ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1603 เรืออับปางสองลำ

ฉินสือโอวพยักหน้า แล้วจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็พุ่งวาบออกไปทางน่านน้ำทะเลแคริบเบียนราวกับเงาที่เคลื่อนผ่านหน้าไปด้วยความเร็วสูง
ก่อนหน้านี้เขาเคยควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปที่อ่าวเม็กซิโกมาแล้ว ทะเลแคริบเบียนอยู่ไม่ไกลจากอ่าวเม็กซิโก น่านน้ำทั้งสองนี้เรียกได้ว่าเกือบจะติดกันเลย ดังนั้นการจะมุ่งหน้าไปที่ทะเลแคริบเบียนจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่สามารถบอกกับเบลคได้ เขาพยักหน้าบอกว่าเข้าใจ กลับไปแล้วจะพาวาฬเบลูก้าไปดูลาดเลาที่เกาะซานอันเดรสในทะเลแคริบเบียนให้ ถ้าตอนนั้นสามารถหาเรือซานโฮเซเจอจริงๆ พวกเขาจะได้คิดวิธีที่จะรวยเทียบเท่าประเทศได้กัน
เพิ่งจะหมดฤดูใบไม้ผลิไป บริษัทจัดประมูลริชชี่มีงานเยอะมาก ตัวเบลคในไม่กี่ปีมานี้เนื่องจากได้รับผิดชอบดูแลสมบัติจากฉินสือโอวไปมากมาย ดังนั้นในบรรดาลูกหลานรุ่นเดียวกันของตระกูลเขาจึงมีผลงานมากที่สุด และถูกสอนงานในฐานะผู้ดูแลกิจการตระกูลคนถัดไป ทำให้โอกาสที่จะออกมาเที่ยวนับวันก็ยิ่งน้อยลง
ก่อนจากไป เบลคลังเลอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ตัดสินใจเปิดปากออกมาว่า “เพื่อน เรือซานโฮเซสำหรับฉันนั้นสำคัญมากเลย ไม่ใช่แค่เพราะเงินที่อยู่ในนั้นเท่านั้น หากว่างมเรือขึ้นมาแล้วและทางตระกูลฉันได้รับสิทธิ์ให้จัดงานประมูลสมบัติที่จมได้แล้วล่ะก็ ฉันก็จะถูกตั้งให้เป็นหัวหน้าตระกูลเบลครุ่นต่อไปเลย”
คำพูดพวกนี้ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา ฉินสือโอวเข้าใจ เขาตบไปที่บ่าของเบลคแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ แม้ว่าจะไม่มีเรือซานโฮเซนายก็สามารถเป็นหัวหน้าตระกูลได้แน่นอน ทางฝั่งของบิลลี่ต้องมีการค้นพบครั้งใหญ่แน่นอน อย่างไรเสียมูลค่าของสมบัติบนเรือโจรสลัดเองก็คงไม่น้อยหรอก”
ชะงักไปพักหนึ่ง เขาก็พูดเล่นออกมาว่า “ถ้าหากพวกเราได้เรือซานโฮเซมาจริงๆ แล้วล่ะก็ นายจะยังอยากเป็นหัวหน้าตระกูลอะไรนั่นอีกเหรอ? ฉันกล้าพูดเลย มูลค่าของสมบัติบนเรือซานโฮเซมากกว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐแน่นอน ส่วนแบ่งที่นายจะได้เป็นเงินก้อนโตก้อนหนึ่งเลย ถึงตอนนั้นนายสามารถไปก่อตั้งตระกูลใหม่ได้อีกตระกูลหนึ่งแล้ว”
เบลคพูดว่า “ใช่ นี่เป็นเรื่องจริง แต่ว่ามีความจำเป็นเหรอ? รากฐานของบริษัทจัดประมูลริชชี่ไม่ใช่เรื่องที่เงินสามารถแก้ปัญหาได้หรอกนะ มีเพียงต้องใช้สิทธิอำนาจในการตัดสินใจและทรัพยากรของบริษัทจัดประมูลริชชี่เท่านั้น พวกเราจึงจะสามารถนำสมบัติที่งมขึ้นมาได้ไปเปลี่ยนเป็นเงินได้มากขึ้น”
ทั้งสองคนจากกัน ฉินสือโอวทำการเช่าเรือขนส่งลำเล็กของท้องถิ่นมาลำหนึ่ง เพื่อนำไม้พาโลซานโตที่เหลือกลับไปที่ฟาร์มปลาต้าฉิน เตรียมจะนำไปใช้สร้างศาลาไม้พาโลซานโต
หลังจากกลับถึงฟาร์มปลาแล้ว เขาปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเสี้ยวหนึ่งไว้ที่ทะเลแคริบเบียน ส่วนอีกเสี้ยวก็ให้ไปที่กรีนแลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เพื่อดูสถานการณ์การงมเรือโจรสลัดของบิลลี่
บิลลี่เป็นคนที่มีฝีมือพอสมควร เขามีการใช้ทั้งเครื่องค้นหาใต้น้ำและเครื่องโซนาร์ต่างๆ เพื่อทำการสำรวจก้นทะเลบริเวณที่เรืออับปางอยู่อย่างทุกกระเบียดนิ้ว พวกเขาเจอเข้ากับเรือโจรสลัดอับปางแล้ว แต่ว่าเพราะความลึกของน้ำ อุณหภูมิที่ต่ำและแรงดันที่สูง ทำให้งมได้ค่อนข้างยาก ถึงตอนนี้แล้วยังทำการวางแผนการงมซากกันอย่างเคร่งเครียดอยู่ ยังไม่เสร็จงานเลย
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาจึงโทรศัพท์ไปหาบิลลี่ ถามเขาว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง
ทางฝั่งบิลลี่ดีใจมาก พูดว่า “มีวี่แววแล้ว เพื่อน อดทนรออีกสักหน่อย ฉันกล้าสาบานต่อพระเจ้าเลย มากสุดหนึ่งเดือน ก่อนจะสิ้นเดือนมิถุนายนจะต้องงมสมบัติในเรืออับปางนี้ขึ้นมาได้แน่นอน! แล้วก็นะ เพื่อนรักของฉัน ครั้งนี้พวกเราเฮงแล้ว! เฮงกันจริงๆ แล้ว!”
ฉินสือโอวหยอกไปว่า “รวยจนเทียบเท่าประเทศเลยไหม?”
บิลลี่พูดว่า “หากว่าเป็นประเทศเล็กๆ อย่างทวีปแอฟริกาแล้วล่ะก็ งั้นก็ไม่มีปัญหาหรอก! นายไม่รู้ถึงมูลค่าของสมบัติล็อตนี้ พวกมันถูกรักษาไว้ด้วยน้ำมันปลาวาฬ อาทิตย์ที่แล้วตอนที่พวกเราใช้หุ่นยนต์ถ่ายภาพใต้ทะเลลงไปแล้วก็พบว่า ในนั้นมีเครื่องเซรามิกโบราณมากมายแล้วก็ยังมีเครื่องเงินเครื่องทองที่ถูกรักษาไว้อย่างดีอีกด้วย ของพวกนี้ล้วนถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเลย! จากที่ฉันรู้มา บนโลกนี้มีน้อยคนนักนะที่งมเจอสมบัติที่ถูกเก็บรักษาในสภาพดีอย่างนี้ได้!”
ฉินสือโอวบอกว่าเป็นแบบนี้ก็ดี จากนั้นก็กำชับให้เขาระมัดระวังด้วย ต้องเก็บเป็นความลับ ไม่อย่างนั้นหากว่าข่าวรั่วออกไปแล้วล่ะก็ ความปลอดภัยของบิลลี่จะเกิดปัญหาขึ้นได้
การงมสมบัติในเรือโจรสลัดเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำการค้นหาตรงบริเวณเกาะเคย์แมน เขาเริ่มค้นจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ไปได้ระยะหนึ่งก่อน แต่ก็ไม่เจอเรือซานโฮเซ
เรืออับปางในทะเลแคริบเบียนมีมากมายจริงๆ แต่ว่าที่มีมูลค่านั้นมีไม่มาก น่านน้ำแถบนี้ล้อมรอบไปด้วยประเทศอย่างเวเนซุเอลา โคลอมเบีย คิวบา และเฮติ ทำให้สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนจัดเป็นประเทศที่ขาดการพัฒนา สำหรับคนท้องถิ่นแล้วการงมเรืออับปางก็คือวิธีที่สำคัญวิธีหนึ่งที่ทำให้ได้มาซึ่งทรัพยากรทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น เรืออับปางในทะเลแคริบเบียนที่แค่ค่อนข้างมีมูลค่าหน่อย ก็ล้วนถูกงมขึ้นไปได้จำนวนหนึ่งแล้ว หากคิดว่าจะไปน่านน้ำลึก ที่นั่นก็มีกลุ่มงมซากเรือของอเมริกาคอยสอดส่องอยู่ ใครใช้ให้ทะเลแคริบเบียนอยู่ใกล้กับอเมริกาขนาดนี้ล่ะ?
ฉินสือโอวเจอเข้ากับเรืออับปางสิบกว่าลำ แต่ว่าของที่มีค่าในนั้นล้วนถูกงมขึ้นไปหมดแล้ว เรือพวกนี้ล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกปล้น มีตัวเรือบางลำที่ถูกทำลายจนแหลกกลายเป็นชิ้นๆ เลยก็มี แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นผลที่เกิดจากการงมซากนั่นเอง
ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะเคย์แมนก็คือร่องลึกก้นมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าความลึกโดยรวมของทะเลแคริบเบียนไม่ถือว่าลึก มีเพียงแค่ไม่ถึงสองพันห้าร้อยเมตรเท่านั้น แต่ว่าบริเวณรอบๆ ร่องลึกเคย์แมนกลับลึกเป็นพิเศษ มีความลึกเฉลี่ยมากกว่าหกพันเมตร จุดที่ลึกที่สุดของร่องลึกก็มีมากกว่าเจ็ดพันห้าร้อยเมตรเลย!
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำการค้นหาบริเวณรอบๆ ร่องลึกเคย์แมนสักพัก ก็ยังไม่เจอเรือซานโฮเซ เรือใหญ่มีอยู่หลายลำ แต่ก็ถูกทำลายอย่างหนัก ในนั้นไม่มีสมบัติ หลักๆ จะเป็นสินค้ามากกว่า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรือซานโฮเซ
ร่องลึกเคย์แมนมีภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทอยู่ไม่น้อย หลังจากที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวไปถึงแล้วสิ่งแรกที่เห็นก็คือผีควันดำในตำนาน ก็คือปล่องน้ำร้อนที่ปะทุของเหลวสีดำออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิดแล้วไหลไปในน้ำทะเล
ปล่องน้ำร้อนสีดำนี้มองเห็นได้ชัดมากในน้ำทะเล บริเวณรอบๆ ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิต มองดูแล้วราวกับเป็นนรกก็ไม่ปาน
ฉินสือโอวรู้ ผีควันดำเป็นปล่องพ่นน้ำร้อนใต้ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก มันอุดมไปด้วยเหล็กซัลไฟด์ทำให้มีสีดำ อุณหภูมิสูงเป็นพิเศษ มีจุดเดือดของของเหลวที่เกือบ 500 องศาเซลเซียส แม้จะมีแบคทีเรียที่ชอบอุณหภูมิสูงมาที่นี่ก็ไม่รอดเช่นกัน
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว เขารู้สึกห่อเหี่ยวใจเล็กน้อย หากว่าในตอนนั้นเรือซานโฮเซได้จมลงมาในน่านน้ำที่อยู่ในรัศมีของผีควันดำแล้วล่ะก็ งั้นตอนนี้ก็คงไม่เหลือแม้แต่ซากแล้วล่ะ ในที่ที่มีอุณหภูมิแบบนี้แม้จะเป็นทองคำแท้ก็ยังสามารถละลายได้เลย
เขาทำการค้นหาบริเวณรอบๆ ต่อ ก็ได้พบเข้ากับปล่องน้ำร้อนสีขาวปล่องหนึ่ง อุณหภูมิของที่นี่ต่ำกว่าผีควันดำไม่น้อย จึงเริ่มมีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตโผล่มาให้เห็นบ้าง จิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปเจอเข้ากับไส้เดือนทะเลตรงบริเวณรอบๆ ปากปล่องน้ำร้อน สิ่งมีชีวิตแบบนี้ก็เหมือนกับสัตว์เอเลี่ยน มีบางตัวสามารถยาวได้ถึงสองเมตร ปล้องใหญ่และเรียว พวกมันกำลังดิ้นไปมาในน้ำที่เดือดจัด ซึ่งทำเอาคนขนลุกได้มากกว่าเห็นงูทะเลอีก
นอกเหนือจากนี้ เมื่อไปยังจุดบริเวณที่อุณหภูมิต่ำกว่านี้ ก็ได้มีเงาของหอยตลับใหญ่ยักษ์ปรากฏออกมา พวกมันโตจนมีขนาดใหญ่เท่ากับเครื่องซักผ้าได้เลย เปลือกก็หนามาก เนื้อตัวเป็นสีเหลืองอ่อน เนื้อของหอยตลับพวกนี้กินไม่ได้ เพราะเนื้อแก่มาก แต่ก็แน่นอนว่าหากว่าเป็นเนื้ออ่อนการมาอยู่ในอุณหภูมิน้ำแบบนี้คงได้ถูกต้มจนสุกไปแล้วแน่นอน
ในสถานการณ์แบบนี้ การที่ฉินสือโอวจะหาเรือซานโฮเซเจอนั้นเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นทะเลแคริบเบียนไม่ใช่ทะเลสาบเฉินเป่า มีพื้นที่กว้างเกือบสามล้านตารางกิโลเมตรเลย ตำแหน่งที่เบลคให้เขามาไม่ได้เรื่อง จะต้องพึ่งตัวเองในการค้นหานี้แล้ว
หาอยู่ทั้งคืน แม้ว่าจะพบเข้ากับเรืออับปางเป็นจำนวนมากก็เถอะ แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย ในนั้นไม่มีของมีค่าอะไร ด้วยความที่เบื่อเต็มทน เขาจึงดึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับแล้วเข้านอนไป
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset