ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1609 วันเก็บเกี่ยวปลิงทะเล

ที่ฉินสือโอวได้เลี้ยงปลิงทะเลไว้สองชนิด คือปลิงขาวและปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ ในนั้นชนิดแรกจะเติบโตได้เร็วเนื้อแน่น แต่หากพูดถึงสารอาหารแล้วปลิงทะเลขั้วโลกเหนือจะดีกว่า อายุของปลิงทะเลขั้วโลกเหนือตามธรรมชาติที่เก็บเกี่ยวกันปกติจะอยู่ที่มากกว่าสิบปี ส่วนปลิงทะเลที่เลี้ยงกันทั่วไปแค่ปีสองปีก็จะเก็บเกี่ยวขึ้นมาแล้ว เป็นธรรมดาที่ทั้งสองแบบนี้จะแตกต่างกันมาก
ปลิงทะเลเหล่านี้เป็นของที่เขาเลี้ยงไว้ตั้งแต่ปีที่สองที่มาถึงฟาร์มปลาแล้ว ในระหว่างเลี้ยงก็ได้ถ่ายเทพลังโพไซดอนให้ตลอด ไม่ว่าจะปลิงขาวหรือว่าปลิงทะเลขั้วโลกเหนือก็เติบโตกันได้ไม่เลว แต่ว่าการที่ฉินสือโอวนำทีมมาในครั้งนี้ก็เพื่อจะมาเก็บเกี่ยวปลิงขาว ส่วนปลิงทะเลขั้วโลกเหนือนั้นก็ให้มันได้โตอีกสักหนึ่งปี
แน่นอน หากว่าได้เจอกับปลิงทะเลขั้วโลกเหนือที่โตได้ที่แล้วล่ะก็ ก็ต้องจับขึ้นมาเหมือนกัน เพราะหากว่าโตจนถึงขีดสุดแล้ว แม้จะเลี้ยงต่อก็ไม่ตัวใหญ่ไปกว่านี้อยู่ดี
อุณหภูมิน้ำของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงปลิงทะเลและเป๋าฮื้อ ปลิงทะเลทั่วไปหากอยู่ในอุณหภูมิน้ำที่ต่ำกว่าห้าถึงหกองศาเซลเซียสแล้วจะทำให้หยุดการล่าอาหารแล้วเข้าสู่การจำศีลทันที พวกมันดูแลยากมาก พออุณหภูมิสูงจะจำศีลฤดูร้อน พออุณหภูมิต่ำก็จะจำศีลฤดูหนาว ในช่วงเวลานี้จะไม่เติบโตขึ้นเลย และไม่เหมาะจะเก็บเกี่ยวอีกด้วย
หลังจากชาร์คออกคำสั่งให้จับปลิงทะเลแล้ว เหล่าชาวประมงก็เริ่มยุ่งกันขึ้นมา มีแค่ชาวประมงที่ฝีมือดีเท่านั้นที่จะสามารถลงทะเลไปจับปลิงทะเลได้ เกิงจุนเจี๋ยกับเหล่าชาวประมงอีกยี่สิบกว่าคนที่มาทีหลัง รับผิดชอบเรื่องการงานเบื้องหลัง เพราะพวกเขาไม่สามารถลงทะเลได้
งานจับปลิงทะเลเป็นงานที่ลำบาก พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้วก็จะต้องแช่รออยู่ในน้ำวันละสิบกว่าชั่วโมง แรงดันน้ำกับการแช่น้ำเป็นเวลานาน จะทำให้คนจับเป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อและปอดได้ทุกชนิด
แต่ว่าหากเทียบกับรายได้และการลงแรงแล้ว ฤดูกาลจับปลิงทะเลครั้งหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งถึงสองเดือน ในเวลาอันสั้นนี้ คนจับปลิงสามารถหารายได้ห้าถึงแปดหมื่นดอลลาร์แคนาดา มากกว่ารายได้ต่อปีของพนักงานบริษัททั่วไปเสียอีก
แต่ว่า ในปัจจุบันคนที่ยอมลงน้ำไปจับปลิงทะเลก็ยังน้อยอยู่ เพราะคนหนุ่มสมัยนี้ทนกับความลำบากของงานนี้ไม่ค่อยได้
ชาร์คสวมชุดดำน้ำ นี่เป็นชุดดำน้ำแบบหนัก มีลักษณะคล้ายกับกระป๋อง คนหลบอยู่ด้านใน มีสายออกซิเจนท่อหนึ่งต่อไว้กับชุดดำน้ำและเครื่องสร้างออกซิเจนบนเรือ บนชุดดำน้ำยังมีเหล็กถ่วงไว้ด้วย เพื่อถ่วงให้คนจมลงไปใต้ทะเล
สวมชุดดำน้ำเสร็จ เขาก็พูดออกมาว่า “ปัจจุบันคนที่ยอมทำงานจับปลิงทะเลนับวันก็ยิ่งน้อยจริงๆ คนจับปลิงที่เก่งกาจก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ตอนที่พ่อของผมยังหนุ่ม วันหนึ่งสามารถจับปลิงทะเลได้ถึงสองพันกว่าปอนด์เลย พวกเราในตอนนี้ทำกันไม่ได้หรอก วันหนึ่งสามารถจับได้หนึ่งพันกว่าปอนด์ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว”
ฉินสือโอวต้องเป็นคนนำทีม เขาเองก็สวมชุดดำน้ำแบบหนักนี้ไว้ด้วย ยิ้มแล้วพูดว่า “นั่นก็ไม่เลวนะ วันละหนึ่งพันปอนด์ รายได้จะอยู่ที่สองพันดอลลาร์แคนาดา เท่ากับตกเดือนหนึ่งก็หกหมื่นเหรียญเลยนะ”
แม้ว่าฟาร์มปลาจะจ้างชาวประมงไว้ แต่ว่าในการทำงานต่างๆ เขาก็จำต้องให้เงินรางวัลพิเศษแก่ชาวประมงด้วย อย่างเช่นการตกปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ชาวประมงที่ตกปลานี้ขึ้นมาได้จะได้รับเงินโบนัสด้วย แล้วก็อย่างเช่นการจับปลิงทะเล เหล่าชาวประมงก็จะได้รับโบนัสเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วก็จะได้ที่ปอนด์ละหนึ่งดอลลาร์แคนาดากว่าๆ
ฉินสือโอวดูแลชาวประมงที่มากประสบการณ์ดีกว่ามาก สวัสดิการที่ให้จะเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่ง เหล่าชาวประมงสามารถได้เงินที่สองเหรียญดอลลาร์แคนาดา ซึ่งดีกว่าไปทำงานด้านนอกมากเลย
ปลิงทะเลจะมีค่ามากก็ต่อเมื่อถูกนำไปตากแห้งแล้ว แต่ปลิงทะเลคุณภาพดีที่ฟาร์มปลาต้าฉินออกจัดจำหน่าย แม้ว่าจะเป็นปลิงทะเลสำเร็จรูป ก็ยังมีราคาสูงอยู่ดี ตัวที่มีขนาดใหญ่สวยงามหนึ่งปอนด์ขายได้หนึ่งร้อยกว่าดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะให้โบนัสกับชาวประมงมากกว่าปกติ
เกิงจุนเจี๋ยและพวกพากันมองไปที่ชาวประมงฝีมือดีด้วยความอิจฉา มีคนถามว่าสามารถตามลงไปดูงานด้วยได้ไหม พวกเขาทนความลำบากได้ ออกประเทศมาก็เพื่อมาหาเงิน ดังนั้นจึงไม่อยากปล่อยโอกาสในการหาเงินไป
ฉินสือโอวส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฤดูหนาวยังต้องมาเก็บปลิงทะเลอีกล็อตหนึ่ง พวกนายรอครั้งหน้าแล้วกัน ครั้งนี้ก็ดูดีๆ แล้วกันว่าทำอย่างไร ปกติก็หมั่นฝึกดำน้ำด้วย นี่ไม่ได้เล่นๆ นะ เพื่อนทั้งหลาย อันตรายมากเลย!”
ในหนึ่งปีจะมีฤดูเก็บเกี่ยวปลิงทะเลอยู่ประมาณสองครั้ง ฤดูใบไม้ผลิอยู่ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิน้ำของแคนาดาค่อนข้างต่ำ เดือนพฤษภาคมจึงเป็นเดือนดีที่จะเก็บปลิงทะเล เดือนมิถุนายนก็เก็บได้เหมือนกัน ส่วนการเก็บเกี่ยวปลิงทะเลในฤดูใบไม้ร่วงปกติจะอยู่ในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนธันวาคม
เรือหาปลาลำหนึ่งมีชาวประมงอยู่สองคน พวกเขาจะร่วมมือกันทำงานในน่านน้ำบริเวณหนึ่ง นี่ก็เพื่อป้องกันการที่คนลงไปพร้อมกันหลายคนแล้วทำให้สายออกซิเจนเกิดการพันกันขึ้นมา ฉินสือโอวกับบูลอยู่เรือลำเดียวกัน พอหลังจากไปถึงน่านน้ำที่กำหนดแล้ว ก็เริ่มเปิดเครื่องผลิตออกซิเจนบนเรือให้ทำงาน พวกเขาเตรียมจะลงน้ำแล้ว
บูลทำการยืดเส้นเพื่อเป็นการอุ่นร่างกาย เขาพูดว่า “บอสครับ ที่ที่พวกผมเลือกเป็นอย่างไรบ้างครับ? ผมกะว่าวันนี้จะหาให้ได้สี่พันเหรียญ ใช่ครับ ผมจะลงไปจับปลิงทะเลสองพันปอนด์!”
ฉินสือโอวมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “จากวิชาการดูฮวงจุ้ยห้าธาตุพิชิตมังกรแล้ว ด้านล่างของพวกเรานั้นเต็มไปด้วยปลิงทะเล อีกเดี๋ยวลงไปสามารถจับกันให้เต็มเหนี่ยวไปเลย”
จุดพักพิงของปลิงทะเลจะมีเป็นแบบแผน เพราะว่าฤดูหนาวของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์หนาวมาก ดังนั้นพวกมันจะไปรวมตัวกันตรงทางน้ำอุ่นในทะเล ฟาร์มปลามีทางน้ำอุ่นอยู่ไม่กี่สาย แต่ละสายมีอาณาเขตเท่าไร เหล่าชาวประมงล้วนรู้กันอย่างละเอียดทุกคน
นอกเหนือจากนี้ ปลิงทะเลยังชอบไปเกาะอยู่บนโขดหินและปะการังเพื่อดำรงชีวิตอีกด้วย ดังนั้นขอแค่นำปัจจัยพวกนี้มารวมกันแล้วกรองออกมา ก็จะทำให้หาจุดรวมตัวของปลิงทะเลออกมาได้ง่ายมาก
นำอวนใส่ปลิงทะเลแขวนไว้บนเอวแล้ว ฉินสือโอวกับบูลก็กัดท่อออกซิเจนสวมหน้ากากที่เหมือนกับหมวกกันน็อก ชูนิ้วโป้งให้กันเพื่อบอกสัญญาณแล้วก็นั่งลงบนขอบเรือหันหลังให้กับทะเล บุ๋มทีหนึ่งหงายตัวตกลงไปในทะเล
พอพวกเขาจมลงไปแล้ว ท่อออกซิเจนบนเรือก็เหมือนกับงูตัวเล็กที่เลื้อยตามลงไปด้วย บนเรือมีชาวประมงคอยรับผิดชอบงานเบื้องหลังอยู่ด้วย เมื่อเห็นว่าท่อออกซิเจนใกล้จะพันกันแล้ว ก็ต้องรีบเข้าไปแก้ออก เพื่อให้แน่ใจว่าออกซิเจนสามารถเข้าไปในปากของคนที่ทำงานอยู่ในน้ำได้อย่างต่อเนื่อง
น่านน้ำผืนนี้ที่ฉินสือโอวเลือกอยู่ตรงปลายเขตทางใต้ของแนวปะการัง มีทางน้ำอุ่นผ่านสายหนึ่ง ปลิงทะเลที่นี่ไม่เพียงแต่จำนวนมากยังตัวใหญ่มากอีกด้วย ตามปกติแล้ว ปลิงทะเลจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปีจึงจะสามารถนำมาทำเป็นอาหารตากแห้งได้ เพราะต้องโตให้เต็มที่ก่อนจึงจะดี
ใต้ทะเลเป็นผืนทรายที่สะอาดสะอ้าน ปลานกแก้วที่สีสันสวยงามจำนวนหนึ่งกำลังมุดเข้ามุดออกปะการัง ปากเล็กๆ ขยับไปมาไม่หยุด มีเม็ดทรายถูกถ่ายออกมาจากร่างกายของพวกเขา
นี่ก็คือเหตุผลที่ฉินสือโอวเลี้ยงปลานกแก้วจำนวนมากไว้ พวกมันสามารถทำให้แนวปะการังที่ตายแล้วกลายไปเป็นเม็ดทรายที่เนียนละเอียดได้
หลังจากบูลเข้าไปในน้ำมองเห็นแนวปะการังที่สวยงามราวกับความฝันนี้แล้ว ก็ตกอยู่ในภวังค์ไปพักหนึ่ง เขาไม่ได้ลงมือจับปลิงทะเลในทันที แต่กลับเดินไปเลียบแนวปะการังไปทางปลายทางอีกฝั่ง แล้วก็ยื่นมือออกไปจับแนวปะการังเป็นพักๆ
จุดที่ฉินสือโอวตกลงไปก็มีปลิงทะเลอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ว่าเขามองดูไปที ส่วนมากจะเป็นปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ ขนาดตัวค่อนข้างเล็ก ไม่จำเป็นต้องจับ
ปลิงทะเลตัวเล็กไม่สามารถจับได้ตามใจชอบ เหตุผลไม่เพียงแต่เพราะพวกมันตัวเล็กเท่านั้น ยังเพราะเนื้อของพวกมันเหลว ไม่สามารถนำมาทำเป็นปลิงทะเลตากแห้งได้ หากว่าฝืนนำออกไปขาย อย่างมากก็นำไปทำได้แค่ปลิงทะเลสำเร็จรูปเท่านั้น ปลิงทะเลสำเร็จรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่สารอาหารไม่เพียงพอ รสสัมผัสก็ไม่ดีด้วย ในตลาดไม่มีคนอยากซื้อหรอก
ปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปวนเวียนบริเวณรอบๆ หนึ่งรอบ ฉินสือโอวก็หาฝูงปลิงทะเลฝูงใหญ่เจอได้ในทันที หลังจากเขาว่ายเข้าไปมองดูแล้ว ก็เจอเข้ากับปลิงทะเลตัวใหญ่ ผิวสีขาวดังหิมะตัวหนึ่ง
แม้ว่าชื่อปลิงขาวจะมีคำว่าขาวอยู่ด้วย แต่ในความเป็นจริงร่างกายพวกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำว่าขาวเลย เจ้าปลิงขาวตัวนี้เป็นการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ เป็นปลิงทะเลที่กลายเป็นสีขาว
ปลิงขาวตัวนี้ตัวอ้วนมาก ฉินสือโอวยื่นมือออกไปอยากจะหยิบขึ้นมา บูลที่อยู่ใกล้ๆ เห็นเข้าแล้วก็รีบโบกไม้โบกมือให้กับเขาทันที
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset