ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1638 การประเมินไข่มุกดำครั้งแรก

ในกระเป๋าเป้ของฉินสือโอวมีไข่มุกสีดำอยู่ทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดเม็ด แต่ละเม็ดเป็นทรงกลมเต็มลง พื้นผิวเรียบมน เขาส่งกล่องไข่มุกให้กับลิฟ จากนั้นก็เตรียมไปกับวินเซนต์ เพื่อที่จะไปชินกาแฟฝีมือของเขา
วินเซนต์แนะนำว่า “ผมขอพาคุณไปชมหอเกียรติยศแห่งอัญมณีก่อนดีกว่า ตอนนี้พวกเรามีเวลาว่างเหลือเฟือ ผู้เชี่ยวชาญของพวกเราต้องใช้เวลาในการประเมินและให้คะแนนไข่มุกของคุณ มันต้องใช้เวลาพอสมควร”
ฉินสือโอวถามออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมสามารถไปกับคุณก่อนได้ใช่ไหม? ผมยังไม่รู้เลยว่าไข่มุกดำมีการแบ่งระดับอย่างไร”
เขาไม่รู้เกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง ก่อนหน้านี้เขาแบ่งให้คะแนนตามขนาด ความกลมมนและความเงางาม ตอนนี้มีโอกาสได้เรียนรู้แล้ว เขารู้สึกว่าเรียนไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างไรคุณก็ต้องเรียนรู้ไปจนแก่เฒ่าอยู่ดี
เมื่อได้ฟังคำขอของเขา วินเซนต์ก็ยักไหล่พลางพูดว่า “แน่นอน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเดินผ่านห้องโถงไปยังห้องขนาดใหญ่ที่มีป้ายติดอยู่หน้าห้องว่า ‘ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต’ ข้างในมีคนรออยู่ข้างในอยู่แล้ว ตรงกลางห้องมีเครื่องที่คล้ายกับเครื่องเอ็กซเรย์แบบฟลูออโรสโคปคล้ายกับของโรงพยาบาลตั้งอยู่ แต่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก และที่ด้านบนมีเลนส์กระจกอยู่หลายอัน
นอกจากนี้ ห้องนี้ยังเหมือนกับห้องทดลอง ในแต่ละโต๊ะที่อยู่ในห้องมีน้ำยาต่างๆ รวมถึงหลอดทดลอง ถ้วยสามเหลี่ยมและบีกเกอร์วางอยู่เต็มไปหมด ฉินสือโอวจักเพียงสารเคมีที่ชื่อซิลเวอร์ไนเตรตเพียงชนิดเดียวเท่านั้น นอกนั้นเขาไม่คุ้นเลย
ลีฟนำไข่มุกดำวางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีถุงมือสวมอยู่ที่มือก็เดินเข้ามา เธอนำไข่มุกแต่ละอันวางลงบนชั้นวางที่ทำจากแก้วอย่างระมัดระวัง
ดูง่ายแต่ไม่ง่ายเลย ฉินสือโอวมองดูอยู่ที่ด้านข้าง เขารู้สึกว่าหากให้เขามาทำอะไรแบบนี้เขาคงทำไม่ได้เป็นแน่ ชั้นวางที่ทำจากแก้วนี้สูงอย่างดี หากไม่เป็นเพราะวางไข่มุกดำลงไป หากเป็นไข่มุกปกติเขาคงมองไม่เห็นร่องรอยของไข่มุกได้อย่างแน่นอน
วินเซนต์แนะนำให้ฉินสือโอวฟังว่า “นี่เป็นชั้นไฟแบบพาโนรามา ใช้สำหรับแยกว่าไข่มุกดำเม็ดไหนที่เป็นไข่มุกดำจากธรรมชาติ หรือเป็นไข่มุกเลี้ยง และเม็ดไหนที่ทำเลียนแบบขึ้นมา ตอนนี้ในโลกของเรามีไข่มุกดำอยู่สามชนิดด้วยกัน”
ฉินสือโอวพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจ ไข่มุกดำจากธรรมชาติก็คือไข่มุกที่เกิดในธรรมชาติ เป็นไข่มุกที่เกิดจากหอยนางรมลอยทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะเกิดขึ้นในน่านน้ำของบริเวณหมู่เกาะฮาฮิติและแนวปะการังเฟรนช์พอลินีเชีย
ตอนนี้ไข่มุกในตลาดส่วนใหญ่แล้วเป็นไข่มุกเลี้ยงไม่มีเม็ดสีน้ำตาลไม่จนถึงสีดำ จีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลียต่างพัฒนาเทคโนโลยีการผสมพันธุ์นี้ขึ้นมา ไข่มุกดำชนิดนี้มีราคาต่ำกว่าไข่มุกดำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ว่า เนื่องจากไข่มุกไร้เม็ดมีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นราคาก็ยังถือว่าโอเคอยู่
ไข่มุกที่ราคาต่ำที่สุดคือไข่มุกปลอมที่ทำขึ้นจากเปลือกหอยสีดำ การผลิตเกิดขึ้นได้สองวิธี หนึ่งคือการใช้พื้นผิวชั้นแกนกลางของเปลือกหอยที่ปกคลุมด้วยชั้นฟิล์มที่เรียกว่าเอสเซ็นส์เดอโอเรียนท์มาย้อมสีดำ วิธีที่สองคือทำจากเปลือกหอยสีดำมาทำเป็นรูปปัดและขัดเงา
วินเซนต์บอกว่า “ดูดีเลยทีเดียว นี่คือขั้นตอนแรกของการประเมินไข่มุก”
พอเขาพูดจบ แสงไฟในห้องสุญญากาศก็ดับลง จากนั้นชั้นวางที่ทำจากแก้วมีแสงสีขาวนวลสว่างขึ้นมา
แสงจากกรอบชั้นวาง ตอนนั้นเองไข่มุกสีดำก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีอื่นนอกจากสีดำ พวกมันกลายเป็นสีม่วงใส แสงสีขาวจากไฟห่อหุ้มอยู่ที่ด้านนอก ข้างในเป็นเม็ดสีดำที่ห่อหุ้มด้วยสีม่วงใส ในตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นชั้นวางกระจกได้แล้ว ทำให้ดูเหมือนว่าไข่มุกสีดำกลมร้อยกว่าเม็ดกำลังลอยอยู่ในอากาศโดยมีแสงสีขาวและสีม่วงห่อหุ้มอยู่ แสงพวกนี้มีผลต่อสายตาเป็นอย่างมาก
วินเซนต์ชี้ไปที่ไข่มุกพวกนั้นพลางพูดว่า “สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ก็คือการหาว่าไข่มุกเม็ดไหนเป็นของเลียนแบบ ข้อนี้ดูได้จากความมันวาวของไข่มุก ความวาวของไข่มุกปลอบนั้นเกิดจากการเคลือบชั้นของโพลีเมอร์บางๆ แต่ไข่มุกธรรมชาติไม่ได้ผ่านกระบวนการนี้ ดังนั้นแสงจากไข่มุกพวกนี้จึงมาจากชั้นที่อยู่ข้างในสุด คุณลองไปสังเกตการสะท้อนสีที่เพี้ยนของไข่มุกที่อยู่ด้านบนสิ สาเหตุเกิดจากตกกระทบของแสง ส่วนบนของไข่มุกเป็นสีม่วงเหมือนกันแต่จะเบาบางกว่า และด้านข้างจะเป็นสีโทนสีเขียวและชมพู”
ชั้นวางกระจกค่อยหมุนไปรอบๆ ทำให้ไข่มุกดำปรากฏผ่านสายตาของทุกคน มันหมุนวนไปมาราวๆ ห้านาที ที่ด้านล่างของไข่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวเลขขึ้นมา นี่เป็นการติดฉลากไข่มุกดำ
หลังจากที่ตัวเลขพวกนั้นปรากฏ ไฟทั้งห้องก็กลับมาสว่างอีกครั้ง แสงจากชั้นวางกระจกค่อยๆ หรี่ลง แล้วก็กลับไปเหมือนเดิม
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตาที่ให้ความแม่นยำสูงเหมือนเครื่องจักรพยักหน้าให้วินเซนต์ จากนั้นเขาก็เขียนชื่อของตัวเองลงบนกระดาษใบหนึ่ง “ไม่มีปัญหา ท่านประธาน ไข่มุกเหล่านี้ไม่มีไข่มุกปลอมครับ”
วินเซนต์พยักหน้าเช่นกัน เขาแสดงท่าทางบอกให้ทำการประเมินต่อ เขาพูดกับฉินสือโอวว่า “อันที่จริงนี่เป็นเพียงกระบวนการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น ไข่มุกดำที่เกิดจากธรรมชาตินั้นให้คุณภาพสูงและไข่มุกปลอมไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีอะไรก็ตาม ไข่มุกปลอมจะไม่เรียบเนียนเหมือนไข่มุกดำที่แกะออกมาตามธรรมชาติเมื่อถึงเวลาของพวกมัน ในเรื่องการสัมผัส ไข่มุกธรรมชาติมีความหนืดกว่าเล็กน้อย ราวกับว่ามันต้องการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณ ”
ฉินสือโอวก็สัมผัสได้ถึงเรื่องนี้เช่นกันเมื่อตอนที่เขาไปเก็บไข่มุกครั้งแรก เขารู้สึกว่ามันไหลเลื่อนไปมาในมือ เขาเช็ดมันด้วยหนังกลับสองสามครั้งแต่ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ตอนนั้นเขาเลยคิดว่าเป็นเพราะมือของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ความเป็นไปได้ของไข่มุกปลอมมีข้อจำกัด ต่อไปนี้คือจุดที่ยากที่สุด นั่นคือการแยกระหว่างไข่มุกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกับไข่มุกเลี้ยง
ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นไข่มุกจากธรรมชาติหรือว่าไข่มุกเลี้ยง ไม่ได้บ่งบอกว่าไข่มุกพวกนี้เป็นไข่มุกที่เกิดจากผสมพันธุ์เทียม ไข่มุกดำของฉินสือโอวที่อยู่ที่นี่ยังถือว่าเป็นไข่มุกที่ถูกเลี้ยงด้วยหอยนางรมรอย แต่นี่ก็ถือว่าเป็นไข่มุกป่าธรรมชาติ ไข่มุกดำเพาะเลี้ยงในที่นี้หมายถึงการผ่านกระบวนการบางอย่างเมื่อเก็บไข่มุกมาแล้ว เพื่อทำให้มันดูสวยขึ้นและเนื้อดูดีขึ้น
ไข่มุกแบบนี้ก็ถือว่าเป็นไข่มุกของแท้เช่นกัน มันไม่เหมือนกับไข่มุกปลอม แต่เพราะสีและความเงางามของพวกมันเกิดขึ้นจากกระบวนการของมนุษย์ ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เมื่อเวลาผ่านไปสีของพวกมันก็จะเปลี่ยนไป ความเงางามก็จะลดลง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ราคาของมันจะลดลง
ตอนนี้ไข่มุกปลอมก็เหมือนกับไข่มุกตามธรรมชาติ หายาก ไข่มุกธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นได้น้อย ส่วนไข่มุกปลอมก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นของปลอม บนโลกนี้อาจจะมีคนโง่อยู่มากมาย แต่ก็มีคนโง่จำนวนไม่น้อยที่เข้าถึงการบริโภคเครื่องประดับราคาสูงได้
“ตอนนี้สิ่งที่มีมากที่สุดในอุตสาหกรรมของเราก็คือไข่มุกเลี้ยง อันที่จริงแล้วพวกมันก็ถือว่าเป็นของปลอม!” วินเซนต์พูดออกมา “ไข่มุกพวกนี้ยังสามารถได้รับใบรับรองว่าเป็นไข่มุกของแท้ได้อีกด้วย อันที่แล้วมันต้องใช้น้ำทะเล และหอยในการให้กำเนิดไข่มุก แต่พวกเขาปกปิดข้อมูลที่ว่าไข่มุกพวกนี้ผ่านการย้อมสี ก็เหมือนกับร้านขายหยกเล็กๆ บางแห่งที่ขายหยกให้กับลูกค้าโดยที่ไม่บอกว่าเป็นหยกเกรดบี หรือซี ที่ได้รับการปรับแต่งแล้ว และลูกค้าก็โดนหลอกไปในที่สุด”
ฉินสือโอวพยักหน้า สาเหตุของการเพาะเลี้ยงไข่มุกดำเกิดจากความต้องการและความงามของมัน นี่เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในอเมริกาและแคนาดา แต่สำหรับพื้นที่ที่ผลิตไข่มุกอย่างตาฮิติและเฟรนช์พอลินีเชีย การผลิตไข่มุกด้วยวิธีนี้ถือว่าทำผิดกฎหมาย
……………………
Related