ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 217 รายรับ

บทที่ 217 รายรับ
โดย
Ink Stone_Fantasy

เนื่องจากต้องนำปลากระโทงสีน้ำเงินไปขาย จึงยังไม่ได้กลับไปยังฟาร์มปลา แต่ตรงไปที่ท่าเรือนครเซนต์จอห์นแทน
ท่าขายปลาที่สำคัญในแถบชายฝั่งของอเมริกาเหนือ มักจะมีบริษัทประมงมืออาชีพเจ้าประจำอยู่ บริษัทประมงพวกนี้ไม่ใช่โรงงานที่รับซื้ออาหารทะเลทั่วๆไป แต่เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่รับซื้อปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ ปลาทูน่าครีบเหลือง ปลาแฮลิบัต ปลาทูน่าตาโต ปลาข้างเหลือง ปลากระโทงสีน้ำเงินมหาสมุทรแอตแลนติก ปลามาร์ลินและปลาที่โด่งดังล้ำค่าชนิดอื่นๆ
ถึงแม้ว่าท่าเรือนครเซนต์จอห์นจะเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือ แต่เนื่องจากเหตุผลทางธรรมชาติ จึงทำให้ฟาร์มปลาในฝั่งนี้สามารถตกปลาปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ ปลาทูน่าครีบเหลือง และปลาทูน่าที่มีราคาสูงชนิดอื่นๆได้น้อย ดังนั้นที่นี่จึงมีบริษัทประมงอยู่แค่สามแห่งเท่านั้น
ที่จริงแล้วบริษัทประมงเหล่านี้ก็คือพ่อค้าคนกลางนั่นเอง เมื่อพวกเขารับซื้อปลาขึ้นชื่อที่มีมูลค่าสูงพวกนี้มาแล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็จะรับหน้าที่ขนส่งพวกมันไปที่โตเกียวด้วยการขนส่งทางอากาศ คนญี่ปุ่นถึงจะเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่บริโภคปลาล้ำค่าเหล่านี้
เรือแฟร์เวลขับเข้ามายังท่าเรือ เรือแต่ละลำที่มีขนาดแตกต่างกันก็ลอยตามคลื่นทะเลอยู่ใกล้กับท่าเรือ
ท้องฟ้าเพิ่งจะทอประกายแสง ในช่วงเวลานี้จะมีชาวประมงจำนวนมากที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทาง อีกทั้งเรือประมงที่ไปตกปลามาในตอนกลางคืนก็จะกลับเข้าท่ามาในเวลานี้ ดังนั้นในช่วงนี้ของทุกๆวันจึงเป็นเวลาที่ท่าเรือขายปลาคึกคักที่สุด
ขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปบริษัทประมงที่ตั้งอยู่บนท่าเรือ ฉินสือโอวก็ได้ยินเสียงผู้คนที่คอยสอบถามกันมาตลอดทาง เสียงจ้อกแจ้กจอแจ เหมือนกับตลาดเช้าไม่มีผิด
“เฮ้ พิลเซ็น ปลาที่รับมาของวันนี้เป็นยังไงบ้าง? พวกเราตกได้ปลาแมคเคอเรลมาได้หนึ่งล็อต ให้มันพอคุ้มทุน”
“เอ้อ แจ็คสัน ดวงพวกนายไม่แย่เลยนะ น่าตายจริงๆ เมื่อคืนพวกเราคว้าน้ำเหลว เพราะเรือเกือบจะชนโขดหิน! น่าตายจริง! น่าตาย!”
“แอนโทนี่ ตอนนี้พวกนายจะออกทะเลกันไหม? วันนี่คิดว่าจะไปที่ไหนล่ะ? ไปด้วยกันเป็นไง?”
“ช่างมันเถอะ แคร์รีย์ แกไม่ใช่แค่ไอ้ระยำนะแต่แกยังเป็นตัวหายนะอีกด้วย อยู่ให้ห่างฉันหน่อย วันนี้ฉันไม่อยากกลับไปแบบมือเปล่าหรอกนะ”
……
ท่ามกลางเสียงจอแจ ฉินสือโอวกับแฮมเล็ตก็ปรึกษากันอยู่สักครู่ พวกเขาตัดสินใจว่าจะนำปลาตัวนี้ไปขายให้บริษัทประมงที่มีชื่อเสียงดีที่สุดอย่างบริษัทประมงตะขอปลาทองคำ
จุดเด่นของบริษัทนี้คือการตัดสินราคาอย่างยุติธรรม ถึงแม้ว่าจะไม่มีราคาที่ดีกว่าบริษัทอีกสองแห่งที่เหลือ ทว่าขอเพียงแค่ตัดสินคุณภาพของเนื้อปลาได้อย่างเหมาะสมกับระดับความเป็นจริง เท่านั้นก็ดีมากแล้ว
อย่างปลาทูน่า หรือปลากระโทงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ เวลาขายจะไม่รวมเป็นราคาเดียว เนื่องจากปริมาณไขมันของปลาพวกนี้ไม่เหมือนกัน ระดับสัดส่วนของตัวก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องทำการชี้วัดคุณภาพของเนื้อปลา แล้วให้ราคาตามแต่ละระดับ
บริเวณท่าเรือของบริษัทประมงเต็มไปด้วยเรือเล็กใหญ่ที่ถูกนำมาจอดไว้ เรือยอชต์อย่างเรือแฟร์เวลนั้นสามารถพบได้น้อยมาก ดังนั้นเมื่อพวกเขาขับเข้ามาชิด ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งโบกมือให้กับพวกเขา บอกเป็นนัยว่าให้พวกเขาขับออกไป
“คุณเศรษฐี ที่นี่มีไว้ขายปลา ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาจอดเรือยอชต์ลำหรูเพื่ออวดสาวนะ!”มีใครบางคนตะโกนพูดกับฉินสือโอวมาจากบนเรือ จากนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็หัวเราะเสียงดังออกมา ดูท่าแล้วนิสัยเกลียดคนรวยของคนแคนาดาก็น่าจะรุนแรงอยู่เหมือนกัน
ดูเหมือนว่าการแบ่งขั้วความร่ำรวยในทวีอเมริกาเหนือน่าจะส่งผลร้ายมากกว่า ถึงแม้ว่าถึงแม้ว่ารัฐบาลของทั้งสองประเทศจะเน้นเรื่องความยุติธรรม ความเสมอภาคและการไม่ดูถูกเหยียดหยามอะไรพวกนั้นมาโดยตลอด ทว่าบนความเป็นจริงแล้ว การดูถูกเหยียดหยามของคนรวยที่มีต่อคนจนก็ยังคงรุนแรงมากอยู่ดี นี่จึงทำให้เกิดการขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายขึ้น
ดังนั้น ในเมืองใหญ่ของแคนาดาและอเมริกาจึงมักจะพบเห็นสถานการณ์การแบ่งแยกที่ชัดเจนของเขตที่อยู่อาศัยของคนรวยและสลัมของคนจนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว นั่นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันโดยตรงจนเกิดการขัดแย้งของทั้งสองฝั่ง อีกทั้งสถานที่จำพวกท่าเรือขายปลา ก็เต็มไปด้วยพวกชาวประมงไร้มารยาทที่ได้รับการศึกษาน้อย เมื่อเห็นว่ามีคนขับเรือยอชต์เข้ามายังถิ่นของตัวเอง ก็ย่อมมีคนพูดจาหยาบคายออกมา
ฉินสือโอวยักไหล่ เขาเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเพื่อโบกมือให้กับชายวัยกลางคนคนนั้น แล้วพูดกับเขาว่า “เพื่อน พวกเรามาขายปลาน่ะ ปลากระโทงสีน้ำเงิน ปลากระโทงสีน้ำเงินตัวใหญ่หนึ่งตัว พวกนายสนใจไหม?”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ชายวัยกลางคนคนนั้นก็กระโดดขึ้นมา เขาสวมเครื่องแบบสีทอง ข้างบนมีโลโก้และตัวอักษรย่อของบริษัทตะขอปลาทองคำ
ปลากระโทงสีน้ำเงินมหาสมุทรแอตแลนติกที่วินนี่ตกได้เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มากเกินพอ ห้องเคบินของเรือแฟร์เวลก็ใส่แทบจะใส่ไม่ได้ จึงทำได้แค่ตัดหัวของปลาออกก่อน ไม่อย่างนั้นคงต้องตัดเอาส่วนแก้มกับเครื่องในออกถึงจะได้ ปลาตัวหนึ่งนั้นมีมูลค่าไม่น้อยเลย
พอชายวัยกลางคนคนนั้นมองเห็นรูปร่างของปลากระโทงสีน้ำเงิน ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที เขายื่นมือไปชกที่ไหล่ของฉินสือโอวหนึ่งหมัด แล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “โชคดีจังเลยนะ เพื่อน นี่เป็นปลาที่นายตกขึ้นมาได้เหรอ?”
ฉินสือโอวพูดอย่างภูมิใจว่า “ไม่ใช่ นี่เป็นปลาที่แฟนของผมตกขึ้นมาคุณรู้ไหม นี่มันลำบากมากจริงๆนะ ผู้หญิงคนหนึ่งจับปลาที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ไว้ได้ ถ้าไม่มีความสามารถเลยก็คงทำไม่ได้หรอก”
วินนี่อาบน้ำแต่งตัวอย่างง่ายๆแล้วจึงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ อากาศบนผิวทะเลในตอนเช้าค่อนข้างหนาวเย็น เธอสวมใส่เสื้อแจ็คเกตกันลมของฉินสือโอว ทำให้เธอรู้สึกถึงความเท่ของเขาอยู่นิดๆ ผมยาวสลวยของเธอถูกมัดเป็นทรงหางม้าอยู่ทางด้านหลังศีรษะ ตาใสๆและฟันขาวเป็นประกาย ส่องประกายสว่างสดใสไปรอบด้าน จนทำให้ชาวประมงหยาบคายพวกนั้นถึงกับตะลึงงัน
ต่อมาไม่นาน เสียงผิวปากและเสียงโหวกเหวกโวยวายแปลกๆก็ดังขึ้นมาไม่หยุด
ฉินสือโอวแนะนำชายวัยกลางคนคนนั้นให้รู้จักกับวินนี่ เขาประหลาดใจจนเอาแต่กะพริบตาปริบๆ แล้วพูดขึ้นว่า “นี่มันน่าประหลาดใจเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าสุภาพสตรีที่สวยขนาดนี้น่าจะเลือกซื้อกระเป๋าซื้อน้ำหอมอยู่ในช็อป ดิออร์ ชาเนล อะไรพวกนั้นถึงจะถูก ไม่คิดว่าคุณจะตกปลาที่ดุร้ายอย่างนี้ขึ้นมาได้”
ครู่ต่อมาเชือกเส้นหนึ่งก็ถูกโยนข้ามมา ชายวัยกลางคนใช้บ่วงเชือกมัดหางปลาเอาไว้ แล้วแขวนปลาไว้กับตะขออย่างแน่นหนา จากนั้นปลาใหญ่ตัวนี้ก็ถูกลากออกไป
เมื่อปลากระโทงสีน้ำเงินตัวนี้ถูกลากขึ้นมา เสียงผิวปากจากรอบด้านก็น้อยลง และถูกแทนที่ด้วยเสียงของความอึ้งทึ่งกับเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจ
เมื่อปลาถูกยกขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการชั่งน้ำหนักปลา จากนั้นก็มีคนเข้ามาตัดเนื้อปลาออกมาดูหนึ่งแผ่น เพื่อส่งไปตรวจสอบ เมื่อชายวัยกลางคนคนนั้นได้รับผลตรวจสอบแล้วก็บอกกับวินนี่ว่า “คุณภาพระดับสามเอ ได้ราคาปอนด์ละ 28 ดอลลาร์ ทั้งหมด 655.8 ปอนด์ ก็เท่ากับ 18362.4 ดอลลาร์ มีข้อสงสัยอะไรไหม?”
ฉินสือโอวส่ายศีรษะ ราคานี้มันแตกต่างกับราคาที่แฮมเล็ตช่วยเขาคำนวณอยู่ตั้งเยอะ ถึงแม้แฮมเล็ตจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่เขาก็เป็นมือโปรด้านการตกปลา การคำนวณราคาปลาใหญ่ของเขาก็มีความน่าเชื่อถืออยู่มาก
แฮมเล็ตจึงรีบอธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “นายเรียกร้องอะไรมากไม่ได้หรอกนะ บริษัทประมงพวกนี้ใช้ราคาของโตเกียวมาคำนวณราคาขายให้กับนาย พวกเขายังต้องนำมันไปขายต่ออีกนะ”
ฉินสือโอวก็เข้าใจได้ในทันที แฮมเล็ตอธิบายให้เขาฟังต่อว่า “ถ้าหากนายมีลู่ทาง สามารถเข้าไปร่วมงานประมูลที่โตเกียวได้ ปลาตัวนี้อาจจะประมูลได้ถึงสี่หมื่นเลยทีเดียว”
“ปลาก็มีการประมูลด้วยเหรอครับ?”ฉินสือโอวถามเขาด้วยความประหลาดใจ
แฮมเล็ตยิ้มแล้วตอบกับเขาว่า “แน่นอนสิ การประมูลของธุรกิจประมงก็ยังดุเดือดมากอีกด้วย ฉันจำได้ว่าเมื่อต้นปีนี้ร้านแฟรนไชส์ซูชิคิโยมูนะของญี่ปุ่นทุ่มเงินประมูลกว่าสองล้านดอลลาร์แคนาดาเพื่อประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือชั้นเยี่ยมขนาดห้าร้อยปอนด์ไปหนึ่งตัว”
เมื่อพนักงานต้อนรับของบริษัทตะขอปลาทองคำได้ยินที่แฮมเล็ตอธิบาย ก็พูดเสริมว่า “แต่ความจริงแล้วมันเป็นไปได้ยากมาก ฉันก็เคยเห็นข่าวของปลาตัวนั้นเหมือนกัน การประเมินคุณภาพของเนื้อมันอยู่ที่ระดับสามเอส ในช่วงสิบปีนี้ที่ทวีปอเมริกาไม่เคยมีปลาที่มีคุณภาพชั้นยอดแบบนั้นเลยปรากฏขึ้นเลย”
ฉินสือโอวตกอยู่ในอาการเหม่อลอย เจ้าน้ำเงินใหญ่กับน้ำเงินเล็กที่เขาเลี้ยงไว้ ไม่รู้ว่าคุณภาพเนื้อของมันอยู่ที่ระดับเท่าไร พวกมันได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมาแล้วด้วย
แต่ต่อมาเขาก็ส่ายศีรษะอีกครั้ง ยังไงเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง เขาจะไม่ขายเจ้าน้ำเงินเล็กน้ำเงินใหญ่หรอก เอาไว้ทำพ่อพันธุ์ปลาโดยเฉพาะ แล้วค่อยไปหาปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัวเมียมาผสมพันธุ์กับพวกมัน เพื่อสร้างฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือเองดีกว่า
ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะไม่พอใจกับราคานี้ แต่นั่นก็ทำให้ชาวประมงที่อยู่รอบๆด้านอิจฉาจนตาร้อนแล้ว
ตอนที่ปลาตัวนี้ถูกยกขึ้นมา มันก็ดึงดูดชาวประมงทั้งหลายให้มามุงดู จากนั้นคนก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ต่างก็ใช้สายตาที่ร้อนราวกับเปลวไฟจ้องมองไปที่วินนี่ จนวินนี่รู้สึกร้อนๆหนาวๆ ไปทั้งตัว
ต่อมาไม่นานก็มีคนตะโกนขึ้นมาว่า “เฮ้ สาวน้อย เธอตกปลาตัวนี้ได้จากที่ไหน? บอกพิกัดฉันหน่อยได้หรือเปล่า?”
“ให้ตายสิวะไอ้เวรเอ๊ย! ปลาชั้นเยี่ยมขนาดนี้ดันถูกเธอตกขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น เธอต้องเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบจับคนรวยมือฉมังแน่ๆ!”
“พระเจ้าไม่ยุติธรรม พวกเราต้องฝ่าคลื่นลมออกทะเลทุกวัน แม้กระทั่งค่าน้ำมันก็ยังไม่ได้กลับคืนมาเลย แต่คนพวกนี้แค่ออกไปเที่ยวเล่นในทะเลรอบเดียวก็ตกปลาใหญ่แบบนี้ได้แล้ว!”
เมื่อได้รู้ว่าเนื้อของปลาตัวนี้ถูกประเมินว่าได้คุณภาพระดับสามเอ ครู่ต่อมาบริเวณนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset