเจ็ทสกีเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย วิ่งตัดผ่านคลื่นไปพร้อมๆ กับมัน
ช่างภาพที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์และดาดฟ้าบนเรือต่างอุทานอยู่ตลอด “เชี่ย” “พระเจ้า!” “นี่มันเทคนิคพิเศษชัดๆ!” “ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
โลดแล่นอยู่ในทะเลเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า คลื่นลมเริ่มเบาบาง ฉินสือโอวจึงโยนกระดานโต้คลื่นออกไป เขาขับเรือเข้าไปใกล้แล้วเปลี่ยนให้วินนี่เป็นคนขับ ส่วนเขาปีนขึ้นไปยืนอยู่บนกระดานโต้คลื่น แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
ขนาดของกระดานโต้คลื่นไฟฟ้านี้ใหญ่กว่าทั่วไป ยาวสองเมตรกว่า กว้างครึ่งเมตร ควบคุมโดยใช้รีโมตที่รัดไว้กับแขน แต่ก็สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังของคลื่นได้ สามารถรองรับได้ 2 คน
คลื่นทะเลลูกหนึ่งซัดสาดเข้ามา ฉินสือโอวงอขาสองขาอย่างชำนาญและลองปล่อยแรงออกมา กระดานโต้คลื่นเคลื่อนตัวไปตามกระแสคลื่น เมื่อหลบคลื่นลูกนี้ไป เขาก็ยื่นมืออุ้มวินนี่ขึ้นมา แล้วขยับตัวเขาเองไปด้านหน้าอย่างระมัดระวัง เพื่อเหลือพื้นที่ที่เพียงพอให้กับวินนี่
วินนี่ไม่เคยเล่นกระดานโต้คลื่นไฟฟ้ามาก่อน เธอยืนขึ้นแล้วยื่นมือไปรวบผมสีดำที่ตกลงมาให้เรียบร้อย ยิ้มด้วยความยินดีว่า “แบบนี้ได้ไหม?”
“ได้แน่นอน” ฉินสือโอวพูดอย่างมั่นใจ
เครื่องขับเคลื่อนแบบพ่นเริ่มทำงาน ฉินสือโอวจับวินนี่ไว้เพื่อให้เธอทรงตัวได้ หลังจากนั้นกระดานโต้คลื่นก็เริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นและลอยไปด้านหน้า
เมื่อกระดานเริ่มขยับ ฉินสือโอวก็ยืนหันข้าง ขาซ้ายเหยียบไปทางด้านหลัง มือทั้งสองข้างโอบวินนี่ไว้ในอ้อมกอด ขาด้านขวาออกแรงเต็มที่ เปลี่ยนทิศทางของกระดานโต้คลื่นให้หันพุ่งไปทางคลื่นยักษ์
กระแสคลื่นหมุนเกลียว เมื่อกระเพื่อมจนมาถึงด้านหน้าของพวกเขาก็เริ่มอ่อนแรง ซึ่งคลื่นแบบนี้ง่ายต่อการเล่น เขาไม่ต้องออกแรงอะไรเลย เพราะแรงขับเคลื่อนของกระดานจะมาจากตัวมันเอง เขาจึงใช้แรงของเขาในการปรับเปลี่ยนทิศทางก็พอ
อาศัยโอกาสที่คลื่นกำลังอ่อนแรงแต่ยังมีแรงอยู่ในจังหวะนี้ ฉินสือโอวบังคับกระดานให้ไถลขึ้นไป กลายเป็นเวฟในคลื่นทะเลใสที่เห็นเด่นชัด
ไถลลงมาตามคลื่นทะเล ฉินสือโอวถามขึ้นว่า “เป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
วินนี่ยิ้มแล้วตอบว่า “คุณเล่นอย่างสบายใจได้เลย ถึงแม้ว่าทักษะการโต้คลื่นของฉันจะทั่วๆ ไป แต่ฉันก็เคยเรียนมาก่อนนะ”
ฉินสือโอวพยักหน้า เขาใช้แขนขวาโอบวินนี่ไว้ ให้วินนี่เป็นคนปรับความเร็วบนรีโมตบังคับที่อยู่บนแขนเอง คนหนึ่งควบคุมทิศทาง คนหนึ่งควบคุมความเร็ว ทั้งคู่ล่องลอยไปด้วยกัน
คลื่นลูกใหญ่อีกลูกซัดถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เขาบังคับทิศทางให้พุ่งเข้าหาตามสัญชาตญาณ
แต่ปรากฏว่าคลื่นลูกนี้ยิ่งหมุนเกลียวเข้าหายิ่งแข็งแกร่ง ก่อตัวใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นจนมาอยู่ตรงหน้ากลายเป็นคลื่นลูกมหึมา!
“บ้าเอ๊ย!” ฉินสือโอวอุทานด้วยความตกใจ รีบกอดวินนี่แล้วกระโดดลงน้ำ หลบอยู่ข้างๆ กระดานโต้คลื่น
“ตูม!” เสียงดังสนั่น คลื่นทะเลกระทบถูกกระดานเสียงดังลั่นจนกระดานดำดิ่งลงไปใต้ทะเลราว 4-5 เมตร
รอจนคลื่นผ่านไป ฉินสือโอวและวินนี่ถึงค่อยว่ายขึ้นมาเหนือน้ำ เรือเออร์บักแล่นเข้ามา ช่างภาพบนเรือถามขึ้นว่า “เป็นไงบ้าง เพื่อน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ฉินสือโอวทำท่ามือว่าโอเค ปีนขึ้นไปบนกระดานโต้คลื่นแล้วนั่งยองอยู่บนนั้น แล้วจึงดึงวินนี่ขึ้นไป
ช่างภาพคนหนึ่งที่ดูเป็นคนเล่นกีฬาประเภทเดียวกัน อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “เพื่อน ทักษะและแรงของคุณมันเหนือคำบรรยายจริงๆ คนที่จะสามารถพาคนอื่นโต้คลื่นไปด้วยกันแบบคุณได้มีอยู่น้อยมาก อีกอย่างคุณยังสามารถพาใครขึ้นไปบนกระดานด้วยกันก็ได้ ผมไม่เคยเห็นคนเก่งสุดยอดแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ!”
สิ่งนี้ไม่ได้โอ้อวดจนเกินจริงเลย เพราะการโต้คลื่นสองคนก็นับว่าเก่งแล้ว แต่การที่จะเหมือนฉินสือโอวลากใครสักคนขึ้นไปเล่นบนกระดานด้วยกันเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะกระดานไม่สามารถรับแรงดันในน้ำได้ และยากที่จะรักษาสมดุล
แต่สำหรับเขาเป็นเรื่องง่ายดาย แค่ใช้จิตใต้สำนึกแห่งโพไซดอนช่วยทำให้คลื่นสงบก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอไง?
และในเวลานี้เอง เงาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นใต้ผิวน้ำ จากเงารางๆ ก็เริ่มกลายเป็นเห็นเด่นชัดขึ้น น้ำรูปตัว v ถูกพ่นขึ้นมาด้วยความรุนแรง มีแรงมหาศาล แนวน้ำตรงดิ่ง พ่นขึ้นมาสูงถึง 5-6 เมตรได้
“รีบถ่ายเร็ว!” ผู้กำกับที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์เมื่อเห็นฉากนี้ก็รีบร้องด้วยความตกใจ “วาฬ วาฬปรากฏตัวแล้ว!”
ฉินสือโอวยิ้มบางๆ เขาสัมผัสได้ตั้งนานแล้ว แต่เซอร์ไพรส์มันคือต่อจากนี้ต่างหาก นี่แค่วาฬหัวคันศรตัวโตที่นำทีมมา วาฬไรท์ตัวอื่นๆ ค่อยๆ ว่ายตามมาด้านหลังแล้ว
เขาโอบกอดวินนี่ ขาทั้งสองข้างคุมกระดานให้ลอยข้ามยอดน้ำที่พ่นออกมาจากหัววาฬไรท์ หลังจากนั้นน้ำก็พ่นขึ้นมาต่อ หากมองจากท้องฟ้า จะเห็นได้ว่าผิวน้ำเริ่มมีเงาปรากฏทีละตัวๆ เงาที่เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายสุดกลายเป็นวาฬหลายตัว
“โอ้ พระเจ้า นี่มันโลกในนิยายชัดๆ!” ช่างภาพคนหนึ่งพึมพำออกมา
ผู้กำกับถามว่า “ถ่ายไว้หรือยัง? รีบถ่ายไว้เร็ว! ต้องถ่ายเก็บไว้ให้ได้!”
ช่างภาพคนนั้นตอบกลับว่า “แน่นอน เพื่อน ผมถ่ายเก็บไว้แน่นอน! เพราะผมจะไปชิงถ้วยรางวัลทองคำภาพถ่ายระดับโลก “National Geographic”! ผมกล้าพนันเลยว่า ผมต้องได้ถ้วยรางวัลทองคำแน่ๆ!”
ฉินสือโอวเล่นสกีน้ำอยู่ด้านหน้าพร้อมกับโอบกอดวินนี่ไว้ วาฬไรท์ 7 ตัวว่ายตามอยู่ด้านหลังเป็นพรวนๆ เมื่อเป็นแบบนี้คลื่นก็ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องพูดถึงคลื่นที่ก่อตัวจากลมทะเลเลย แค่วาฬไรท์ 7 ตัวว่ายขยับไปมาบนผิวน้ำก็ทำให้ก่อคลื่นลูกใหญ่ได้เพียงพอแล้ว
ผ่านไปหลายนาที บอลหิมะและตัวอื่นๆ ก็ว่ายตามมา ตัวของบอลหิมะและไอซ์สเกตมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงไม่ยอมว่ายโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ต่างจากบีนที่มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มจากโผล่หัวออกมาก่อนแล้วว่ายวนอยู่ 2 รอบอย่างมีความสุข หลังจากนั้นจึงกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
เมื่อพวกบีนปรากฏตัว ฉินสือโอวจึงเปลี่ยนวิธีการ เขากลับไปที่เจ็ทสกีเทพเจ้าสายฟ้ามืด ให้วินนี่จับเชือกไว้ให้ดีแล้วยืนอยู่บนกระดานโต้คลื่น เคลื่อนตัวไปด้านหน้าตามเจ็ทสกี ลากเธอให้บินล่องอยู่ด้านหลัง
บีนเริ่มแสดงความสามารถบ้าง ความเร็วในการว่ายน้ำของมันเหนือกว่าสิ่งใด และในเวลานี้เองที่ความว่องไวและรวดเร็วของเจ้าโลมาปากขวดแสดงให้เห็นบนหน้ากล้อง มันไล่ตามวินนี่ที่อยู่บนกระดานโต้คลื่นอยู่ตลอด และคอยกระโดดโผล่เหนือผิวน้ำอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นปลาคาร์ฟที่จะข้ามประตูมังกร เกิดเป็นแรงกระเพื่อมตามเจ็ทสกีไป
ขณะที่บีนว่ายอยู่ในน้ำอย่างรวดเร็ว มันก็ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นตลอด ซึ่งนี่ถือเป็นคลื่นอัลตร้าโซนิคชนิดหนึ่งที่มนุษย์จะไม่ได้ยินเสียง แต่โลมาด้วยกันจะได้ยิน ดังนั้นจึงมีโลมาหลายตัวปรากฏตัวขึ้น กระโดดขึ้นลงเหนือผิวน้ำตามบีน
……………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset