ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1613 ปล่อยลูกพันธุ์ปลิงทะเลลงไปอีกครั้ง

การโทรมาของแบรนดอนในครั้งนี้ นอกจากมาเชิญให้ฉินสือโอวไปร่วมพิธีงานหมั้นของเขาแล้ว ก็มาเพื่อขอช่องทางการติดต่อกับผู้กำกับคนนั้นด้วย ดูท่าแล้วน่าจะให้ผู้กำกับคนนั้นไปช่วยกำกับการถ่ายภาพในพิธีงานแต่งของเขาในอนาคตเป็นแน่
ฉินสือโอววางสายแล้วก็รีบโทรไปหาบิลลี่ทันที บอกเขาว่าแบรนดอนตัดสินใจจะหมั้นแล้ว ให้ทางเขารีบจัดการงานให้เสร็จ อย่าให้พอถึงเวลาแล้วไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงพิธีหมั้นได้
บิลลี่หัวเราะร่าออกมา บอกว่าเขาไม่เพียงแต่จะไม่ขาดงานเท่านั้น แต่ยังจะนำเซอร์ไพรส์มาให้ด้วย
ฉินสือโอวเกิดฉุกคิดขึ้นมาในใจ ปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปยังน่านน้ำที่เรือโจรสลัดอยู่ ก็พบว่าหุ่นยนต์กลกำลังลากเชือกทำงานอยู่ใต้น้ำ โดยนำเชือกไปคล้องไว้บนถังเคลือบน้ำมันวาฬพวกนั้น จากนั้นก็ลากถังเคลือบน้ำมันวาฬพวกนั้นขึ้นมาก็ได้แล้ว
การงมซากแบบนี้ทำให้งานมีประสิทธิภาพดีมาก คิดว่ามากสุดก็ครึ่งเดือน ฉินสือโอวก็จะสามารถเห็นทรัพย์สมบัติในเรืออับปางลำนั้นแล้ว
อีกหลายวันหลังจากนั้น เขาได้พาทีมไปเก็บเกี่ยวปลิงทะเลต่อ คนที่เก็บเกี่ยวได้มากที่สุดก็ยังคงเป็นเขา ในครั้งนี้กองทัพกั้งได้ทำความดีความชอบครั้งใหญ่ ทั้งกลางวันกลางคืน นอกจากกินอาหารกับพักผ่อนแล้ว เวลาที่เหลือพวกมันก็ทำงานเก็บปลิงทะเลกันตลอด
การสั่งสมทรัพยากรของฟาร์มปลาในไม่กี่ปีมานี้ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากเลย วันแรกที่ฉินสือโอวพาเหล่าชาวประมงไปก็สามารถเก็บเกี่ยวปลิงทะเลได้เกือบหนึ่งหมื่นกิโลกรัมแล้ว เวลาอีกสี่ห้าวันหลังจากนั้นที่ลงทะเล แม้ว่าจะเก็บเกี่ยวได้น้อยลง แต่ว่าสุดท้ายพอคำนวณมาก็ยังได้ปลิงทะเลมาเกือบสองหมื่นห้าพันกิโลกรัมเลย
น่าเสียดายที่ปลิงทะเลเป็นไม่ค่อยมีราคา หากว่าได้ปลิงทะเลแห้งมาสองหมื่นห้าพันกิโลกรัมแล้วล่ะก็ ด้วยประสิทธิภาพของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินแล้ว จะสามารถเปลี่ยนเป็นเงินให้เขาได้อย่างน้อยก็ยี่สิบล้านดอลลาร์แคนาดาเลย
แถมนี่ยังไม่ใช่ปลิงทะเลทั้งหมดที่ฟาร์มปลามีอีกด้วย เพราะอย่างไรเสียก็ต้องเหลือปลิงทะเลไว้ให้มันขยายพันธุ์บ้าง จึงไม่สามารถทำการเก็บเกี่ยวขึ้นมาได้ทั้งหมดในครั้งเดียว พอถึงฤดูใบไม้ผลิแล้วยังสามารถทำการเก็บเกี่ยวได้อีก การปล่อยให้ของได้ขาดตลาดบ้างแบบนี้ จึงจะสามารถเพิ่มกำไรให้มากขึ้นได้
เวลาในการเก็บเกี่ยวรวมๆ กันแล้วอยู่ที่สิบกว่าวัน ปลายเดือนพฤษภาคมกำลังจะเข้าต้นเดือนมิถุนายน ในที่สุดเหล่าชาวประมงก็สามารถพักผ่อนกันได้สักระยะแล้ว หลายวันที่ผ่านมาต้องลงทะเลสิบกว่าชั่วโมงวันเว้นวัน ที่จริงก็เพราะไม่กี่ปีมานี้เหล่าชาวประมงมืออาชีพของฟาร์มปลาที่ได้กินอาหารที่มีพลังโพไซดอนอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงเหนื่อยจนล้มพับไปตั้งนานแล้ว
บัตเลอร์ขับเรือมาหา พอได้เห็นปลิงทะเลที่ตัวอ้วนท้วมสมบูรณ์จากการเลี้ยงมาในไม่กี่ปีนี้แล้ว เขาก็ดีใจเสียจนตากลายเป็นเส้นเดียว ดึงมือของฉินสือโอวมาพูดคำจำพวกว่า ‘ครั้งนี้รวยครั้งใหญ่แล้วจริงๆ’ ไม่หยุด
ฉินสือโอวคำนวณอยู่สักพัก ก็พบว่าการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลนี่ทำกำไรได้มากจริงๆ นะเนี่ย แถมนี่เป็นแค่ปลิงขาวด้วย หากว่ารอจนถึงตอนที่เก็บเกี่ยวปลิงทะเลขั้วโลกเหนือที่มีค่ามากกว่าขึ้นมาแล้วล่ะก็ งั้นรายได้ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าหนึ่งเลยไม่ใช่เหรอ?
ในเมื่อพูดถึงแล้วเรื่องนี้แล้ว อย่างไรเสียการเลี้ยงอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยมที่มีสามารถบำรุงร่างกายไว้เยอะๆ ก็ดีกว่า ฉินสือโอวจึงตัดสินใจเด็ดขาด เขาติดต่อไปหาบิลให้เขาไปจัดลูกพันธุ์ปลิงทะเลมาให้อีกล็อตหนึ่ง โดยเน้นปลิงทะเลขาวเป็นหลัก เพื่อจะได้นำไปปล่อยไว้ในฟาร์มปลา แบบนี้จะได้เก็บเกี่ยวได้เร็วยิ่งขึ้น
จะพึ่งแต่ปลิงทะเลในฟาร์มปลาให้ขยายพันธุ์อย่างเดียวนั้นทำได้ยากมาก แม้ว่าปลิงทะเลจะมีความสามารถในการขยายพันธุ์ที่แข็งแรง แต่ว่าในหนึ่งครั้งปลิงทะเลสามารถวางไข่ที่ปฏิสนธิออกมาได้ห้าแสนฟอง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิพวกนี้จะเหลือรอดเท่าไร พูดถึงที่ฟาร์มปลาต้าฉินก่อน พวกมันยังไม่ทันได้โตจนสามารถวางไข่ได้ก็ถูกจับไปเสียแล้ว
การที่ปลิงทะเลจะเติบโตจนถึงขั้นที่สามารถขยายพันธุ์ได้นั้น อย่างน้อยต้องใช้เวลาสี่ปี แต่ปลิงขาวในฟาร์มปลาต้าฉินนั้นมากสุดก็แค่สองสามปีก็ต้องทำการเก็บเกี่ยวแล้ว รอให้พวกมันขยายพันธุ์ไม่ไหวหรอก อีกอย่างกำไรจากที่ปลิงทะเลขยายพันธุ์ก็อาจจะไม่มากเท่าการเพาะพันธุ์ลูกปลิงก็ได้ การเลี้ยงลูกพันธุ์ปลิงทะเลหนึ่งคือสามารถรับประกันเรื่องอัตราการมีชีวิตรอดของพวกมันได้ สองคือสามารถเพิ่มความเร็วในการเติบโตของปลิงทะเลได้
ลูกพันธุ์ปลิงทะเลไม่ค่อยมีราคา เมื่อเป็นแบบนี้แล้วทำไมต้องรอให้พวกมันขยายพันธุ์เองตามมีตามเกิดอีกล่ะ?
การที่ฟาร์มปลาต้าฉินปล่อยให้ลูกปลาลูกกุ้งโตกันอย่างตามมีตามเกิด ทำให้เป็นเวลานานแล้วที่บิลไม่ได้เงินจากฉินสือโอวเลย เรื่องนี้ทำให้เขาเป็นทุกข์มาก ดังนั้นเมื่อได้รับข่าวจากฉินสือโอวว่าจะซื้อลูกพันธุ์ปลิงทะเลสองแสนตัวแล้ว เขาก็ตื่นเต้นสุดขีด รีบติดต่อไปที่ฟาร์มเพาะพันธุ์ลูกพันธุ์ปลิงทะเลเพื่อให้ส่งมาให้
ไม่กี่วัน เรือบรรทุกลำใหญ่สองลำก็ขับมาถึงน่านน้ำเขตฟาร์มปลา ลูกพันธุ์ปลิงทะเลได้ถูกส่งไปยังน่านน้ำของฟาร์มปลาต้าฉินเบอร์สอง
ใช่แล้ว ฉินสือโอวได้เลือกสถานที่ใหม่ในการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลแล้วก็คือที่ฟาร์มปลาต้าฉินเบอร์สองนั่นเอง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการกินอาหารของปลิงทะเลด้วย การกินอาหารของปลิงทะเลนั้นหลากหลายมาก แต่หลักๆ แล้วจะเป็นการกินอาหารที่จมลงไปใต้ทะเลเป็นหลัก อย่างเช่นของจำพวกหอยขนาดเล็ก ไดอะตอม แบคทีเรีย โพรโทซัว หอยสังข์ขนาดเล็ก และโคพีพอดขนาดเล็กเป็นหลัก นอกเหนือจากนี้ พวกมันยังสามารถกินสาหร่ายทุกชนิดอย่างเช่นเศษหญ้าปลาไหลได้อีกด้วย
ฟาร์มปลาต้าฉินถูกใช้มาเพาะสาหร่ายทะเลโดยเฉพาะดังนั้นจึงเหมาะมากที่จะสร้างฟาร์มเพาะเลี้ยงในเขตน้ำตื้น เพราะสามารถทำให้ก่อเกิดการอยู่อาศัยแบบพึ่งพากันได้
ปลิงทะเลที่เลี้ยงในทะเลน้ำลึกจะแข็งแรงกว่า และอุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า ดังนั้นจึงมีฟาร์มเพาะเลี้ยงบางที่ที่ใช้วิธีการเพาะเลี้ยงแบบที่นำลูกพันธุ์ปลิงทะเลไปใส่ไว้ในกล่องเพาะเลี้ยง จากนั้นก็วางกล่องลงไปในเขตน้ำลึก พอได้เวลาอันสมควรแล้ว ก็ยกกล่องเพาะเลี้ยงขึ้นมาก็ได้แล้ว
แต่ฉินสือโอวคิดว่า คุณภาพของปลิงทะเลที่ถูกเลี้ยงโดยจำกัดพื้นที่แตกต่างกับที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างมาก แค่เรื่องการให้กล้ามเนื้อได้ใช้งานก็แตกต่างกันมากแล้ว ปลิงทะเลธรรมชาติที่สามารถไปมาได้อย่างอิสระในท้องทะเลกับปลิงทะเลเป็นๆ ที่ถูกขังไว้ในกล่องปิดนั้นจะเหมือนกันได้เหรอ?
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจสร้างโขดหินปลิงทะเลไว้ที่อ่าวน้ำตื้น ปลิงทะเลชอบใช้ชีวิตโดยการเกาะอยู่บนโขดหิน ดังนั้นจึงทำการใส่โขดหินมากมายไว้ที่น่านน้ำตื้น แค่นี้ก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตให้พวกมันได้แล้ว
หลังจากลูกพันธุ์ปลิงทะเลส่งมาถึงแล้ว แต่เพราะโขดหินที่ฉินสือโอวให้เรค บิ๊กฟุตช่วยติดต่อให้ยังส่งมาไม่ถึง จึงต้องปล่อยลูกพันธุ์ปลิงทะเลลงไปก่อน
ล็อตนี้เขาซื้อลูกพันธุ์ปลิงไปทั้งหมดสองแสนตัว และเพราะต้องการร่นระยะเวลาในการเลี้ยง เขาจึงเลือกซื้อแต่ลูกปลาตัวใหญ่ ที่หนึ่งชั่งมีประมาณสองร้อยกว่าตัว หากว่าเป็นปลาตัวเล็ก งั้นหนึ่งชั่งก็จะมีประมาณห้าร้อยตัว
ราคาของลูกปลาตัวใหญ่อยู่ที่ตัวละหนึ่งร้อยสี่สิบดอลลาร์แคนาดา ลูกปลาสองแสนตัวก็คือแปดหมื่นดอลลาร์แคนาดา เงินเท่านี้ไม่ใช่ปัญหา หากว่าลูกพันธุ์ปลิงสองแสนตัวนี้สามารถเติบโตได้ดีจนเก็บเกี่ยวไปขายได้แล้วล่ะก็ ฉินสือโอวสามารถทำกำไรได้อย่างน้อยสิบล้านเหรียญดอลลาร์แคนาดา
สำหรับเขาแล้ว ที่ลงทุนไปมีแค่เงินค่าลูกพันธุ์ปลิงกับค่าคนงานตอนที่เก็บเกี่ยวเท่านั้น ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แทบไม่มีเลย ทางเขาไม่จำเป็นต้องใช้กล่องเพาะเลี้ยง ไม่จำเป็นต้องใช้อาหาร ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีหรือสารเร่ง เมื่อเทียบกันแล้วสามารถพูดได้ว่าต้นทุนเป็นศูนย์เลย
แน่นอนว่า คนอื่นๆ ไม่สามารถเลียนแบบวิธีการเลี้ยงแบบนี้ได้ เพราะว่ามีแต่ฉินสือโอวที่มีปัจจัยที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือจิตสำนึกแห่งโพไซดอน การจะเลี้ยงปลิงทะเลแบบปล่อยนั้นจำต้องถ่ายเทพลังโพไซดอนเข้าไปด้วย
ในเรือบรรทุกแต่ละลำล้วนมีลูกพันธุ์ปลิงอยู่หนึ่งแสนตัว ส่วนมากเลือกใช้การขนย้ายแบบเปียก นี่เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการขนย้ายลูกพันธุ์ปลิง ก็คือการนำลูกพันธุ์ปลิงใส่ไว้ในถังผ้าใบ แต่ละถังสามารถใส่ลูกพันธุ์ปลิงได้ประมาณสองร้อยตัว ด้านในมีน้ำทะเลอยู่ประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ลูกบาศก์เมตร เป็นกล่องไม่ใหญ่ ในคลังเก็บของบนเรือเต็มไปด้วยกล่องแบบนี้
ตัวปลิงที่เหลืออีกสี่หมื่นกว่าตัวได้ใช้การขนย้ายแบบแห้ง วิธีการก็คือนำลูกปลิงใส่ไว้ในกล่องพลาสติกชนิดพิเศษ ตรงใต้กล่องจะทำการปูสำลีซับไขมันที่ชุ่มน้ำทะเลไว้หนึ่งชั้น จากนั้นก็ปูผ้าก๊อซชุบน้ำไว้ด้านบนอีกสองชั้น นำลูกปลิงมาวางเรียงไว้เท่าๆ กัน จากนั้นก็คลุมผ้าก็อซชุบน้ำไว้ด้านบนอีกสี่ชั้น ก็จะได้กล่องเพาะพันธุ์ออกมา
วิธีการขนย้ายแบบแห้งจะใช้กันค่อนข้างน้อย เพราะไม่เพียงแต่ยุ่งยากเท่านั้น ในระหว่างขนย้ายยังต้องทำการพรมน้ำไปในกล่องเพาะพันธุ์เพื่อรักษาความชุ่มชื้นไว้ตลอดอีกด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำให้ลูกปลิงตายได้ง่าย
แต่นี่ก็เพราะฟาร์มเพาะเลี้ยงแห่งนี้ไม่มีทางเลือก เนื่องจากลูกปลิงที่ฉินสือโอวสั่งมีปริมาณมากเกินไป จึงมีจำนวนถังผ้าใบไม่เพียงพอ จึงจำต้องใช้กล่องเพาะพันธุ์มาแทน
………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset