ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1612 การชนกันที่นำมาโดยภาพโฆษณา

มองดูท่าทีทะเล้นของวิลแล้ว ฉินสือโอวก็ถามกลับไปอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “ดังแล้ว ดังอย่างไร? ดอกไม้แดง (ในภาษาจีนสีแดงกับโด่งดังใช้คำเดียวกัน) แล้วเหรอ?”
วิลยื่นมือถือให้เขา หัวเราะเหอๆ แล้วพูดว่า “ดูนี่ นายดูอันนี้ก็จะเข้าใจเอง!”
ฉินสือโอวรับมือถือมาดู บนหน้าจอเป็นคลิปวิดีโอระดับเอชดีคลิปหนึ่ง ในนั้นเป็นเขาที่กำลังอุ้มวินนี่ยืนโต้คลื่นทะเลอยู่บนกระดานโต้คลื่นไฟฟ้า มองดูแล้วมีสง่าราศีอย่างมาก เห็นแต่เพียงแผ่นหลังที่โค้งเว้าของเขาอุ้มวินนี่ไว้ในอ้อมกอด ด้านหน้าเป็นน้ำทะเลที่กว้างใหญ่ ส่วนด้านหลังก็เป็นคลื่นสูงลูกใหญ่
มองแค่ปราดเดียวเขาก็เข้าใจแล้ว อ้อ นี่เป็นคลิปโฆษณาการท่องเที่ยวที่เขากับวินนี่ถ่ายกัน และก็ถือเป็นภาพศิลป์ของทั้งสองคนด้วย ที่ถ่ายเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกในภายหลัง
เขาดูไปพลางถามไปพลางว่า “นี่นายไปดูมาจากไหน? เวยป๋อหรือว่าทวิตเตอร์ของเมือง?”
“ไม่ใช่ทั้งสองแหละ เป็นในยูทูบ นี่เป็นคลิปที่เพิ่งจะอัปโหลดขึ้นไปเมื่อเช้านี้เอง แต่หลังจากนั้นก็มียอดวิวเกินกว่าห้าล้านครั้งแล้ว มีโอกาสที่จะเป็นคลิปที่ทำลายสถิติการถูกคลิกชมมากกว่าล้านวิวกับสิบล้านวิวได้เร็วที่สุดในปีนี้เลย นายไปอ่านคอมเมนต์ด้านล่างดู สุดยอดมากเลยนะ!” วิลพูดด้วยสีหน้าตื่นตาตื่นใจ
ฉินสือโอวกดออกไปดูคอมเมนต์ จริงตามนั้น คอมเมนต์อลังการมาก มีคำชมมากมาย แน่นอนว่าก็มีคนบอกว่านี่เป็นภาพที่แต่งขึ้นมา แต่ด้านล่างก็มีคนมาเมนต์ตอบว่าแน่นอนว่าเป็นภาพแต่ง คนเขาก็พูดชัดเจนในหัวข้อแล้ว ว่านี่เป็นวิดีโอโฆษณาการท่องเที่ยวของเมือง
“หนุ่มหล่อคนนี้เป็นใคร? หุ่นคือแซ่บมากเลย ฉันทนไม่ไหวแล้ว ที่แท้หุ่นของคนผิวเหลืองก็ดีขนาดนี้ได้ด้วยนะเนี่ย”
“สาวสวยที่อยู่ในอ้อมกอดเขาคือใคร? ดาวเด่นคนปัจจุบันของวิกตอเรียส์ซีเคร็ตเหรอ? ไม่ได้ละ ผมขอถอดรอเลยแล้วกัน ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“มีแค่ฉันที่สังเกตเห็นแผ่นโต้คลื่นไฟฟ้ารุ่นแรกที่ X-AB เปิดตัวออกมาเหรอ? เจ้าสิ่งนี้แพงมากเลยนะ แถมยังบังคับยากอีกด้วย แม้ว่าจะเป็นนักโต้คลื่นมืออาชีพ ก็อาจจะบังคับไม่ได้ตามใจนึกแบบนี้หรือเปล่า?”
“ดูต่อไปอีก ตอนใกล้จะเข้านาทีที่ยี่สิบห้าน่ะ สวยจนร้องไห้ออกมาเลย! สวยจนฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากแจ้งตำรวจแล้ว”
ฉินสือโอวยิ้มจนส่ายหัว เขาเลื่อนวิดีโอไปที่นาทีที่ยี่สิบห้า ทันใดก็มีภาพเขากับวินนี่ยืนอยู่บนกระดานโต้คลื่นกำลังพุ่งไปด้านหน้าพร้อมกับฝูงวาฬหัวคันศรฝูงหนึ่งฉายออกมา ในภาพได้มีห้วงน้ำพุ่งออกมาไม่หยุด เงาของวาฬโผล่ออกมาเดี๋ยวชัดเดี๋ยวเบลอ กล้องซูมเข้ามาใกล้ขึ้น มาหยุดลงที่ภาพเขากับวินนี่ที่มีสีหน้าสงบสุขกับเหล่าวาฬที่ดูเชื่อง
ภาพพวกนี้ล้วนถูกตัดต่อมาแล้ว กองถ่ายทำที่วินนี่จ้างมาทีมนี้เก่งมาก ฝีมือการตัดต่อของผู้กำกับระดับเทพมาก คลิปวิดีโอนี้ได้ถ่ายทอดแนวคิดที่คนสามารถอยู่ร่วมกับมหาสมุทรได้อย่างเป็นมิตรออกมาตลอดเวลา และทำการแสดงความสงบงดงามของเมืองและความสะอาดบริสุทธิ์ของมหาสมุทรได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผู้คนในเน็ตที่รู้จักเขากับวินนี่ก็มีไม่น้อยเลย คิดว่าหลักๆ น่าจะเป็นคนนิวฟันด์แลนด์ มีบ้างที่แสดงความคิดเห็นเพื่อแนะนำเขากับวินนี่ ว่าคนหนึ่งเป็นหนุ่มอัจฉริยะเจ้าของฟาร์มปลา อีกคนเป็นนายกสภาเมืองที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ของแคนาดา แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากกว่าที่แนะนำตัวให้หู่จือกับเป้าจือที่ออกมาทีหลัง พวกมันเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดาไปแล้ว
วิดีโอโฆษณาตัวเมืองประสบความสำเร็จอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย ฉินสือโอวบันทึกที่อยู่เว็บไซต์เอาไว้ วิลถามว่า “นายจะแชร์ไปในทวิตเตอร์เหรอ?”
ฉินสือโอวส่ายหัว พูดว่า “ไม่ ฉันเก็บเอาไว้ ไว้อีกหน่อยค่อยๆ ดู”
วิลพูดว่า “ทำไมไม่แชร์ล่ะ? หากว่าฉันมีคลิปที่ดังขนาดนี้แล้วล่ะก็ ฉันจะรีบแชร์ไปบนทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊กก่อนเลย ขอแค่เป็นแอปพลิเคชั่นที่ไว้เข้าสังคมฉันก็จะแชร์ให้หมดรอบหนึ่ง ไม่ใช่เพราะอยากอวดเท่ แต่ว่าวิดีโอนี้ถ่ายได้สวยงามจริงๆ นายน่าจะให้เพื่อนๆ ได้เห็นบ้าง”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้าหากพวกเขาชอบล่ะก็ สักวันก็จะมาเห็นเองแหละ ฉันไม่จำเป็นต้องไปโฆษณาอีกหรอก”
เขาได้ผ่านจุดที่แชร์ความอลังการของตัวเองเพื่ออวดเท่ไปแล้ว ตอนนี้เขาได้มีโลกใหม่แล้ว นั่นก็คือโลกที่ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องง่ายๆ ใช้ชีวิตได้ตามใจปราราถนา แน่นอนว่านี่น่ะก็เป็นโลกใหม่ที่โอ้อวดเหมือนกัน…
ความจริงเขาพูดถูกแล้ว แค่วิดีโอโฆษณาในยูทูบนี้ที่เดียว เพื่อนของเขาก็สามารถเห็นได้แล้ว ไม่นานเหมาเหว่ยหลงก็โทรศัพท์มา ถามว่า “คลิปวิดีโอของแกอันนั้น เป็นมาอย่างไรกันแน่? ให้ตายสิแกไปสร้างหุ่นอย่างนั้นมาได้อย่างไรเนี่ย”
ฉินสือโอวกลอกตา พูดว่า “พูดไร้สาระอะไรน่ะ ฉันก็หุ่นดีอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นี่ไม่เห็นเกี่ยวเลยว่าใครเป็นคนถ่ายให้! เอาจริงนะ แกไม่อยากถ่ายวิดีโอแบบนี้กับหลิวซูเหยียนบ้างเหรอไง? ถือเสียว่าเป็นความทรงจำที่ดีไง”
เหมาเหว่ยหลงพูดอย่างเลือกไม่ได้ว่า “แกคิดว่าฉันเป็นมหาเศรษฐีที่เป็นเจ้าของฟาร์มปลาขนาดกว่าหมื่นตารางกิโลเมตรอย่างแกหรือไง? ฉันมีแค่ฟาร์มปศุสัตว์เล็กๆ ฟาร์มหนึ่งเท่านั้นนะ จะถ่ายออกมาให้ได้ภาพอย่างนั้นได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวพูดว่า “ความจริงแล้ว ตอนแรกที่ฉันถ่ายก็ไม่คิดว่าจะออกมาแบบนี้นะ หลักๆ ก็คือความสามารถของผู้กำกับคนนั้นแหละที่เก่งกาจเกินไป อย่าหาว่าพี่น้องไม่บอกแกนะ ผู้กำกับคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลย คิดว่าต่อไปคงได้ไปทำงานในฮอลลีวูดแน่ แกไม่ถ่ายไว้สักคลิปจริงเหรอ?”
ฟังคำชมที่เขาพูดให้ทีมถ่ายทำนี้แล้ว เหมาเหว่ยหลงก็เกิดสนใจขึ้นมา ถามไปว่า “ดีขนาดนั้นจริงเหรอ? แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่ฉันคิดไม่ตกนะ ฉินโซ่ว จากสันดานของแกแล้ว ถึงจะมีเรื่องดีๆ แบบนี้จริงๆ แกก็ต้องไม่บอกฉันสิถึงจะถูก”
ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า “คำพูดนี้ของแกคืออะไร? ฉันเห็นแกเป็นพี่น้องนะ แกกลับคิดร้ายกับฉันแบบนี้เหรอ? โอเคฉันพูดความจริงก็ได้ ฟาร์มปศุสัตว์เล็กๆ ของแกน่ะต้องถ่ายออกมาได้แย่มากแน่ๆ ฮ่าๆ พอถึงตอนนั้นพวกเราแค่โพสต์ลงหน้าฟีดของตัวเองไป เท่านี้ก็จะทำให้วิดีโอของฉันดูดีกว่าแล้ว”
เหมาเหว่ยหลงเปิดปากด่าทอออกไปทันที ด่าเขาว่าคิดแผนชั่วร้าย ด่าเขาว่าใจอำมหิตดั่งงูและแมงป่อง ด่าเขาว่าไม่มีเจตนาดี จากนั้นก็ขอช่องทางการติดต่อของผู้กำกับคนนั้นไป แม้ว่าจะขี้เหร่หน่อยก็ไม่เป็นไร เขาถูกวิดีโอนี้ดึงดูดเข้าแล้วจริงๆ
อย่างไรก็ต้องหลงเหลือความทรงจำดีในวัยหนุ่มไว้บ้าง อีกห้าหกปี สิบปี พวกเขาก็จะกลายเป็นคนแก่วัยสี่สิบกว่าแล้ว ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะมีทรัพยากรที่ดีกว่านี้ ก็คงไม่มีกะใจอยากจะถ่ายเหมือนตอนนี้แล้วล่ะ
ช่วงพลบค่ำ แบรนดอนโทรศัพท์มา พอเปิดปากก็พูดเรื่องวิดีโอกับเขาทันที
ฉินสือโอวถามออกไปอย่างแปลกใจว่า “ฉันว่านะเพื่อน ทำไมนายถึงสนใจวิดีโอนี้ได้ล่ะ?”
แบรนดอนหัวเราะแล้วพูดว่า “นายไม่รู้สึกว่าวิดีโอนี้ถ่ายได้อลังการสุดๆ เลยเหรอ? พูดความจริงนะ พวกเราถูกฟาร์มปลาของนายดึงดูดเข้าแล้ว ฉันอยากจะไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่ฟาร์มปลาของนาย แน่นอนว่ามีบางส่วนที่ต้องไปถ่ายในเมืองด้วย”
“พวกนาย? ภาพพรีเวดดิ้ง?” ฉินสือโอวพูดออกไปอย่างตกตะลึง “นายกับสาวแอร์โฮสเตสคนนั้นจะแต่งงานกันแล้วเหรอ?”
แบรนดอนพูดว่า “ใช่แล้ว พูดว่าหมั้นน่าจะถูกกว่า เรื่องแต่งงานน่าจะต้องอีกสักพัก นอกเหนือจากนี้ ฉิน นายเอาเบอร์โทรศัพท์ของช่างภาพที่ถ่ายวิดีโอนั้นมาให้ฉันที ฉันอยากให้เขามาช่วยถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับวิดีโออีกนิดหน่อยด้วย”
ฉินสือโอวพูดว่ายินดีด้วยๆ หลายที แบรนดอนหัวเราะรับคำอวยพรไว้ บอกว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องมงคลครั้งใหญ่ของฉันจริงๆ เพื่อน ฉันยังต้องขอบคุณนายนะ เพราะว่าฉันคิดมาตลอดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้แต่งงานแล้ว แต่เพราะความรักของนายกับวินนี่ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ ทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตได้”
แบรนดอนอายุไม่น้อยแล้ว ครั้งแรกที่ฉินสือโอวเห็นเขาก็อายุสามสิบห้าปีแล้ว ตอนนี้ฉินสือโอวมาที่เกาะแฟร์เวลได้สี่ปี เท่ากับว่าเขาอายุเข้าเลขสี่แล้ว
………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset