ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1600 ทรงผมชี้ตั้งที่รับไม่ได้

ไม้พาโลซานโตที่ใหญ่ที่สุดชั่งน้ำหนักในตอนท้ายได้ 5220.8 กิโลกรัมซึ่งน้อยกว่า 5 ตันครึ่ง ของสิ่งนี้มีมูลค่ามาก จึงขายตามน้ำหนัก แต่ผู้ที่ประมูลทำการประมูลไปทั้งต้น ฉินสือโอวจึงลดราคาให้เป็นพิเศษ โดยตัดเลขทศนิยมหลังจุดออกไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ไม้พาโลซานโตที่มีน้ำหนัก 5 พันกว่ากิโล ด้วยราคาหนึ่งกรัม 5.4 ดอลลาร์แคนาดา ราคารวมแล้วก็เกือบจะ 28 ล้านดอลลาร์แคนาดา
เบลคเคยบอกฉินสือโอวว่า ไม้พาโลซานโตถูกแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานเกินไป ถึงแม้ว่าจะมียางพิเศษที่คอยป้องกันไว้ แต่อย่างไรก็ส่งผลต่อคุณภาพของพื้นผิวของไม้ ไม่อย่างนั้นไม้พาโลซานโตที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ ราคาต้องได้มากกว่านี้เป็นเท่าตัว หนึ่งกรัมอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 10 กว่าดอลลาร์แคนาดาได้
ฉินสือโอวไม่สนใจ เพราะเขาพึงพอใจกับราคานี้แล้ว เพราะอย่างไรเขาก็เก็บได้มาฟรีๆ นับประสาอะไรกับไม้พาโลซานโตอีก 21 ต้น ต้นแรกก็ขายไปได้ 30 ล้านดอลลาร์แคนาดาซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว
จริงๆ แล้วไม้พาโลซานโตขายง่ายมาก แค่เขาปล่อยข่าวออกไป คาดว่าไม่กี่วันก็ขายออกไปได้ แต่อยู่ดีๆ ก็มีของออกมามาก ไม้พาโลซานโตจึงไม่มีมูลค่า ของสิ่งนี้เมื่อก่อนปีๆ หนึ่งจะมีออกมาแค่ไม่กี่ตัน แต่ตอนนี้กลับออกมาหลายสิบตัน จึงส่งผลต่อตลาดมาก
นอกจากนี้แล้ว บริษัทจัดประมูลริชชี่ต้องรับผิดชอบต่อสินค้าประมูลของพวกเขา แล้วราคาของของที่ประมูลก็ขึ้นอยู่กับความหายาก จึงจะมาบอกว่าทางนี้เพิ่งประมูลออกไปได้ในราคาที่สูง รัฐบาลก็ยังประกาศว่าเป็นของหายาก แต่ด้านนั้นกลับมีไม้พาโลซานโตออกมาอีก 20 กว่าต้นแบบนี้ไม่ได้
ฉินสือโอวและบัตเลอร์เคยทำแบบนี้กับเทซึกะ โกดะ แต่ไม่สามารถเอาเปรียบเบลคแบบนี้ได้
ครั้งนี้คือรองานประมูลให้จบก่อน หลังจากนั้นหนึ่งเดือน เบลคถึงค่อยติดต่อหาลูกค้าใหม่ แต่ทว่าลูกค้าแบบนี้หาง่ายมาก ทั้งศาสนาคริสต์ อิสลามและพุทธต่างนับถือไม้จันทน์เขียวเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นขายเจ้าสิ่งนี้ให้กับผู้คนที่นับถือศาสนาก็จะไม่ออกแรงมาก
แน่นอนว่าการขายในแต่ละครั้งต้องขายในปริมาณที่น้อย ไม่เช่นนั้นของก็จะไร้ค่า
ฉินสือโอววางสาย อันเดร์ที่กำลังจิบชาไป คุยกับเออร์บักไปพลางเงยหน้าด้วยความสงสัย แล้วถามว่า “ตอนนี้ในมือนายมีไม้พาโลซานโตอยู่เหรอ? มีประมาณกี่กรัม?”
ฉินสือโอวตอบว่า “อันนี้ตอบลำบาก แต่ถ้านายถามว่าตอนนี้ฉันมีอยู่กี่ตัน ยังตอบได้ง่ายหน่อย”
อันเดร์นึกว่าเขาล้อเล่นจึงหัวเราะออกมา หัวเราะไปหัวเราะมาก็หัวเราะไม่ออก จ้องมองไปที่เขาแล้วพูดว่า “เดือนที่แล้วบริษัทจัดประมูลริชชี่ประมูลขายไม้พาโลซานโตไปได้ ฉันเห็นในข่าวเป็นต้นไม้ที่ใหญ่มาก คงไม่ใช่นายที่ขายออกไปหรอกนะ?”
ข้อมูลของผู้นำของมาประมูลจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างดีในงานประมูล นอกเสียจากว่าเป็นความต้องการของผู้นำของมาประมูล ไม่เช่นนั้นคนข้างนอกไม่มีทางเดาได้เลยว่าผู้นำของมาประมูลคือใคร
ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ เป็นผมที่ขายออกไปเอง”
อันเดร์อุทานด้วยความตกใจ “พระเจ้า ไม้พาโลซานโตใหญ่ขนาดนั้น นายหาเจอจากที่ไหน? ยังมีอีกไหม?”
ฉินสือโอวเลี่ยงตอบประเด็นหลัก “แน่นอนสิ ยังมีอีก 20 กว่าต้น แต่ไม่มีขนาดใหญ่เท่าต้นที่ประมูลแล้ว มีแค่ขนาดทั่วไป รวมๆ กันแล้วก็น่าจะได้ 20 กว่าตัน”
อันเดร์พูดอะไรไม่ออกแล้ว ส่วนเออร์บักก็ยังคงดูชิลล์ๆ สบายๆ อยู่ แต่สายตาที่มองไปที่ฉินสือโอวดูแปลกไป คาดว่าเขาน่าจะรู้ว่าจุดที่ฉินสือโอวล่าสมบัตินี้มีปัญหา
ซึ่งสิ่งนี้เป็นไปตามที่ฉินสือโอวคิดไว้ คนที่เขาไม่คิดจะปิดบังมากที่สุดก็คือชายชราเออร์บัก เพราะประการที่หนึ่งเลย ชายชราเคยใช้ชีวิตกับปู่คนรองของเขามาครึ่งชีวิต ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ต่อให้เก็บซ่อนหัวใจโพไซดอนของคุณปู่รองดีแค่ไหน แต่คาดว่าเขาก็คงพอจะรับรู้ได้บ้าง
ประการที่สอง ชายชราเป็นคนที่ฉลาดมากจริงๆ ตอนนี้เขาคิดแค่จะมีสุขภาพที่ดี ไม่สนใจต่อโลกภายนอกสักนิด ถ้าฉินสือโอวไม่พูดอะไร เขาก็เหมือนมนุษย์ล่องหนในฟาร์มปลา
สุดท้าย เขาเชื่อมั่นว่าชายชราไม่คิดร้ายกับเขา ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ทุ่มเทแรงมากมายพาเขามาที่ฟาร์มปลา และในช่วงหลายปีมานี้ก็คงไม่พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะช่วยเหลือเขาอยู่ตลอด
แม้แต่วินนี่ภรรยาคนนี้ ก็เป็นชายชราที่หามาให้ฉินสือโอว ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะชายชราพยายามพาเขานั่งสายการบินที่วินนี่ทำงานอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเช่นนั้นคนสองคนก็คงทำได้แค่เจอหน้าแค่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่ได้เจออีกเลย
เมื่อค่อยๆ ย่อยกับคำพูดของฉินสือโอวได้สักพัก อันเดร์ก็กระโดดขึ้นมา แล้วตบไปที่บ่าเขาอย่างแรง พูดขึ้นว่า “นายนี่มันเป็นหนุ่มที่โชคดีจริงๆ มีไม้พาโลซานโตเยอะขนาดนี้! อย่าขายหมดนะ เจ้าหนุ่ม สวนของนายกำลังขาดสมบัติล้ำค่าอยู่พอดี ก็ใช้ไม้พาโลซานโตนี่แหละ”
ฉินสือโอวลูบไหล่ของเขา ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “แต่ไม้พวกนี้แช่อยู่ในน้ำนานเกินไปแล้ว ไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้”
อย่ามองว่าอันเดร์อายุมาก แต่แรงกลับมีไม่น้อยเลย สมรรถภาพร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าชายหนุ่มที่ติดบ้านมาก มือที่ตบลงมาเมื่อกี้ทำเอาฉินสือโอวตกใจไม่น้อย
อันเดร์หัวเราะเสียงดัง “ใครบอกให้นายไปปลูกให้มันเติบโตล่ะ? ไม่เลย ความหมายของฉันคือ นายใช้ไม้พาโลซานโตมาทำศาลาสักแห่ง ในสวนดอกไม้สี่แบบ มีอยู่สวนหนึ่งที่เป็นสวนสไตล์จีนใช่ไหม? ซึ่งในนั้นก็มีศาลาหลายแห่ง แต่มีอยู่ศาลาหนึ่งทำจากไม้พาโลซานโต  มันช่างวิเศษจริงๆ สวยของนายจะกลายเป็นสวนในตำนาน!”
เออร์บักยิ้มแล้วพูดว่า “มีอะไรให้เป็นตำนานกัน? พวกนายกล้าประกาศให้คนนอกรู้ไหม? ศาลาไม้ที่มีมูลค่าอย่างน้อยแสนกว่าดอลลาร์แคนาดา คาดว่าขโมยทั่วทั้งโลกคงรีบแย่งกันรุม”
อันเดร์ยักไหล่ “เพราะฉะนั้น ฉันถึงแค่ให้คำแนะนำฉินสือโอว ยังไงก็ให้เขาตัดสินใจเอง”
ฉินสือโอวคิดว่าสิ่งนี้ก็ไม่เลวนะ เขาไม่จำเป็นต้องโอ้อวดความรวย แค่ตัวเองชอบก็พอแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็สร้างศาลาจากไม้พาโลซานโตดีเลย ก็พอดีกับที่เขากำลังกังวลอยู่ว่าเมื่อไรที่เขาจะขายไม้จำนวนเยอะขนาดนี้ได้หมด
เบลคนัดไว้ตอนปลายเดือนพฤษภาคม แต่ฉินสือโอวมาถึงก่อน พร้อมกับหาบริษัทออกแบบมาตกแต่งตึกขนาดเล็กที่สร้างเสร็จได้ไม่นานพอดี
เขาอาศัยอยู่ในฟาร์มปลาต้าฉินสองได้สองวัน เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินมา นี่เป็นเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวที่มีเครื่องยนต์หลายเครื่อง ฉินสือโอวมองไม่ออกว่าเป็นรุ่นไหน แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ต้องแพงมากแน่ๆ คาดว่าต้องมีราคาอย่างน้อย 18 ล้านดอลลาร์แคนาดา
เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ภายนอกมีสีฟ้าอ่อนทั้งหมด มีตราสัญลักษณ์สีทองที่ด้านซ้ายและด้านขวาทั้งสองฝั่ง ด้านซ้ายมีหัวสิงโตคำรามล้อมรอบด้วยดอกกุหลาบสีสันสวยสดงดงาม ส่วนด้านขวามีตัวอักษรสองตัวที่ทำจากดอกกุหลาบคือคำว่า DB
“ดอลบี้?” ฉินสือโอวเกาหัว เขาจำไม่ได้เลยว่ามีครอบครัวใหญ่ครอบครัวไหนที่ใช้อักษรย่อแบบนี้
ไม่ต้องสงสัยเลย เจ้าเครื่องบินลำนี้จะต้องมาจากครอบครัวใหญ่ที่มีประวัติในหน้าประวัติศาสตร์มาเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีตราสัญลักษณ์ที่โอ้อวดได้แบบนี้หรอก
ในสังคมชั้นสูงของยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะถือว่าสุดยอด แต่ต้องมีรากเหง้า ถ้าครอบครัวที่ไม่ได้มีประวัติมาอย่างน้อยสองร้อยปี ก็จะไม่สามารถสร้างตราประจำตระกูลได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้สร้างออกมาก็จะกลายเป็นแค่ของที่คนหัวเราะเยาะเย้ยกัน
เฮลิคอปเตอร์จอดอยู่บนสนามหญ้าเรียบๆ ฉินสือโอวไม่เคยทำความสะอาดฟาร์มปลานี้มาก่อน ดังนั้นพื้นหญ้าจึงค่อนข้างไม่เป็นระเบียบ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงมาใกล้ๆ ปีกที่หมุนอยู่จึงทำให้เกิดกระแสลมแรง ทั้งหญ้าสีเขียว ใบไม้แห้ง ก้อนหินจึงปลิวว่อนไปหมด!
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ร่อนลงจอดแล้ว เบลคก็กระโดดลงมา พร้อมคนอีกกลุ่มหนึ่งด้านหลัง คนนำทีมคือชายหนุ่มที่ดูกล้าหาญ มีผมสีน้ำตาลแดงไหม้ราวกับไฟที่ล้อมรอบอยู่ มองๆ ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกเป็นทรงผมชี้ตั้งที่รับไม่ได้อยู่มาก
…………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset