ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1621 หัวหน้าและลูกน้อง

เขาวิ่งไปด้วยความตื่นตระหนก ฉินสือโอวคุกเข่าลงบนพื้นพรหม พร้อมกับยื่นแขนอันสั่นเทาออกมาข้างหน้า จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้นิ้วสัมผัสเข้าที่ต้นคอของต้าป๋าย
ตัวยังอุ่นอยู่ ฉินสือโอวไม่สามารถซ่อนความเศร้าและเจ็บปวดใจไว้ได้ ต้าป๋ายน่าจะตายไปได้ไม่นาน
ปรากฏว่าเมื่อเขาคิดแบบนี้ ร่างของต้าป๋ายก็ขยับตัวเล็กน้อย มันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองมายังฉินสือโอว แววตาของมันไร้ชีวิตชีวา แต่ว่าดวงตายังคงสดใส บ่งบอกว่ามันยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเห็นดังนั้นฉินสือโอวก็ดีใจยกใหญ่ เขารีบกอดต้าป๋ายเบาๆ พลางถอนหายใจออกมา แม่ง นึกว่าต้าป๋ายตายไปแล้วเสียอีก ยังดี เจ้านี่ดูเหมือนว่าแค่จะไม่สบายเท่านั้น ชะตาชีวิตไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อเห็นแสงแดดที่ส่องอยู่ด้านนอก เขาก็คิดจะพาต้าป๋ายออกไปรับแสดงแดด ฉงต้าเดินตามหลังมาไม่ห่าง ฉินสือโอวเตะมันอย่างไม่พอใจ พลางตะโกนออกมาด้วยความโมโหว่า “เมื่อกี้เดินวนไปมารอบๆ ทำไมกัน? ทำพ่อกลัวหมดเลยรู้ไหม?”
ฉงต้าแสร้งทำสีหน้าว่าไม่ได้ยินเสียงร้องบ่นของเขา มันเดินตามหลังและมองไปรอบๆ แต่ที่หางตาก็ยังคงแอบมองไปยังต้าป๋ายอยู่เรื่อยๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นห่วงเพื่อนตัวนี้มาก
ฉินสือโอวดึงเอาเก้าอี้นวมยาวออกมา จากนั้นก็วางต้าป๋ายลงบนเก้าอี้เพื่อให้มันอาบแดด เขาหวีขนของต้าป๋ายด้วยมือของตัวเอง พี่น้องเฟอเรทมองด้วยความสงสัย จากนั้นพวกมันก็กระโดดขึ้นมาบนเก้าอี้อย่างรวดเร็ว มันหาพื้นที่ว่างๆ จากนั้นก็ร้องครางในลำคอออกมาเหมือนแมว พลางหรี่ตามองออกไปยังแสงแดดด้วยความสบาย
ฉินสือโอวจดจ่ออยู่กับการหวีขนให้ต้าป๋าย พี่น้องเฟอเรทรออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พากันปีนขึ้นมาบนแขนของเขา พวกมันยื่นอุ้งเท้าน่ารักๆ ที่มีกรงเล็บกอดแขนของเขา ท่าทางของพวกมันบ่งบอกว่าต้องการให้ฉินสือโอวหวีขนให้
ฉงต้ามองพวกมันด้วยความไม่พอใจ มันเอื้อมอุ้งเท้าออกไป แล้วปัดพี่น้องเฟอเรททั้งสองตัวลอยคว้างกลางอากาศ
พี่น้องเฟอเรทลอยหมุนตัวไปมากลางอากาศ หลังจากที่ตกลงมาที่พื้น ดวงตาเล็กๆ ของพวกมันก็มองไปยังฉงต้าอย่างไม่พอใจ พวกมันครางเสียงต่ำในลำคอ พร้อมโก่งตัวไปข้างหลังด้วยท่าเตรียมพร้อมโจมตี
ฉงต้ามองไปยังพวกมันทั้งสองตัวด้วยสายตาดูถูก มันนั่งลงที่พื้นอย่างสงบนิ่งพลางมองไปยังต้าป๋ายเพื่อนของมันอย่างสบายใจ
โดยไม่ต้องสงสัย เมื่อเห็นสายตาดูถูกที่มองมา เฟอเรททั้งสองตัวก็โมโหขึ้นมาทันที หางของพวกมันตั้งขึ้นในขณะที่วิ่งเข้ามาหาฉงต้าอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่าเมื่อวิ่งมาได้ครึ่งทานพวกมันก็พบกับศัตรูที่กำลังเตรียมทำสงคราม พวกมันเจอเข้ากับหู่จือและเป้าจือที่กำลังเล่นกับเถียนกวามองมายังพวกมัน มันทั้งสองตัวลุกขึ้นและวิ่งเข้ามาพลางใช้อุ้งเท้าของตัวเองจับพวกมันไปคนละตัว ราวกับกำลังจับหนูเข้าบ้าน
หลังจากนั้นพี่น้องเฟอเรทก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยความไม่เต็มใจ
วันๆ ผ่านไปเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว ที่ฉินสือโอวได้ดูแลเจ้าสัตว์เลี้ยงพวกนี้และลูกสาวแบบนี้ พอฝนตกเขาก็อยู่ในบ้าน พออากาศดีก็ค่อยออกมานอกบ้าน หากมีเรื่องอะไรทิญาก็จะโทรมาหาเขา จากนั้นเขาก็สามารถทำงานได้ การทำงานสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ไม่จำเป็นที่ต้องทำที่ทำงานเท่านั้น
เมื่อก่อนฉินสือโอวเคยได้ยินประโยคนี้ ที่บอกว่าไม่มีอะไรง่ายกว่าการเป็นข้าราชการ ตอนนี้งานและตำแหน่งของเขาได้พิสูจน์เรื่องนี้แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรมากมายเลย หากมีเรื่องต้องจัดการพนักงานก็สามารถจัดการให้ได้ เขาแค่ลงนามก็เท่านั้น
กรมประมงและองค์การบริหารส่วนจังหวัดนิวฟันด์แลนด์ให้ความสำคัญกับสหภาพการประมงอย่างจริงจัง ไม่ว่าต้องการทรัพยากรอะไร พวกเขาก็จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถ และราคาที่ได้ก็เป็นผลลัพธ์ของการทำงานของสหภาพการประมง
ดังนั้นฉินสือโอวจึงมีมุมมองในการทำงานที่ค่อนข้างสบาย จนในที่สุดก็เกิดเหตุไม่พอใจขึ้นดังข้างต้น แมทธิว จินโทรมาหาเขาด้วยความตั้งใจ แล้วพูดออกมาอย่างรื่นหูว่า “ฉิน ถ้าหากว่าไม่มีอะไรทำ ทำไมไม่เข้าไปที่สำนักงานของนายสักหน่อยล่ะ การเล่นที่ไหนก็ได้ไม่ใช่การเล่นนะ ใช่ไหมล่ะ?”
คุณชายฉินไม่ชอบใจในคำพูดนั้น เขาพูดออกมาว่า “อะไรที่เรียกว่าเล่นเหรอครับ? ท่านรัฐมนตรีแมทธิว ในเมื่อคุณแต่งตั้งให้ผมเป็นประธานกรรมการ คุณก็ต้องเชื่อในตัวผม ทุกอย่างที่ผมทำต่างก็มีเป้าหมาย”
“คุณไม่เข้าไปทำงานเลยสักวัน แล้วแบบนี้เป้าหมายของคุณคืออะไร? ผมไม่เข้าใจจริงๆ” ดูเหมือนว่าแมทธิว จินจะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน
ฉินสือโอวพูดออกมาว่า “วางใจเถอะ ให้เวลาผมหนึ่งปี ปีหน้าจีดีพีของฟาร์มปลานิวฟันแลนด์จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ผมรับประกันได้เลย”
ถ้าหากว่าเป็นการรับประกันจากคนอื่น แบบนั้นแมทธิวคงจะวางใจจริงๆ แต่ทัศนวิสัยในการทำงานของฉินสือโอวทำให้เขาไม่สามารถวางใจได้ เขาอดไม่ได้ที่จะยืนยันอีกครั้งว่า “คุณบอกว่ามันจะเปลี่ยนแปลง งั้นมันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่ดีล่ะ? จีดีพีจะลดลงหรือว่าจะเพิ่มขึ้นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการดูถูก คุณชายฉินตอบกลับว่า “เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่า ขอเพียงผมทำได้ ต่อไปไม่ว่าผมจะทำอะไรคุณและคนของคุณก็ห้ามมายุ่ง ตกลงไหมครับ? หากทำไม่ได้ ผมขอลาออก!”
แม้จะได้ยินแบบนั้น แต่แมทธิว จินก็ยังคงไม่วางใจ แต่เขาไม่กล้าพูดอะไร เขาทำได้เพียงพูดเอาใจสองสามประโยคเช่น ‘ทำไมผมถึงจะไม่ไว้ใจคุณล่ะ’ ‘คนของผมไม่วิจารณ์การทำงานของคุณสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ’ ‘คุณรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ก็ดีแล้ว’ จากนั้นก็วางสายไป
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงแล้ว เขาไม่สามารถมั่นใจมากขนาดนี้ได้ อย่างนั้นเขาก็ต้องไปที่ทำงานเพื่อดูว่าลูกน้องพวกนั้นทำอะไรบ้าง เจ้าโง่พวกนั้นคงจะเล่นและทำเรื่องไร้สาระไปวันๆ ตอนที่เขาอยู่ที่บริษัทไชน่า เนชั่นแนลก็เหมือนกัน คนที่ทำงานเป็นแบบนั้นทุกคน
ทัศนคติในการทำงานของลูกน้องเขาแต่ละคน เขาไม่เคยเข้าไปดูด้วยตัวเอง และเพื่อที่จะวางแผนหาการควบคุมการทำงานจากที่บ้านได้ เขาต้องหาลูกน้องที่สามารถทำงานให้เขาได้และยังต้องสามารถมาช่วยงานประมงได้ด้วย
เรื่องนี้เขายังนึกไม่ออกว่าผลจะเป็นอย่างไร เนื่องจากตอนนี้การฟื้นฟูการประมงของนิวฟันแลนด์ยังไม่มีปัญหาอะไร หากอาหารที่เขาผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ความสามารถในการอยู่รอดและการสืบพันธุ์ของปูปลากุ้งดีขึ้น ผลการเก็บเกี่ยวทรัพยากรทางการประมงก็จะดีขึ้นด้วย
ดังนั้นเขาจึงปรึกษาวินนี่ วินนี่ตรวจสอบนโยบายและแผนการทำงานออนไลน์ในปัจจุบันของกรมประมง เธอยิ้มและให้คำแนะนำแก่เขา
จากนั้นวันอังคาร ฉินสือโอวก็เข้าไปจัดการกับสหภาพการประมง
เริ่มตั้งแต่สำนักงานแรก เขามองดูจากนั้นก็ออกมา แล้วเปลี่ยนไปอีกสำนักงานหนึ่ง แม้ว่าสหภาพการประมงจะมีสำนักงานกว่าร้อยแห่ง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการใช้งาน จึงมีเพียงแค่ยี่สิบสำนักงานเท่านั้นที่เปิดทำการ
ฉินสือโอวดูทุกแห่งอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับมายังสำนักงานของตัวเองเขาก็ถามหาทิญา แล้วพูดกับเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “บอกหัวหน้าทุกแผนกมาให้หมด ส่วนหัวหน้าที่ระดับสูงกว่านั้นให้ไปเจอกันที่ห้องประชุม เราจะประชุมกัน!”
จู่ๆ ฉินสือโอวก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้ทิญาตกใจ เธอจัดการกับโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ด้วยความรีบร้อน ฉินสือโอวมองผ่านๆ ด้วยความเกียจคร้าน เขาสามารถเดาได้อย่างง่ายดายว่า สาวหน้าอกใหญ่คนนี้กำลังซื้อของจากร้านค้าออนไลน์ในคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน
เมื่อมองไปรอบๆ สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เอาเสียเลย เขาที่เป็นหัวหน้าใหญ่ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดี ดังนั้นเมื่อหัวหน้าเป็นอย่างไรลูกน้องก็เป็นเช่นนั้น ในเวลาทำงานแต่ละสำนักงานต่างเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ เหล่าพนักงานชาย ต่างก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเล่นเกม หรือไม่ก็นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นอินเทอร์เน็ต ส่วนพนักงานหญิง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือว่าคอมพิวเตอร์ พวกเธอก็เอาแต่ซื้อของออนไลน์และฟังเพลง
พวกโง่ คนพวกนั้นไม่ได้เห็นเขาที่เป็นนายใหญ่อยู่ในสายตาเลย ฉินสือโอวนั่งอยู่บนโต๊ะในห้องประชุมและตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห
พนักงานระดับหัวหน้าเล็กใหญ่จำนวนกว่ายี่สิบกว่าคนทยอยกันเข้ามา อย่างน้อยๆ ฉินสือโอวก็ยังมีอำนาจอยู่บ้าง หลังจากที่พวกเขาเข้ามาก็พากันหาที่นั่งของตัวเอง รองประธานกรรมการอย่างเควนติน สเติร์นถามออกมาเบาๆ ว่า “ฉิน ทำไมวันนี้คุณถึงอารมณ์ดีจัง?”
ฉินสือโอวอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก โดยไม่ต้องสงสัย ชายแก่คนนี้กำลังแกล้งเขาอยู่ แต่ว่าเรื่องนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าผู้ดูแลคนนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
………………………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset